Share

ตอนที่ 2 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

Author: บ.บี
last update Last Updated: 2025-07-01 23:16:23

“ตามจริงแล้วหลานสาวเจ้าก็น่าสงสารอยู่ไม่น้อยเลยนะต้าซุน นางเพิ่งจะสิบห้าแต่ภรรยาเจ้ากลับส่งนางให้ออกเรือนไปกับคนรุ่นปู่ นั่นก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร ในเมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้แล้ว ไม่สู้..เจ้าก็ล้มเลิกการแต่งงานนี้ครั้งนี้ไปก่อนเถิด”

“ไม่มีทาง!! คนก็อยู่ตรงนี้ ตาเฒ่านี้ไม่รับเอาตัวนางไปเองมันเป็นความผิดของข้าเช่นนั้นหรือ ตอนนี้ทุกคนก็รู้กันไปทั่วแล้วว่ากู้ชิงเหอกำลังจะออกเรือน หากต้องให้นางเป็นหม้ายตั้งแต่ยังไม่ทันได้ออกจากหมู่บ้านพวกเจ้าคิดว่ามันยุติธรรมกับหลานสาวของข้าแล้วหรือไร” 

ชาวบ้านหลายคนพากันหน้าเสีย คำกล่าวของหวางชุ่นฮวาก็มีเหตุผลอยู่ ถ้ากู้ชิงเหอถูกปฏิเสธการแต่งงานจนถึงขั้นต้องคืนสินสอดกันก็น่าสงสารอยู่ไม่น้อย

แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า หากเป็นผู้อื่นกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นออกมาพวกเขาคงจะช่วยกันออกหน้าบังคับให้ผู้เฒ่าหลู่เอาตัวเจ้าสาวกลับหมู่บ้านไปให้ได้ 

แต่เมื่อมันออกมาจากป้าสะใภ้ที่เห็นแก่ตัวและปากร้ายอย่างหนักเช่นนางหวางซื่อ เป็นไปไม่ได้เลยที่นางจะห่วงชื่อเสียงของหลานสาวสามีมากกว่าหวงเงิน!!

ที่สำคัญ! ตาเฒ่าตัณหากลับนั่นก็ไม่สมควรจะได้ตัวกู้ชิงเหอไป!

“อยากได้เงินคืนเรอะ!! ฝันไปเถิด ข้าไม่มีให้!!” หวางชุ่นฮวาเถียงคอเป็นเอ็น เงินเข้ามาอยู่ในปากนางแล้ว จะให้นางคายออกมาง่ายๆ น่ะเหรอ? ไม่มีทาง!!

“ก็ได้!! ถ้าพวกเจ้าไม่ยอมคืนเงิน ข้าก็จะเอานางไปขายให้หอนางโลม! ดูสิว่าสกุลกู้ของเจ้าจะทนอับอายได้หรือไม่!”

กู้ต้าซุนถลึงตาโตพร้อมกับถลาเข้าไปหาผู้เฒ่าหลู่ เขายอมรับว่ายามนี้เงินมีค่ามากกว่าหลานสาว แต่ผู้เฒ่าหลู่มาประกาศต่อหน้าผู้คนว่าจะขายนางไปอยู่ในซ่องนางโลม หยามเกียรติคนสกุลกู้เกินไปแล้ว!!

เสียงก่นด่า เสียงกรีดร้องและเสียงห้ามปรามของคนหลายคนทำให้กู้ชิงเหอที่ยังสับสนอยู่เมื่อครู่รู้สึกอยากจะอาเจียนขึ้นมา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ดูเหมือนว่านางจะเคยรับรู้มาก่อนแล้ว นี่มันฉากหนึ่งในนิยายที่นางอ่านเล่นเมื่อสองวันก่อนชัดๆ!!

วันนั้นเป็นวันที่นางกับเพื่อนๆ มาฉลองวันจบการศึกษาด้วยกัน

ขณะที่นั่งดูเพื่อนในกลุ่มร้องคาราโอเกะและถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน นางหยิบนิยายที่มีคนวางทิ้งไว้ในห้องคาราโอเกะขึ้นมาพลิกดูเล่นๆ ชื่อตัวละครตัวหนึ่งที่ปรากฏนิยายเรื่องนั้นทำให้นางสนใจอ่านมันทันที

ถึงแม้นางจะอ่านแบบข้ามๆ แต่ก็ให้ความสนใจกับตัวละครตัวนี้ไม่น้อย เพราะตัวละครประกอบตัวนั้นมีชื่อแซ่ว่า “กู้ชิงเหอ” ซึ่งตรงกับนางเป๊ะๆ!!

บิดามารดาของกู้ชิงเหอในนิยายเสียชีวิตไปแล้ว นางกับน้องชายจึงถูกครอบครัวของท่านลุงกู้ต้าซุนรับมาเลี้ยงดูเอาไว้แทน 

แรกๆ ท่านลุงก็เอ็นดูสองพี่น้องด้วยความสงสาร แต่พอนานวันเข้า เขาก็ถูกภรรยาปั่นหัวจนเริ่มรู้สึกว่าหลานทั้งสองเป็นภาระ และปล่อยให้หวางชุ่นฮวาจัดการเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของสองพี่น้องเพียงลำพัง

เมื่อบ้านเมืองเกิดภัยแล้งผลผลิตในไร่นาเก็บเกี่ยวไม่ได้ตามเป้าหมาย ป้าสะใภ้ใจร้ายก็คิดจะเอาตัวนางแลกกับสินสอดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!!

“นี่ฉัน..อย่าบอกนะ! เอาจริงเหรอ?” หญิงสาวรำพันออกมาเป็นชุด จนคนตัวสูงที่ยืนปั้นหน้านิ่งอยู่ข้างๆ ถึงกับต้องหลุบตาลงมามองนางด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นนางพูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่อง

หญิงสาวตกใจจนหน้าซีดเผือด หากนางทะลุมิติเข้ามาอยู่ในโลกนิยายจริงๆ ก็เท่ากับว่าอุบัติเหตุในรถแท็กซี่ในชีวิตจริงของนางได้คร่าชีวิตนางไปแล้วใช่หรือไม่!

นางทดลองหยิกไปที่หลังมืออีกข้างของตัวเองแรงๆ 

เจ็บ..นางไม่ได้ฝันไป! นางทะลุมิติเข้ามาในนิยายที่เคยอ่าน!

ทีแรกนางก็คิดว่าตนเองคงได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนปวดหัวลืมตาไม่ขึ้น แต่นี่มันไม่ใช่!!

ฉากนี้เป็นช่วงที่ตัวละครกู้ชิงเหอกำลังถูกขายให้ไปเป็นภรรยาของชายแก่คราวปู่ นางทั้งเสียใจและน้อยใจในโชคชะตาอันอาภัพของตนเองจนตัดสินใจคิดสั้น

การที่ร่างกายนางรู้สึกอ่อนล้าไม่มีเรี่ยวแรงก็เป็นเพราะกู้ชิงเหอผู้นี้ต้องอดมื้อกินมื้อมาเป็นเวลานานจนร่างกายผ่ายผอมนั่นเอง

ไม่แปลกแล้วว่าทำไมคนรอบตัวนางถึงได้แต่งตัวเช่นนี้! 

หญิงสาวหันกลับไปมองทางด้านหลังของตนเอง นางเห็นลำธารสายเล็กที่น้ำแห้งขอด เลยไปอีกนิดก็เป็นสะพานไม้ที่เป็นปากทางเข้าสู่หมู่บ้านเกาซานตามที่นิยายบรรยายเอาไว้ทุกประการ

ก้มลงมองร่างกายของตนเอง นางพบว่ายามนี้นางตัวหดเล็กลงไม่น้อย ตัวจริงของนางในอีกโลกอายุ 21 ปีแล้ว แต่กู้ชิงเหอในนิยายนางจำได้ว่าเพิ่งจะสิบห้า ถึงกระนั้นร่างเล็กนี้ก็ผ่ายผอมเกินจินตนาการ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นางทะลุมิติเข้ามาในโลกนิยายที่ไม่มีอยู่จริง!!

นางไม่มีเวลาจะคิดถึงตัวตนในอีกโลกหนึ่งของตนด้วยซ้ำ เพราะเหตุการณ์ข้างหน้านี่มันน่าตกใจยิ่งกว่า

หนี! หนีไปตั้งหลักก่อน! นี่เป็นเพียงความคิดเดียวที่ผุดขึ้นมาในสมองเล็กๆ ของนาง 

ท่าทางดิ้นรนพยายามจะตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนของหญิงสาว ทำให้เจียงเหยียนเด็กสาววัยสิบสามที่คอยเป็นห่วงนางอยู่ใกล้ๆ รีบคว้าตัวนางเอาไว้

“พี่สาวไม่ต้องกลัวเจ้าค่ะ พี่ใหญ่ของข้าเป็นถึงซิ่วไฉ ไม่มีใครขายท่านไปที่ไหนได้ทั้งนั้น” เด็กสาวหันไปทางพี่ชายสีหน้าภาคภูมิใจ

“ใช่หรือไม่พี่ใหญ่ ท่านช่วยนางได้ใช่หรือไม่เจ้าคะ”

ถึงตรงนี้คนของผู้เฒ่าหลู่ที่เดินทางมาด้วยอีกสี่คนก็ชะงักไป แม้ซิ่วไฉจะยังไม่ได้ถูกระบุให้เป็นขุนนาง แต่ความรู้ของชายหนุ่มตรงหน้าต้องมีมากกว่าชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกตนแน่ๆ การกระทำของเฒ่าหลู่ผิดจริงใช่หรือไม่?

กู้ชิงเหอจะหนีก็หนีไม่ได้ จะอยู่ก็ไม่ควร นางตกใจจนคิดอยากจะกลั้นใจตายไปอีกสักรอบ!!

นางหันไปมองตาเฒ่าชราที่ยืนทำสีหน้าบึ้งตึงคราวหนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองบุรุษหน้านิ่งที่เวลานี้ยังไม่ปริปากออกมาสักคำด้วยสายตาหวาดกลัว

ไม่ได้! นางจะไปที่ไหนกับใครไม่ได้ทั้งสิ้น! 

หญิงสาวตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติ นางต้องเอาตัวรอดจากเหตุการณ์ตรงหน้านี้ให้พ้นไปเสียก่อนจึงจะมีเวลาคิดทบทวนเรื่องอื่น!

นางพยายามลากร่างของตนไปเบื้องหน้าของสตรีร่างใหญ่ผู้เป็นเจ้าของไฝใต้คางเม็ดโต

“ป้าสะใภ้ ข้าขอร้องท่านเจ้าค่ะ ท่านคืนเงินให้ผู้เฒ่าหลู่ไปเสียเถิด เอาไว้ช้าจะหาหนทางหาเงินมาชดใช้ให้ท่านเองนะเจ้าคะ ข้ายังไม่อยากออกเรือนไปตอนนี้”

กู้ชิงเหอร่ำไห้ออกมาจริงๆ ทั้งหวาดกลัว ทั้งสังเวชตัวเองที่ต้องฝืนทำท่าทางราวกับเป็นคนโบราณเช่นนี้ โชคดีที่นางดูละครมาไม่น้อย จึงยังรู้จักวิถีชีวิตและคำพูดแบบคนในยุคก่อน

บ.บี

- ซิ่วไฉ การสอบซิ่วไฉ (秀才) เป็นการสอบรอบแรกของการสอบคัดเลือกขุนนางชั้นต้นในระดับท้องถิ่น ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับคุณวุฒิ "ซิ่วไฉ" และถือว่าเป็นบัณฑิตขั้นต้น เจียงเหิง มีแซ่เจียงชาวบ้านเลยเรียกว่าเจียงซิ่วไฉ

| 1
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 70 ข่าวใหญ่

    อีกด้าน เกวียนไม้ที่บรรทุกตัวอย่างดอกฝ้ายสีขาวสะอาดกล่องหนึ่งแล่นออกจากหมู่บ้านเกาซานไปตามถนนลูกรังเจียงเหิงนั่งบังคับเกวียนอยู่ด้านหน้า ส่วนสวี่อี้หมิงนั่งข้าง ๆ ถือสมุดบัญชีและห่อเอกสารที่หูซุนจ่างจัดเตรียมให้สำหรับยื่นรายงานต่อทางการ“กังวลหรือ?” สวี่อี้หมิงถามยิ้มๆ“ข้ากำลังคิดถึงเรื่องราคาของฝ้ายอยู่ขอรับ ยามนี้บ้านเมืองต้องการธัญพืช เรื่องเครื่องนุ่งห่มอาจจะเป็นเรื่องรอง ฝ้ายมู่เหมี่ยนขายได้ชั่งละไม่ถึงสิบอีแปะเลยด้วยซ้ำ เทียนจูเหมี่ยนก็คงไม่ต่างกันเท่าใดนัก”“เจ้าคิดผิดแล้ว” สวี่อี้หมิงส่ายหน้า “ฝ้ายเทียนจูเหมี่ยนเป็นของพระราชทาน ฮ่องเต้ถึงกับให้ส่งเมล็ดไปทั่วแคว้น แต่สองปีแล้ว...ยังไม่มีผู้ใดเพาะขึ้นได้สักคน เจ้าคิดว่าหากเมล็ดพันธุ์ฝ้ายนี้ไม่สำคัญจริงๆ ราชสำนักจะยังเพียรพยายามอยู่อีกหรือ?" เจียงเหิงได้ยินดังนั้นก็มีกำลังใจขึ้น เพราะคนในหมู่บ้านกลุ่มที่เลือกเพาะปลูกฝ้ายลงทุนลงแรงไปไม่น้อย หากขายไม่ได้ราคาอาจจะสร้างปัญหาให้กับครอบครัวของตนและหูซุนจ่างที่ช่วยกันผลักดันให้ทุกคนปลูกฝ้ายชนิดนี้ เสียงล้อไม้บดกับพื้นดินดังกรอบแกรบไปตลอดทางเมื่อถึงตัวเมือง ทั้งสองหยุดเกวียนหน้าประต

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 69 ก่อกวน

    เช้าวันถัดมา เจียงเหิงกับสวี่อี้หมิงออกเดินทางเข้าเมืองกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ส่วนที่เรือนใหม่ กู้ชิงเหอก็พาน้อง ๆ ออกไปช่วยกันเก็บฝ้ายในแปลงท้ายหมู่บ้านนางมองดูท่านปู่เจียงกับท่านย่าเหยาที่ช่วยกันเด็ดปุยฝ้ายสีขาวใส่ลงในตะกร้าอย่างคล่องแคล่วด้วยความรู้สึกยินดี ผู้อาวุโสทั้งสองเปลี่ยนแปลงไปจากที่นางเคยพบครั้งแรกไปราวกับเป็นคนละคนกัน แม้แต่เจียงเสี่ยวเหวิน ที่แต่ก่อนมักตื่นสายและหาข้ออ้างเลี่ยงงานสารพัด ก็ยังรีบมาช่วยเก็บฝ้ายตั้งแต่เช้ามืดเช่นกัน“พี่ใหญ่ ฝ้ายนี่นุ่มจริงๆ !” กู้ชิงฉีกล่าวพลางยกปุยนุ่มขึ้นมาอวด ใบหน้าเขาเปื้อนเหงื่อแต่เต็มไปด้วยความภูมิใจยังไม่ทันที่กู้ชิงเหอจะเอ่ยตอบ เสียงแหลมของหญิงสูงวัยก็ดังขึ้นจากอีกฟากของลาน“ฮึ! ฝ้ายของพวกเจ้ายังไม่รู้ว่าจะขายได้กี่อีแปะก็รีบยิ้มร่ากันเสียแล้ว ระวังจะผิดหวังเล่า”กู้ชิงเหอเงยหน้าขึ้น เห็นกู้ต้าซุนกับหวางซื่อเดินเข้ามาอย่างถือดี ปากยังคงพ่นถ้อยคำเยาะเย้ยไม่หยุด“ข้าล่ะสงสารพวกเจ้าจริง ๆ เหนื่อยทั้งวันก็คงได้เงินกลับมาไม่พอซื้อน้ำชาสักถ้วย!” หวางซื่อหัวเราะเสียงดังลั่น เจียงเหยียนกับเจียงเสี่ยวเหวินที่ช่วยเก็บฝ้ายอยู่ใกล้ๆ พากันหย

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 68 เส้นทางที่เริ่มชัดเจน

    “ไม่ใช่ความผิดของท่านขอรับ… ตอนนี้ท่านก็ได้พบพวกเราแล้ว ท่านพ่อ ท่านแม่คงจะดีใจนัก” เจียงเหิงพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น“ข้าไม่ใช่คู่ต่อกรของศัตรูเหล่านั้น ในสภาพอย่างวันนี้” สวี่อี้หมิงตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยความขมขื่นคล้ายคำสารภาพของคนที่ต่อสู้มานาน“เจ้าต้องสอบเป็นขุนนางให้ได้! อำนาจและบารมีเท่านั้นที่จะทำให้ผู้คนสยบลงแทบเท้าเจ้า วันนั้นเจ้าจึงจะมีโอกาสล้างแค้นให้สกุลกวาน!” เจียงเหิงรับคำ แม้มันจะไม่ใช่ความคิดใหม่สำหรับเขา ที่ผ่านมาเขาวาดรูปแบบความสัมพันธ์ในอดีตของทุกคนที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกวานลงแผ่นกระดาษเอาไว้ และเขาก็คิดเช่นกันว่าหากไม่มีเงิน..ก็ต้องมีอำนาจ! จึงจะทำอะไรต่อไปได้“อาจารย์ข้าผ่านการสอบระดับซิ่วไฉแล้ว แต่กลับไม่สามารถเข้าร่วมสอบจวี่เหรินเมื่อสองปีก่อน ครั้งนี้ข้าจะทำให้สำเร็จ” ดวงตาของเจียงเหิงเลื่อนไปมองเงาร่างที่เคลื่อนไหวอยู่ในครัว กู้ชิงเหอ ผู้อยู่เบื้องหลังความเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในชีวิตของเขา เมื่อนึกย้อนกลับไปหลายเดือนก่อน คำพูดเช่นนี้เขาคงยังไม่กล้าพูดออกมาเต็มปากแต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว กู้ชิงเหอทีเข้ามาเปลี่ยนชะตาชีวิตอันแร้นแค้นของตนแ

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 67 ข่าวแรกในรอบแปดปี

    เจียงเหิงกัดฟันแน่น เจียงไห่สามีของแม่นมหายตัวไปจริง แต่คนที่แม่นมลั่วคิดจะออกไปตามหาในเวลานั้นไม่ใช่เขาในปีนั้น กวานจิ้งหยวน บิดาที่แท้จริงของเขาถูกผู้มีอำนาจใส่ความว่ากบฏ จึงรีบส่งคนมาบอกให้มารดาของเขารีบหนีออกจากจวนโดยด่วนระหว่างทาง รถม้าที่พวกเขาโดยสารถูกคนร้ายติดตามไม่ลดละ ทหารที่คุ้มกันจำต้องลวงศัตรูให้แยกไปอีกทางปล่อยให้สามแม่ลูกหลบหนีมาพร้อมกับลั่วหลินและบุตรสาวของนางแต่ก่อนจะถึงหมู่บ้านเกาซาน รถม้ากลับลื่นตกเหว แม่นมลั่วคว้าตัวเจียงเหยียนไว้ได้ทัน ส่วนเขาก็กระเด็นออกมาอยู่บนพื้นดิน… ทว่าเบื้องล่างเหวนั้นกลับกลืนร่างของ จางเหยามารดาของตนและบุตรสาวของแม่นมไปพร้อมกันลั่วหลินในเวลานั้นมิใช่ไม่อยากเสี่ยงชีวิตลงไป แต่เหวลึกชันนัก ต่อให้เดินอ้อมภูเขาหลายลูกเพื่อหาทางลงไปถึงก้นเหวก็ไม่รู้ว่ากว่าจะไปถึงจะยังเหลือสิ่งใดให้ค้นหา พวกเขาสามคนนั่งร่ำไห้อยู่บนปากเหวอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร แม่นมลั่วสูญเสียบุตรสาว ตัวเขาเองก็เสียใจที่เห็นมารดาตกเหวลึกไปต่อหน้า แต่เจียงเหยียนนั้นอาการหนักที่สุด นางตกใจอย่างรุนแรงตาค้างจนหมดสติ สุดท้ายแม่นมลั่วก็ต้องกัดฟันพาเขาและน้องสาวเดินทางต่อจนถึงหมู่บ

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   ตอนที่ 66 วาจาเป็นอาวุธ

    สวี่อี้หมิงไม่เพียงไม่ยอมตามน้ำ หากยังตอกย้ำเสียงดังฟังชัด“เมื่อครู่ข้าเพิ่งมอบเงินร้อยตำลึงให้นางหนูนั่นใช้ขยายเรือน เงินนั่นยังมากพอจะซื้ออุปกรณ์การเรียนให้เด็กๆ ในหมู่บ้านได้อีกด้วยซ้ำ ข้าจะอยู่ตรงไหนก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนให้ผู้ใดมาจัดหา”กู้ชิงเหออ้าปากตาค้าง ดวงตากลมเบิกโพลง นางนึกว่าเงินนั้นได้มาเปล่าๆ ที่ไหนได้ กลายเป็นว่าต้องใช้สร้างเรือน ต้องจัดหาอาหารการกินเลี้ยงดูท่านผู้สูงส่งผู้นี้ แล้วยังต้องแบกรับภาระซื้อของแจกเด็กๆ อีก! หากมิใช่ว่านางยังหวังจะให้เขาช่วยชี้แนะเจียงเหิงในเรื่องการสอบจวี่เหรินที่ใกล้จะมาถึง นางคงตะเพิดเขาออกไปตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว!!ฝ่ายหลี่ซื่อ เมื่อได้ยินว่าเงินก้อนโตถึงร้อยตำลึงไปตกอยู่ในมือของกู้ชิงเหอ ดวงตาก็ลุกวาวด้วยความโลภทันที ความอิจฉาผสมโกรธจนอกแทบระเบิด นางรีบแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยสวี่อี้หมิง“เอาเงินตั้งร้อยตำลึงไปไว้กับเด็กสาวไม่รู้ประสาเช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรจากเอาไปเผาไฟเล่นหรอกเจ้าค่ะ! ไม่สู้มอบมาให้ข้าจัดการเถิด รับรองจะทำได้ดีกว่า”นางปรายตามองกู้ชิงเหออย่างเยาะหยัน ก่อนเอ่ยต่อราวกับตัดสินแทนทุกคน“อย่างไรก็สกุลเจียงด้วยกันทั้

  • ทะลุมิติมาเป็นฮูหยินของกังฉินผู้เย็นชา   โอกาสที่ไม่ได้มีในนิยาย

    “ท่านแม่! ท่านมาวุ่นวายอะไรที่นี่!” เจียงเสี่ยวเหวินรีบเข้ามาแทรกอยู่ตรงกลาง บดบังสายตาของเจียงเหิงไว้ ทำให้เจียงเหิงต้องพยายามทำใจให้เย็นลง ต่อให้เขาเกลียดสตรีผู้นี้เพียงใด นางก็เป็นมารดาของเจียงเสี่ยวเหวินอยู่ดีหลี่ซื่อค้อนบุตรชายทีหนึ่ง แต่ไม่กล้าบ่นอะไรมากต่อหน้าเจียงเหิง นางจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แล้วเปลี่ยนเรื่อง“ข้าได้ยินท่านย่าเจ้าบอกว่ามีขุนนางเข้ามาตรวจสอบฝ้ายมิใช่หรือ? ข้าอยากมาถามให้แน่ใจว่าฝ้ายพวกนี้จะขายได้ราคาดีจริงหรือไม่น่ะสิ” ชาวบ้านที่ติดตามลูกๆ ของตนมาด้วยทำสีหน้างุนงง เจียงเสี่ยวเหวินวิ่งออกไปบอกกับสหายของเขาในหมู่บ้านว่ายามนี้มีอาจารย์จากเมืองหลวงมาพักอยู่ที่เรือนเจียงซิ่วไฉ และยังจะสอนหนังสือให้เขากับกู้ชิงฉีด้วย เด็กๆ อยากเห็นอาจารย์จากในวังจึงได้ตามเสี่ยวเหวินมา ส่วนพวกตนที่ได้ยินข่าวก็เดินตามมาด้วยหวังจะมาเคารพท่านอาจารย์จากในเมืองสักครั้ง แต่เหตุใดหลี่ซื่อจึงบอกว่าคนผู้นั้นเป็นขุนนางที่มาตรวจสอบฝ้ายเล่า? “ขุนนางตรวจสอบฝ้ายอันใดกันหลี่ซื่อ? บุตรชายเจ้าบอกว่าที่เรือนของเจียงซิ่วไฉมีท่านอาจารย์มาพำนักอยู่ด้วยต่างหาก!” สตรีนางหนึ่งตำหนิ เกรงว่าคำพูดไม่รู้ควา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status