Share

บทที่ 119 ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว

last update Last Updated: 2025-07-29 17:04:19

บทที่ 119

ฤดูหนาวมาเยือนแล้ว

            ร้านฟู่จินกุ้ยได้รับความนิยมสูงสุดตั้งแต่วันแรกที่เปิดร้าน

            ทันทีที่ร้านเปิด คนที่ต่อแถวอยู่นอกร้านต่างหลั่งไหลเข้ามา ทุกคนให้ความสนใจพลอยประดับกันอย่างมาก พวกเขาต่างซื้อสินค้ากลับไปแม้ว่าของนั้นจะมีราคาแพงก็ตาม  

            แค่สัปดาห์แรก ลู่ซินฟางก็ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ 

            เมื่อร้านเครื่องประดับฟู่จินกุ้ยเริ่มลงตัว ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ลู่ซินฟางมอบหมายงานต่อให้กับผู้ดูแล ก่อนจะพาลูกๆ เดินทางกลับเมืองเล่ออัน

            หนึ่งเดือนต่อมา...

            เข้าสู่กลางฤดูหนาวเต็มตัว ยามกลางคืนละอองหิมะโปรยปรายลงมาเป็นสาย ตอนเช้าบนพื้นดินจึงดูเหมือนถูกปูด้วยพรมกำมะยีสีขาว

            แม้ยามเที่ยงวันหิมะเหล่านั้นจะละลายกลายเป็นแอ่งน้ำ แต่กระแสความหนาวเย็นของฤดูหนาวนับวันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  

            ในขณะนั่งกินข้าวเช้า เหนียงซิ่นก็เปรยขึ้นมา “ฤดูหนาวปีนี้คงหนักเอาการ”

            หลางไป๋ผงกศีรษะทีหนึ่ง “อืม อาจถึงขั้นเกิดภัยหนาวได้เลยนะเนี่ย”

            จากนั้นทุกคนต่างลงความเห็นว่า “นั่นสินะ”

            ลู่ซินฟางมือหนึ่งถือถ้วยข้าว มือหนึ่งถือตะเกียบ พอฟังพวกเขาคุยกันมาถึงตรงนี้ นางก็เอ่ยถามด้วยสีหน้าเป็นกังวล

            “ปีนี้จะเกิดภัยหนาวหรือ”

            เหล่าสัตว์จะมีความสามารถรับรู้ภัยธรรมชาติล่วงหน้า ในเมื่อพวกเขาต่างพูดเหมือนกัน นางเองก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับภัยหนาวแล้ว 

            “จริงๆ ก็ไม่ถึงขั้นเรียกว่าภัยหนาวอะไรหรอกขอรับ ข้าแค่รู้สึกว่าฤดูหนาวของที่นี่น่าจะหนาวเอาเรื่องอยู่” หลางไป๋ตอบ 

            “ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พวกเราควรเตรียมพร้อมรับมือกับความหนาวนะ” ลู่ซินฟางบอก

            “อย่างไรหรือ” หลางไป๋ถาม 

            “ผ้าห่ม ฟูก เสื้อกันหนาวและถ่าน ควรนำมาแจกจ่ายทุกครัวเรือน แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าที่อยู่ในโกดังตอนนี้เพียงพอหรือไม่” 

            “ถ้าเป็นเรื่องพวกนี้ละก็ มีเหลือเฟือเลยขอรับ” หลางไป๋บอกพลางยิ้ม เหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่โต  

            เห็นแบบนี้ ลู่ซินฟางตระหนักได้

            นั่นสินะ ของที่เก็บไว้ในมิติมีมากมายนับไม่ถ้วน ทั้งทางนั้นยังใช้เวทมนตร์ในการเก็บรักษา ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเสื้อผ้าจึงไม่มีอะไรเสียหาย

            และที่สำคัญ ในโลกทางนี้ถึงจะหนาวจัด แต่ในมิตินั้นกลับเป็นคนละเรื่อง แม้เข้าสู่ฤดูหนาวเหมือนกัน แต่อุณภูมิลดลงนิดหน่อย พอให้รู้สึกว่าอากาศเย็นเท่านั้นเอง เหล่าผู้อยู่ในมิติเลยไม่ได้รับกระทบจากภัยธรรมชาติ 

            ลู่ซินฟางครุ่นคิด จากนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ

            “ถ้าอย่างนั้น พวกเจ้านำผ้าห่ม ฟูกและเสื้อกันหนาวออกมาแจกจ่ายลูกจ้างที่เป็นมนุษย์และครอบครัวของพวกเขาที่ทำงานให้กับเรา ถือว่าเป็นสวัสดิการด้วยเลย” ลู่ซินฟางบอก 

            “เจ้าค่ะ ข้ากับเสี่ยวเหมยจะนำของไปแจกให้” เหนียงซิ่นรับอาสา

            หู่จือเหมยพยักหน้า 

            “แล้วก็ อย่าลืมนำผ้าห่มกับฟูกไปแจกบ้านเจียงกับบ้านของจางต้วนด้วย” ลู่ซินฟางเอ่ยเตือน

            ต่อให้เมื่อก่อน เจียงลิ่วทำกับลู่ซินฟางไว้แสบแค่ไหน แต่ตอนนี้บ้านเจียงเป็นหนึ่งในลูกจ้างของลู่ซินฟาง สมควรได้รับสวัสดิการ

            จางต้วนไม่ได้เป็นลูกจ้างของลู่ซินฟางก็จริง แต่ตงตงกับเม่ยเม่ยเป็นเพื่อนเล่นของเจ้าแฝด ควรได้รับสิทธิพิเศษเช่นกัน

            ทุกคนแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพ

            พอกินมื้อเช้าอิ่ม ซินหลิน หลางไป๋และสยงจวินก็กลับมิติ ช่วยกันขนของใช้ที่จำเป็นออกมามากมายหลายอย่าง

            ในตอนบ่าย ทุกคนช่วยกันขนของออกไปแจกจ่ายตามบ้านของเหล่าลูกจ้าง โดยมีเหนียงซิ่นกับหู่จือเหมยเป็นตัวแทนของลู่ซินฟาง ใช้เวลาไม่นาน ก็แจกจ่ายจนครบ

            หลายวันต่อมา คลื่นความเย็นมาถึงเมืองเล่ออันกระทันหัน ทั้งเมืองถูกปกคลุมด้วยหิมะ แม้แต่น้ำในลำธารยังจับตัวกลายเป็นน้ำแข็ง

            ทว่า…

            จากการเตรียมพร้อมของลู่ซินฟาง ครอบครัวของเหล่าลูกจ้างจึงไม่ได้รับผลกระทบจากความความหนาวนั้น ซ้ำยังต้องขอบคุณที่ลู่ซินฟางเตรียมของดีไว้ให้ตั้งมากมาย

            ตกเย็น หลังจากเก็บร้านเรียบร้อย ทุกคนก็ตรงกลับคฤหาสน์กันทันที 

            ทันทีที่ลู่ซินฟางเดินมาถึงหน้าเรือน เจ้าแฝดสวมชุดกันหนาวตัวหนาวิ่งเข้ามากอด

            ตุบ!

            “ท่านแม่มาแล้ว”

            น้ำเสียงเล็กน่ารักของเป่าเอ๋อร์ดังขึ้น ก่อนเฉิงเอ๋อร์จะถามต่อท้ายน้องสาว

            “ท่านแม่เหนื่อยหรือไม่”

            หญิงสาวย่อตัวลงกอดเด็กทั้งสอง “ได้กอดพวกเจ้าแบบนี้แม่ก็หายเหนื่อยแล้วละ อา…อุ่นจังเลย ถุงร้อนเคลื่อนที่ของแม่”

            เด็กๆ หัวเราะคิกคักชอบใจกันใหญ่

            “ตรงนี้หนาว เข้าไปข้างในกันเถอะ”

            ในตอนที่ลู่ซินฟางกำลังจูงมือเจ้าตัวน้อยทั้งสองเข้าไปในเรือน ซินหลินกับสยงอู๋หิ้วตะกร้าผักเดินผ่านหน้าไปพอดี หญิงสาวเห็นผักเยอะแยะเต็มตะกร้าพลันผุดไอเดียขึ้นได้

            “ซินหลิน สยงอู๋ เดี๋ยวก่อน”

            ซินหลินกับสยงอู๋หยุดเท้า หันมองลู่ซินฟางอย่างสงสัย

            “มีอะไรหรือ” ซินหลินเอ่ยถาม

            “เก็บผักมาเยอะแยะ วันนี้เหนียงซิ่นจะทำเมนูอะไรหรือ” ลู่ซินฟางถามเด็กทั้งสอง

            ซินหลินส่ายหน้าตอบว่า ไม่รู้

            สยงอู๋ครุ่นคิดสักครู่ แล้วบอกว่า “ข้ารู้แค่ว่าท่านแม่ทำเป็ดตุ๋นสมุนไพร ส่วนผักพวกนี้น่าจะเอามาทำเมนูผัดขอรับ”

            “ถ้าอย่างนั้น พวกเจ้าบอกเหนียงซิ่นว่าเย็นนี้พวกเราจะใช้ผักพวกนั้นทำหม้อไฟกัน”

            ซินหลินกับสยงอู๋รู้จักหม้อไฟ จึงพยักหน้ารัวๆ พร้อมกับยิ้มแย้มอย่างดีใจ

            แต่เจ้าแฝดไม่รู้ว่าหม้อไฟคืออะไร ทั้งคู่เอียงศีรษะตั้งคำถาม

            “ท่านแม่ หม้อไฟคืออะไร”

            “ข้าเองก็ไม่รู้จัก ในหนังสือไม่มีบอกด้วย”

            ลู่ซินฟางบอกให้ซินหลินกับสยงอู๋เข้าครัวไปก่อน จากนั้นค่อยหันมาอธิบายให้เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ฟัง

            “หม้อไฟคือการพวกเอาผักและเนื้อใส่รวมกันลงไปในหม้อที่มีน้ำซุป แต่ความอร่อยอยู่ตรงที่ทุกคนได้ล้อมวงกินอาหารในหม้อเดียวกัน”

            เจ้าแฝดฟังแล้วก็กะพริบตาแป๋ว

            “น่าสนุกจัง” เป่าเอ๋อร์โพล่งขึ้นมา

            “เป่าเอ๋อร์ เจ้าต้องบอกว่าน่าอร่อยถึงจะถูกสิ” เฉิงเอ๋อร์เอ่ยแย้ง

            “แต่ว่า กินอาหารจากหม้อเดียวกัน ได้แย่งกัน น่าสนุกออกไม่ใช่หรือ” เป่าเอ๋อร์บอกพี่ชายด้วยแววตาใสซื่อ

            เฉิงเอ๋อร์คิดตาม ก่อนจะเห็นด้วยกับน้องสาว

            “ก็จริงนะ”

            จากนั้นเด็กทั้งสองก็หัวเราะ ฮะๆ ออกมา

            สักครู่หนึ่ง เป่าเอ๋อร์เงยหน้าถามมารดาว่า “ท่านแม่ วันนี้ท่านลุงจะมากินหม้อไฟด้วยหรือไม่”

            “หมายถึงข้าหรือ”

            เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นทันทีที่สิ้นคำถามนั้น

            เจ้าแฝดตัวน้อยชะโงกหน้าผ่านลู่ซินฟาง มองเจ้าของเสียง พอเห็นกงเยียนซู พวกเขาก็วิ่งเข้าไปหา

            “ท่านลุง!”

            “ท่านลุงมาแล้ว”

            เดี๋ยวนี้ เด็กแฝดทั้งสองต่างรอคอยให้กงเยียนซูมาเยือน ราวกับว่าเขาเป็นสมาชิกในครอบครัวไปเสียแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (5) จบบริบูรณ์

    ตอนพิเศษ (5)จบบริบูรณ์ หลังจากปรับอารมณ์ได้แล้ว จิ้งจอกสาวก็เช็ดน้ำตาบนแก้มจนแห้ง สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปขอโทษหลางไป๋ ทว่าทุกครั้งที่นางเข้าใกล้ เขากลับผละหนี แสร้งทำทีเป็นยุ่งง่วนกับงาน ท่าทางแบบนั้นราวกับจงใจหลบหน้านางไม่มีผิด เมื่อตระหนักได้เช่นนั้น เจียงจวีก็น้ำตาซึม รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก นับวันหัวใจของนางก็ยิ่งปวดแปลบ ท้ายที่สุด นางที่รู้สึกระอายใจเป็นทุนเดิม ยิ่งไม่กล้าสู้หน้าเขา หลายวันต่อมา เจียงจวีเก็บข้าวของ หนีกลับเผ่าจิ้งจอก ณ เผ่าจิ้งจอก ผู้นำเผ่าจิ้งจอกในร่างของชายวัยคนกับจิ้งจอกหนุ่มต่างยืนกอดอกหน้าตาขึงขัง ในขณะที่มองจิ้งจอกสาวกอดเข่าน้ำตาซึม “ตั้งแต่นางกลับมาก็เอาแต่นั่งอมทุกข์ทั้งวันทั้งคืน สงสัยจะเจอแย่ๆ มา หากรู้อย่างนี้ ข้าไม่น่าอนุญาตให้นางออกไปเจอโลกภายนอกเลย เป็นข้าที่ตัดสินใจผิดพลาดเอง” ผู้นำเผ่าพูดกับลูกชาย “ท่านพ่อไม่ได้ตัดสินใจผิดพลาดหรอกขอรับ ให้นางออกไปเผชิญโลกภายนอก นับเป็นประสบการณ์ของนางด้วย” จิ้งจอกหนุ่มกล่าว

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (4)

    ตอนพิเศษ (4) หลังจากเห็นว่าเจียงจวีเหมาะกับตำแหน่งพนักงานขาย หลางไป๋ก็ให้นางทำงานในร้านซินหลินคู่กับห่จือเหมย เพียงไม่กี่อาทิตย์ เจียงจวีก็เป็นพนักงานขายอันดับต้นๆ ของร้าน ด้วยความที่เป็นจิ้งจอกใสซื่อ จึงทำให้ผู้คนชื่นชอบและเอ็นดูไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่หลางไป๋ “ทำงานแค่ไม่กี่อาทิตย์ เจ้าก็ทำกำไรให้ร้านซินหลินไม่น้อย…ทำดีมาก” หลางไป๋เอ่ยชมเจียงจวี พร้อมกับยื่นมือไปลูบศีรษะ ตอนแรก หมาป่าหนุ่มทำไปโดยไม่ได้คิดอะไร แต่พอเห็นจิ้งจอกสาวผงะ ทั้งแก้มนวลเนียนยังขึ้นสีแดงระเรื่อ มือใหญ่ที่กำลังลูบศีรษะของนางพลันชักกลับมา จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินไปตรวจงานแผนกอื่น และไม่พูดไม่จาใดๆ หัวใจของเจียงจวีเต้นระส่ำระส่ายไม่หยุด แม้ยกมือขึ้นลูบหน้าอกพร้อมสูดหายลึกๆ แล้ว หากแต่หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนจะกระเด็นออกมา อย่างไรก็ตาม อาการใจเต้นแรงนี้ ทำให้จิ้งจอกสาวอดรู้สึกกังวลไม่ได้ หมิงฮวาเข้าร้านมาในจังหวะนั้นพอดี นางมองหลางไป๋สลับกับมองเจียงจวี สักครู่ ดวงตาของอสรพิษสาวก็หรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นหลางไป๋ขึ้นไปที่ชั้

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (3)

    ตอนพิเศษ (3) วันต่อมา จิ้งจอกสาวหอบห่อผ้ามาที่ฟาร์มอีกครั้ง แต่หนนี้นางมาพร้อมกับพี่ชาย “พวกเจ้าสองพี่น้องจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกันหรือ” หลางไป๋สอบถาม การได้คนหน่วยกร้านดีเพิ่ม มีใครบ้างไม่ชอบ ทว่าจิ้งจอกหนุ่มโบกมือแล้วตอบ “ไม่ใช่ขอรับ ข้าแค่มาส่งน้องสาว อีกอย่าง ที่มาวันนี้ก็เพื่อขอร้องท่านให้ช่วยดูแลนางด้วย นางค่อนข้างซื่อน่ะขอรับ” หลางไป๋พยักหน้าเหมือนเข้าใจ หญิงสาวเผ่าจิ้งจอกยิ้มใสซื่อ โค้งศีรษะให้กับหลางไป๋ทีหนึ่ง “จากนี้ข้าต้องขอฝากตัวด้วยเจ้าค่ะ” หลางไป๋หันไปยิ้มให้กับหญิงสาวเผ่าจิ้งจอกพลางตอบว่า “ทางนี้ก็ต้องฝากตัวด้วยเช่นกัน” จากนั้นก็หันไปพูดกับทางพี่ชายด้วยสีหน้าเสียดาย “พูดก็พูดเถอะ เจ้าเองก็หน่วยกร้านดีไม่เบา น่าจะมาอยู่ที่ฟาร์มด้วยกัน” “ความจริงข้าก็อยากมาทำงานที่นี่นะขอรับ แต่เพราะท่านพ่อของพวกเรากำลังป่วย ข้าที่เป็นลูกชาย และยังเป็นว่าที่หัวหน้าเผ่าคนต่อไป ต้องคอยจัดการหลายๆ เรื่อง ตอนนี้ก็เลยออกจากเผ่าไม่ได้” “ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ” “ขอบคุณท่านผู

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (2)

    ตอนพิเศษ (2) สถานที่นี้เรียกว่าฟาร์ม มีทั้งสวนผัก สวนผลไม้ ทุ่งดอกไม้ โรงเรือนเพาะต้นกล้า ไหนจะโรงผลิตสารพัดที่เพิ่มขึ้นเหมือนกับดอกเห็ด หนำซ้ำ ยังมีหมู่บ้านของเหล่าสัตว์อสูร ถนนที่ปูด้วยอิฐ ตรงลานกว้างของเมืองก็มีน้ำพุขนาดใหญ่ พวกเขาอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…น่าอิจฉาและดูน่าสนุกกันจังเลย จิ้งจอกสาวคิด ก่อนจะถอนหายเฮือกออกมาหนึ่ง หญิงสาวชอบความตื่นตาตื่นใจของฟาร์ม ถึงได้แอบมาดูทุกวัน ในตอนที่ลำแสงสีทองสาดเข้ามาในป่ารกทึบ จากนั้นเหล่าสัตว์ก็มีวิวัฒนาการกลายร่างเป็นมนุษย์ ตอนนั้นนางตื่นเต้นมาก กระโดดโลดเต้นรอบป่า ยิ่งค้นพบว่ายังมีสัตว์เผ่าอื่นที่กลายร่างเป็นมนุษย์ นางก็ยิ่งอยากเป็นเพื่อนกับทุกคน เพราะอย่างนั้นตอนที่หมาป่าเพศผู้นามว่าหลางไป๋มาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าจิ้งจอก นางอยากให้ท่านพ่อตอบรับการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับท่านภูต แต่ว่า ท่านพ่อกลับปฏิเสธ แม้ผิดหวังอย่างมาก แต่คำสั่งของผู้นำเผ่าถือเป็นเด็ดขาด เช้าตรู่ของวันนี้ จิ้งจอกสาวก็ยังแอบมาที่ฟาร์ม นางหลบหลังต้นไม้ใหญ่ แ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   ตอนพิเศษ (1)

    ตอนพิเศษ (1) ต้นฤดูหนาวของปีนั้น ชุนกับจิ่นเซี่ยได้จัดพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย โดยหลางไป๋เป็นญาติฝ่ายหญิง ส่วนจิ่นเซี่ยนั้น เนื่องจากองครักษ์หนุ่มผู้นี้เป็นเด็กกำพร้า ญาติฝ่ายชายจึงเป็นกงเยียนซู แม้เป็นงานแต่งที่เรียบง่าย แต่เพราะได้ลู่ซินฟางเป็นแม่งาน อาหารสุราจึงขึ้นเต็มโต๊ะตลอดทั้งวันทั้งคืน แขกเหรื่อที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนกันเอง งานแต่งของชุนกับองครักษ์หนุ่ม จึงเหมือนกับวันรวมญาติมากกว่าเป็นงานมงคล ลู่ซินฟางอนุญาตให้ชุนหยุดได้เท่าที่ต้องการ หลังเสร็จสิ้นงานแต่ง ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม หลายวันหลังจากนั้น อุณหภูมิเริ่มลดต่ำ สายลมหนาวเย็นพัดมาเป็นระลอก ลู่ซินฟางยืนอยู่บนระเบียง มองพวกเด็กๆ วิ่งเล่นกันที่ลานกว้าง “เด็กๆ เนี่ย ไม่รู้จักความหนาวกันเลยหรือไงนะ” ลู่ซินฟางพึมพำด้วยความเอ็นดู “แอร๊…!” ตอนนั้นเอง เสียงเล็กๆ ของจินเอ๋อร์ดังมาจากในเปล ลู่ซินฟางผละสายตาออกจากพวกเฉิงเอ๋อร์ เดินกลับมาหาลูกน้อยที่นอนในเปล จินเอ๋อร์อา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 128 บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์

    บทที่ 128บทพิเศษ มิติที่สมบูรณ์ และ รักจนแก่เฒ่า (ครึ่งหลัง) จบบริบูรณ์ เมื่อกลับมาจากมิติ ซินหลินก็มาหาลู่ซินฟางที่คฤหาสน์ เจ้าแฝดพอเห็นพี่ชายมาหา ก็วิ่งเข้าไปเกาะแขน กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “พี่ชายซินหลิน เมื่อกี้พวกเราไปมิติมาด้วย” “พี่ชายซินหลิน พวกเราไปอ่านหนังสือกันเถอะ” ซินหลินส่ายหน้าพร้อมเคาะปลายจมูกน้อยๆ ของเด็กทั้งสองเบาๆ คนละที “พวกเจ้าเรี่ยวแรงเหลือเฟือจริงๆ เลยนะ เพิ่งกลับมาจากมิติไม่ใช่หรือ คิดจะเล่นกันอีกแล้ว?” “ฮะๆ” “คิๆ” เจ้าแฝดหัวเราะชอบใจ ซินหลินยิ้มให้กับน้องๆ ก่อนหันมาบอกลู่ซินฟางว่า “ข้าเพิ่งเอาผักไปให้เหนียงซิ่น นางบอกว่าอากาศน่าจะเริ่มหนาวแล้ว นางว่าจะทำหม้อไฟชุดใหญ่ เลยให้ข้ามาบอกน่ะ” “ขอบใจมาก รอเยียนซูกลับมาแล้วข้าจะพาเด็กๆ ไปที่คฤหาสน์นะ” ลู่ซินฟางตอบกลับ “อืม” “หม้อไฟ” “เย่ หม้อไฟ!” หม้อไฟฝีมือเหนียงซิ่นอร่อยมาก แถมนานๆ ครั้งจะได้สักที พวกเด็กๆ จึงชูแขนร้องด้วยความดีใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status