แชร์

บทที่ 51 อบรมตงตง

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-21 17:36:11

บทที่ 51

อบรมตงตง

            ตอนมาถึงห้องเรียน เฉิงเอ๋อร์กับสยงเหยานั่งประจำที่ของตัวเองพร้อมแล้ว นั่นก็คือโต๊ะนั่งที่อยู่แถวหน้า

            โต๊ะนั่งแถวที่สองเป็นของเป่าเอ๋อร์กับเม่ยเม่ย ส่วนตงตงเลือกนั่งโต๊ะแถวที่สาม ข้างหลังน้องสาว 

            สักครู่หนึ่ง หลางไป๋ก็เดินเข้ามาในห้อง เด็กทุกคนลุกขึ้น ประสานมือก้มศีรษะอย่างให้ความเคารพ ยกเว้นก็แต่ตงตงที่ยังต่อต้าน เด็กชายนั่งเฉยๆ ไม่ยอมลุกทำความเคารพอาจารย์

            ถึงอย่างนั้น หลางไป๋หาได้สนใจเจ้าตัวแสบตงตงไม่ ชายหนุ่มเริ่มสอนหนังสือด้วยการให้พวกเขาจำตัวอักษร และคัดลายมือ

            แม้ว่าตงตงกับเม่ยเม่ยจะเรียนส่วนนี้จากสถานศึกษาของอาจารย์เหิงมาบ้างแล้ว เพื่อเป็นการทบทวนบทเรียน หลางไป๋จึงบอกให้ทั้งสองอ่านตัวอักษรให้ฟัง

            เม่ยเม่ยอ่านถูกแค่บางส่วน นางจึงยินดีที่จะเรียนรู้ไปพร้อมกับเพื่อนๆ ในห้อง

            ส่วนตงตงนั้น ไม่ยอมปฏิบัติคำสั่งของหลางไป๋ พอสั่งให้อ่านตัวอักษรก็เอาแต่นั่งเฉย ระหว่างที่หลางไป๋สอนก็ก่อกวนน้องสาวด้วยการดึงผมบ้างละ คอยสะกิดหลังบ้างละ ทำเอาคนอื่นเดือดร้อน

            หลางไป๋เหลืออดแล้ว สายตาคมกริบของชายหนุ่มมองชุนที่นั่งอยู่หลังห้องเรียน ก่อนจะเรียกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

            “ชุน”

            เห็นสายตาแวบเดียวก็เข้าใจความหมายทันที ชุนลุกพรวดขึ้น ขานรับว่า “รับทราบ!” จากนั้นก็ก้าวออกจากห้องเรียนไป

            เด็กทุกคนที่อยู่ในห้องต่างมองหลางไป๋ด้วยแววตาสนใจอย่างยิ่ง

            “เกิดอะไรขึ้นหรือ” เม่ยเม่ยถามเป่าเอ๋อร์

            “คิกๆ” เป่าเอ๋อร์ไม่ตอบ หากหัวเราะทะเล้น

            สักครู่ผ่านไป ชุนก็กลับมาพร้อมกับถาดใส่ขนม ในถาดมีจานขนมทั้งหมดสี่จาน  

            ขนมที่อยู่จานเนื้อเนียนสีขาวเหมือนนม ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มดึ๋งดั๋ง บนหน้าขนมมีผลไม้หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ด้วย มิหนำซ้ำกลิ่นหอมหวานยังชวนให้น้ำลายสอ

            แน่นอนว่า ตงตงกับเม่ยเม่ยไม่เคยเห็นขนมแบบนี้ หากก็เดาว่าต้องอร่อยมากแน่ๆ!

            ตงตงถึงขั้นกลืนน้ำลายดังเอื้อก หลุดปากถาม

            “นั่นอะไร”

            “นี่คือขนมจากแดนสวรรค์” หลางไป๋ตอบเสียงเรียบ

            ที่บอกว่าเป็นขนมจากแดนสวรรค์ หลางไป๋ไม่ได้พูดเกินจริง ขนมนี้เขาเป็นทำให้ท่านหลินเมื่อเช้านี้ และไม่ใช่ของที่คนในยุคนี้จะรู้จัก ชื่อของขนมคือพุดดิ้งนมสดหน้าผลไม้

            “ขนมแต่ละจานจะแจกให้เด็กๆ ที่ตั้งใจเรียน ทั้งหมดก็สี่คน สี่จานพอดี”

            ตงตงชี้นิ้วนับคนในห้อง เด็กที่มาเรียน รวมเขากับน้องสาวมีทั้งหมดห้าคน แต่เมื่อกี้หลางไป๋บอกว่ามีแค่สี่จาน เช่นนั้นก็หายไปหนึ่งคนน่ะสิ!

            “ไม่ครบนี่” ตงตงโพลง

            “ข้าก็บอกอยู่ แจกเฉพาะเด็กที่ตั้งใจเรียน” หลางไป๋ตอบหน้านิ่ง

            “แล้วขาดของใคร…หา! อย่าบอกนะว่าไม่แจกให้ข้า”

            ในที่สุดตงตงก็รู้ตัว

            “รู้ดีเหมือนกันนี่น่า” ประโยคนี้ ชุนเป็นฝ่ายตอบ

            กระนั้น ด้วยความที่ตงตงถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ ทั้งแม่ของเขายังให้ความสำคัญในตัวลูกชายมากกว่าลูกสาว เด็กชายจึงยื่นมือไปดึงผมน้องสาว

            “โอ้ย…!” เม่ยเม่ยร้องด้วยความเจ็บ

            ตงตงออกคำสั่งกับน้องสาวว่า “เม่ยเม่ย เจ้าต้องเอาขนมมาให้ข้า เพราะข้าเป็นพี่ชายเจ้า”

            “แต่ แต่ว่า…” นางเองก็อยากกินขนมเหมือนกันนะ

            “นี่เจ้ากล้ารังแกน้องสาวหรือ” สยงเหยาลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินมายืนกอดอกข้างตัวตงตง

            สยงเหยาอายุ 8 ขวบเท่ากับตงตง แถมตัวของสยงเหยาก็ไม่ได้ตัวสูงใหญ่เหมือนสยงอู๋ผู้เป็นพี่ชาย ถึงอย่างนั้น ตงตงก็รู้ดีว่าถ้ารังแกสยงเหยา เขาจะต้องถูกสยงอู๋เอาคืนแน่ๆ ดังนั้นตงตงเลยยอมปล่อยมือจากผมของเม่ยเม่ย

            “เด็กชายตงตงไม่ตั้งใจเรียน ก่อหวนเพื่อนในห้องและยังรังแกคน อดของว่าง” หลางไป๋ประกาศชัด

            “แต่ ข้า…” ตงตงกัดปาก หน้าแดงหูแดงด้วยความโมโหและอับอาย ท้ายที่สุด ก็ร้องไห้ออกมา “ฮื่อๆ ข้าเองก็อยากกินขนมนะ แง…ทำไมพวกเจ้าต้องรังแกข้าด้วย ไม่ยุติธรรมเลย” 

            “ก่อนจะถามหาความยุติธรรมจากคนอื่น เจ้าทำตัวดีแล้วหรือ?” หลางไป๋ถามนิ่งๆ

            “แง๊! แล้วข้า ฮึกๆ ข้าต้องทำยังไงถึงจะได้กินเล่า”

            แม้จะถูกเลี้ยงดูมาอย่างผิดๆ แต่เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยันค่ำ และไม่มีใครไม่ยอมจำนนให้กับของอร่อย

            หลางไป๋ครุ่นคิด เด็กคนนี้แม้จะเกเร หากก็แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา บางทีอาจยังพอสั่งสอนได้อยู่ 

            หลังจากชั่งใจแล้ว ชายหนุ่มก็บอกว่า “หลังเลิกเรียน เจ้าต้องถูกลงโทษ ถ้าทำตัวดีๆ ก็จะได้กินขนมเหมือนเพื่อนคนอื่น”

            “อืม ไม่สิ ขอรับท่านอาจารย์” 

            นับจากวินาทีนั้น ตงตงก็แพ้ให้กับอาจารย์หลางไป๋อย่างราบคาบ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 94 ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู

    บทที่ 94ตอบรับคำเชิญของกงเยียนซู พอถึงเวลาที่ต้องกลับ เป่าเอ๋อร์ร้องไห้งอแง เฉิงเอ๋อร์น้ำตาคลอเบ้า เด็กทั้งสองกอดเอวลู่ซินฟาง บอกว่าอยากอยู่ที่แดนสวรรค์ต่อ ลู่ซินฟางต้องสัญญาว่าจะพามาเที่ยวอีก พวกเขาถึงยอมฟังแต่โดยดี ได้เที่ยวเล่นกันทั้งวัน พอกลับมาถึงคฤหาสน์ อาบน้ำและกินมื้อค่ำจนอิ่ม เด็กทั้งสองก็หลับปุ๋ยในทันที วันถัดมา หลางไป๋เดินทางมาที่โรงเตี๊ยมตระกูลกง แจ้งเรื่องที่ลู่ซินฟางตอบรับคำเชิญกินมื้อเย็น ทั้งยังบอกจำนวนคนที่จะมา หลักๆ คือลู่ซินฟางกับเจ้าแฝด หลางไป๋และซินหลิน ส่วนชุนกับคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วย พวกเขาให้เหตุผลว่าวางตัวไม่ถูกหากต้องร่วมโต๊ะกับคนสูงศักดิ์ ยามพลบค่ำ ทุกคนเตรียมตัวเสร็จแล้วก็นั่งรถม้ามายังคฤหาสน์ตระกูลกงตามเวลานัดหมาย กงเยียนซูออกมายืนรอหน้าคฤหาสน์ด้วยตัวเอง หลางไป๋ประสานมือโค้งศีรษะให้กับกงเยียนซู จากนั้นหลุบตามองพวกเด็กๆ เจ้าแฝดทั้งสอง รวมถึงซินหลินที่เห็นอย่างนั้น ก็ประสานมือบนหน้าอกแล้วโค้งศีรษะลง ทำแบบเดียวกันกับหลางไป๋ กงเยียนซูมองเด็กทั้งสามด้วยสา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 93 เที่ยวชมฟาร์ม

    บทที่ 93เที่ยวชมฟาร์ม กินขนมอิ่มกันแล้ว หลินก็ถามเด็กน้อยทั้งสองว่า “พวกเจ้าอยากไปชมฟาร์มกันไหม?” “ไปขอรับ/เจ้าค่ะ” เฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์ตอบแบบไม่ต้องคิด เด็กน้อยคิดเหมือนว่า ฟาร์มในแดนสวรรค์กว้างขวางขนาดนี้ ต้องมีพืชผักที่ไม่เคยเห็นอีกเยอะแยะแน่ๆ ยิ่งคิดแล้วก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น พอช่วยกันเก็บโต๊ะเสร็จเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็เดินมาที่ฟาร์มฟาร์มในมิติมีขนาดกว้างใหญ่กว่าฟาร์มตระกูลลู่ที่อยู่ในหมู่บ้านกว่างซูหลายเท่า เด็กทั้งสองยืนมองสวนผักผลไม้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ท่านแม่ ผักผลไม้พวกนี้ใช่ที่ท่านเอาออกไปวางขายในร้านหรือไม่” เฉิงเอ๋อร์เป็นเด็กฉลาด เห็นผักผลไม้ปุบก็เข้าใจทันที ว่าเป็นสินค้าที่มารดาเอาออกไปวางขายในร้าน “เจ้าเข้าใจถูกแล้ว ผักผลไม้ในแดนสวรรค์ แม่แบ่งออกไปขายข้างนอก เพราะพืชในที่แห่งนี้เติบโตเร็วกว่าข้างนอกหลายเท่า” “เป็นแบบนี้เอง” ตอนนั้นเอง สัตว์อสูรในร่างจำแลงมนุษย์ที่กำลังทำสวนหันมาเห็นลู่ซินฟางกับภูตประจำมิติพอดี พวกเขาต่างโบกมือทักทาย “ท่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 92 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 92พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งหลัง) ใต้ร่มไม้ใหญ่ใกล้กับสวนดอกไม้ข้างบ้านทรงตะวันตกจะมีโต๊ะกลมสีขาวหนึ่งชุด ไม่ไกลจากสวนดอกไม้ มองไปก็จะเห็นฟาร์มอันกว้างขวาง หลังจากตัดสินใจว่าจะนั่งเล่นกันที่ใต้ร่มไม้ เด็กน้อยทั้งสองก็ปีนขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้สีขาว เตะขาเล่นในขณะที่รอคอยขนมอร่อยๆ สักครู่หนึ่ง ชุนก็ยกเค้กสตอเบอรี่กับนมอุ่นๆ มาวางบนโต๊ะ ส่วนถาดที่อยู่ในมือของลู่ซินฟางคือชากุหลาบกลิ่นหอมกลมกล่อมกับคุกกี้เนยสด “ท่านแม่ ข้าไม่เคยเห็นของพวกนี้มาก่อนเลย” เฉิงเอ๋อร์บอกด้วยสีหน้าตื่นเต้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายขณะกวาดตามองขนมบนโต๊ะ “น่ากินทุกอย่างเลย ขะ…ข้ากินได้หรือไม่” เป่าเอ๋อร์พูดจบก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ “กินกันตามสบายเลยนะจ๊ะ” ลู่ซินฟางบอกพลางลูบศีรษะเล็กๆ ของลูกน้อยทั้งสอง เจ้าแฝดตัวน้อย รวมถึงภูตน้อยหลิน หยิบส้อมขึ้นมาตักเค้กสตอเบอรี่ส่งเข้าปาก ทันทีที่ได้กินของหวานแสนอร่อย รอยยิ้มสดใสปรากฏบนใบหน้าของทั้งสามคน แก้มขาวแดงระเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ทำเอาลู่ซินฟางกับชุนถึงกับยิ้มตาม “อร

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 91 พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก)

    บทที่ 91พรสวรรค์ของเจ้าแฝด (ครึ่งแรก) พอก้าวข้ามประตูมิติ โลกอันงดงามก็ปรากฏต่อหน้าทุกคน ทุ่งข้าวสีทอง สวนผักผลไม้ ป่าไพรอันสีเขียวขจี และไหนจะธารน้ำอันสดชื่น ดวงตาใสแป๋วของเด็กน้อยทั้งสองเบิกโตด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองไปรอบๆ “แดนสวรรค์สวยจังเลย!” “อื้อ สวยมากๆ” “ยังมีสถานที่ที่สวยกว่านี้อีกนะ” ลู่ซินฟางบอกลูกๆ “อยากเห็นจังเลย ท่านแม่” เฉิงเอ๋อร์ตื่นเต้นมาก รีบร้องบอกท่านแม่ “ข้าก็ด้วย!” เป่าเอ๋อร์พยักหน้ารัวๆ ระหว่างที่เด็กน้อยทั้งสองกำลังตื่นตาตื่นใจกับสภาพแวดล้อมอันงดงามที่อยู่ตรงหน้า เสียงเล็กน่ารักพลันดังขึ้น “งั้นข้าจะเป็นคนนำเที่ยวให้เอง ฮิๆๆ” สิ้นเสียงนั้น ภูตน้อยหลินก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน ปีกน้อยขยับไปมาพร้อมกับละอองที่มีเปล่งประกายสีทองวิบวับ เจ้าแฝดเบิกตาโตพร้อมกับร้อง “ว้าว” “พวกเขาคือเฉิงเอ๋อร์กับเป่าเอ๋อร์สินะ”หลังบินวนรอบๆ เด็กน้อยทั้งสอง หลินก็กลับมานั่งบนไหล่ของลู่ซินฟาง หญิงสาวยิ้มแล้วพยักหน้าให้ก

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 90 พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ

    บทที่ 90พาเจ้าแฝดไปต่างมิติ “ท่านจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่ขอรับ” ทันทีที่ลู่ซินฟางเปิดประตูเดินออกจากห้องทำงาน เสียงทุ้มของหลางไป๋ก็ดังขึ้น หญิงสาวหันมอง เห็นหมาป่าหนุ่มยืนกอดอกอยู่ข้างประตู เฮ้อ… ลู่ซินฟางถอนหายใจด้วยรู้สึกคิดไม่ตก ก่อนจะตอบกลับไป “ข้าในชาติก่อนไม่เคยสับสนกับเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าควรจะตอบรับคำเชิญของเขาหรือไม่” คำพูดของหญิงสาวทำเอาหมาป่าหนุ่มกระดกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน “ใครจะคิดว่านายหญิงที่คอยชี้นำเหล่าสัตว์อสูรจะเผชิญกับความสับสนเสียเอง” “ก็ข้าไม่เคยคิดนี่น่า คนที่มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแบบกงเยียนซูจะมาสนใจหญิงหม้ายลูกติด” “นายหญิงขอรับ อย่างที่ท่านกงบอกนั่นละ การจะชอบใครสักคนทำไมต้องมีเหตุผล สำคัญกว่าฐานะ นายหญิงคิดเช่นไรกับเขาต่างหาก” ลู่ซินฟางคิดตาม ก็รู้สึกว่าหลางไป๋พูดถูก ปัญหาไม่ใช่เรื่องฐานะ สำคัญที่สุดคือลู่ซินฟางคิดกับกงเยียนซูอย่างไร? อย่างไรก็ตาม ลู่ซินฟางหรี่ดวงตาด้วยความสงสัยขณะจ้องมองหมาป่าหนุ่ม “เมื่อก่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 89 ถูกสารภาพรักครั้งแรก

    บทที่ 89ถูกสารภาพรักครั้งแรก หมายความว่ายังไง เขาไม่ได้โกหก เขาที่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า ‘ชอบ’ นาง บอกว่าไม่ได้โกหก ลู่ซินฟางนั่งตัวแข็งทื่อ อึ้งจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ชั่วขณะ ต่อมา หัวใจของนางก็เต้นอย่างรุนแรง ใบหน้าร้อนผ่าวและแดงระเรื่อ ในโลกก่อนและโลกนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่ซินฟางถูกชายหนุ่มสารภาพว่าชอบ นางจึงสับสนและรับมือกับอารมณ์ในตอนนี้ไม่ถูก ผ่านไปครู่หนึ่ง ดวงตาคู่สวยกะพริบมองชายหนุ่มอยู่หลายครั้ง กงเยียนซูเลิกคิ้วมองตอบลู่ซินฟาง ดวงตาของเขาแฝงด้วยความสงสัย ว่ากันตามจริง ลู่ซินฟางไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้ม ทำไมท่าทางเขินอายนั้นถึงทำให้รู้สึกราวกับว่านางเพิ่งถูกสารภาพรักครั้งแรก “ท่านไม่ได้เข้าใจอะไรผิดใช่หรือไม่” หลังจากเงียบอยู่สักพัก ในที่สุดลู่ซินฟางก็เอ่ยออกมา “ข้าไม่ได้เข้าใจผิด คิดมาดีแล้วถึงได้มาหาเจ้าวันนี้” “ถึงท่านจะพูดแบบนั้น แต่ข้ากลับนึกไม่อออก เหตุใดท่านถึงชอบข้า ทั้งฐานะของข้ากับท่านก็แตกต่างกันมาก” “จ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status