ไป๋จ้าวเหม่ยรอจนสองพ่อลูกกินอาหารกันเสร็จแล้ว จึงได้เดินออกจากห้องเพื่อมาเก็บโต๊ะ ตอนแรกเธอก็นั่งช่วยคีบอาหารให้กับซวนซวนนั่นแหละ แต่เพราะเธอไม่ได้กินอาหารด้วย ทั้งคู่จึงดูเกร็ง ๆ เพื่อไม่ให้อาหารที่ตั้งใจทำถูกเมิน หญิงสาวจึงเดินเข้าไปในห้อง
“น้าอวบ...เอ่อ...น้าไม่ต้องเก็บหรอก”
“ฉันกับซวนซวนจะเก็บกันเอง เธอไปพักเถอะ” ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าเดินกลับเข้าไปในห้อง เธอเริ่มปูเสื่อเพื่อออกกำลังกายก่อนนอนอีกรอบ อย่างน้อย ๆ ขอสัก 30 นาทีก็ยังดี ทว่าแค่เพียงเริ่มนอนราบกับพื้น ยกเข่าตั้งชัน ยันสะโพกขึ้น เธอก็ต้องนิ่วหน้าร้องโอดโอยเสียงดัง
“ให้ตายเถอะ ร่างอ้วน ๆ ร่างนี้ อ่อนแอเกินไปแล้ว ซี้ด”
“เธอยังจะทำท่าประหลาด ๆ นั่นอีกเหรอ” เสียงทุ้มติดรำคาญเอ่ยถาม พร้อมกับกอดอกมองหญิงสาวที่นอนราบอย่างหมดสภาพ
เพราะเสียงร้องของไป๋จ้าวเหม่ยดังออกไปนอกห้อง สองพ่อลูกจึงรีบวิ่งกลับเข้ามาในห้อง ไม่รู้ว่าครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้นจะสร้างเรื่องเรียกร้องความสนใจ หรือว่าจะหมดแรงล้มหัวฟาดไปอีก ก็ใครใช้ให้เธอไม่กินข้าวกัน แต่เมื่อทั้งคู่เข้ามาดู กลับเห็นคนไม่เจียมตัวนอนทำท่าประหลาด ๆ อยู่บนเสื่อเหมือนเดิมอีกแล้ว
“ท่าประหลาดบ้าบออะไร ฉันบอกว่าพิลาทิสไง”
“เอาเถอะ ๆ จะพิลาทิส พาลาแกะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ฉันคิดว่าวันนี้เธอควรจะงดไปก่อน แล้วก็รีบเข้านอนได้แล้ว พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงาน อย่าทำเสียงดังล่ะ ไปนอนกันเถอะซวนซวน” ตำหนิไป๋จ้าวเหม่ยจบ ก็ย่อตัวลงมาอุ้มลูกสาว ทว่าอู๋ชิงซวนกลับส่ายหน้า
“พ่อไปนอนก่อนเลยค่ะ หนูมีเรื่องจะคุยกับน้าอวบค่ะ”
“เอ๋...อย่างนั้นหรอกเหรอ ได้! ถ้าอย่างนั้นก็อย่าช้าล่ะ พ่อไปนอนรอนะ”
“ค่ะ” อู๋เหวยไม่ลืมปิดประตูห้องให้กับคนทั้งคู่ เขาไม่ได้รังเกียจหากลูกสาวจะสนิทกับไป๋จ้าวเหม่ย ถ้าคนทั้งคู่สนิทกันก็ดีแล้ว เพราะอย่างไรซวนซวนก็อาศัยอยู่กับไป๋จ้าวเหม่ยทั้งวัน ซึ่งเวลาที่อยู่กับเขามีเพียงแค่กลางคืนและวันหยุดเท่านั้น
“เธอมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอเด็กน้อย” ไป๋จ้าวเหม่ยพลิกตัวมานอนคว่ำบนเสื่อ อู๋ชิงซวนยังไม่ทันได้พูด สายตาก็มองไปเห็นชุดเล็ก ๆ บนโต๊ะเสียก่อน เธอรีบวิ่งเข้าไปคลี่ดู
“น้าเย็บชุดให้ฉันอีกแล้วเหรอคะ เด็กผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่คนที่ถือเค้กนี่ แต่น้าบอกว่าจะทำเค้กให้ฉันกินไม่ใช่เหรอ ตกลงจะทำให้กินเมื่อไรคะ แล้วเด็กคนนี้คือใคร”
“ฉันจะตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะ เธอเล่นถามรัวขนาดนั้น”
ไป๋จ้าวเหม่ยหัวเราะขำ เด็กหญิงตัวน้อยหน้าแดงซ่านเพราะความเขิน แต่กระนั้นมือก็ไม่ยอมวางชุดลง เธอชอบมันอีกแล้ว ชอบมากเหลือเกิน หากแม่เลี้ยงไม่ได้ทำให้เธอล่ะ ไม่ใช่ว่าเดี๋ยวนี้เธอเห็นพี่เสี่ยวเจินชอบมาคุยเล่นกับน้าอวบบ่อย ๆ หรอกหรือ ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนและหวาดกลัว
“โธ่ทำไมทำหน้าแบบนั้น ฉันยังไม่ได้ดุเธอสักคำ ชุดนั้นฉันตัดให้เธอ ชุดในตู้ของเธอมีแค่สี่ชุด และอีกสามชุดก็เก่ามากแล้ว ปะอีกไม่ไหวหรอก เด็กหญิงในชุดฉันปักเป็นรูปเธอย่อส่วนน่ะ ดูดี ๆ สิเหมือนไหม ส่วนเค้กฉันต้องทำเตาอบก่อนน่ะ”
อู๋ชิงซวนได้ยินแค่ว่าเด็กในรูปคือเธอ นอกนั้นเธอก็ไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว เพราะตอนนี้ในสายตาก็เอาแต่จ้องมองเด็กผู้หญิงที่อยู่ตรงอกเสื้อ เด็กผู้หญิงคนนั้นคือเธอเอง และหากให้เดาละก็
“สองตัวนี้คือเสี่ยวจงกับเสี่ยวถิงหรือคะ มันน่ารักมากเลย”
“ใช่เธอกำลังให้อาหารเสี่ยวจงกับเสี่ยวถิงยังไงล่ะ เอาละเด็กน้อยฉันต้องเก็บรายละเอียดอีกเล็กน้อย แล้วถึงจะให้เธอได้ ตกลงเธอมีอะไรจะคุยกับฉันกัน”
“อ้อใช่...หนูลืมไปเลยค่ะ นี่ยาชาแก้ฟกช้ำ หนูไปซื้อจากเหล่าเซียวมา ใช้ดีมากน้าทาที่ก้นน้านะ ทีหลังอย่าฆ่าตัวตายเลย ย่าเคยบอกว่า คนเรากว่าจะเกิดมาเป็นคนได้ ไม่รู้ต้องสั่งสมบุญมากี่ภพชาติ ชีวิตมนุษย์แสนสั้น ควรจะรักษาเอาไว้ให้ดี”
“ย่า?”
“ค่ะ ย่าเยว่ผิงอัน แม่ของพ่อไงคะ ก่อนที่ย่าจะไปอยู่ที่หมู่บ้านลั่วจง ก็ยังสั่งพ่อให้ทำดีกับน้า แล้วก็สั่งน้าไม่ให้เอาแต่ใจอีก จำไม่ได้เหรอ”
“แน่นอนว่าจำได้อยู่แล้ว และก็” ไป๋จ้าวเหม่ยชูขวดยาที่มีน้ำสีเขียว ๆ ข้างใน คาดว่าคงเป็นยาสมุนไพรที่ปรุงขึ้นมาเองแน่นอน
“ขอบคุณหนูมาก สำหรับยาขวดนี้ ซวนซวนหนูเป็นเด็กดีมากนะ”
“หนูก็แค่ตอบแทนค่าชุดเท่านั้นเอง หนู ๆ”
อู๋เหวยยกยิ้มขึ้นมา เขามองประตูไม้เก่า ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยนโดยที่ตนเองก็ไม่รู้ตัว ก่อนจะค่อย ๆ ถอยหลังเดินหายออกไปจากตรงนี้ ในเมื่อผู้หญิงคนนั้นดีกับลูกสาวเขา เขาก็จะมอบเงินให้เธอ และยังจะซื้อของกินดี ๆ มาให้อีกด้วย
“จ้า ๆ ฉันรู้แล้ว ซวนซวนแค่ตอบแทนค่าชุดเท่านั้นเอง” ไป๋จ้าวเหม่ยเอียงหน้ายิ้ม อู๋ชิงซวนทนความเขินอายไม่ไหวแล้ว
“หนูไม่พูดกับน้าแล้ว อย่าลืมทาด้วยล่ะ”
เด็กน้อยขี้อายวิ่งหนีออกไปแล้ว ไป๋จ้าวเหม่ยหัวเราะด้วยความเอ็นดู เธอบอกแล้วว่าเด็กที่ดื้อด้านกว่านี้ เธอยังเอาอยู่ นับประสาอะไรกับเด็กดีอย่างซวนซวน ไม่พ้นเงื้อมมือเธอหรอก ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนกันไป เธอมีอีกหลายอย่างที่จะสอนให้เด็กน้อยเรียนรู้ต่อไป ร่างอวบอ้วนกำลังหยัดตัวลุกขึ้น ประตูหน้าห้องก็ถูกแง้มออกมาอีกครั้ง
“อย่าลืมทายาด้วยนะ หนูขอซื้อมาตั้งหนึ่งหยวนแน่ะ”
“อ่า...ได้ ฝันดีจ้าซวนซวน”
“ฝันดีค่ะน้าอวบ” อู๋ชิงซวนกัดริมฝีปากลง ตอบกลับไปเบา ๆ และรีบปิดประตูได้ยินเสียงวิ่งไกลออกไป
ไป๋จ้าวเหม่ยหัวเราะพลางส่ายหัวเบา ๆ เธอชูขวดยาเล็ก ๆ เท่านิ้วก้อยขึ้นมาดู ของแค่นี้ราคาตั้งหนึ่งหยวนเชียว ในยุคนี้ก็นับว่าแพงมากอยู่ดี แต่แล้วดวงตาเธอก็เบิกกว้างขึ้น ฝ่ามืออวบตบลงบนหัวเข่าดังเพียะ
“โอ๊ย! เจ็บ ให้ตายเถอะ ฉันจะตีแรงเพื่ออะไร” เธอเปิดจุกขวดยาออกดม กลิ่นหอมของกานพลูโชยออกมา และกลิ่นหอมเย็นของไป๋เหอ ครั้นสูดกลิ่นอีกครั้ง เธอก็แยกสมุนไพรออกมาได้ครบหมดแล้ว ใบหน้าหวานยิ้มกว้างออกมา
“ในเมื่อมีคนทำยาสมุนไพรขาย ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีโรงแพทย์แผนจีน จริงสินะเหม่ยเหม่ย เธอมีวิธีหาเงินได้แล้ว ฮ่า ๆ ๆ” เสียงหัวเราะดังลั่นเต็มไปด้วยความดีใจ ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าด้านหลังมีภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ แหล่งหาเงินอันดับแรกของเธอ ก็อยู่บนภูเขานี่แหละ
“ฮ่า ๆ โอ๊ยเมื่อไรจะเช้า”
“มันจะเช้าได้ยังไงถ้าเธอไม่นอน หุบปากแล้วเข้านอนเสียที รบกวนคนอื่นไม่รู้หรือไง” เสียงด่าน่ารำคาญของอู๋เหวยไม่ได้ทำให้ความยินดีของไป๋จ้าวเหม่ยลดลงแม้แต่น้อย
“ได้ ๆ ขอโทษนายด้วย ฉันจะนอนเดี๋ยวนี้แหละ” คราวนี้เป็นอู๋เหวยที่ต้องตกตะลึงจนดวงตาเบิกโพลง เขาแอบหยิกที่เอวตัวเอง ทว่าก็ต้องสูดปากขึ้น
“ก็ไม่ได้ฝันนี่นา ทำไมยัยอ้วนนั่นคล้ายจะไม่เหมือนเดิม”
******************
ตอนที่ 26 สมุนไพรแพงขนาดนี้เลยเหรอไป๋จ้าวเหม่ยเปิดถุงกระดาษหยิบชุดที่หลิวชิงฮุยซื้อมาฝากซวนซวน เมื่อตอนเย็นแม่ดอกบัวขาวใต้ตมพยายามจะชวนเด็กน้อยคุยเล่น ทว่าซวนซวนก็ไม่ได้สนใจเท่าที่ควร เธอเอาเวลาไปคัดแยกพุทราจีนที่เก็บมาจากบนเขา พรุ่งนี้พ่อของเธอจะเอาไปขายให้หลิวชิงฮุยเห็นว่าเด็กน้อยไม่สนใจ จึงได้กลับไปอย่างพ่ายแพ้“ซวนซวนหนูมาดูชุดที่พี่ชิงฮุยซื้อมาฝาก สวยดีนะ ว้าวชุดนี้เหมือนชุดกะลาสีเรือเลย”“อะไรคือกะลาสีเรือคะ” เด็กน้อยละสายตาจากแบบฝึกหัดที่กำลังเขียนอยู่ หันมาเอียงคอถามตอนนี้เด็กน้อยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับชุดใหม่อีกแล้ว อาจเป็นเพราะแม่เลี้ยงของเธอตัดให้จนครบเจ็ดวัน ไหนจะมีชุดที่เอาไว้ใส่ไปข้างนอก ชุดนอน ชุดใส่เล่น เต็มไปหมด อะไรที่ได้มามากพอก็ทำให้เธอหมดความสนใจ อีกอย่างชุดที่แม่เธอตัดก็สวยกว่าชุดที่วางขายมาก“ก็นี่ยังไงชุดที่มีคอปกข้างหลัง ชอบไหม ว่าไม่ได้หลิวชิงฮุยซื้อของดีมาให้เชียวนะ ผ้านุ่มเชียวใส่สบายตัวเลยละ”“ชอบค่ะ แต่ชอบชุดที่แม่ตัดเย็บให้มากกว่า เหมือนชุดนี้ไง ชุดนอนของหนู พ่อคะพ่อเห็นด้วยหรือเปล่า ชุดนอนที่แม่ทำสวยกว่าอีกเนอะ” อู๋ชิงซวนหมุนตัวหนึ่งรอบ ให้ดูชุดนอนก
ตอนที่ 25 สงสัยไป๋จ้าวเหม่ยพลาดไปแล้ว เธอพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย ลืมไปได้อย่างไรว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เธอมองท้องฟ้าที่สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย“เธอจะให้ฉันเอาสมุนไพรไปขายให้หรือเปล่า แต่เอาไปแบบไม่ตากแห้งมันจะขายได้ไหม ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เราเก็บเอาไว้ก่อน อบกับไฟก็แห้งเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”“แบบสดมันก็ขายได้ ฉันไม่แน่ใจว่าราคามันจะดีเหมือนแห้งหรือเปล่าน่ะสิ” บอกตรง ๆ เรื่องราคาของ หรือค่าเงินในยุคนี้เธอไม่ค่อยรู้เลยด้วยซ้ำ ดูอย่างที่ว่าทุกอย่างในยุคนี้ ราคาถูก เต้าหู้ก้อนหนึ่งแค่หนึ่งเหมาเท่านั้น ผ้าสวย ๆ หนึ่งพับแค่หนึ่งหยวน แต่!...มันกลับแพงยิ่งกว่าในยุคของเธอเสียอีก อาจเพราะค่าเงินมันไม่เท่ากันกระมัง“จะดีไม่ดียังไงก็ต้องขายไม่ใช่เหรอ เอาไว้หมดหน้าฝน ฉันจะขึ้นไปเก็บสมุนไพรพวกนี้ให้เธอเอง ถึงตอนนั้นเธอก็จะได้เงินเท่าเดิมแล้ว”ไป๋จ้าวเหม่ยพยักหน้าแกน ๆ ยังไงก็ต้องทำตามที่อู๋เหวยบอกนั่นแหละ เพราะนี่ก็สองวันแล้ว หากไม่รีบขายสมุนไพรของเธอก็คงจะเหี่ยวหมดราคาแน่ ๆ เห็ดหลินจือเธอสามารถเก็บเอาไว้ขายทีหลังได้ แต่โสมคนกับโสมซานซีและสมุนไพรอื่น ๆ คงต้องขายออกไป รวมทั้งพุทราแห้งด้ว
ตอนที่ 24 ออกตามหากว่าจะปลอบให้เด็กน้อยหยุดร้องไห้ ร่างอวบ ๆ ของเธอก็หนาวสั่น เธอรีบล้วงเข้าไปในตะกร้าสมุนไพร หยิบกลักไม้ขีดออกมา รวบเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้ง ๆ ที่ถูกลมปลิวพัดมากระจุกอยู่ในถ้ำ และจุดไฟให้ความอบอุ่น“ซวนซวนหนูใส่เสื้อทับด้วยหรือเปล่าจ๊ะ”“ใส่ค่ะ”“ดีเลย ตอนนี้หนูถอดเสื้อผ้าออกมาก่อน เหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในและเสื้อกล้ามก็พอ เอาออกมาอังไฟให้แห้งก่อน” อู๋ชิงซวนรีบถอดชุดออกมา รวมทั้งถุงเท้ารองเท้าทั้งหมด กางเกงในของเด็กน้อยเป็นทรงสามเหลี่ยม ที่แม่เลี้ยงตัดเย็บให้ และเสื้อกล้ามก็เป็นเสื้อที่ปิดถึงแค่เหนือสะดือ แต่เพราะที่นี่มีเพียงเธอสองคน เด็กหญิงจึงไม่อาย“รอน้าอยู่ตรงนี้แป๊บเดียว น้าจะไปเอากิ่งไม้ ถึงจะเปียกแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลย” กำลังจะก้าวขาออกไป ทว่ามือเล็กก็ดึงเอาไว้ก่อน“น้าไปตรงนี้เอง หนูนั่งมองออกไปก็เห็น”“ไม่ใช่น้า” เด็กหญิงทำปากยู่ราวกับเป็ดตัวน้อยแสนงอนอย่างนั้น ไป๋จ้าวเหม่ยหลุดขำออกมา พลางยื่นมือไปบีบปากแหลม ๆ นั่น“เอาละ ๆ แม่ผิดไปแล้ว ต้องโทษที่แม่สมองไม่ดี ทำให้ลืมเสียได้ ซวนซวนน้อยไม่โกรธแม่นะคะลูก”“ไม่โกรธค่ะ แม่รีบไปรีบมานะคะ หนูนั่งผิงไฟตรงนี้ แต่แม่ถอดเส
ตอนที่ 23 ติดถ้ำเปรี้ยง! เสียงสายฟ้าร้องลั่นสั่นสะเทือน สายฝนกระหน่ำลงมาราวกับฟ้าถล่ม หญิงสาวโหนตัวอยู่ที่บนหน้าผา เธอกัดฟันปีนขึ้นไป แต่เพราะน้ำฝนที่สาดลงมาทำให้มือที่เกาะลื่น ร่างอวบร่วงพรืดลงไป มือเล็กรีบจิกเล็บลงที่ซอกหิน จนเล็บหักสิบนิ้วสื่อถึงหัวใจ ทว่าความเจ็บปวดไม่เท่ากับความหวาดกลัว คนตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ย่อมไม่อยากตายอีก และที่สำคัญซวนซวนอยู่คนเดียว! ไม่รู้เด็กคนนั้นจะกลัวแค่ไหน ป่านนี้ไม่ใช่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วเหรอ“ฉันก็ว่าแล้ว โชคดีมันจะมาง่าย ๆ ได้ยังไง ได้โสมได้เห็ด แต่เกือบตกเขา ไม่ได้ฉันจะตายไม่ได้ซวนซวนรออยู่” เธอจะบ่นออกมาไม่ได้ ใบหูแว่วได้ยินเสียงร้องของเด็กน้อย ถึงจะรู้ว่าตอนนี้คงเป็นจิตใจเธอที่ปรุงแต่งไปเอง แต่กระนั้นพอได้คิดว่าเจ้าตัวเล็กนั่นกำลังร้องไห้ เธอก็ยิ่งจิกเล็บเข้าไปในซอกหิน กัดฟันปีนป่ายขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ดีที่ครั้งนี้เธอเลือกลงเขาด้านที่มีหน้าผาบังลม หากลงที่เดิมเธอคงตกตายไปแล้วไป๋จ้าวเหม่ยรีบวิ่งไปแกะเชือกที่มัดกับต้นไม้ใหญ่ จากนั้นก็วิ่งไปหาอู๋ชิงซวนที่ถ้ำหิน ริมฝีปากก็ตะโกนร้องบอกว่า “ซวนซวนน้ามาแล้ว” ไปตลอดทางทางด้านอู๋ชิงซวนหลังจากที่ฝ
ตอนที่ 22 ความคิดของอู๋เหวยวันนี้ก็เหมือนเช่นทุกวัน สองหญิงสาวเดินออกมาส่งชายหนุ่มคนเดียวของบ้านเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ทว่าหลายวันมานี้อู๋เหวยมักจะอิดออดไม่ยอมรีบขี่รถออกไปเร็วเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตอนนี้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ไป๋จ้าวเหม่ยเข้าโรงพยาบาลก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แม่กับน้องของเธอไม่ได้มาขอเงินอีก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ได้ส่งเงินไปเช่นกัน แปลกเหลือเกิน มีแต่ความแปลกเต็มไปหมด“ซวนซวนพ่อไปทำงานแล้วนะ”“ค่ะ...พ่อขี่รถดี ๆ นะคะ อย่าหักโหมนะหนูกับน้าเป็นห่วง” อู๋ชิงซวนเอ่ยถ้อยคำห่วงใยให้กับพ่อตนเอง หากเป็นเมื่อก่อนเธอก็อยากตามไปด้วย ทว่าเดี๋ยวนี้ เธออยากอยู่เรียนหนังสือ และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากน้าเหม่ยมากกว่า“ขอบคุณครับ ซวนซวนเป็นเด็กดีอย่าดื้ออย่าซน เชื่อฟังน้าเหม่ยของลูกให้มาก ๆ นะ” สายตาอู๋เหวยเหลือบไปมองคนที่ยืนหมุนคอกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ก็ขมวดคิ้วขึ้น ไม่ใช่เพราะเธอออกกำลังกายแปลก ๆ นั่นหรือไงและใช่ไป๋จ้าวเหม่ยยังคงออกกำลังกายท่าแปลก ๆ ของเธอทุกวันเหมือนเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าคนอ้วนอย่างเธอจะล้มเลิกกลางคัน แต่สามเดือนที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่า ไป๋จ้าวเหม่ยเอาจริง ทั้งอ
ตอนที่ 21 คนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยเหรออู๋เหวยเอาข้าวของที่ไป๋จ้าวเหม่ยซื้อมาใส่ตะกร้าหน้ารถตัวเอง ที่ใส่ไม่หมดก็ห้อยเอาไว้ เขามองข้าวของที่เต็มรถ ก็พอจะรู้ว่าเธอหมดไปหลายหยวน ชายหนุ่มรู้ว่าหญิงสาวได้เงินมาจากการขายสมุนไพร เพราะหลายวันที่ผ่านมา เขาก็เห็นแล้วว่าเธอวุ่นวายอยู่กับสมุนไพรเหล่านั้น แต่เขาไม่รู้ว่ามันจะขายได้ราคาดีเพียงใด“ซวนซวนหนูมาซ้อนท้ายพ่อดีไหมคะ น้าเหม่ยของลูกจะได้ไม่หนัก”“พ่อคะ!...หนูตัวไม่หนักเสียหน่อยจริงไหมคะน้าเหม่ย”“จริงจ้ะ ซวนซวนของพวกเราหุ่นดีขนาดนี้จะหนักได้ยังไง หนูมาซ้อนท้ายน้าเหมือนเดิมดีกว่า พ่อหนูถือของเต็มรถแล้ว” ไป๋จ้าวเหม่ยเห็นว่าอู๋เหวยรับหน้าที่ขนของแล้ว ดังนั้นเธอจึงรับหน้าที่บรรทุกคนไปเอง ทว่ายังไม่ทันที่เด็กหญิงจะได้ตอบ เสียงรีบร้อนของคนบางคนก็ตะโกนออกมาก่อนที่เจ้าตัวจะมาถึงเสียอีก“ซวนซวนหนูอยากมาซ้อนรถของพี่ชิงฮุยหรือเปล่าจ๊ะ ป้าพี่ส่งจดหมายมาจากเซี่ยงไฮ้ มีเรื่องสนุก ๆ เยอะเลย พี่เล่าให้ฟังดีไหมจ๊ะ” หลิวชิงฮุยเห็นทั้งสามกำลังจะไปอยู่แล้ว เธอก็รีบจูงรถจักรยานตามมา ในใจนึกโมโหตั้งแต่ที่กินอาหารข้างในแล้ว มีเพียงแค่เธอที่ชวนคุย พี่เห