เช้าวันจันทร์
“ฮาโหล.. สวัสดีทุกคน วันนี้ฉันออกเช้าเลยได้แวะซื้อน้ำเต้าหู้หน้าซอยคอนโดมาให้ นี่มีปาท่องโก๋ด้วยนะ”
ปวีณาเดินเข้าออฟฟิศมาพร้อมกับถุงน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ถุงใหญ่ เธอเดินแจกทุกๆคน
“ขอบใจนะจ๊ะ แม่วีณาผู้มีจิตใจงาม ขอให้ปีนี้ได้เจอผู้หล่อ ผู้รวยแล้วก็มีกล้วยอันใหญ่ๆ ด้วยนะจ๊ะ”
“กรี๊ดขอบพระคุณค่ะคุณพี่ศศิที่รักและเคารพ ขอให้พี่ศศิได้ พี่ศศิโดนอันใหญ่ๆ และตกคานพร้อมๆ กับน้องนะคะ”
ออฟฟิศนี้แทบจะไม่มีใครเป็นหัวหน้าลูกน้องกันแล้ว เพราะต่างก็อยู่กันแบบพี่แบบน้อง ยามศศิวิมลอารมณ์ดีก็จะคุยเล่นกับน้องๆ แบบนี้ แต่ถ้าเมื่อไรที่ถึงเวลาต้องตามกันละก็ นางก็ตามจิกยิ่งกว่าไก่อีก แบบนี้ถึงเป็นที่รักของน้องๆ ในทีม
“อะ.. นี่ของเธอนะยายแป้ง อุ๊ย.. ตายแล้ว นี่เพื่อนตาฝาดไปหรือเปล่านี่ คุณปวริศาแต่งหน้ามาทำงานในรอบหนึ่งปี”
“อะไรกันวีณา เราก็แต่งมาเหมือนทุกวันนั่นแหละ ไม่ได้มีอะไรพิเศษตรงไหนเลย”
“ไม่ ไม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมาก เพราะถ้าเป็นตามปกติเธอจะแค่ทาแป้ง กับลิป ซึ่งบางทีก็ทาแค่ลิปกลอส แต่วันนี้เธอปัดแก้มมาด้วย มีซัมติงอะไรหรือเปล่า บอกเพื่อนหน่อย”
“ไม่มีอะไร ก็แค่เจอของที่เคยซื้อไว้ ไม่ได้ใช้มันก็จะหมดอายุเสียดายของเปล่าๆ”
“แต่แป้งแต่งหน้าแล้วสวยหวานมากเลยอ่ะ”ปรียาพรเห็นด้วย พี่ศศิวิมลก็เดินมาดูบ้าง
“เออ.. ถ้าวีณาไม่พูดนี่พี่ก็ไม่ทันได้สังเกตนะ เอ.. หรือว่ามีอะไรดีหรือเปล่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอไปเจอเจ้าของดอกไม้ สรุปได้กัน เอ๊ย...ไม่ใช่ตกลงคบกับเขาแล้วหรือ”
“อุ๊ยไม่ใช่ค่ะพี่ศศิ กับคุณแพทริกอ่ะ ไม่มีอะไรค่ะแป้งไปคุยเรื่องงานจริงๆ”
“อ้าวกับคุณแพทริกไม่มีอะไร แล้วไปมีอะไรใครที่พวกเราไม่รู้ไหมแป้ง ไม่ใช่อยู่ๆ มาแจกการ์ดแบบนี้พี่ทำใจไม่ได้นะ เดี๋ยวพี่หาชุดไม่ทัน”
“ไปกันใหญ่แล้วค่ะพี่ศศิ”
ระหว่างปวีณาและศศิวิมลกำลังคุยหยอกล้อปวริศาอย่างสนุกสนาน ปรียาพรได้แต่ลอบถอนหายใจทำหน้านิ่งอยู่คนเดียว
“นี่ยายหม่อนเธอจะไม่ยินดียินร้ายกับเพื่อนหน่อยเหรอ เดี๋ยวนี้ชอบทำตัวนิ่ง เคร่งขรึมจังนะ”
ปวีณาหันไปถามปรียาพรที่ได้แต่ยืนนิ่ง ไม่มาร่วมสนุกมาจอยกันเหมือนก่อน"ก็รอให้ยายแป้งเปิดตัวก่อนสิจ๊ะได้ยินดีด้วย ไม่ใช่ยินดีตอนนี้เดี๋ยวเกิดผิดคิว ผู้เขาไม่โสดจะหน้าแตกเอานะ”
“เอ๊ะ นี่ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ยายหม่อน”
ปวีณาเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับคำพูดของปรียาพรจนปวริศาต้องพูดขึ้นมาบ้างเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
“ใช่เดี๋ยวถ้าแป้งมีใคร แป้งบอกเองแหละจะไม่รอให้เพื่อนเดาเหนื่อยเลย และก็จะให้เวลาพี่ศศิเตรียมชุดด้วยค่ะ”
“เฮ้ย.. ยายแป้งพูดแบบนี้ก็แปลว่าเรื่องจริงละสิ”“ใจเย็นก่อนจ้า”
“คุยอะไรกันครับสาวสาว”
“อุ๊ยสวัสดีค่ะบอส พวกเรากำลังคุยกันว่าวันนี้ยายแป้งแต่งหน้ามาด้วย ไม่รู้ว่ามีอะไรพิเศษหรือเปล่า เนี่ยปล่อยเนื้อปล่อยตัวเป็นป้าอยู่ตั้งนาน ถ้าแต่งหน้าแบบนี้มาทุกวันมีหวังมีแฟนไปนานแล้ว”
“สรุปคุณแป้งยังไม่มีแฟนจริงๆ หรือครับ”
เจ้านายหนุ่มถามแล้วยิ้มที่มุมปาก ส่วนพนักงานสาวที่ถูกถามก็ได้แต่เขินก้มหน้าแล้วสะกิดให้เพื่อนหยุดพูดได้แล้ว
“ยังไม่มีหรอกค่ะบอส วันๆทำแต่งาน จะมีเวลาไปเจอใครที่ไหน มีคนมาจีบก็เล่นตัวทำเป็นไม่สนใจ เดี๋ยวขึ้นเลขสามเมื่อไหร่ มีหวังได้เกาะคานอยู่ด้วยกัน แล้วบอสว่ายายแป้งแต่งหน้าแล้วสวยไหมคะ”
ชายหนุ่มจ้องมองใบหน้าที่เขินเอียงอาย แก้มที่ถูกปัดด้วยบลัชออนสีชมพูอ่อนตอนนี้แดงขึ้นอย่างชัดเจน เขาตอบพร้อมยิ้มหวานให้ว่า
“สวยครับ”
“กรี๊ด.. อิจฉายายแป้งอ่ะ บอสไม่เห็นชมวีณาบ้างเลยค่ะ”“คุณวีณาก็สวยน่ารักอยู่แล้วครับ ทีมงานฝ่ายประสานงานขายต่างประเทศสวยทุกคน เพราะมีแม่ทีมที่สวยและเก่งอย่างคุณศศิเป็นต้นแบบนี่เอง”
บอสหนุ่มเอ่ยคำหวานชมลูกน้องตัวเองยกทีมแต่ไม่ยอมละสายตาไปจากคนบางคน
“เอ่อ..คุณแป้งครับ ผมขอกาแฟที่ห้องผมสักแก้วสิครับ”
ปวริศาเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับดวงตาที่มองมาอยู่แล้ว สายตาคมนั้นจ้องมองเธออย่างจริงจังจนปวริศาวางตัวไม่ถูก ได้แต่พยักหน้ารับ
“ได้ค่ะบอส”
พอบอสหนุ่มเดินออกไป ปวีณาก็จ้องมองปวริศาเพื่อนรักของเธอ
“นี่ยายแป้ง ฉันได้กลิ่นแปลกๆ ฉันรู้สึกว่าสายตาที่บอสมองเธอมันจะหวานเชื่อมไปไม่ไหวแล้วนะ บอกฉันมาดีดีเธอมีของดีอะไร หรือไปมูที่ไหนมาทำไมช่วงนี้ถึงฮ็อตขนาดนี้”
“มันไม่มีอะไร เดี๋ยวฉันไปชงกาแฟให้บอสก่อนนะ”
ปวริศาเลี่ยงออกไป แล้วเดินตรงไปที่มุมกาแฟของออฟฟิศชงกาแฟเสร็จก็พยายามปรับสีหน้าและอารมณ์ให้เป็นปกติ เธอแอบพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วเดินถือแก้วกาแฟตรงไปที่ห้องท่านรองประธาน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูแล้วตามด้วยประตูที่เปิดออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมกรุ่นของกาแฟ เขายิ้มหวานให้มองคนที่เดินเข้าตั้งแต่ประตูจนวางถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะเขา เจฟฟ์ลุกขึ้นแล้วคว้าตัวหญิงสาวเข้ามากอดไว้
“อุ๊ย.. อย่าทำอะไรแบบนี้ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”
“ดีสิ ผมจะได้ประกาศให้ทุกคนรู้กันไปเลยว่า คนนี้ผมรัก ผมหวงมากนะ ใครก็ห้ามมายุ่งทั้งนั้น”
พูดจบก็หอมแก้มนวลไปอีกฟอด
“บอสอย่า..”
“ไม่มีบอส มีแต่น้องคนดีของพี่คนสวย”
“เราตกลงกันแล้วไง ทำไมพูดไม่รู้เรื่องเนี่ย”
ปวริศาทำสีหน้าขึงขังขึ้นมากลบเกลื่อนความเขิน
“อย่าทำหน้าแบบนี้สิ คนดีของผม ว่าแต่วันนี้พี่แป้งแต่งหน้ามาให้ผมดูใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่สักหน่อย อย่ามาหลงตัวเอง”
“แต่ผมไม่อยากให้พี่แป้งแต่งหน้ามาเลย ขนาดหน้าสดผมยังรักยังหลงขนาดนี้ พอแต่งหน้าเพิ่มหัวใจผมต้องทำงานหนักขึ้นแน่ๆ เลย ที่สำคัญเดี๋ยวมีคู่แข่งหัวใจผมเพิ่มขึ้น ผมจะลำบากแย่เลย”
“ทำไมแค่นี้ก็ไม่ไว้ใจกันแล้วหรือ นี่พี่ก็ไม่ได้สนใจใครเลยนะ มีแต่เด็กขี้หวงขี้หึงคนนี้คนเดียว””
“ไม่ใช่ไม่ไว้ใจแต่แค่ไม่อยากให้ใครมามอง ก็มันหวงอ่ะ”
“ปล่อยก่อน เข้ามานานเดี๋ยวคนเขาสงสัย”
“ถ้าอยากให้ปล่อย ขอจูบหน่อยสิครับ”
“นี่มันเวลางาน และนี่ก็ในที่ทำงานด้วย พี่ยังไม่อยากถูกไล่ออกจากงานนะ”
“ใครจะกล้ามาไล่เจ้าของบริษัทละครับ”
“หือ..”
“พี่แป้งยังไม่รู้สินะว่าสาขาที่เมืองไทยนี้ คุณย่าผมยกให้เป็นของผมแล้ว เพราะฉะนั้นของทุกอย่างที่เป็นของผม มันก็คือของพี่แป้งรวมทั้งตัวและหัวใจของน้องเจย์เดนคนนี้ด้วยนะครับ”
“แต่มันก็ยังไม่มีอะไรการันตีนี่นา สมมุติว่าวันใดวันหนึ่งเกิดมีเหตุอะไรขึ้นมา”
ปวริศายังพูดไม่ทันจบ เจฟฟ์ก็แทรกพูดขึ้นก่อน
“จะไม่มีวันนั้นแน่นอน ถ้าพี่แป้งกลัวว่าผมจะเปลี่ยนไปงั้นผมเซ็นโอนหุ้นผมทั้งหมดให้พี่เลย แล้วผมก็จะเป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่มีทรัพย์สินมีเพียงแต่ใจที่มั่นคงในรักกับพี่ถึงตอนนั้นอย่าทิ้งผมนะ”
“ไม่เอา พี่พูดเล่น”
แขนข้างหนึ่งของเจฟฟ์ยังคงโอบเอวแฟนสาวอยู่ มืออีกข้างที่ว่างล้วงไปหยิบโทรศัพท์แล้วก็อะไรบางอย่างสักพักก็มีสัญญาณโทรศัพท์เครื่องของปวริศาดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดูแล้วก็ต้องตกใจเมื่อโทรของเธอโชว์ข้อความที่ถูกส่งมาจากธนาคารหนึ่งว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีของเธอ 100,000 บาท
[11/11/66 08.18 เงินเข้า 100,000.00 บาท]
“เผื่อพี่เอาไว้ซื้อเครื่องสำอางเพิ่มครับ”
“โอนมาทำไมต้องเยอะแยะ เห็นพี่หน้าเงินเหรอ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่อยากบอกว่า แฟนพี่แป้งรวยมากนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”“จ้า.. เดี๋ยวจะไถให้หมดตัวเลย พ่อคนขี้อวด”
"จะนั่งไถ นอนไถ จะไถท่าไหน น้องก็ยอม ยอมพี่แป้งคนเดียว"
ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์