แชร์

บทที่ 0019

ผู้เขียน: หวานใจ
ดวงตาของซูหวั่นร้อนเผ่าขึ้นมา“ท่านพ่อ ท่านพ่อคิดว่าตัวเองขาพิการแล้วจะทำงานหาเลี้ยงพวกเราและท่านแม่ไม่ได้ใช่ไหมคะ?”

คงไม่ต้องคิด ซูเหลียนเฉิงจะต้องคิดแบบนี้อย่างแน่นอน

ในยุคสมัยนี้ เมื่อขาพิการและไม่รู้หนังสือก็เท่ากันเป็นคนไร้ค่าไปแล้ว และหากขาดแคลนแรงงานภายในบ้านไปก็เท่ากับว่าได้สูญเสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่ง

เมื่อเห็นว่าซูเหลียนเฉิงไม่พูดอะไร ซูหวั่นก็พูดเกลี้ยกล่อมต่อไปอีกว่า“หากท่านย่าต้องการแยกครอบครัว แต่ท่านพ่อยังคงดึงดันที่จะไม่แยกอยู่แบบนั้น มันก็รนแต่ทำให้พวกเราและท่านแม่ยิ่งจะอยู่ยากขึ้นนะครับ!”

ซูเหลียนเฉิงจ้องมองลูกสาวด้วยขอบตาที่แดงก่ำ

เขาไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำอย่างไรดี ตัวเขาไม่เอาไหนเลยสักอย่าง ลูกชายก็เป็นเด็กหัวช้าอีก ลูกสาวก็ผอมบาง ไม่มีใครที่จะสามารถพึ่งพาได้เลย

ปัก!

เขายกมือขึ้นและทุบไปที่เสื่อหญ้าด้วยความคับแค้นใจ และโทษที่ตัวเองไม่เอาไหน“อาหวั่น เพราะพ่อไม่เอาไหนเอง!”

“ท่านพ่อ ข้าขอสัญญาว่า ขอแค่ท่านพ่อตกลงที่จะแยกครอบครัวออกมา ข้าจะดูแลท่านแม่และน้องๆให้ดี โดยที่ขาของท่านพ่อก็จะต้องรักษาจนหายได้เช่นกัน ข้าเชื่อว่าเทพเจ้าจะไม่โกหกข้า”

ซูเหลียนเฉิงตกตะลึงขึ้นมาเล็กน้อย

และก็พยักหน้าอีกครั้ง“ได้ พ่อตกลงที่จะแยกครอบครัว พวกเรากลับไปกันเถอะ!”

เมื่อออกจากถ้ำจนมาถึงบ้านสกุลซูก็เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว เนื่องจากต้องดูแลซูเหลียนเฉิงตลอดการเดินทาง ซูหวั่นจึงขับเกวียนได้ช้าเอาเสียมากๆ

และก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ทันทีที่พวกเขาเดินเข้าประตูไป ยังไม่ทันได้ดื่มน้ำหรือพูดคุยกับนางหลี่เลยสักคำ ก็พบว่านางหวางได้เดินโยกย้ายส่ายสะโพกและมาตะโกนปาวๆอยู่ที่ประตูบ้านฝั่งตะวันออกแล้ว

นางหวางชะโงกหน้าเข้าไปมองภายในห้องอย่างลับๆล่อๆ“พี่รองพี่สะใภ้ ท่านแม่ให้มาตามพวกพี่ขึ้นไปบ้านใหญ่ รีบไปเถอะ อย่าให้ท่านรอนานเลยนะ!”

ซูเหลียนเฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอยู่ในใจ

ย่อมเข้าใจดีว่าเวลานี้ได้เรียกพวกเขาไปพบด้วยสาเหตุอะไร ซึ่งนางหลี่ก็ไม่ได้โง่ นางก็รู้ความหมายของเรื่องนี้ดี ดังนั้นนางจึงจูงมือเด็กทั้งสองคนให้เดินออกไปข้างนอก

“น้องสาม ให้พี่สามกับพี่ใหญ่มาแบกเขาสักหน่อย ตอนนี้พี่เฉิงยังเดินไม่ได้นะ”

นางหวางตอบรับว่าพวกเขากำลังมา แต่ในใจกลับรู้สึกกระแนะกระแหนขึ้นมา“ไม่ใช่เพราะเดินไม่ได้ แต่พิการแล้วเสียต่างหาก มีชีวิตรอดกลับมาได้ก็ถือว่าเป็นบุญแค่ไหนแล้ว จุ๊จุ๊!”

นางได้ยินเรื่องราวมาจากพ่อเฒ่าซูแล้วว่า ต้นไม้ที่ล้มมาทับซูเหลียนเฉิงนั้นใหญ่มาก โชคดีแค่ไหนแล้วที่มีชีวิตรอดกลับมาได้และไม่ตายอยู่ตรงนั้นเลย

และคนกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้าไปในห้องอย่างสง่าผ่าเผย

พ่อเฒ่าซูและแม่เฒ่าเซี่ยงนั่งอยู่บนเตียงอิฐไฟ และมองมายังซูเหลียนเฉิงที่นอนอยู่ไม้กระดานอย่างเย็นชา“เหลียนเฉิง เป็นยังไงบ้าง หมอบอกว่ายังไงบ้าง?”

“หมอบอกว่าขาของข้าคงไม่หายแล้ว”ซูเหลียนเฉิงพูดถ้อยคำที่หารือกับซูหวั่นมาก่อนหน้านี้แล้ว เขาพูดจริงบ้างเท็จบ้าง เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาไม่ได้ไปหาหมอเสียด้วยซ้ำ

ขาของเขาเอง เขาก็ต้องรู้อยู่แล้วว่ามันร้ายแรงขนาดไหน

ซูหวั่นบอกว่าขาของเขาสามารถหายดีได้ เขาก็ไม่แน่ใจเช่นกัน ทำได้แค่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และเมื่อคิดได้ดังนี้ เขาก็คอตกและรู้สึกหดหู่เอาเสียมากๆ

แม่เฒ่าเซี่ยงคิดเพียงแค่ว่ามันช่างอัปมงคลเสียจริงๆ และกระดานที่ซูเหลียนเฉิงนอนอยู่นั้นก็เป็นแผ่นเดียวกันกับตอนที่ซูหวั่นกระโดดน้ำตายในวันนั้น“ไม่เมื่อหายขาดไม่ได้ก็นำเงินอัดมาคืนข้าเสียสิ ดีกว่าจะทำหายนะ!”

แม่ของเขาไม่เคยถามไถ่เขาเลยสักคำ เพียงแค่ให้เขานำเงินเหล่านั้นมาคืนเสียก็เท่านั้น

ไม่ว่าซูเหลียนเฉิงจะกตัญญูสักแค่ไหน แต่ในเวลานี้เขาก็รู้สึกสั่นสะท้านในหัวใจขึ้นมาอยู่ดี หลายปีที่ผ่านมาเขาทำงานหนักมาโดยตลอด และเงินที่หามาได้ก็อยู่ในมือของแม่เฒ่าเซี่ยงทั้งหมดแล้ว!

เมื่อคืนเขารับเงินไปแค่สองตำลึงก็ถูกตามมาทวงเอาคืนเสียแล้ว

มีสิทธิ์อะไร?

ซึ่งซูหวั่นก็พูดเหน็บแนมออกมาด้วยว่า“ท่านย่า เงินสองตำลึงนั่นข้าเอาไปซื้อยาให้ท่านพอหมดแล้ว แม้ว่าขาของท่านพ่อจะไม่หายขาด แต่ร่างกายก็ต้องมียาพวกนี้มาบำรุงอยู่ ไม่งั้นเขาก็คงอยู่ต่อไม่ได้แล้ว ท่านย่าก็คงไม่อยากเห็นท่านพ่อต้องมาตายโดยไม่รักษาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”

“นังเด็กบ้านี่!”

แม่เฒ่าเซี่ยงถูกตอกกลับจนไปไม่เป็น จึงหยิบรองเท้าและเคว้งไปที่ซูหวั่น

หากเรื่องที่นางไม่ยอมรักษาลูกชายของตัวเองได้แพร่กระจายออกไปแล้วละก็ นางก็คงอยู่ในหมู่บ้านซีสุ่ยนี้ไม่ได้อีกแล้ว

นังเด็กบ้าคนนี้ช่างยั่วประสาทเสียจริงๆ!
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0478

    มีกลิ่นที่คุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ได้ปะทะที่ปลายจมูก พร้อมกับลมหนาวที่พัดเอาความเย็นเข้ามา "แม่นางซู" เสียงที่คุ้นเคยทำให้นางตื่นตกใจ นางหันกลับมาและผลักไป๋หลี่ชิงออกไป พร้อมกับพูดด้วยใบหน้าที่เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งว่า "ไป๋หลี่ชิง เป็นสุภาพบุรุษบนขื่อคาน มันสนุกมากเลยใช่ไหม?" ไป๋หลี่ชิงถอยห

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0477

    "ซู่ซู่——" ลมหนาวพัดมากระทบกับใบหน้าของคนทั้งสอง จนรู้สึกเจ็บอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ กิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ริมทางแกว่งไปมาสองสามครั้ง ทำให้หิมะไหลตามใบไม้และตกลงสู่พื้นเสียงดังเปาะแปะ ซึ่งเมื่อตกลงไปในพื้นที่หิมะที่กว้างใหญ่แล้วนั้น มันก็ทำให้รู้สึกหนาวเหน็บเป็นอย่างมาก พ่อเฒ่าซูพูดคัดค้าน

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0476

    เมื่อซูเหลียนเฉิงและซูลิ่วหลางเข้ามาในห้อง นางก็เอื้อมมือไปบีบเอวของซูฉางโซว่ อย่างดุเดือด แล้วพูดคำรุนแรงออกมาว่า "เจ้ามีสมองหรือเปล่า ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าต่อต้านบ้านรอง ทำไมไม่ฟังเลยล่ะ?" ซูฉางโซว่ไม่ได้จริงจังกับมัน และพูดด้วยรอยยิ้ม "เมียจ๋า เจ้าจะกลัวเขาไปทำไม แล้วอีกอย่าง พี่รองก็ไม่ไ

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0475

    เมื่อซูหวั่นได้ยินดังนั้นจึงเดินออกไป หมูถูกแบ่งและแต่ละชิ้นมีขนาดเท่ากัน ขั้นแรกนางโรยเกลือบนเนื้อแต่ละชิ้นแล้วเกลี่ยให้ทั่วเนื้อแต่ละชิ้นแล้วใส่ในขวดเพื่อหมัก หลังจากผ่านไปสองสามวันก็สามารถนำไปแขวนบนฟืนและรมควันได้ หมูและเศษหมูหนักประมาณหนึ่งร้อยกิโลกรัม ซูหวั่นเก็บไว้ยี่สิบห้ากิโลกรัม

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0474

    แม่เฒ่าเซี่ยงได้ยินนางพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของนางก็อ่อนลง นางกังวลและพูดว่า "ฉางอานอายุมากขึ้นแล้ว เขาควรจะหาภรรยาหลังจากการสอบในฤดูใบไม้ผลิ ตราบใดที่เขามีชื่อเสียงในซิ่วไฉ ผู้หญิงที่สูงศักดิ์พวกนั้น เขาก็เลือกได้ตามใจชอบไม่ใช่หรือ?" นางจางแอบพึมพำอยู่ในใจว่าสตรีผู้สูงศักดิ์ทุกคนต้องการแต่ง

  • ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา   บทที่ 0473

    ซูซานหลางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "ตอนแรกท่านป้าไม่เห็นด้วย แต่ต่อมานางก็ผ่อนคลายเมื่อได้ยินว่าครอบครัวมีวิธีที่จะให้พี่รองกลายเป็นซิ่วไฉได้" ที่แท้ก็เพราะแบบนี้นี่เอง รายชื่อที่จะเข้าสอบซิ่วไฉเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก นอกจากนี้ ซูเอ้อหลางยังอยู่ในคุกซึ่งเทียบเท่ากับการสิ้นสุดอาชีพการงานของเข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status