ร้านคาเฟ่สุดชิค
“มีอะไรจะอัปเดต เล่ามาซิสาว ถ้าไม่เด็ดนี่เพื่อนมีเคืองนะ ฉันอุตส่าห์ยกเลิกนัดแอนโทนีเพื่อเธอเลยนะยายแป้ง”
กีต้าเพื่อนสาวของปวริศาที่คบกันมาตั้งแต่มัธยม ปัจจุบันก็ยังคงคบกันอยู่ (อีกหรือ ฮ่า ฮ่า) ซึ่งตอนนี้กีต้าแปลงโฉมเป็นสาวแซบไปอัพหน้าอกเพิ่มไซส์มาเพื่อเอาใจสายฝอ แล้วเธอก็มีผู้ชายสายฝอมาคุยด้วยไม่เคยขาด ซึ่งที่ผ่านมากีต้าก็ไม่ค่อยได้จริงจังกับใคร คุยกันแป๊บแป๊บก็เลิก แต่ดูเหมือนคนล่าสุดที่ชื่อ “แอนโทนี” เนี่ยจะคุยกันมาได้ยาวนานที่สุด
“เอ่อ.. คือเมื่อคืนฉันก็ไปกินกับที่ทำงานที่ผับร้านเดิมร้านที่เธอแนะนำนะ แล้วฉันก็คิดว่า ฉันเจอเขา”
“นี่ยายแป้ง ฉันจะโกรธเธอแล้วนะ เธอนัดฉันมาคุยเรื่องนี้อีกแล้วหรือ ก็บอกแล้วไง ว่าลืมๆ มันไปซะ ป่านนี้ไอ้เด็กนั้นไม่มีเมียสี่ลูกสองไปแล้วหรือ”
กีต้าหงุดหงิดทุกครั้งที่รู้ว่าเพื่อนสาวของตนยังไม่มูฟออน ทั้งที่เวลาก็ผ่านมาเกือบสิบปีแล้ว
“เธอควรมูฟออนได้แล้วนะแป้ง ไม่ใช่ว่าแค่เห็นใครหน้าคล้าย พวกลูกครึ่งก็มานั่งโอดครวญคิดถึงเขาอยู่นั่นล่ะ นี่ถ้าเธอมูฟออนได้ ป่านฉะนี้ตกร่องป่องชิ้นได้แต่งงานแต่งการไปแล้ว ดูอย่างยายปลาซิตอนนี้นั่งเลี้ยงลูกอยู่บ้านสบายใจ เธออย่าลืมสิ เธอก็เป็นคนสวยนะจะมาจมปลักกับอดีตไปทำไม พ่อหนุ่มไอทีหน้าจืดคนนั้นเขาก็ตามจีบเธออยู่ไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ลองคุยดูล่ะ หรือถ้าเธอยังติดใจแนวลูกครึ่ง หรือสายฝอ อยากได้แบบใหญ่ยาวอึด ฉันแนะนำให้ได้นะ เพื่อนแอนโทนียังโสดอยู่หลายคน เอาไหมเดี๋ยวฉันกับแอนโทนีช่วยสกรีนให้เบื้องต้น”
“เบาสิกีต้า พูดเสียงดังไปได้ เขาได้ยินไปทั้งร้านแล้วมั้ง เธอยังไม่ได้ฟังฉันพูดให้จบเลยก็บ่นเป็นมนุษย์ป้าไปได้”
“นี่ตอนแรกว่าจะไม่โกรธ ตอนนี้จะโกรธจริงแล้วนะ เอาฉันไปเปรียบเทียบเป็นมนุษย์ป้าได้อย่างไร ดูสิฉันออกจะสวยเซ็กซี่เต่งตึงขนาดนี้”
พูดจบกีต้าก็แอ่นอกที่ตนเองภาคภูมิใจเด้งใส่หน้าเพื่อนรัก
“อะเคร อะเคร ไม่เป็นมนุษย์ป้าก็ได้ มาต่อ แต่ห้ามขัด ห้ามแทรกฉันนะ ฟังฉันพูดให้จบก่อน คือเมื่อคืนตอนฉันไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาก็โดนใครก็ไม่รู้ดึงตัวฉันไปกอดจูบ ซึ่งสัมผัสนั้นมันเหมือนเขาจริงๆ นะ กีต้า แล้วพอเงยหน้ามาเจอ มันก็เหมือนมากจริงๆ”
พอปวริศาพูดจบ กีต้าก็หัวเราะร่วนขึ้นมา
“ท่าทางเมื่อคืนเธอคงดื่มหนักไปจริงๆ นะแป้ง”
“เฮ้ย.. กีต้าเราไม่ได้เมานะ เราว่าเขาใช่ เขาใช่เจย์เดนแน่ๆ”
“คิดสิคิด ถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นไอ้เด็กนั่นจริง เขาจะมาแค่ขโมยจูบเธอแล้วจากไปดื้อๆ แบบนี้นะหรือ”
“อันนี้เราก็ไม่รู้”
“แป้ง แป้งเพื่อนรักจงฟังฉันนะ เธอไม่ควรรอผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว คนที่ไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ตอนแรกบอกจะไปเรียนแค่ห้าปีแล้วกลับมาหาเธอ แต่นี่อะไร นี่มันตั้งเก้าปีจะสิบปีแล้วนะ”
“ก็เขาคงติดต่อฉันไม่ได้ไง ฉันทั้งเปลี่ยนเบอร์ใหม่ เปลี่ยนอีเมล์ใหม่”
“แต่ .. แต่เธอยังอยู่บ้านหลังเดิม ถึงแม้ว่าเขาจะขายบ้านทิ้งไปแล้ว แต่ถ้าเขาทำตามสัญญา เขาก็ต้องกลับมาหาเธอที่บ้านสิแป้ง เขาเคยมาไหมล่ะ”
ปวริศาได้แต่ทำหน้าเศร้าแล้วส่ายหัวไปมา
“พอเถอะนะ มูฟออนนะ ฉันรักและเป็นห่วงเธอจริงๆ เริ่มต้นเปิดใจหาคนใหม่เถอะ ก่อนที่จะแก่ไปมากกว่านี้แล้วจะหาผัวไม่ได้นะ”
“อืม จริงอย่างที่เธอพูดแหละ เฮ้อ... โอเค ฉันจะไม่คิดถึงเขาอีกแล้ว ฉันจะมูฟออนเริ่มต้นใหม่กับใครคนใหม่สักคน”
“เฮ้อ.. สักทีนะเพื่อน”
เช้าวันจันทร์ที่แสนวุ่นวายของออฟฟิศฝ่ายประสานงานขายต่างประเทศ ปวริศาเดินออกจากลิฟต์ชั้นสิบห้ามาพร้อมกับกระเป๋าใบโตที่ภายในบรรจุทั้งโน้ตบุ๊กและข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว แถมยังพกกล่องข้าวมาด้วย เป็นพนักงานออฟฟิศใจกลางกรุงก็ต้องทำใจกับค่าครองชีพที่สูงปี๊ดกันหน่อย ถ้ามีเวลาว่างแป้งก็จะทำอาหารและห่อมากินตอนเที่ยงในที่ทำงาน ประหยัด สะดวก รวดเร็วดีด้วย แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ห่อมาก็อาจจะต้องพึ่งแก๊ป, ไลน์แมนหรือฟู้ดแพนด้า แอ๊ปสั่งอาหารออนไลน์หลากหลายที่ผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด ซึ่งก็จะทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก จะลงไปกินอาหารที่ฟู้ดเซนเตอร์ของตึกก็ราคาไม่ต่างกัน แถมยังไม่ค่อยอร่อยอีกต่างหาก ด้วยเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลปวริศาจึงเลือกที่จะห่อข้าวมากินตอนเที่ยง กินเสร็จก็นั่งท่องโลกอินเทอร์เน็ตหรือไม่ก็นั่งพักสายตาสักงีบหนึ่ง
ปวริศาจัดแจงวางของลงที่โต๊ะทำงาน แล้วหันไปสวัสดีทักทายทุกคนในแผนก พอเปิดโน้ตบุ๊กกางขึ้นมา พี่ศศิหรือพี่ศศิวิมลผู้จัดการแผนกก็พูดขึ้นมาว่า
“นี่ทุกคนวันนี้พี่ขอเลื่อนประชุมแผนกขึ้นมาเป็น 08.30 น.นะ ขอเร็วขึ้นจากเดิมครึ่งชั่วโมง เพราะมี 09.30 น. พี่มีประชุมด่วนกับทีมผู้บริหาร”
“ค่ะพี่ศศิ”
“รับทราบค่ะ พี่ศศิ”
ปวริศาตอบรับพี่ศศิวิมลไปพร้อมเพื่อนๆ ร่วมงานคนอื่นๆ แล้วทุกคนก็เคลื่อนย้ายตัวเองไปที่ห้องประชุม ศศิวิมลใช้เวลาสอบถามติดตามงานกับลูกค้าทีมไม่นาน จากสองชั่วโมงรวบรัดตัดความเหลือเพียงชั่วโมงเดียว ทำเอาทุกคนแทบไม่ได้หายใจหายคอกันเลย ก่อนจะปิดประชุมเวลา 09.20 น. แล้วจ้ำเอ้าออกจากห้องไปเดินขึ้นบันไดไปอีกหนึ่งชั้น ไปประชุมกับทีมผู้บริหาร
“โอ๊ย หัวใจจะวายตาย รายงานผลว่องไวราวกับฟาสต์แปด จะยกเลิกไปก่อนก็ไม่ได้นะคุณผจก.ศศิ”
ปวีณาบ่นงึมงำ
“ก็พี่เขาบอกแล้วนี่ ว่ามีประชุมด่วน ถ้าไม่คุยกับพวกเราก่อนเกิดไปเจอผู้บริหารถามงาน ก็เสร็จนะสิ”
ปวริศาบอกให้เพื่อนสาวอย่างใจเย็น
“นี่ใบหม่อนแป้ง เมื่อกี้พวกเธอได้ยินหรือเปล่า ที่พี่ศศิบอกว่าทางสำนักงานใหญ่ที่อเมริกาเขาจะส่งคนมาทำงานที่เราน่ะ”
“ได้ยินแล้วไงล่ะ ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย”
“แปลกสิ ครั้งนี้มาจากอเมริกาเลยนะ ต้องเป็นฝรั่งผมทองใหญ่ยาวแน่แน่ วีณาจะมีผัวฝรั่งก็ครั้งนี้แหละ”
“วีณาทำเป็นพูดเข้า น่าเกลียดจัง”
“เธอยังไม่ชินหรือแป้ง เรื่องใต้สะดือสิบแปดบวกนี่แม่วีณาเขาชอบเขาถนัดละ”
“วีณาบางทีคนที่เขาส่งมาอาจจะแก่คราวรุ่นพ่อก็ได้นะ”
ปวริศาพูดแล้วหันไปอมยิ้มกับปรียาพร
“ไม่เป็นไร แก่คราวพ่อ ฉันก็โอเค เพราะพวกฝรั่งเขาดูแลตัวเองดีจะตายไป ฉันจะได้มีลูกเป็นลูกครึ่งน่ารักๆ แก้มป่องตาโตเหมือนแม่ ผมทองเหมือนพ่อ แล้วฉันจะส่งลูกฉันเข้าวงการบันเทิงสานฝันให้แม่มัน ฮ่า ฮ่า”
ปวีณาพูดมาซะยืดยาว ทำตาซึ้งชวนฝัน และแล้วก็โดนเพื่อนสาวอย่างปรียาพรมาดับฝันเสียนี่
“เอ่ย.. ไม่ใช่ว่าวันจริงมาก็เป็นคุณลุงเคเอฟซี พุงพลุ้ย ผมขาวมาละนะ”
“แหม ยายหม่อนเธอนี่พูดจาไม่เข้าหูเลยจริงๆ”
“ก็แค่หมั่นไส้อะนะ ว่าแต่แป้งเธอไม่ตื่นเต้นบ้างหรือ เผื่ออาจจะเนื้อคู่ของเธอก็ได้นะ ยายวีจะได้มีคู่แข่ง”
“ไม่ดีกว่า ดูทรงก็รู้ว่าแพ้ขาดลอย เพราะหุ่นอย่างวีณา ผิวแทน ตัวเล็ก สเปคฝรั่งเลย ที่สำคัญนะ อารมณ์ดีแบบนี้ด้วย ชนะกินขาดไปเลย”
“แต่แป้งอย่าลืมสิ ครั้งที่คุณมาร์ตินมาประชุมกับเราสองสัปดาห์ ยายวีผู้แสนจะพยายามก็ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน แถมดูคุณมาร์ตินเขายังทำท่าสนใจเธออีกด้วยนะแป้ง งานนี้ลงแข่งกับยายวีไป ของนอกมาทั้งที ห้ามหลุดไปให้แผนกอื่นเด็ดขาด”
“นี่ใบหม่อน เธอก็ขยี้จังนะ ครั้งนั้นฉันยังเล่นตัวอยู่ต่างหากละ แต่ครั้งนี้ไม่พลาดหรอก เอ่อ.. แป้งเธอไม่ต้องลงสนามแข่งอ่ะดีแล้ว เพื่อนอยากมีผัว ขอให้เพื่อนได้มีผัวฝรั่งหล่อๆ รวยๆ ไปก่อนนะ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่พวกเรามาคุยถึงเขากันแบบนี้ ป่านนี้เจ้าตัวไม่จามแย่รึ”
สามสาวเม้ามอยพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาสาวโสด โดยไม่รู้เลยว่า คนที่พวกเธอกำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้ จามไม่หยุดเช่นกัน
...
“ฮัดเช้ยยยย”ตอนพิเศษ 2 บทเรียนรัก เจย์เดนเอามือไล้ไปตามเรียวขาขาว แล้วพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้า ปลีน่อง ต้นขา แล้วเน้นสัมผัสไปที่โคนขาด้านใน ส่วนเนินสามเหลี่ยมที่อวบอูมมีไรขนบางๆ ถูกตัดแต่งไว้ดูสะอาดตา เขาใช้มือทั้งสองข้างประคองเนินนุ่มแล้วค่อยๆ รั้งให้แยกทำให้กลีบกุหลาบด้านในค่อยผลิบานออกมายั่วยวนสายตา เจย์เดนบรรจงจูบที่กลีบกุหลาบสวยอย่างแผ่วเบาละเลียดชิมความหวานทุกซอกทุกมุม มีหลายครั้งที่เรียวลิ้นอุ่นชื้นเร่งดูดดึง แหย่ล้วงลึก ส่งผลให้คุณแม่มือใหม่เสียวสะท้านไปทั้งครางเสียงหวานไม่ได้หยุดพัก มือน้อยทั้งหยุมไปที่หัวคนพ่อ เอวบางก็เด้งรับความเสียวซ่านโดยไม่รู้ตัว “อ๊ะ.. ผัวขา เมียเสียวจังเลยค่ะ อ่าห์” ไม่บ่อยนักที่ปวริศาจะหลุดคำแบบนี้ออกมา ยิ่งฟัง ก็ยิ่งกระตุ้นให้คนทำได้ใจเร่งรัวปลายลิ้นเบิร์นไม่ได้หยุด สักพักร่างขาวก็กระตุกเล็กน้อยพร้อมปลดปล่อยน้ำรักออกมา คนตัวโตก็เลียเช็ดกลืนกินจนหมดโดยไม่รังเกียจ ปรวิศามองภาพที่ชายคนรักก้มเลียน้ำรักของตนอยู่ตรงหว่างขาก็เกิดความเขินอาย เลือดสาวในกายสูบฉีดพุ่งขึ้นมาเต็มใบหน้า ทำให้ทั้งใบหน้าลำคอเปลี่ยนเป็นสีแดงระเร
ตอนพิเศษ 1 ลูกชายพ่อมันดื้อ มันฟังแม่คนเดียวที่คอนโด เจย์เดนเปิดประตูเข้ามาเขาก็กวาดสายตามองไปรอบๆ แล้วค่อยๆ เดินเข้าไปที่โซนที่ถูกจัดเป็นห้องครัวที่ตอนนี้ดูมีชีวิตชีวาไม่ปล่อยว่างเหมือนแต่ก่อน เขายืนมองดูหญิงสาวคนรักที่ตอนนี้กำลังตั้งใจทำอาหารตรงหน้าเลยไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาลอบมอง ปวริศามาอยู่คอนโดกับเขาตามที่เขาร้องขอและก็จะมีบางวันที่ปวริศากลับไปอยู่กับแม่ที่บ้าน วันนี้ปวริศาอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้าใส่สบาย เนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยถ้าไม่บอกก็จะไม่รู้เลยว่าเธอกำลังท้องอยู่ ผมยาวสวยวันนี้ถูกรวบไว้หลวมๆ เผยให้เห็นต้นคอขาว นี่สินะคือภาพความสุขที่เจย์เดนวาดฝันมาตลอดคือการกลับจากทำงานแล้วมีคนรักรออยู่ที่บ้าน ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก เขาไม่รู้เลยว่าเขาตกหลุมรักคนรักของตัวเองไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว ภาพของปวริศาที่หยิบจับโน่นนี่นั่น ผัดอาหารในกะทะดูคล่องแคล่วชวนมองไปหมด เขายืนกอดอกหลังพิงกำลังแพงแล้วยิ้มอย่างมีความสุข ปวริศาวันนี้เธอวางแผนทำอาหารง่ายๆ มีต้มข่าไก่ของโปรดของเด็กดื้อตัวโต ผัดผักรวมมิตรกุ้ง และยำไข่ต้ม อาหารธรรมดารสไ
“เอ... ทุกคนมีเรื่องสงสัยอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีผมมีเรื่องสำคัญอีกเรื่องจะแจ้งคนะรับ พร้อมรับฟังเรื่องสำคัญของผมแล้วหรือยัง”ทุกคนหันหน้าไปมองหน้าเจฟฟ์ด้วยความสงสัย และปนกับความหวาดระแวงเล็กน้อย เจฟฟ์เดินมายืนหลังเก้าอี้ที่ปวริศานั่ง แล้วเอื้อมไปจับมือปวริศาพร้อมประคองให้ลุกยืนขึ้นข้างๆ เขา“บอสจะทำอะไรคะ”ปวริศาร้องทัก เจฟฟ์ยิ้มหวานแล้วโอบกระชับที่ไหล่ของปวริศาดึงเข้ามาให้แนบชิดกับไหล่ของเขา ทุกคนในห้องประชุมต่างมองมาที่คนทั้งคู่ด้วยสายตาที่สงสัยและแปลกประหลาดใจ“ผมก็จะประกาศข่าวดีของเราให้ทุกคนได้ทราบอย่างไรล่ะครับพี่แป้ง”ปวีณาทำตาโตอ้าปากค้าง ส่วนศศิวิมลเห็นแล้วยิ้มกว้างออกมาเพราะเป็นไปอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้ ส่วนปรียาพรก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มตามไปทั้งที่คราบน้ำตาบนใบหน้าเธอยังไม่แห้งดี“อีกไม่นานเราสองคนจะมีข่าวดีนะครับ ผมเลยอยากมาบอกทุกคนไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆ เผื่อใครอยากจะปั้นหุ่นไว้ใส่ชุดสวยๆ เรื่องธีมของงานต้องรอเจ้าสาวของผมบอกอีกทีนะครับ” “ฮะ.. อะไรนะคะ เจ้าสาวเหรอ บอสกับยายแป้ง ..... อุ๊ยตายว้ายกรี๊ดดดดดดดดดด” ปวีณากรี๊ดดีใจดังลั่น
“ลูกจ๋า.. บอกพ่อสิครับว่าอยากเที่ยงหนูอยากกินอะไรครับ”เจฟฟ์เอื้อมมือไปวางแปะบนพุงน้อยๆ ของปวริศา“อย่ามาเวอร์นักเลยน่ะ เอามือออกไปไม่ต้องมาจับ”ปวริศาพยายามจะดึงมือเจฟฟ์ออกจากหน้าท้องของตนแต่กลับถูกเจฟฟ์กอบกุมไว้แน่นกว่าเดิม“ลูกจ๋าดูแม่ของหนูสิ หงุดหงิดใส่พ่ออีกแล้ว”เจฟฟ์เอามือของปวริศามาแนบที่แก้มของตนเอง และเอียงคอมองปวริศาด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก“พี่แป้งรู้ไหมครับว่าคุณย่าผมท่านตื่นเต้นมากเลยนะที่รู้ว่าผมจะมีหลานสะใภ้ให้ท่าน วันก่อนคุณย่าบอกว่าจะบินมาไทยเพราะอยากมาเจอหน้าหลานสะใภ้ เนี่ยเดี๋ยวผมต้องกลับไปอัปเดตมูลใหม่ว่า กลับมาครั้งนี้จะเจอทั้งหลานสะใภ้พร้อมกับเจ้าตัวเล็ก รับรองว่าท่านต้องดีใจมากแน่เลย” เจฟฟ์จบก็หันไปทางปิ่นมณี“คุณแม่ครับคุณแม่หาฤกษ์แต่งงานให้เราหน่อยสิครับ”“จะมาหาฤกษ์แต่งงานอะไร ใครเขาจะแต่งด้วย”“เลิกงอนได้แล้วนะครับคุณแม่คนสวย ตอนนี้เรามีเจ้าก้อนน้อยที่ผมตั้งใจปั้นขึ้นมาอยู่ในนี้แล้วนะ”เจฟฟ์เอามือจิ้มจิ้มไปที่หน้าท้องของปวริศา“งอนนานไป เดี๋ยวเจ้าก้อนน้อยตัวโตขึ้น คุณแม่จะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวยนะครับ เอ.. หรือว่าจะรอให้เจ้าก้อน
เช้าวันอาทิตย์ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่เจฟฟ์ก็ยังคงมาที่บ้านปวริศาแต่เช้า มาใส่บาตรด้วย ทั้งที่เมื่อวานกว่าเขาจะกลับบ้านก็เล่นเอาเสียมืด พอใส่บาตรเสร็จหลวงพ่อให้พร ทุกคนก็กรวดน้ำแล้วรับพร“อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สาธุ”“ไปก่อนนะโยม พรุ่งนี้อาตมามีกิจนิมนต์ไปทำบุญขึ้นบ้านใหม่ จะไม่ได้มารับบาตรนะ” “เจ้าค่ะหลวงพ่อ”แล้วหลวงพ่อก็เดินออกไป ทั้งสามค่อยลุกขึ้น แล้วปวริศาก็เซไปนิดเจฟฟ์ที่อยู่ข้างๆ รีบเข้าไปประคอง“พี่แป้งเป็นอะไรไปครับ”“ไม่ได้เป็นอะไร ปล่อยได้แล้ว”ปวริศาพยายามจะเบี่ยงตัวออกจากอ้อมกอดนั้น แต่เจฟฟ์ก็ยังแข็งขืนดื้อดึงประคองไว้อยู่“เห็นไหมละครับ พี่ยังเซอยู่เลย ให้ผมประคองแหละดีแล้ว”เจฟฟ์ประคองปวริศามานั่งที่โต๊ะ“เดี๋ยวพี่นั่งเฉยๆ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้”เจฟฟ์เดินไปกดน้ำเย็นจากเครื่องกรองน้ำในห้องครัว ส่วนปิ่นมณีมองลูกสาวด้วยความเป็นห่วง“พักผ่อนน้อยหรือเปล่าลูก”“เมื่อคืนแป้งก็ไม่ได้นอนดึกนะคะแม่ แค่สี่ทุ่มครึ่งเอง” “นี่น้ำเย็นครับ เดี๋ยวผมไปเตรียมจัด
ภายในห้องเช่าขนาดไม่ได้ใหญ่มาก ปรียาพรกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟาย และพร่ำกล่าวคำว่าขอโทษเจฟฟ์ ขอโทษปวริศา สาเหตุทั้งหมดเกิดความโง่ของตนเอง ปวริศาเข้าไปโอบกอดใช้ฝ่ามือลูบหลังปลอบโยนเพื่อน“ฉันขอโทษเธอนะแป้ง เป็นเพราะฉันโง่เอง ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จแล้วเขาจะรักฉัน ฉันมันโง่เอง แป้ง ฉันขอโทษ ฮือ ฮือ”“โอเค ฉันเข้าใจเธอนะ แต่เธอก็ใจร้ายไปหน่อยนะ เธอก็น่าจะรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คนที่จะมารับเคราะห์ก็จะเป็นฉัน เธอไม่คิดห่วงฉันบ้างเลยหรือไง”“ตอนนั้นฉันยอมรับนะ ว่าฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่นเลย ฉันคิดว่าถ้าทำสำเร็จเขาจะรักฉันจะขอฉันเป็นแฟน แต่ความจริงแล้วมันกลับเฉดหัวฉันทิ้ง ฮือ ฮือ”ปวริศาหันไปสบตากับเจฟฟ์ ปรียาพรก็เงยหน้ามองเจฟฟ์เช่นกัน“บอสคะ หม่อนขอโทษ หม่อนผิดไปแล้ว บอสอย่าไล่หม่อนออกเลยนะคะ”ปรียาพรพนมมือไหว้ขอให้เจฟฟ์ยกโทษให้ทั้งน้ำตา“ครั้งก่อนตอนที่คุณปวริศาตกเป็นผู้ต้องสงสัย เขาไม่เคยมาขอให้ผมไม่ไล่ออก แต่เป็นตัวเขาเองต่างหากที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกเอง ซึ่งผมก็ยังไม่อนุมัติเอกสารนั้น เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าปวริศาไม่มีทางทำหักหลังผมแน่นอน คุณมาขอแบบนี้มันจะไม่ดูเห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ความจริงเ
บรรยากาศในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้มีคนให้ความสนใจกับคู่ของแพทริกและปวริศาเป็นอย่างมาก แพทริกนั้นดูจะมีความสุขและยิ้มกว้างกว่าใครเพื่อน เขาเดินควงปวริศาพาทักทายพูดคุยกับคนไปทั่วงาน จนมีหลายคนถามเขาว่าคนข้างกายของเขาคนสวยคนนี้คือใคร เขาก็ตอบไปเพียงว่า“เธอคือเป็นคนพิเศษสำหรับผมคืนนี้” “หิวมั้ยครับคุณแป้ง ผมเห็นคุณแป้งทานไปนิดหน่อยเองหรือว่าอาหารที่นี่ไม่ถูกปากให้ผมพาไปกินข้างนอกไหมครับ”เขาถามด้วยความใส่ใจหญิงสาวข้างกาย“ไม่เป็นไรค่ะ แป้งกินไปหลายอย่างแล้ว ถ้ากินเยอะไปกว่านี้เดี๋ยวจะพุงป่อง น่าเกลียดแย่เลย” “อย่างคุณแป้งเอาตรงไหนมาน่าเกลียดครับ ผมเห็นแต่ความน่ารัก และความสวยเต็มไปหมด” แพทริกพูดไปส่งสายตาหวานให้หญิงสาว แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าของหญิงสาวก็สั่นไม่หยุด จนปวริศาต้องหยิบโทรศัพท์ออกมาดู ก็เห็นว่ามีใครบางคนกดส่งข้อความมาให้เธอไม่ได้หยุด เธอเงยหน้าขึ้นก็รับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่ถูกส่งพุ่งตรงมาที่เธอ ใช่แล้วเป็นเจฟฟ์ที่กำลังมองมาที่เธออย่างตาไม่กะพริบซึ่งเขาก็เป็นคนส่งข้อความหาเธอแล้วส่งสายตาจ้องเขม็งเชิงบังคับและขอร้องให้เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่าน
เจฟฟ์นั่งมองโทรศัพท์ที่ตอนนี้เขาพยายามจะโทรไปหาใครบางคน โทรยังไงเขาก็ไม่รับ ไลน์ไปเขาก็ไม่เปิดอ่าน “ทำไมดื้อแบบนี้ล่ะพี่แป้ง”เขาหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจะดื่มแต่ก็พบกับความว่างเปล่า ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะกดโทรศัพท์แล้วให้ใครบางคนขอให้ชงกาแฟเข้ามาให้ แล้วก็แอบหาเศษหาเลยนิดหน่อยให้พอชื่นใจ แค่นี้ก็มีแรงทำงานต่อแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว เฮ้อ... เจฟฟ์เอามือกุมหัวจากการที่เขาตามแกะรอยเรื่องงานประกวดราคาที่เขาแพ้ให้กับคู่แข่งอย่างแพทริกแบบที่มีเงื่อนงำให้ชวนคิด ทำให้เขาต้องมาไล่เจาะข้อมูลซึ่งมันก็ไม่ยากเกินกว่าที่เขาจะหาตัวต้นเหตุเจอ ซึ่งเป็นคนใกล้ตัวของปวริศาเขาจึงอยากบอกให้ปวริศารู้และเป็นผู้ร่วมในการตัดสินใจที่จะลงโทษคนผิด แต่ปัญหาคือตอนนี้เขาติดต่อปวริศาไม่ได้เลย ความจริงเขาก็อยากจะพุ่งเข้าไปหา แต่ติดว่าช่วงนี้คิวงานเขาก็แน่นมาก เขาตัดสินใจแล้วว่าเดี๋ยววันเสาร์นี้เขาจะรีบไปเฝ้าหาปวริศาแต่เช้าตรู่เลย มันเลยทำให้เขาหงุดหงิดที่เห็นคนผิดยังคนลอยหน้าลอยตาทำงานอยู่ก๊อก ก๊อก ก๊อก ศศิวิมลเดินเข้ามาแล้วนำเอกสารมาวางที่ชั้นเอกสารนำเข้ารอเซ็นบนโต๊ะ เจฟฟ์พยักหน้
หลังจากที่เจฟฟ์คลาดกับปวริศาไปเพียงเสี้ยวนาที เขาก็พยายามครุ่นคิดอยู่ว่าคนที่พาปวริศาออกไปคือใคร“น้าขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม พอมีเวลาคุยกับน้าไหมจ๊ะ”เจฟฟ์รีบพยักหน้ารับ“ได้ครับคุณน้าวันนี้ผมตั้งใจจะมาหาพี่แป้ง จะมาขอโทษและอธิบายความจริงให้ฟังครับ”“น้าเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องของเราสองคนนะ แต่น้ามีลูกคนเดียว ไม่ว่าเขาเป็นอย่างไรน้าก็รักของน้า น้าจะไม่มากล่าวหาว่าใครผิดใครถูกหรืออย่างไร แต่น้าแค่อยากบอกว่า ตั้งแต่น้าเลี้ยงลูกน้ามา น้าเห็นเขาเสียใจหนักๆ สองครั้ง ครั้งแรกก็ตอนที่เจย์เดนย้ายไปอเมริกา ครั้งที่สองก็เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และน้าก็ไม่อยากเห็นลูกสาวน้าต้องเสียใจอีก น้าพูดแค่นี้หวังว่าเจย์เดนจะเข้าใจนะ”เจฟฟ์ก้มหน้า“ครับผมเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นครับคุณน้า”“น้าไม่รู้ว่าอนาคตของคนทั้งคู่จะเป็นอย่างไร ทั้งคู่รักกันมากน้อยแค่ไหน”“ผมรักพี่แป้งจริงๆ นะครับ คุณน้า”“เจย์เดนก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือว่า แค่คำว่ารักมันอาจจะไม่เพียงพอ แต่มันจะต้องมีความไว้ใจและเชื่อใจกันด้วย” เจฟฟ์สบตากับปิ่นมณีแล้วทั้งคู่ก็พูดคุยกันไปเกือบสองชั่วโมงทำให้เจฟฟ์คิดอะไรได้หลายอย่าง“น้าว่าเจย์