LOGIN“ข้าว่าให้พวกเขาเข้าไปอยู่ในพื้นที่แห่งใหม่น่าจะได้” ตงฮวนเอ่ยขึ้นอย่างวิเคราห์ ซึ่งตรงกับความคิดของซิ่วอิงพอดี เพราะตอนนี้มีพื้นที่แห่งใหม่ที่ใหญ่และกว้างขึ้น แม้จะมีข้าวของเครื่องใช้เหมือนที่นี่ แต่ชีวิตของพวกเขาปลอดภัยแน่นอน
“ท่านไปพาพวกเขามาเถิด ระวังตัวด้วยเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงเอ่ยบอกเจียวหั่ว “ขอรับ” เจียวหั่วจึงรีบใช้วิชาตัวเบากระโดดหายไปทันที “เรามากินอาหารกันเถอะ ข้าหิวจนจะกินคนได้อยู่แล้ว พี่จือไฉ่ พี่จือหยวน ข้ารบกวนไปยกโต๊ะเก้าอี้มาที่ครัวทีเจ้าค่ะ” “เดี๋ยวข้าไปช่วย” เฉินซีฮันเอ่ยขึ้น เพราะเวลานี้ฐานะเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาคิดว่าสิ่งไหนที่ช่วยนางได้เขาก็ยินดีช่วยทำ เฉินเจียวหมิงและเฉินจางหย่ง ต่างก็รีบออกไปช่วยยกโต๊ะเก้าอี๊เข้ามา พอทุกคนมานั่งกันครบแล้ว ซิ่วอิงก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน “วันนี้เป็นวันเกิดของข้า ลี่อิน เจียว ลี่อิน เจียวจู ตงฮวน หานเกอ พี่ซีฮัน พี่เจียวหมิงและพี่จางหย่ง แต่เพราะวันนี้ที่โรงเตี๊ยมยุ่งมากและพรุ่งนี้ก็ยังจะยุ่งอีก เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็กินกันพอประมาณ พอทุกอย่างลงตัวดีแล้ว พวกเราค่อยฉลองใหญ่กันเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงให้ลี่อินชงชา เจียวจูและนางช่วยกันสับเป็ด ลวกเสร็จบะหมี่และผัก โรยด้วยกระเทียมเจียวเป็นอันเสร็จ “ซิ่วอิงข้าอยากให้เจ้าเรียกข้ามาท่านแม่ได้หรือไม่?” จู่ ๆ จ้าวซูเมิ่งก็เอ่ยขึ้นมา คราวนี้ทุกคนถึงชะงัก รอดูท่าทีของซิ่วอิงว่า จะตอบเช่นไร ซิ่วอิงยิ้มอ่อนก่อนจะเอ่ยขึ้น “ได้เจ้าค่ะท่านแม่” จ้าวซูเมิ่งอยากกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ แต่ทำได้เพียงเก็บอาการดีใจเอาไว้ภายในใจ นางเรียกข้าว่าท่านแม่แล้วดีจริง ๆ โจวชิงเหยียนหันไปมองชุนหนิงเหอแล้วยกยิ้มอย่างพอใจ ถ้านางยอมเรียกท่านแม่ ถ้าเช่นนั้นลี่อินและเจียวจู ก็คงต้องเรียกพวกนางเช่นเดียวกัน ยามนี้ความรู้สึกของทุกคน มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อความกดดันภายในใจมลายหายไปสิ้น ยามนี้ทุกคนวางความสำคัญของซิ่วอิงไว้เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่านางจะบอกให้ทำอะไร พวกเขาล้วนเชื่อฟัง เพราะชีวิตจะอยู่รอดปลอดภัยได้ ก็มีเพียงนางและสหายของนางเท่านั้น ไม่นานเจียวหั่วก็กลับมาพร้อมกับทหารองครักษ์ ที่กระจัดกระจายกันออกไป หลังจากเฉินอ๋องยึดบัลลังก์ ยามนี่เจียวหั่วรวบรวมทหารองครักษ์ กลับมาได้เป็นบางส่วน ซิ่วอิงมองพวกเขาอย่างตกตะลึงและเริ่มตาลาย จวนของนางกำลังจะกลายเป็นฐานกองทัพ “พี่้เจียวหั่วทั้งหมดกี่คนหรือเจ้าคะ? “50คนขอรับ” “ตงฮวน หานเกอ ส่งพลังปราณปิดกั้นให้ขยายกว้างออกไปอีก” “ได้” “พวกท่านก็หาที่นั่งกันเอาเองแล้วกันเจ้าค่ะ พี่จือไฉ พี่จือหยวน สับเป็ดเพิ่ม10ตัว เดี๋ยวข้าลวกบะหมี่และผักให้เจ้าค่ะ” โชคดีที่มีเป็ดย่างเอาไว้แล้วหลายตัว ไม่เช่นนั้นนางคงเหนื่อยน่าดู “นายหญิงน้อยเป็ดอร่อยมากขอรับ” เจียวหั่วเอ่ยขึ้น ซิ่วอิงมองพวกเขา ที่กินอาหารกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็นึกสงสารคงไม่ได้กินอะไรกันมาหลายวัน ซิ่วอิงจึงเดินไปหยิบเป็ดย่าง เอามาเพิ่มให้ทุกคนอย่างไม่อั้น “อร่อยก็กินเยอะ ๆ เจ้าค่ะ” เฉินหมิงเจ๋ออดีตฮ่องเต้และอดีตไท่ซ่างหวงมองนางอย่างเอ็นดู ขอบคุณสวรรค์ที่ยังคงเมตตา ส่งนางและพวกเขามาให้คอยช่วยเหลือทุกคน เมื่อทุกคนอิ่มแล้ว ซิ่วอิงก็เปิดกล่องโบราณ แล้วพาทุกคนลงไปดูที่อยู่ใหม่ นางและสหายก็ตื่นเต้นที่จะลงมาสำรวจด้วยเช่นกัน เรือนหลังใหญ่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีแม่น้ำไหลผ่าน มีบ่อน้ำ แปลงผัก และแปลงสมุนไพร ห่างออกไปเป็นทุ่งหญ้า และทุ่งดอกไม้กว้างใหญ่ ซิ่วอิงมองทุกอย่างด้วยความตื่นตาตื่นใจ “ซิ่วอิงพื้นที่กว้างขวางมากจริง ๆ สวรรค์คงรู้ล่วงหน้า ว่าจะมีคนมาอยู่เพิ่มขึ้น เลยเตรียมพื้นที่ไว้ให้แน่ ๆ” ลี่อินเอ่ยอย่างตื่นเต้น “แต่ว่าหากมีพื้นกว้างใหญ่เช่นนี้ ต่อให้มาทั้งแคว้นก็เอาอยู่” หานเกอเอ่ยขึ้นอย่างมั่นใจ “หากทุกคนอยู่ในนี้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาพบเห็น” เจียวแน่เสริมขึ้น “ท่านพ่อ ท่านแม่ แม่รอง แม่สาม ต่อไปท่านก็อยู่ในนี้ชั่วคราวไปก่อนนะเจ้าคะ หากจวนเสร็จแล้วพวกท่านค่อยย้ายกลับไป แต่หากว่าท่านพอใจจะอยู่ในนี้ต่อ ก็แล้วแต่ท่านเลยเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงตัดสินเรียกอดีตฮ่องเต้อดีตฮองเฮาว่าท่านพ่อท่านแม่ และเรียกพระสนมว่า แม่รองและแม่สาม ในเมื่อขอโทษและให้อภัยกันแล้ว ก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขต่อไป จะมึนตึงให้เสียสุขภาพจิตไปทำไม ชีวิตมีอะไรให้ทำตั้งมากมาย ซิ่วอิงคิดว่าทุกคนก็โอกาสทำผิดด้วยกันทั้งนั้น และหากรู้ว่าผิดแล้วพยายามแก้ไข นางคิดว่าสมควรให้โอกาส เฉินหมิงเจ๋อและจ้าวซูเมิ่ง มองลูกสะใภ้ตัวน้อยด้วยสายตาเอ็นดู ไม่อยากเชื่อว่า เขาที่อยู่จุดสูงสุดของแคว้น เป็นถึงฮ่องเต้และนางเป็นถึงฮองเฮา จะตกต่ำลงมาเป็นสามัญชน และยังได้มาพึ่งพาเด็กน้อยวัยสิบขวบอีกด้วย “ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลพวกท่านเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ” ลี่อินหันไปพูดกับเฉินหมิงเจ๋อและชุนหนิงเหอ ด้วยสีหน้าจริงจัง “ใช่เจ้าค่ะ ในเมื่อข้าประกาศไปแล้วว่า พี่เจียวหมิงเป็นคู่หมั้นของข้า เพราะฉะนั้นข้าก็ต้องดูและท่านพ่อท่านแม่ให้ดีเจ้าค่ะ” อดีตสตรีผู้สูงศักดิ์ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า คำพูดไร้เดียงสาแต่แสดงออกถึงความจริงใจ มายามนี้พวกนางถึงเข้าใจ อะไรก็ไม่สำคัญเท่า ครอบครัวที่อบอุ่น ที่พร้อมจะรักและดูแลซึ่งกันและกัน “เจ้าก็มาเป็นลูกชายข้าเถิด ตงฮวน หานเกอ ต่อไปก็เรียกข้าว่า ท่านพ่อก็แล้วกัน” เฉินหมิงเจ๋อเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนโยน ตงฮวนและหานเกอตกใจ รีบหันไปมองซิ่วอิง นางก็ส่งยิ้มมาให้ เขาทั้งสองจึงตัดสินใจ คุกเข่าคำนับให้เฉินหมิงเจ๋อ เป็นการยอมว่าพวกเขายินดี บรรยากาศยามนี้ เต็มไปด้วยความอบอุ่น ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในเรือนใหญ่โต แต่ความสุขกลับมีอยู่รอบ ๆ ตัว ก่อนที่ซิ่วอิง ลี่อิน เจียวจู จะมาคุกเข่า และคำนับให้พวกเขาด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการยืนยันว่า พวกนางยินดีมาเป็นลูกสะใภ้ในวันข้างหน้า ชายชราเฉินเจ๋อหยวน เฉินซีฮัน เฉินเจียวหมิงและเฉินจางหย่ง ยืนมองภาพเหล่านั้นด้วยความประทับใจ “ท่านปู่ สถานที่ใหม่เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ ท่านชอบหรือไม่?” ซิ่วอิงเอ่ยถามชายชรา เมื่อเห็นเขากวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างพอใจ “ชอบสิ เงียบสงบดี อีกอย่างมีสัตว์เลี้ยงมากมาย ข้าคงไม่ต้องกลัวเหงาแล้ว” “พรุ่งนี้ข้าจะขนของใช้ ที่จำเป็นเอาลงมาให้เจ้าค่ะ” “ข้ายังมีเงินที่เก็บเอาไว้ ข้าจะมอบให้เจ้าทั้งหมด เพราะไหน ๆ พวกข้าทั้งครอบครัว ก็มาอยูกับเจ้า” “ท่านปู่ให้ข้ามาเยอะแล้วเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นให้พี่ซีฮันเก็บไว้ก่อน หากข้าต้องการข้าใช้จะบอกเจ้าค่ะ อีกอย่างให้ข้ามาหมด หากพวกท่านต้องการใช้ จะทำอย่างไรละเจ้าคะ?” “อืม..เจ้าพูดถูกงั้นเอาตามนั้น” “ท่านแม่ใหญ่ ท่านแม่รอง ท่านแม่สาม ข้าจะนำผ้าและอุปกรณ์ตัดเย็บลงมาให้ พวกท่านจะได้มีอะไรทำแก้เบื่อเจ้าค่ะ” “ขอบใจเจ้ามาก” จ้าวซูเมิ่งตอบกลับด้วยใบหน้าอิ่มเอิบอย่างมีความสุข ซฺิ่งอิงปล่อยให้พวกเขาจัดการที่อยู่ใหม่กันเอง เพราะนางเหนื่อยล้าอยากกลับขึ้นมานอนเต็มที เพราะพรุ่งนี้นางยังมีงานรออยู่ หลังจากจบงานนี้ไป นางต้องปรับระบบใหม่ เพราะว่าหากทำเช่นนี้ นางเหนื่อยเกินไป นางต้องฝึกคนขึ้นมา สตรีทั้งสิบห้าคนและองครักษ์ที่มาเพิ่ม สามารถช่วยงานนางได้ และนางจะให้พวกเขา ฝึกฝนวรยุทธควบคู่ไปด้วย นางคิดว่าการจะยืนหยัดอยู่บนโลกใบนี้ หากเราไม่แข็งแกร่งพอ ก็ยากที่จะต่อกรกับคนชั่วได้ นางจะค่อย ๆ วางรากฐานให้มั่นคง นอกจากพวกนางทั้งห้าคน พี่ซีฮัน พี่เจียวหมิง พี่จางหย่ง ทุกคนต้องมีวรยุทธที่แข็งแกร่ง นางไม่เคยมีความคิดอยากเข้ามาควบคุมแคว้นเป่ยเซี่ยะ แต่สถานการณ์ผลัดดันให้นางต้องมาควบคุม คนของราชวงศ์หนีเอาชีวิตรอดและมาพึ่งพานาง นางก็เห็นถึงความไม่ปลอดภัยของราษฎร คนชั่วบ้าอำนาจขึ้นครองบัลลังก์ ในไม่ช้าคงเกิดความวุ่นวาย ผู้คนต้องได้รับเดือดร้อน นางที่มาอยู่ในร่างนี้อายุ22ปีแล้ว สามารถมองเหตุการณ์ได้อย่างเข้าใจ หากเราจะช่วยผู้อื่นได้ เราต้องทำตนเองให้แข็งแกร่งเพียงเท่านั้น ถึงจะสยบอำนาจความชั่วร้ายได้ และที่สวรรค์มอบพลังเทพให้ ก็คงคาดหวังให้นางและสหายช่วยเหลือผู้คน เพราะฉะนั้นนางต้องคิด และวางแผนให้ดีเด็กทั้งห้าคนกลับถึงจวน ด้วยความสบายใจเป็นอย่างยิ่ง ข้าวสารอาหารแห้ง ทางร้านจะมาส่งทีหลัง เพราะเถ้าแก่เจ้าของร้านยุ่งจนหัวหมุน พวกเขาทั้งห้าคนเห็นทุกคนเริ่ม ตุนเสบียงและอาหารเช่นนี้ ก็รู้สึกโล่งใจ อย่างน้อยพวกเขา ก็ซื้อได้ในราคาปกติ หากรอไปซื้อในช่วงฤดูหนาว พ่อค้าคงขึ้นราคาเป็นแน่ “ป้าหวังที่จวนเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ” “ทุกอย่างเรียบร้อยดีเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงยกยิ้มอย่างพอใจ “ช่วงนี้ข้าฝากท่านป้าและลุงฮุ่ยช่วยดูแลจวนด้วยเจ้าค่ะ พี่อู่ถง พี่อู่จิ้ง พี่อู่หย่ง ต่อไปท่านทั้งสามคนช่วยดูแลเรื่องทั่วไปในจวน หากต้องการซื้ออะไรเพิ่ม หากจำเป็นก็ซื้อได้เลยเจ้าค่ะ ข้าจะฝากเงินไว้กับป้าหวัง พี่ซูผิงว่าง ๆ ก็ช่วยสอนเด็กๆ หัดคัดอักษรทีเจ้าค่ะ กระดาษและหมึก มีพร้อมไม่ต้องกังวล ช่วงนี้พวกข้ามีเรื่องให้ทำมากมาย หากวันไหนข้าไม่ได้ทำอาหาร ป้าหวังพาทุกคนทำเลยนะเจ้าคะ ให้ทุกคนได้กินอย่าปล่อยให้หิว เพื่อรอพวกข้าเจ้าค่ะ” “ขอรับ/เจ้าค่ะ ซิ่วอิงสั่งงานทุกคน เพราะตอนนี้นางและสหายมีเรื่องให้ทำมากมาย จึงไม่สามารถทำได้เหมือนแต่ก่อน “ท่านลุงช่วงนี้ยังไม่เป็ดให้ย่าง ท่านสามคนไปขนฟืนที่ช่างตัดต้นไม้มาไว้ที่จวนเจ้า
ไม่นานข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองเหยียนฟางว่า หมู่บ้านเหยียนฟางมีผีร้าย ข่าวลือเรื่องนี้ทำเอาผู้คนขนลุกขนชันด้วยความหวาดกลัว เพราะไม่ใช่เพียงทหารคนเดียวที่พบ แต่เป็นทหารหลายสิบคน รวมทั้งท่านเจ้าเมืองและนายอำเภอ ซิ่วอิงและสหาย ที่ออกมาสั่งของที่ตลาด พอได้ยินข่าวนี้ ถึงกับหลุดหัวเราะออกมา ด้วยความสะใจ สมน้ำหน้า! “ฮ่า ๆ ข้าละสะใจจริง ๆ” หานเกอเอ่ยขึ้น “ใช่สมน้ำหน้า ไปรบกวนวิญญาณคนตาย ก็ต้องเจอดีแบบนี้” เจียวจูเสริมขึ้น “ซิ่วอิงวิญญาณพวกเขา ยังไม่ไปเกิดใหม่อีกเหรอ?” ลี่อินเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ข้าคิดว่าพวกเขา คงยังเป็นห่วงสมบัติอยู่ เลยยังไม่จากไปไหน” “ซิ่วอิงข้าคิดแผนออกมาได้แล้ว” ตงฮวนเอ่ยขึ้นด้วย ท่าทางเจ้าเล่ห์ “แผนอะไรรึ?” ซิ่วอิงหันมาถามอย่างสนใจ “ก็แผนไปสำรวจพื้นที่แถบนั้นนะสิ” “แต่ว่าตงฮวนเจ้าไม่กลัวผีรึ?” เจียวจูถามขึ้น “จะกลัวทำไมวิญญาณเหล่านั้น เป็นคนในครอบครัวของเราที่ถูกฆ่า ข้าดีใจเสียอีกหากว่าจะได้พบพวกเขาอีก” ซิ่วอิงฟังจากที่ตงฮวนพูดก็ครุ่นคิด แผนของเขาดีมากเลยทีเดียว ตงฮวนเป็นเด็กฉลาด เขาสามารถฟังและวิเคราะห์ ได้อย่างดีเยี่ยม“แล้วจะไปสำรวจยังไง ไม่ใช่ว่าพวกเ
เช้าวันนี้มีประกาศจากทางการว่า มีแจ้งเบาะแสว่าพบเจออดีตฮ่องเต้ หลบหนีอยู่ที่หมู่บ้านไฉ่หลิน ทางการจึงจำเป็นต้อง ส่งคนไปตรวจสอบ อู่ถงรีบเข้ามารายงานอีกเช่นเคย เพราะเขามีหน้าไปจ่ายของที่ตลาด จึงพบเห็นทางการออกมาปิดประกาศข่าวสาร ให้ผู้คนได้รับรู้ “นายหญิงน้อย ดูเหมือนทางการจะออกมาติดประกาศแจ้งข่าวขอรับ” “แจ้งว่าอย่างไรหรือเจ้าคะ?” “แจ้งว่าพบเจอ อดีตฮ่องเต้หลบหนีไปอยู่แถว ๆ หมู่บ้านไฉ่หลินขอรับ” ซิ่วอิงจากที่กำลังผัดผัก ก็ต้องหยุดชะงักลงทันที ทางการคงอ้างเหตุผลนี้ เพื่อเข้าไปตรวจค้นสมบัติ ที่หมู่บ้านไฉ่หลินเป็นแน่ หากเป็นเช่นนี้ ก็หมายความว่า ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ยังไม่รู้เรื่องนี้ และดูเหมือนท่านเจ้าเมือง จะทำการปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ “แล้วยังมีข่าวอย่างอื่นอีกหรือไม่เจ้าคะ?” “ไม่มีแล้วขอรับ” เขาตอบเสร็จก็เดินไปยกของลงจากรถวัวเทียมเกวียน ซิ่วอิงจึงหันมาหาสหาย ที่ช่วยงานกันอยู่ในครัว “ท่านเจ้าเมืองคงเริ่มให้ทหารไปสำรวจพื้นที่แล้ว ข้าลืมบอกพวกเจ้าไป ก่อนหน้านี้ข้าได้ฝันเห็น วิญญาณของทุกคนที่จากไป บิดาของข้ายังบอกอีกว่า พื้นที่แถบนั้นมีสมบัติซ่อนอยู่” “จริงเหรอซิ่วอิง” หานเกอถามขึ
เฉินซีฮัน เฉินเจียวหมิง เฉินจางหย่ง ยังคงปูที่นอนบนพื้นข้างเตียงของพวกนาง ซิ่วอิง ลี่อินและเจียวจู หลังจากชำระร่างกายเสร็จ ก็ให้พี่อู่ถงและพี่อู่จิ้งมาเปลี่ยนน้ำให้ และให้พวกเขาเข้าไปชำระร่างกาย นางนึกเห็นใจสามพี่น้องสกุลอู่ ที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งและไม่ปริปากบ่น คงเพราะนางรับทุกคนมาอยู่ด้วย พวกเขาเลยรู้สึกเกรงใจ จึงพยายามทำงานทุกอย่างที่สามารถทำได้ แต่ตอนนี้มีคนมาเพิ่มแล้ว นางจะให้คนมาช่วยงานพวกเขา จะได้ไม่ไปหนักที่พวกเขาสามคนจนเกินไป ขนาดยามนี้ดึกมากแล้ว พวกเขายังทนรอรับใช้ นางรู้สึกซาบซึ้ง น้ำใจพวกเขาจริง ๆ อีกไม่นานเรือนพักก็จะสร้างเสร็จ ทุกคนจะไม่ต้องอยู่กันอย่างแออัดอีกต่อไป จวนที่ท่านปู่ให้คนมาสร้าง นางก็บอกช่างให้ทำใหญ่ไปเลย และมีเรือนแยกอีกหลายหลัง เพราะที่ดินกว้างมากจึงสามารถทำได้ ซิ่วอิงนอนคิดเรื่องราวจนผล็อยหลับไป พร้อมลี่อินและเจียวจู พวกเขาเมื่อออกมาจากห้องอาบน้ำ ก็มอง เด็กน้อยทั้งสามคนอย่างเอ็นดู เป็นเพียงเด็กแค่10ขวบ แต่ต้องมาทำอะไรมากมายเช่นนี้ โชคชะตาช่างเล่นตลกกับชีวิตคนเสียจริง พวกเขาล้มตัวลงนอนก่อนจะพากันหลับไป วันต่อมาที่โรงเตี๊ยมฟู่จิน วันนี้ทุกอย่างด
“ข้าว่าให้พวกเขาเข้าไปอยู่ในพื้นที่แห่งใหม่น่าจะได้” ตงฮวนเอ่ยขึ้นอย่างวิเคราห์ ซึ่งตรงกับความคิดของซิ่วอิงพอดี เพราะตอนนี้มีพื้นที่แห่งใหม่ที่ใหญ่และกว้างขึ้น แม้จะมีข้าวของเครื่องใช้เหมือนที่นี่ แต่ชีวิตของพวกเขาปลอดภัยแน่นอน “ท่านไปพาพวกเขามาเถิด ระวังตัวด้วยเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงเอ่ยบอกเจียวหั่ว “ขอรับ” เจียวหั่วจึงรีบใช้วิชาตัวเบากระโดดหายไปทันที “เรามากินอาหารกันเถอะ ข้าหิวจนจะกินคนได้อยู่แล้ว พี่จือไฉ่ พี่จือหยวน ข้ารบกวนไปยกโต๊ะเก้าอี้มาที่ครัวทีเจ้าค่ะ” “เดี๋ยวข้าไปช่วย” เฉินซีฮันเอ่ยขึ้น เพราะเวลานี้ฐานะเขาเปลี่ยนไปแล้ว เขาคิดว่าสิ่งไหนที่ช่วยนางได้เขาก็ยินดีช่วยทำ เฉินเจียวหมิงและเฉินจางหย่ง ต่างก็รีบออกไปช่วยยกโต๊ะเก้าอี๊เข้ามา พอทุกคนมานั่งกันครบแล้ว ซิ่วอิงก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเบิกบาน “วันนี้เป็นวันเกิดของข้า ลี่อิน เจียว ลี่อิน เจียวจู ตงฮวน หานเกอ พี่ซีฮัน พี่เจียวหมิงและพี่จางหย่ง แต่เพราะวันนี้ที่โรงเตี๊ยมยุ่งมากและพรุ่งนี้ก็ยังจะยุ่งอีก เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็กินกันพอประมาณ พอทุกอย่างลงตัวดีแล้ว พวกเราค่อยฉลองใหญ่กันเจ้าค่ะ” ซิ่วอิงให้ลี่อินชงชา เจียวจูและนางช่วยกันส
ทางด้านตระกูลเฟยยามนี้ เฟยเจินเฉิงตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริง บิดาเขาส่งคนไปใส่ร้ายโรงเตี๊ยมฟู่จิน เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบิดาเขา จะมีความคิดชั่วร้ายเช่นนี้ การแข่งขันในวันนั้น เขายอมรับความพ่ายแพ้แต่โดยดี และไม่เคยคิดโกรธเคืองผู้ชนะเลยสักนิด แต่มาวันนี้ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ใด ผู้คนต่างมองมาที่เขาด้วยสายตาตำหนิ พอเขาได้สอบถามถึงได้รู้ความจริง เขารู้สึกผิดหวังกับการกระทำของบิดาจนพูดไม่ออก เสียงผู้คนกล่าวถึงไม่ใช่มีเพียงตระกูลเฟย แต่ยังมีตระกูลจิน ที่กระทำการน่าละอายเช่นเดียวกัน พวกเขาเป็นอะไรกันไปหมด นางเป็นเพียงเด็กน้อยแต่มีความสามารถ ทุกคนควรให้การยอมรับ ไม่ใช่หาเรื่องใส่ร้ายกันเช่นนี้ นี่มันเข้าทำนองผู้ใหญ่รังแกเด็กชัด ๆ เมื่อเฟยเจินเฉิงกลับถึงจวน ก็ตรงไปหาบิดาและมารดาทันที เรื่องนี้เขาคิดว่า บิดาของเขาควรไปขอโทษ ทางโรงเตี๊ยมฟู่จิน ที่ทำให้ได้ความเสียหาย “ท่านพ่อ! ท่านทำแบบนี้ได้อย่างไรกันขอรับ ตอนนี้ผู้คนต่างพูดกันไม่หยุดปาก ถึงตระกูลเราที่ทำเรื่องน่ารังเกียจเช่นนั้น” เฟยเจินเฉิงเอ่ยด้วยสีหน้าผิดหวังและเจ็บปวดใจ “ข้าไม่ได้ตั้ง







