ช่วงนี้ปวริศากับศศิวิมลต้องหามรุ่งหามค่ำลุยงานโปรเจคยักษ์ใหญ่เตรียมยื่นซองประมูลงานใหม่ซึ่งถือว่าเป็นงานที่เป็นความหวังและเติมฝันให้กับบริษัทซึ่งโปรเจคนี้เจฟฟ์ลงมือมาลุยเองกับมือด้วยเหมือนกัน เขาจึงตั้งชื่อเรียกโปรเจคนี้เป็นโค้ดลับโดยให้ชื่อว่า “สตาร์โปรเจค” หรือ “โปรเจคแห่งความหวัง”
ถ้าสำเร็จได้โปรเจคนี้มาจะทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นอีกปีละหลายร้อยล้านเลยทีเดียว และการที่เจฟฟ์ต้องเดินทางมาประจำที่ไทยโปรนี้ก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน
เช้านี้ทั้งสามคนประชุมกันเครียดในห้องทำงานของเจฟฟ์ คนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโปรเจคจะไม่มีโอกาสได้รับรู้เรื่องราวโปรเจคนี้เป็นอันขาด เพราะถือว่าเป็นโปรเจคลับสุดยอด แม้แต่ในทีมของฝ่ายประสานงานขายต่างประเทศของศศิวิมลเองนอกจากปวริศาแล้วลูกน้องคนอื่นแม้กระทั่งปวีณาหรือปรียาพรก็ไม่สามารถเข้ามารับรู้เรื่องราว รายละเอียดหรือความเป็นไปของโปรเจคได้เลย
เจฟฟ์มีสีหน้าเคร่งเครียด หยิบถ้วยกาแฟดำขึ้นมาจิบ
“ผมได้ข่าวมาว่ามีคู่แข่งหลายรายเข้าร่วมแข่งเสนอราคายื่นซองบิดงานงานนี้ด้วย มีทั้งคู่แข่งรายใหม่ และรายเดิม”
“บอสมีกังวลในส่วนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”
ศศิวิมลถามบอสหนุ่มคนรุ่นใหม่ไฟแรงเว่อร์
“งานนี้ถ้าดูจากรายชื่อคู่แข่งของเรา ผมคิดว่าเทคโนโลยี หรือความได้เปรียบเสียเปรียบทางด้านวิศวกรรมนั้นไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครคิดได้ครบถ้วนกว่ากันเท่านั้น ที่สำคัญน่าจะเป็นราคาถ้าใครเสนอราคาไปดีที่สุดก็น่าจะได้งาน คุณศศิกำชับทีมวิศวกรรมแล้วใช่ไหม ผมกลัวเรื่องข้อมูลรั่วไหลมากเลย”
“ทำไมบอสถึงกังวลเรื่องข้อมูลรั่วไหลละคะ ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องข้อมูลรั่วเลยนะคะ”
ศศิวิมลสงสัยในสิ่งที่บอสของตนเองกังวล“ระวังไว้หน่อยก็ดี พอดีผมได้ข่าวว่ามีอีกบริษัทมาร่วมประมูลด้วย และประวัติเขาไม่ค่อยดี ชอบเล่นวิธีสกปรก”
“บริษัทไหนหรือคะบอส”
ศศิวิมลสนใจมาทันที
“ช่างมันเถอะครับคุณศศิ เดี๋ยวช่วยเตรียมข้อมูลตรงนี้เพิ่มให้ผมหน่อยก็แล้วกันนะครับ”
เจฟฟ์พูดจบก็หยิบถ้วยกาแฟขึ้นยกมาจะจิบ แต่พบกับความว่างเปล่า ปวริศาเห็นดังนั้นจึงอาสาไปชงกาแฟมาให้เพิ่ม
“เดี๋ยวแป้งไปชงกาแฟมาให้บอสเพิ่ม พี่ศศิเอาด้วยไหมคะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ขอบใจมากแป้ง บอสคะศศิจะขอลางานด่วนสักสามวันค่ะ เมื่อเช้าทางบ้านที่ต่างจังหวัดโทรมาว่าญาติเสียค่ะ”
“ได้ครับ ผมเสียใจด้วยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะบอส ในส่วนของงานพี่ศศิจะฝากยายแป้งไว้ค่ะ แต่ถ้าติดตรงไหนโทรได้ตลอดเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ลางานก็คือลางานผมจะไม่รบกวนเวลาของคุณศศิหรอก แต่ถ้ามีเหตุด่วนมากจริงๆ ผมจึงจะขอรบกวนคุณศศินะครับ”
สักพักปวริศาเดินถือถาดเข้ามาบนถาดมีถ้วยกาแฟดำกับจานใส่ผลไม้จัดมาหน้าตาน่ากิน มีสับปะรด แตงโม แอปเปิล และองุ่นไซมัสคัสอย่างละสองสามชิ้นถูกจัดเรียงวางบนจานเล็กๆ มองดูสีสันสดใสชวนให้เข้าไปชิม มาก ปวริศาหยิบทั้งถ้วยกาแฟและจานผลไม้มาวางตรงหน้าเจฟฟ์ เจฟฟ์มองหน้าแล้วสบตายิ้มให้
“ขอบคุณครับคุณแป้ง”
“กาแฟช่วยให้สมองตื่นตัว ส่วนผลไม้เพิ่มความสดชื่นค่ะบอส”
ศศิวิมลมองหน้าลูกน้องที มองหน้าหัวหน้าที แล้วเธอก็ได้กลิ่นอายความหอมหวานแปลกๆ
“เอ่อ.. แป้งพี่ฝากด้วยนะ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดนะ เสร็จภารกิจแล้วพี่จะรีบกลับมา”
“ค่ะพี่ศศิ เดินทางปลอดภัยนะคะ”
หลังจากคุยงานกันช่วงเช้าเสร็จ แต่ละคนก็ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเอง ศศิวิมลก็เก็บของกลับต่างจังหวัด ปวริศาก็กลับไปทำงานที่โต๊ะทำงานของหล่อน
ช่วงเวลาเกือบบ่ายสี่โมงเย็น เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะของปวริศาก็ดังขึ้น เธอเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โชว์ขึ้นหัวใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นแรงโครมคราม
“ค่ะบอส”
“มาหาผมที่ห้องผมหน่อยสิ”
“เอ่อ...”
“ผมจะถามข้อมูลงานโครงการนะครับ”
“ได้ค่ะบอส”
ปวริศาถือแฟ้มเอกสารและโน้ตบุ๊ก เดินไปหยุดที่ป้ายหน้าห้องที่ระบุว่าเป็นห้องของ ‘ท่านรองประธาน’ แล้วแอบยืนสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ อย่างเต็มแรง ... ‘เฮ้อ.. ไม่ชินสักทีนะตัวเรา’ แล้วเคาะประตูห้อง
“ขออนุญาตค่ะบอส”
ปวริศาผลักประตูเดินเข้ามาในห้องเห็นเจฟฟ์ทำสีหน้าเคร่งเครียดแต่พอเขาเห็นปวริศาเดินเข้ามาก็ยิ้ม
“ช่วงที่คุณศศิลาพักร้อน พี่แป้งอาจจะต้องเหนื่อยกับผมหน่อยนะครับ”
“ค่ะบอส”
“ตอนนี้อยู่กันสองคนไม่ต้องเรียกบอสก็ได้”
เจฟฟ์ส่งสายตาหวานเชื่อมให้หญิงสาวแล้วเอามือเท้าคางจ้องมองคนตรงหน้า ใบหน้าที่มีเครื่องสำอางแต่งแต้มมาบางเบา แก้มที่ปัดด้วยบลัชออนสีชมพูบางๆ ค่อยๆ ขึ้นสีแดงเข้มขึ้นทีละนิด ริมฝีปากบางถูกทาด้วยลิปกลอสสีออกสีชมพูแลดูผิวสุขภาพดีน่าสัมผัส เขามองไปที่เชิ้ตตัวใหญ่ที่ปิดคลุมและปกปิดหน้าอกทรงโตไว้ ดูภายนอกก็คิดว่าเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก แต่ที่ไหนได้ซ่อนรูปไม่ใช่น้อย แต่ก็ดีแล้ว เพราะเขาไม่อยากให้ตกเป็นเป้าสายตาของหนุ่มคนไหนอีก
“หยุดมองได้แล้วจะมองอะไรขนาดนั้นคะ”
“ไม่ให้มอง ถ้าอย่างนั้นขอจับได้ไหมคะ”
“ที่นี่คือที่ทำงานนะ อย่าทำตัวหื่นเรี่ยราดสิ”“นี่เมียหรือแม่นะ ดุเป็นบ้าเลย”
“ทำงานก่อนค่ะ ไหนบอกว่าด่วน บอกว่ารีบไง”
“ก็รีบอ่ะ งั้นคืนนี้ไปค้างที่คอนโดผมนะ”
“ไม่ค่ะ ถ้าไม่คุยงานจะกลับไปทำงานที่โต๊ะแล้ว”
ปวริศาหมุนตัวทำท่าจะเดินออกจากห้อง แต่เจฟฟ์ก็ขยับตัวอย่างเร็วเข้าซ้อนตัวอยู่ด้านหลังแล้วกอดไว้แน่น แล้วกดจมูกตัวเองไปหอมแก้มนวลหนักๆ
“อุ๊ย.. ปล่อยก่อนเดี๋ยวใครเข้ามาเห็นมันไม่ดี”
“ปกตินอกจากพี่แป้งกับคุณศศิก็ไม่ค่อยมีใครมีธุระถึงต้องมาหาผมในห้องหรอกนะ แต่ถ้ามีคนใครมาเห็นผมก็จะบอกว่าอย่าลืมมางานแต่งผมนะ”
ปวริศาได้ยินก็ถึงกับเขิน และแอบมีความรู้สึกอบอุ่นในใจ ‘หนุ่มน้อยเจย์เดนของเธอมีความชัดเจนเสมอ’ เจฟฟ์เกยคางของตนไว้ที่ไหล่ของหญิงสาวแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ
“จบโปรเจคนี้เราไปเที่ยวกันนะ พี่แป้งอยากไปไหนผมพาไปทุกที่เลย หรืออยากไปดูบ้านผมที่อเมริกาไหมครับ”
“พี่ยังไงก็ได้ ถ้ามีตัวป่วนอยู่ที่ไหน พี่ก็อยู่ที่นั่นแหละค่ะ”
“หือ..น่ารัก พี่แป้งย้ายไปอยู่กับผมที่คอนโดนะ ผมไม่อยากอยู่ห่างพี่เลย”
“ไม่ได้หรอก แม่อยู่บ้านคนเดียวเหงาแย่เลย” “งั้นผมไปอยู่บ้านพี่แป้งดีกว่า”“โอ๊ย.. ไม่ได้”
“โน่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้จะกอดเมียบ้างไม่ได้หรือไง”
“นี่ก็กอดอยู่นี่ไง ไปทำงานก่อน ถ้าน้องเป็นเด็กดีเดี๋ยวพี่มีรางวัลให้นะคะ”
ปวริศาหันมาดันเจ้าคนตัวหนาออกให้ไปนั่งที่โต๊ะทำงาน ชายหนุ่มทำท่าทางอิดออดแต่ก็ยอมนั่งเสร็จแล้วเขาก็เอามือตบที่ตักของตนเอง
“น้องหนูมานั่งตักป๋ามา”
ปวริศายืนนิ่งชั่งใจอยู่แต่ก็ทนสายตาอ้อนวอนของชายหนุ่มไม่ได้ก็ยอมลงไปนั่งบนตักชายหนุ่มด้วยท่าทางขัดเขินเอียงอาย ชายหนุ่มนั่งทำงานไปโดยมีแฟนสาวนั่งอยู่บนตัว เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงเขาก็วางมือจากเม้าส์แล้วมากอดรัดแฟนสาวแทน เขาเอาใบหน้าของเขาซบไปตรงหน้าอกทรงโตที่นุ่มนิ่มเขานั่งกอดนิ่งจนได้ยินเสียงจังหวะหัวใจของหญิงสาวเต้นรัวกว่าปกติเขารู้สึกผ่อนคลายมากกับการที่ได้มีแฟนสาวมาอยู่ในอ้อมกอดของตน
“ขออยู่แบบนี้สักพักนะ แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้ว”
เจฟฟ์หลับตาลงประคองกอดแฟนสาวแล้วซุกใบหน้าของตนเองไว้ที่หน้าอกนุ่ม พลางคิดในใจว่า
“นี่สินะเซฟโซนของผม”
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์