LOGINซิ่วอิงให้อู่ถงและอู่จิ้งยกหม้อโจ๊กไปตั้งตรงล้านหน้าจวน อีกทั้งให้ลุงฮุ่ยเปิดประตูจวนรอต้อนรับอย่างดิบดี ซิ่วอิง ลี่อิน เจียวจู ตงฮวนและหาน ยืนเรียงกันอย่างพร้อมเพรียง เมื่อทหารมาถึง พวกเขาก็โค้งคำนับให้อย่างมีมารยาท
“เห็นพวกท่านทำงานหนัก พวกข้าเตรียมโจ๊กและซาลาเปาไว้รอพวกท่าน จะกินก่อนหรือไม่เจ้าคะ” กลุ่มทหารของทางการราวสิบคน นึกแปลกใจกับการต้อนรับของเด็กกลุ่มนี้ ที่จริงพวกเขาก็หิวอยู่ไม่น้อย พอมีคนมาเสนอเช่นนี้ มีหรือจะกล้าปฏิเสธ “พวกท่านไปตรวจค้นให้เรียบร้อยก่อนเถอะเจ้าค่ะ” “ได้เดี๋ยวพวกข้ากลับมา” เมื่อทหารเข้าไปตรวจค้น หานเกอก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ทำไมเราต้องต้อนรับพวกเขาขนาดนี้ด้วย?” “ก็เพื่อแสดงความจริงใจ และให้เห็นว่าเราไม่ได้ซุกซ่อนใครไว้” หานเกอได้ฟังคำตอบก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ตงฮวนจึงรีบอธิบายให้กระจ่างอีกครั้ง “บางครั้งการแสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็เพื่อปกปิดความจริงเอาไว้ เราให้พวกเขาตรวจค้น อีกทั้งนำอาหารมาเลี้ยง ต่อไปพวกเขาก็จะเพ่งเล็งจวนเราน้อยลง” หานเกอพยักหน้าแม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด “เหตุใดจวนของเจ้ามีคนมากมายนัก?” เมื่อทหารกลับมา ก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ทุกคนเป็นเด็กกำพร้า ข้าก็เลยชวนมาอยู่ด้วยกันเจ้าค่ะ” นางกล่าวจบก็ตักโจ๊กใส่ถ้วยให้พวกเขา และหยิบซาลาเปาให้อีกหนึ่งลูก พอพวกเขาได้ชิมก็ตาโต เพราะรับรู้ถึงความอร่อย “แม่นางน้อย โจ๊กและซาลาเปาอร่อยมากจริง ๆ ข้าขอเพิ่มได้หรือไม่?” “ได้เจ้าค่ะ” เมื่อพวกเขากินกันจนอิ่มแล้ว ก็เอ่ยขอบคุณและจากไปตรวจค้นบ้านอื่นต่อไป ทางด้านในกล่องโบราณ ที่ยามนี้ไท่ซ่างหวง ได้เรียกทุกคนมาอบรมอย่างหนัก โดยเฉพาะสามสตรีอดีตผู้ที่เคยสูงศักดิ์ ตอนนี้สตรีทั้งสามนางคุกเข่าอยู่ต่อหน้าชายชรา และเฉินหมิงเจ๋อก็คุกเข่าด้วยเช่นกัน โทษฐานไม่อบรมพวกนางให้ดี ทางด้านหลังเป็นบ่าวรับใช้คนสนิท และองครักษ์ ทุกคนยามนี้คุกเข่าก้มหน้า เมื่อนายทำผิดบ่าวรับใช้ก็มีความผิดตามไปด้วย “พวกเจ้าก็ได้ฟังสิ่งที่นางบอกไปแล้ว หากจะอยู่ที่นี่ก็ต้องลืมไปเสีย ว่าเคยเป็นใคร ซิ่วอิงนางเป็นเด็กที่มีใจเมตตา ทุกคนที่มาอยู่ที่นี่ล้วนไม่มีที่ไป พวกเจ้าก็เช่นกัน การกลับไปอยู่ในจุดที่จากมา ข้ายังมองไม่เห็นหนทาง เพราะฉะนั้นหากอยากมีชีวิตอยู่ ก็จงเคารพและให้เกียรติพวกเขา หากทำไม่ได้ก็จากไปเสีย ข้าซึ่งแก่ชรามากแล้ว ยอมรับอย่างไม่อายว่า ชีวิตหลังจากนี้ข้าขอฝากไว้กับนาง เพราะข้าเชื่อมั่นว่า นางจะดูแลข้าเป็นอย่างดี” เฉินเจ๋อหยวนตัดสินใจแล้ว เขาถึงได้เดินไปคุยซิ่วอิงก่อนหน้านี้ “ท่านพ่อข้าสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ” “ข้าก็สำนึกผิดแล้วเช่นกัน” “ข้าก็สำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ” “ดีต่อไปก็จงทำดีกับพวกเขาให้มาก ๆ สถานที่แห่งนี้เป็นนาง พวกเราถึงไม่มีใครพบเจอ และไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน พวกเจ้าจงตระหนักเอาไว้” เฉินเจ๋อหยวนกำชับพวกเขาอีกรอบ เพราะสายตาเหลือบไปเห็นพวกเขา กำลังเดินมา อีกทั้งหอบข้าวของมากมายลงมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นที่นอน หมอน ผ้าห่ม ในตะกร้ายังมีขนมปังเนยและแยม อีกทั้งซาลาเปา “ท่านป้าทั้งสาม คงเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดดีแล้วนะเจ้าคะ ที่นี่เป็นที่หลบภัยชั่วคราว และยามจำเป็น ช่วงนี้ทุกคนก็อยู่ในนี้ไปก่อน เพราะทางการกำลังตรวจค้นอย่างหนัก แต่พี่ซีฮัน พี่เจียวหมิง พี่จางหย่ง ท่านปู่สามารถกลับไปข้างบนได้เจ้าค่ะ แต่ว่าข้าต้องเปลี่ยนใบหน้าให้เสียก่อน พวกท่านมาตรงนี้เจ้าค่ะ” ซิ่วอิง ลี่อินและเจียวจู เข้ามาผสานพลังด้วยกันอีกครั้ง พวกเขาก็กลายเป็นอีกคนหนึ่งในทันที ทุกคนมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง นี่มันเรื่องจริงหรือนี่ เปลี่่ยนใบหน้าให้เป็นผู้อื่น ได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ จากนั้นซิ่วอิงก็พาทุกคนกลับออกไป เมื่อพวกเขาจากไปแล้ว ทุกคนก็ตกอยู่ภวังค์ความคิดของตน สิ่งที่เห็นเมื่อสักครู่นี้ ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นความจริง กล่องที่นางให้ลงมาอยู่ ก็สามารถ ขยายให้ใหญ่และเล็กลงอย่างน่าอัศจรรย์ อีกทั้งพลังและความสามารถของพวกนาง คนธรรมดาที่ไหนจะทำแบบนั้นได้กัน นอกจากเทพเซียน ยามนี้พวกเขาเชื่ออย่างสนิทใจ ตามคำพูดของเฉินซีฮันว่าพวกเขาเป็นเทพ จ้าวซูเมิง โจวชิงเหยียน และชุนหนิงเหอ เมื่อรู้ความจริงเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น ยามนี้พวกนางถอนหมั้น และนางประกาศชัดว่าไม่มีทางที่จะกลับไปหมั้นอีก นี่พวกนางทำอะไรลงไป มีของดีอยู่ในมือกลับโยนและทำลายทิ้ง เพียงชั่วพริบตาด้วยวาจาอันแสนร้ายกาจของพวกนางเอง ในภายภาคหน้า คงมีแต่คนอยากครอบครองพวกนาง บุตรชายของพวกนาง ที่ไม่รู้ว่าจะได้กลับไปครองบัลลังก์หรือไม่ แล้วชีวิตต่อไปจะเป็นเช่นไร ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกผิด หากยังเป็นคู่หมั้น แน่นอนว่าพวกนางคงไม่ปล่อยให้พวกเขาลำบาก “พวกเราทำสิ่งที่ผิดพลาด ที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิต” จ้าวซูเมิงเอ่ยออกมา “ทำอย่างไรดี ถึงนางจะดูเป็นคนจิตใจดี แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นคนใจแข็งไม่น้อย สงสารแต่บุตรชายของเรา อุตส่าห์ได้หมั้นกับพวกนาง แต่เป็นพวกเราที่ทำลายมันลงไป” “ชาตินี้พวกเราก็ต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ คงไม่มีโอกาสกลับไปวังหลวงอีกแล้ว ข้าอยากตบปากตัวเองสักพันครั้ง ไม่รู้ผีห่าตนใดดลใจ ให้ข้าพูดออกไปเช่นนั้น” อดีตฮ่องเต้นั่งฟังพวกนางพูดกัน ด้วยใจที่เจ็บปวด น้องชายก่อกบฏยึดบัลลังก์ ภรรยาก็ปากดี จนสูญเสียสิ่งสำคัญไป เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร ถึงจะเรียกความรู้สึกดี ๆ ให้กลับคืนมา อย่างน้อยถึงไม่ได้กลับไปที่วังหลวง ความสัมพันธ์ที่อยู่ที่นี่ เขาก็อยากให้ทุกคนมีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน “ข้าขอสั่งพวกเจ้าทุกคน โดยเฉพาะพวกเจ้าสามคน ต้องทำทุกวิถีทาง แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ ข้าเชื่อว่านางคงจะใจอ่อน ไม่วันใดก็วันหนึ่ง พวกเจ้าห้ามยอมแพ้ ได้ยินหรือไม่?” อดีตฮ่องเต้เอ่ยน้ำเสียงแข็งกล่าว “เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” ชายชราเฉินหมิงเจ๋อ เฉินซีฮัน เฉินเจียวหมิง เฉินจางหย่ง เมื่อออกมาจากกล่องโบราณ บรรดาเด็กและสตรีที่อยู่ในจวน ก็ถึงกับตกตะลึง บุรุษผู้หล่อเหล่าและสง่างามทั้งสามคนนี้ เป็นผู้ใดกัน ซิ่งอิง ลี่อินและเจียวจู ถอนใจออกมา ไม่น่าเลือกใบหน้าที่หล่อเหล่าเช่นนี้เลย แต่แล้วสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ นายหญิงน้อยลี่อิน เรียกทุกคนมารวมตัวกัน ก่อนจะประกาศออกไป “ข้าขอประกาศให้ทุกคนรับรู้เอาไว้ บุรุษผู้นี้นามว่าเฉิงอี้ เป็นคู่หมั้นและสามีของข้าในอนาคต เพราะฉะนั้นห้ามส่งสายตาให้เขาเด็ดขาด” ลี่อินกอดอกมองทุกคนอย่างวางมาด “ห้ะ…” ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้าง ไม่คาดคิดว่านายหญิงน้อยลี่อิน จะประกาศออกมาเช่นนี้ แต่คนที่ใจพองโต แทบระเบิดออกมา ก็คือเฉินจางหย่ง นี่หมายความว่า นางหายโกรธแล้วใช่หรือไม่ “ลี่อินเจ้าทำอะไร พวกเรายังโกรธพวกเขาอยู่นะ!” เจียวจูรีบทักท้วงสหายขึ้นมา “ก็ซิ่วอิงหายโกรธแล้วข้าก็หายโกรธเช่นกัน” ลี่อินลอยหน้า ลอยตาตอบกลับมา “จริงเหรอซิ่วอิง ถ้าเช่นนั้นข้าก็หายโกรธบ้าง ข้าก็ขอประกาศ บุรุษผู้นี้นามว่าจางหลิงเฮ่อ เป็นคู่หมั้นและเป็นสามีในอนาคตของข้า หากใครชายตาให้เขา ข้าจะควักลูกตาออกมาเลย” เฉินเจียวหมิงหลุดหัวเราะออกมา น่าช่างดุเหมือนลูกแมวกำลังขู่ แต่ว่าเขาก็พอใจ และรู้สึกเบิกบานใจอย่างบอกไม่ถูก ยามนี้สิ่งที่หนักอึ้งภายในใจ มลายหายไปจนหมดสิ้น คราวนี้ทุกคนหันมามองซิ่วอิงว่านางจะประกาศหรือไม่ ซิ่วอิงที่เห็นสายตาของทุกคนหันมามองที่นาง รวมทั้งเฉินซีฮันที่มองมาด้วยสายตาคาดหวัง นางก็กลอกตามองบน ก่อนจะถอนใจออกมา “บุรุษผู้นี้นามว่าหลัวอวิ๋นซี เป็นคู่หมั้นที่ข้าต้องครองคู่ไปตลอดชีวิต เพราะฉะนั้นทุกคนจงให้ความเคารพเขาดั่งเคารพข้า ส่วนท่านอาวุโสท่านนี้ เป็นท่านปู่ของคู่หมั้นข้า ทุกคนโปรดให้ความเคารพเช่นเดียวกัน” เฉินซีฮันฉีกยิ้มด้วยความพอใจ พวกนางโกรธง่ายหายไวเช่นนี้ดีจริง ๆ ต่อไปเขาจะต้องดีกับนางให้มาก ชายชราเฉินเจ๋อหยวนได้ยินนางพูดก็พอใจอยู่ไม่น้อย เรื่องกังวลใจทั้งหมดคลี่คลายนางบอกให้ทุกคนเคารพพวกเขาเหมือนเคารพนาง แค่นี้เขาก็เห็นจิตใจที่แท้จริงที่อยู่ข้างในเป็นอย่างดี เพราะนางเป็นเช่นนี้สินะสวรรค์ถึงเลือกนาง และพวกเขาอีกสี่คนกลิ่นเนื้อย่างส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปรอบบริเวณ ซิ่วอิงให้พวกเขาไปนับจำนวนคน รวมทั้งช่างก่อสร้างและช่างตัดต้นไม้ รวมแล้วเกือบสองร้อยชีวิต ทางโรงเตี๊ยมลู่เฉิงและลู่ไฉ่ดูแล นางจึงไม่ได้กังวลมากนัก “ซิ่วอิงเจ้าดูข้าลองเปลี่ยนใบหน้า ท่านพ่อท่านแม่ เป็นเช่นไรฝีมือข้า” ลี่อินพาอดีตฮ่องเต้ อดีตฮองเฮาและพระสนม อีกทั้งข้ารับใช้คนสนิท ออกมาจากมิติ นางทำการเปลี่ยนใบหน้า ให้พวกเขาทั้งหมด ซิ่วอิงยกยิ้มอย่างพอใจ “คนอื่น ๆ ก็เดี๋ยวค่อยให้พี่จือหยวนและพี่จือไฉ ยกอาหารเอาไปให้ก็แล้ว ออกมากันหมดผู้คนอาจจะสงสัยเอาได้” “เข้าใจแล้ว” ลี่อินตอบรับ ก่อนจะพาพวกเขาไปนั่ง แล้วหาไปยกน้ำชามาให้ “หลานสะใภ้คนงาม เจ้ากำลังทำอะไรหรือ?” ซิ่วอิงหันไปมองตามเสียงก็เห็นท่านปู่เดินยิ้มร่าเข้ามา อย่างอารมณ์ดี “อันนี้เรียกว่าขนมเค้กเจ้าค่ะ” “สีสันงดงามน่ากินจริง ๆ” ชายชรามองเค้กอย่างพอใจ “วันนี้ข้าทำหลายก้อนเลยเจ้าค่ะ ทุกคนจะได้กินกันอย่างทั่วถึงเจ้าค่ะ” “ดี ๆ ข้าไม่ได้กินอาหาร ฝีมือเจ้าทำมาหลายวัน ข้ารู้สึกว่าข้าผอมลงไปเยอะเลย” ทุกคนได้ยินเขาพูดก็หัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดูวันนี้อาหารที่นางทำ ถึงแม้จะมีคนเยอะ แต่คนช่ว
ซิ่วอิง ลี่อินและเจียวจู กลับมาที่จวนอีกครั้ง แล้วตรงไปยังโรงครัวเพื่อทำอาหาร อยู่ในมิติแปลกมากเลย ร่างกายเหมือนอิ่มทิพย์ ไม่รู้สึกหิวอะไรเลย อาจเพราะเป็นมิติเทพ ร่างกายจึงไม่ต้องการอาหาร แต่พอกลับออกมาเช่นนี้ นางก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที“ซิ่วอิงข้ารู้สึกหิวมากเลย”“ข้าก็เหมือนกัน”“งั้นวันนี้พวกเราจัดเต็มไปเลย ฉลองวันเกิดอายุครบ15ปี และฉลองที่พวกเราสำเร็จพลังปราณ ขั้นสูงสุด เพราะฉะนั้นข้าจะทำเนื้อย่าง และจะทำเค้กด้วย” ซิ่วอิงเอ่ยขึ้นอย่างร่าเริง พอพูดถึงเนื้อย่างตงฮวนและหานเกอก็รีบเข้ามาร่วมวง “สตรีคนงามข้าขอหมูสามชั้นได้หรือไม่?” ตงฮวนรีบหยอดคำหวานทันที“สตรีผู้งามล้ำเหนือผู้ใดในใต้หล้า ข้าขอกุ้งตัวโต ๆ และเนื้อย่างแบบไม่สุกมาก”“เชอะ! พวกเจ้าเป็นบุรุษที่อยู่เป็นจริง ๆ” เจียวจูส่ายหน้าอย่างรู้เท่าทันพวกเขา“ข้าไม่ได้บอกสตรีไร้ยางอายเช่นเจ้า ข้าบอกซิ่วอิงผู้เลอโลมต่างหากเล่า?” ตงฮวนตอบกลับไปอย่างยียวนกวนประสาท“นี่เจ้าเต่าโบราณล้านปี!”“หยุด! หยุดเถิดข้าขอร้อง ข้าเหนื่อยจะฟังแล้ว” ซิ่วอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าและเริ่มรำคาญ เฉินซีฮัน เฉินเจียวหมิงและเฉินจางหย่ง ก็ต่างพากันหัวเราะออ
พวกเขาเฝ้ามองแสงที่ครอบร่างของพวกเขาทุกวัน เวลาผ่านไปห้าวันแล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ยังไม่ออกมา ยามนี้ทุกคนนั่งไม่ติด เพราะรู้สึกเป็นห่วงว่าเหตุใดพวกเขาถึงยังไม่ออกมา พวกเขาจะฝึกพลังนานเพียงใดกันนะ“ท่านปู่ข้าเป็นห่วงพวกเขามากเลยขอรับ” เฉินซีฮันเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวล เมื่อก่อนเขาก็อยู่ได้โดยที่ไม่มีนาง แต่มายามนี้ ชีวิตกระวนกระวาย เหมือนขาดอะไรไป “นั่นสิห้าวันแล้วที่พวกเขาเข้าไปฝึก หากใช้เวลาเป็นเดือนจะทำอย่างไร?” เฉินเจียวหมิงเอ่ยอย่างวิตกกังวลไม่ต่างกัน “ข้าว่าไม่นานก็คงออกมาแล้วละ พวกเจ้าดูแสงพวกนั้นสิ ค่อย ๆ จางลงแล้ว” เฉินจางหย่งเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น พร้อมชี้ให้ทุกคนดู เมื่อทุกคนมองไปดู ก็เห็นว่าแสงเริ่มลดลงจริง ๆ พวกเขาต่างมายืนจ้องมองตาไม่กะพริบ ผ่านไปเพียงห้าวัน พวกเขารู้สึกว่ายาวนานเหมือนห้าปี ก่อนที่การรอคอยจะสิ้นสุดลง เมื่อแสงที่เปล่งประกายได้จางหายไป ก่อนพวกเขาทั้งห้าคนจะลุกขึ้น และก้าวเดินมาที่พวกเขานี่มันอะไรกัน! ผ่านไปเพียงห้าวัน พวกเขาเติบโตขึ้นถึงเพียงนี้ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว ซิ่วอิง ลี่อิน เจียวจู สวยสดงดงามดั่งเซียนน้อยมาจุติยังโลกมนุษย์ ตงฮวนหล่อเหล่าสง่างาม ดั่
เด็กทั้งห้าคนกลับถึงจวน ด้วยความสบายใจเป็นอย่างยิ่ง ข้าวสารอาหารแห้ง ทางร้านจะมาส่งทีหลัง เพราะเถ้าแก่เจ้าของร้านยุ่งจนหัวหมุน พวกเขาทั้งห้าคนเห็นทุกคนเริ่ม ตุนเสบียงและอาหารเช่นนี้ ก็รู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยพวกเขา ก็ซื้อได้ในราคาปกติ หากรอไปซื้อในช่วงฤดูหนาว พ่อค้าคงขึ้นราคาเป็นแน่ “ป้าหวังที่จวนเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงยกยิ้มอย่างพอใจ “ช่วงนี้ข้าฝากท่านป้าและลุงฮุ่ยช่วยดูแลจวนด้วยเจ้าค่ะ พี่อู่ถง พี่อู่จิ้ง พี่อู่หย่ง ต่อไปท่านทั้งสามคนช่วยดูแลเรื่องทั่วไปในจวน หากต้องการซื้ออะไรเพิ่ม หากจำเป็นก็ซื้อได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะฝากเงินไว้กับป้าหวัง พี่ซูผิงว่าง ๆ ก็ช่วยสอนเด็กๆ หัดคัดอักษรทีเจ้าค่ะ กระดาษและหมึก มีพร้อมไม่ต้องกังวล ช่วงนี้พวกข้ามีเรื่องให้ทำมากมาย หากวันไหนข้าไม่ได้ทำอาหาร ป้าหวังพาทุกคนทำเลยนะเจ้าคะ ให้ทุกคนได้กินอย่าปล่อยให้หิว เพื่อรอพวกข้าเจ้าค่ะ” “ขอรับ/เจ้าค่ะ ซิ่วอิงสั่งงานทุกคน เพราะตอนนี้นางและสหายมีเรื่องให้ทำมากมาย จึงไม่สามารถทำได้เหมือนแต่ก่อน “ท่านลุงช่วงนี้ยังไม่เป็ดให้ย่าง ท่านสามคนไปขนฟืนที่ช่างตัดต้นไม้มาไว้ที่จวนเจ้า
ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองเหยียนฟางว่า หมู่บ้านเหยียนฟางมีผีร้าย ข่าวลือเรื่องนี้ทำเอาผู้คนขนลุกขนชันด้วยความหวาดกลัว เพราะไม่ใช่เพียงทหารคนเดียวที่พบ แต่เป็นทหารหลายสิบคน รวมทั้งท่านเจ้าเมืองและนายอำเภอ ซิ่วอิงและสหาย ที่ออกมาสั่งของที่ตลาด พอได้ยินข่าวนี้ ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ด้วยความสะใจ สมน้ำหน้า! “ฮ่า ๆ ข้าละสะใจจริง ๆ” หานเกอเอ่ยขึ้น “ใช่สมน้ำหน้า ไปรบกวนวิญญาณคนตาย ก็ต้องเจอดีแบบนี้” เจียวจูเสริมขึ้น “ซิ่วอิงวิญญาณพวกเขา ยังไม่ไปเกิดใหม่อีกเหรอ?” ลี่อินเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ข้าคิดว่าพวกเขา คงยังเป็นห่วงสมบัติอยู่ เลยยังไม่จากไปไหน” “ซิ่วอิงข้าคิดแผนออกมาได้แล้ว” ตงฮวนเอ่ยขึ้นด้วย ท่าทางเจ้าเล่ห์ “แผนอะไรรึ?” ซิ่วอิงหันมาถามอย่างสนใจ “ก็แผนไปสำรวจพื้นที่แถบนั้นนะสิ” “แต่ว่าตงฮวนเจ้าไม่กลัวผีรึ?” เจียวจูถามขึ้น “จะกลัวทำไมวิญญาณเหล่านั้น เป็นคนในครอบครัวของเราที่ถูกฆ่า ข้าดีใจเสียอีกหากว่าจะได้พบพวกเขาอีก” ซิ่วอิงฟังจากที่ตงฮวนพูดก็ครุ่นคิด แผนของเขาดีมากเลยทีเดียว ตงฮวนเป็นเด็กฉลาด เขาสามารถฟังและวิเคราะห์ ได้อย่างดีเยี่ยม“แล้วจะไปสำรวจยังไง ไม่ใช่ว่าพวกเ
เช้าวันนี้มีประกาศจากทางการว่า มีแจ้งเบาะแสว่าพบเจออดีตฮ่องเต้ หลบหนีอยู่ที่หมู่บ้านไฉ่หลิน ทางการจึงจำเป็นต้อง ส่งคนไปตรวจสอบ อู่ถงรีบเข้ามารายงานอีกเช่นเคย เพราะเขามีหน้าไปจ่ายของที่ตลาด จึงพบเห็นทางการออกมาปิดประกาศข่าวสาร ให้ผู้คนได้รับรู้ “นายหญิงน้อย ดูเหมือนทางการจะออกมาติดประกาศแจ้งข่าวขอรับ” “แจ้งว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?” “แจ้งว่าพบเจอ อดีตฮ่องเต้หลบหนีไปอยู่แถว ๆ หมู่บ้านไฉ่หลินขอรับ” ซิ่วอิงจากที่กำลังผัดผัก ก็ต้องหยุดชะงักลงทันที ทางการคงอ้างเหตุผลนี้ เพื่อเข้าไปตรวจค้นสมบัติ ที่หมู่บ้านไฉ่หลินเป็นแน่ หากเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่า ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ยังไม่รู้เรื่องนี้ และดูเหมือนท่านเจ้าเมือง จะทำการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ “แล้วยังมีข่าวอย่างอื่นอีกหรือไม่เจ้าคะ?” “ไม่มีแล้วขอรับ” เขาตอบเสร็จก็เดินไปยกของลงจากรถวัวเทียมเกวียน ซิ่วอิงจึงหันมาหาสหาย ที่ช่วยงานกันอยู่ในครัว “ท่านเจ้าเมืองคงเริ่มให้ทหารไปสำรวจพื้นที่แล้ว ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป ก่อนหน้านี้ข้าได้ฝันเห็น วิญญาณของทุกคนที่จากไป บิดาของข้ายังบอกอีกว่า พื้นที่แถบนั้นมีสมบัติซ่อนอยู่” “จริงเหรอซิ่วอิง” หานเกอถามขึ







