แชร์

บทที่ 63 คนบ้านเหอมาตามหาลู่ซินฟาง

ผู้เขียน: ฮาจิฮาจิ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-22 11:30:14

บทที่ 63

คนบ้านเหอมาตามหาลู่ซินฟาง

            ย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย

            หมู่บ้านกว่างซู นอกเมืองเล่ออัน

            รถเทียมวัวของลุงจ้าวค่อยๆ เคลื่อนตัวไปบนถนนสายเล็กของหมู่บ้าน

            พอรถเทียมวัวหยุดที่หน้าบ้านของลุงจ้าว ซึ่งอยู่ช่วงกลางของหมู่บ้าน ชาวบ้านที่โดยสารมาทั้งหมดห้าคนก็พากันลงจากเกวียน ทุกคนเป็นคนของหมู่บ้านกว่างซู แต่มีสองคนที่แต่งตัวด้วยผ้าเนื้อดี ราคาแพง

            ชายหนุ่มคนหนึ่งแต่งตัวภูมิฐานราวกับขุนนาง พยุงหญิงกลางคนร่างท้วมลงจากเกวียนช้าๆ จากนั้นพากันเดินไปยังท้ายหมู่บ้าน

            ระหว่างทางหญิงกลางคนร่างท้วมบ่นไม่หยุด

            “อาถิง เจ้าแน่ใจนะว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านกว่างซูอะไรนั่น แม่คิดว่าเป็นบ้านป่าบ้านดอยที่ไหนเสียอีก ถึงแม่จะรู้เต็มอกว่าลู่ซินฟางยากจนมาก แต่ไม่นึกว่าจะอยู่ในหมู่บ้านที่กันดารขนาดนี้”

            “ท่านแม่ อดทนอีกหน่อยขอรับ”

            เหอถิงไม่เคยมาบ้านเกิดของลู่ซินฟาง หากก็ได้ยินจากปากนางบ่อยๆ ว่าบ้านของมารดานางยากจนมาก ถึงขั้นที่บ้านเซียวที่เป็นตระกูลฝั่งบิดานางไม่ยอมรับ

            แต่กระนั้น นางกลับพูดอย่างภูมิใจว่า บ้านของท่านแม่ที่อยู่ท้ายหมู่บ้านนั้น อยู่ห่างจากภูเขาไม่ไกลนัก ละแวกนั้นมีลำธารและทิวทัศน์สวยงาม…

            พอนึกย้อนคำว่าทิวทัศน์สวยงามตามที่นางพูด เหอถิงก็ขมวดคิ้ว หมู่บ้านนี้ไม่มีอะไรเจริญหูเจริญตาสักนิด มองไปทางไหนเห็นแต่ท้องไร่ท้องนา วัวกับควายและชาวบ้านเท่านั้นเอง!

            หญิงกลางคนร่างท้วมทอดถอนหายใจดังเฮือก “ดีแล้วที่เจ้าตัดสินใจหย่ากับนาง ได้ ไม่อย่างนั้นทั้งนางทั้งเด็กๆ พวกนั้นคงฉุดรั้งเจ้าจนหมดอนาคต ตอนเจ้าพานางกลับมา ข้าก็นึกว่านางเป็นคุณหนูตระกูลผู้รากมากดีที่ไหนเสียอีก ที่แท้นางก็มีดีแค่หน้าตา!”

            “ท่านแม่…อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้อีกเลย ถ้าจะรื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ข้าขอพาเฉิงเอ๋อร์กลับไปให้ได้ก่อน” ชายหนุ่มเอ่ยเตือนพร้อมตัดบท

            ถูกแล้ว ผู้ชายคนนี้คือเหอถิงอดีตสามีของลู่ซินฟาง เป้าหมายที่มาก็อย่างที่ได้ยิน พวกเขาตั้งใจจะพาตัวเฉิงเอ๋อร์กลับไปตระกูลเหอ

            “ก็ได้ ข้าไม่พูดแล้วก็ได้”

            พูดกันมาถึงตรงนี้ ทั้งสองก็เดินผ่านสวนผักผลไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน ด้วยความสงสัย เหอถิงรั้งชาวบ้านคนหนึ่งที่แบกฟืนบนหลังเดินผ่านทางมา ก่อนจะสอบถาม

            “พี่ชาย นั่นสวนของใครหรือ”

            หนุ่มชาวบ้านที่ถูกรั้งคนนี้ชื่อว่าอาหวง เป็นสหายรุ่นเดียวกับเถี่ยฮ่าวซือ ตอนสร้างบ้านสวนให้กับลู่ซินฟาง เขาก็เป็นหนึ่งในกลุ่มลูกจ้าง 

            หลังจากเลื่อนสายตามองสวนของบ้านลู่แวบหนึ่ง อาหวงค่อยหันกลับมาตอบคนแปลกหน้าด้วยแสร้งทำทีเป็นหงุดหงิด

            “ไม่รู้ ไม่รู้!”

            ว่าจบก็สะบัดแขนที่ถูกรั้งแล้วเดินออกมาทันที

            เหอถิงมุ่นหัวคิ้ว “ไร้มารยาท”

            “แม่ก็บอกเจ้ามาตลอดทาง ให้ใช้ตำแหน่งของเจ้าตามหาคน หากพวกเขารู้ว่าเจ้าเป็นถึงผู้ช่วยผู้ตรวจการขี้คร้านชาวบ้านพวกนี้จะรีบพานางมาส่งถึงมือ” นางเหอพูดฉอดๆ อย่างใหญ่โต

            “ไปกันต่อเถอะท่านแม่”

            อันที่จริง เหอถิงไม่ใช่คนใจเย็นนัก แต่เขาชินกับนิสัยของแม่ตัวเองแล้ว

            ทั้งสองเดินไปข้างหน้า เมื่อมาถึงบ้านหลังเล็กที่อยู่ท้ายสุดของหมู่บ้าน กลับพบว่าบ้านว่างเปล่าเหมือนไม่มีคนอยู่ แต่ไม่ได้ร้าง เพราะว่าสวนข้างบ้านกับหลังบ้านไม่มีหญ้าขึ้นรกแม้แต่น้อย เหมือนยังมีคนมาทำความสะอาดอยู่เรื่อยๆ  

            “โอ๊ย ไหนคนบ้านเซียวบอกว่านางไม่มีที่อื่นให้ไปแล้ว นอกจากบ้านเกิดที่หมู่บ้านกว่างซูยังไงเล่า!” นางเหอเดินไปก็บ่นไป

            ก่อนพวกเขาจะเดินทางมาเมืองเล่ออัน นางเหอไปบ้านเซียวเพื่อทำทีเป็นถามข่าวคราวของลู่ซินฟาง ตอนแรกทางนั้นบอกปัดว่าไม่รู้ ต่อมา ฮูหยินใหญ่ของเจ้าบ้านเซียวไม่รู้นึกอย่างไรถึงได้เล่าให้ฟัง

            ลู่ซินฟางมาขอพึ่งพิงเจ้าบ้านเซียวจริง แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับไป แค่นางคนเดียวอาจพอเลี้ยงไหว เลี้ยงไปสักพักค่อยให้นางแต่งงานออกไปก็ยังได้ แต่กลับมีเด็กเล็กๆ ตามมาด้วยถึงสองคน กว่าจะเลี้ยงเด็กให้โตนั้นไม่ง่าย ต้องใช้เงินอีกตั้งเท่าไร เจ้าบ้านเซียวจึงให้เงินนางจำนวนหนึ่งเป็นค่าเดินทาง แล้วบอกให้นางกลับบ้านเดิมของมารดาไป

            “อย่าบอกนะว่าบ้านเซียวหลอกข้า” นางเหอแผดเสียงอย่างขุ่นเคือง

            “พวกเขาไม่ได้โกหกท่านแม่หรอกขอรับ”

            พอลูกชายคนโตหัวแก้วหัวแหวนพูดแบบนั้น นางเหอก็หันมองลูกชายด้วยสายตาอ่อนใจ

            “อาถิงของแม่ เพราะเจ้าเป็นคนซื่อเช่นนี้ยังไงเล่า ถึงได้ถูกผู้หญิงแพศยาหลอกเอา แล้ว..ทำไมเจ้าถึงมั่นใจว่าบ้านเซียวไม่ได้โกหก”

            “แม้ไม่มีข้าวของเหลือไว้ในบ้านสักชิ้น แต่ดูแล้วไม่ได้ถูกทิ้งร้าง ท่านแม่สังเกตหรือไม่ หญ้าในสวนของบ้านนางถูกถางเสียเรียบ บ้านก็ไม่มีหยากไย่ขึ้น เหมือนมีใครมาทำความสะอาดเป็นประจำ หากไม่ใช่นางแล้วจะเป็นใครไปได้หรือ” เหอถิงให้เหตุผลพร้อมกับคาดเดา

            ได้ยินแบบนี้ นางเหอยิ่งรู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายคนโตกว่าเดิม

            “อาถิง เจ้าเป็นคนฉลาดมาตั้งแต่เด็ก คิดไม่ผิดที่ทุ่มเทส่งเจ้าเรียนจนสอบจอหงวนผ่าน ดูสิ ตอนนี้ยังเป็นใหญ่โต ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจการเมืองชิ่งของเรา ซ้ำยังตบแต่งได้ภรรยาดี แต่…” พูดอยู่ดีๆ นางเหอก็ทำหน้าเศร้า “เวรกรรมอะไรหนอ ถึงทำให้สะใภ้ใหญ่ของข้ามีลูกไม่ได้”

            “ท่านแม่ หรือควรให้น้องรองขึ้นเป็นเจ้าบ้านเหอแทนข้า”

            “ไม่ได้!” นางเหอแผดเสียงดังลั่น “อาหมิ่นไม่เด็ดขาด เชื่อฟังแต่ภรรยา ถ้ายกตำแหน่งเจ้าบ้านให้ บ้านเหอของเราก็ถูกสะใภ้รองควบคุมแล้ว เรื่องนี้ห้ามเจ้าพูดอีก”

            “เข้าใจแล้วท่านแม่ ข้าจะไม่พูดเรื่องนี้”

            “แค่พาตัวเฉิงเอ๋อร์กลับมา เจ้าก็มีทายาทสืบสกุลแล้ว เรื่องอื่นค่อยพูดทีหลัง”

            “ขอรับ”

            “ว่าแต่ เจ้าคิดว่าผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหน” นางเหอเปลี่ยนเรื่อง อยากหาลู่ซินฟางให้เจอเร็วๆ จะได้รีบกลับเมืองชิ่ง เพราะยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ

            สามีของนางป่วยออดๆ แอดๆ มานานแล้ว หมอก็บอกว่าอาจอยู่ได้ไม่นาน อันที่จริง คนที่สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านต่อควรเป็นเหอถิง ลูกชายคนโต แต่สะใภ้ใหญ่ที่เป็นภรรยาของเหอถิง แต่งงานกันมาก็หลายเดือนแล้วกลับไม่มีทายาทเสียที ขัดต่อธรรมเนียมของบ้านเหอ

            ถ้าปัญหาอยู่ที่เหอถิงก็ว่าไปอย่าง แต่ลู่ซินฟางยังตั้งท้องได้เลย ดังนั้นปัญหาคงเป็นที่ตัวสะใภ้ใหญ่

            ส่วนลูกชายคนรองก็ดันหัวอ่อนเชื่อฟังแต่ภรรยา ถ้าให้เหอหมิ่นเป็นเจ้าบ้าน อีกไม่นานตระกูลเหอคงได้ล่มจม เพราะภรรยาของเหอหมิ่นใช้เงินมือเติบ!

            หลังจากเงียบไปสักครู่ เหอถิงก็พูดขึ้น “ถ้านางไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน ข้าคิดว่าคงต้องอยู่ในเมือง”

            “เช่นนั้นก็ไปหานางในเมือง!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 108 พลอยประดับ

    บทที่ 108พลอยประดับ หลายวันมานี้ ภูตหลินกำลังสนุกกับการออกแบบเครื่องประดับ ปกติก็ชอบการวาดภาพระบายสีเล่นอยู่แล้ว พอได้ทำสิ่งที่ชอบและยังเป็นประโยชน์ จึงเพลิดเพลินจนเผลอวาดออกมาตั้งเยอะแยะ ลู่ซินฟางเป็นฝ่ายคัดแยก ว่าเครื่องประดับชิ้นไหนวางขายได้ ชิ้นไหนวางขายไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว หลินออกแบบได้ดีทุกชิ้น “สวยๆ ทั้งนั้นเลย มีทั้งแบบเรียบง่าย และแบบอลังการงานสร้าง!” “ในมิติตอนนี้เริ่มก่อสร้างโรงเจียระไนพลอยแล้วขอรับ ส่วนนี่เป็นพลอยตัวอย่างที่ท่านหลินใช้เวทเจียระไนขึ้นมาเอง” หลางไป๋พูดพร้อมวางกล่องกำมะยี ด้านในมีพลอยเจียระไนหลายสี ลู่ซินฟางร้องอย่างประหลาดใจ “เร็วถึงเพียงนี้!” ไม่ใช่แค่นั้น หลังจากเปิดกล่องดู สีหน้าของนางยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก พลอยทุกชิ้นเปล่งประกายสดใส ทั้งยังเจียระไนออกมาได้ดีไม่มีที่ติ หลางไป๋ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ “ข้าเตือนท่านหลิน งานเจียระไนจะเป็นหน้าที่ของช่างฝีมือ แต่ดูเหมือนท่านหลินจะตื่นเต้น เลยทำพลอยพวกนี้ออกมาเยอะขอรับ” “ถึงจะสวยมาก แต่น่าเสียดาย พวกเราวางขา

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 107 เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า

    บทที่ 107เพราะข้าเป็นห่วงเจ้า ยามบ่ายของวันนั้นเอง กงเยียนซูกับโจวหวังเยว่แวะมาดูสินค้าที่ร้านซินหลิน ทันทีที่มาถึง โจวหวังเยว่แยกกับกงเยียนซูไปเลือกดูสินค้าด้วยท่าทีตื่นตาตื่นใจ เวลานี้กงเยียนซูกับลูซินฟางจึงมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพัง “พี่ห้าสนใจสินค้าของร้านซินหลิน ช่วงที่เขาอยู่เมืองเล่ออันต้องรบกวนเจ้าแล้ว” กงเยียนซูเอ่ยทักทายด้วยสีหน้าเก้อเขิน หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ให้กับชายหนุ่ม พลางตอบว่า “มีคนกระเป๋าหนักมาอุดหนุน ข้าย่อมดีใจอยู่แล้ว กลับกัน ร้านของเราต้องขอบคุณพวกท่านที่มาอุดหนุนบ่อยๆ เจ้าค่ะ” “ไม่ถึงขนาดหรอก สินค้าร้านซินหลินคุณภาพดีทุกอย่าง บริการก็ดีมาก ลูกค้าที่ซื้อไปแล้วก็อยากกลับมาซื้อใหม่ อ้อ ชาสมุนไพรที่ซื้อไปคราวก่อนใกล้จะหมดแล้ว เจ้าพอจะแนะนำใบชาอย่างอื่นให้ข้าได้หรือไม่” “ได้แน่นอนเจ้าค่ะ” พูดจบ ลู่ซินฟางเดินนำชายหนุ่มไปทางจุดที่วางขายใบชา หญิงสาวแนะนำใบชาแต่ละชนิดให้กับกงเยียนซู ชาดอกไม้ ชาสมุนไพร และชาหายากใหม่ๆ ระหว่างแนะนำสินค้าให้กับกงเยียนซู จู่ๆ ในหัวของลู่

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 106 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 106เรื่องน่ายินดี (ครึ่งหลัง) สามวันถัดมา ผู้นำเผ่ากระต่ายเดินทางมาพบกับภูตจิ๋ว ขอเจรจาและทำข้อตกลง เงื่อนไขของพวกเขาคือ ขอสร้างหมู่บ้านกระต่ายในอาณาเขตของภูต แลกกับอาหารและความปลอดภัย อย่างไรก็ดี ตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ หากเผ่ากระต่ายจะมาช่วยงานในฟาร์ม ทางนี้ก็จะจ่ายค่าตอบแทน รวมไปถึงให้การศึกษา อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน อาหาร ที่อยู่อาศัยและความปลอดภัยอันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่พวกเขาจะได้รับอยู่แล้ว นอกจากนั้น จากการสำรวจป่ารกร้างทางเหนือ หลางไป๋ยังได้เผ่ากวางป่ามาเป็นพันธมิตร หนำซ้ำ ทางทิศตะวันออกของฟาร์มยังพบเหมืองพลอย นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ทั้งนั้น เผ่าจิ้งจอกและเผ่าหมูป่ายังไม่ให้คำตอบที่แน่ชัด พวกเขาเลือกอาศัยอยู่ที่เดิม แต่ให้สัญญาว่าจะไม่ลุกล้ำเข้ามาในฟาร์ม ทั้งยังรับปากว่าจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ ให้กับสัตว์จำแลงและฟาร์มอย่างเด็ดขาด ในด้านของลู่ซินฟาง หลังจากเคลียร์งานต่างๆ เรียบร้อย นางก็ข้ามมาที่มิติเพื่อพบกับเผ่ากระต่ายและเผ่ากวางป่า

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 105 เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก)

    บทที่ 105เรื่องน่ายินดี (ครึ่งแรก) สรุปให้เข้าใจง่ายๆ เมื่อมิติขยายตัวออกไป เวทมนตร์ของภูตที่ดูแลมิติก็เพิ่มขึ้นด้วย พลังเวทนั้นจะสร้างทรัพยากรมากมายให้กับมิติ และเพิ่มวิวัฒนาการเหล่าสัตว์อสูรให้มีสติปัญญาจนถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตา ก่อนที่ลู่ซินฟางจะครอบครองมิติ พื้นที่แถบนี้ยังเป็นแค่ดินแดนที่แทบไม่มีอะไรเลย แต่หลังจากที่ลู่ซินฟางขยายฟาร์มทีละเล็กทีละน้อย สัตว์ในมิติก็ค่อยๆ กลายร่างเป็นมนุษย์ มีสติปัญญาและสื่อสารกันรู้เรื่อง ท้ายที่สุดก็มาอาศัยร่วมกันเหมือนอย่างทุกวันนี้ หลังจากหนุ่มสาวเผ่ากระต่ายได้ฟังคำบอกเล่าก็เข้าใจทันที วิวัฒนาการของพวกตนเกิดจากภูตจิ๋วตรงหน้านี้เอง “แล้วพวกเจ้ามีจำนวนเท่าไรหรือ” หลินถาม “ถ้าเฉพาะเผ่ากระต่าย รวมเด็กๆ ในเผ่าด้วยก็ประมาณ 14-15 ตน” “อืม” “แสดงว่ายังมีเผ่าอื่นๆ อีก ป่าแถบนั้นมีเผ่าอะไรบ้างหรือ” “ละแวกที่เผ่ากระต่ายอาศัย ก็มีเผ่าหมูป่า เผ่ากวางป่า ไกลออกไปอีกได้ยินว่ายังมีเผ่าเสือและเผ่าจิ้งจอก แต่มีจำนวนเท่าไร พวกเราไม่รู้หรอก” “เข้าใ

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 104 เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง)

    บทที่ 104เผ่ากระต่าย (ครึ่งหลัง) เวลาเดียวกันนั้น ในมิติต่างโลก ภูตตัวน้อยบินวนไปวนมาพร้อมกับพิจารณากลุ่มมนุษย์ที่มีหูกระต่ายสีเทาอันนุ่มนิ่มและนุ่มฟู “พวกเจ้าเป็นเผ่ากระต่ายจริงๆ สินะ” หลินถามเหล่ามนุษย์หูกระต่าย “แค่ดูหูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ” คำพูดขัดแย้งนี้เป็นของซินหลิน “เจ้าเด็กคนนี้นี่ เรื่องนั้นข้าดูแวบเดียวก็รู้อยู่แล้วน่า ก็แค่อยากถามให้แน่ใจเท่านั้นเอง” หลินหันมาทำท่าโวยวายใส่ซินหลิน ซินหลินไม่ได้มีสีหน้าสำนึกผิดแม้แต่น้อย เด็กชายทำหน้านิ่ง กรอกตามองบนทีหนึ่ง ก่อนจะถามหลินว่า “ว่าแต่ จะเอายังไงกับพวกเขาดีล่ะ” “อืม นั่นสิน๊า” หลินทำท่าครุ่นคิด หากกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ ต้องย้อนกลับไปก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ซินหลินกับสยงอู๋มาที่โกดังต่างมิติ เพื่อตรวจนับผักผลไม้ ก่อนจะเอาออกไปเติมที่ร้านข้างนอกเหมือนอย่างทุกๆ วัน แต่เช้าวันนี้ พอเปิดโกดังปุบก็พบผู้บุกรุกปับ ผู้บุกรุกมีทั้งหมดเจ็ดตน ทุกตนเป็นเผ่ากระต่าย และกำลังแอบกินผักผลไม้ที่อย

  • ทะลุมิติมาเป็นคุณแม่ลูแฝดกับมิติมหัศจรรย์   บทที่ 103 เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก)

    บทที่ 103เผ่ากระต่าย (ครึ่งแรก) ตอนขากลับ โจวหวังเยว่หอบหิ้วสินค้าขึ้นรถม้าเต็มสองมือ ส่วนกงเยียนซูซื้อใบชากลับไปเหมือนอย่างเคย ตลอดเวลาที่อยู่กับลู่ซินฟาง สายตาของกงเยียนซูแสดงออกถึงความรักใคร่อย่างไม่คิดจะปิดบัง ทำเอาคนที่เห็นถึงกับเอียนความหวานกันเป็นแถว รถม้าเคลื่อนตัวออกไปไกลแล้ว แต่ลู่ซินฟางยังยืนอยู่ที่เดิม ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วสินะ… หญิงสาวคิดอย่างสับสน ไม่ใช่ว่าไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเทศกาลไหว้พระจันทร์ จริงอยู่ที่ลู่ซินฟางในอดีตสูญเสียครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ในขณะเดียวกัน ตั้งแต่ได้รับมิติมา ลู่ซินฟางมักจะจัดเลี้ยง งานเทศกาล และงานสังสรรค์อื่นๆ กับภูตหลินและเหล่าสัตว์อสูร ปีนี้กงเยียนซูชวนเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน นางที่ไม่เคยปฏิสัมพันธ์หรือเที่ยวเล่นกับคนอื่นมาก่อน อดรู้สึกสับสนไม่ได้จริงๆ “เสียดายที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันให้นานอีกหน่อยหรือขอรับ” หลางไป๋เห็นลู่ซินฟางเอาแต่ยืนเหม่อตั้งแต่รถม้าของกงเยียนซูเคลื่อนออกจากหน้าร้าน เห็นแล้วก็อดจะพูดกระเซ้าเย้าแ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status