Share

บทที่ 1683

Author: จี้เวยเวย
จวนแม่ทัพจ้าว

“จ้าวเฉียงยังไม่กลับมาอีกหรือ?”

จ้าวฮูหยินยกถ้วยชาขึ้นจิบอย่างอ้อยอิ่ง สีหน้าฉายแววพอใจ “คราวนี้เขาทำงานที่ข้ามอบหมายให้ได้ไม่เลว สองสามีภรรยากงชินอ๋องนี่ฝันหวานโดยแท้ ลูกชายข้าต้องตายเพราะลูกสาวของพวกเขา”

“บัดนี้ศพลูกชายข้ายังไม่สลาย พวกเขาคิดจะให้ฉู่ชิงหลีแต่งออกไป นี่มันเรื่องดีอันใดกัน?”

“ฮูหยิน ได้ยินมาว่าจวนกงชินอ๋องตั้งใจจะแต่งงานเกี่ยวดองกับสกุลซ่งเจ้าค่ะ ตอนนี้สกุลซ่งกำลังรุ่งเรืองถึงขีดสุด หากพวกเขารู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดคือพวกเรา น่ากลัวว่าเรื่องจะยุ่งยากเจ้าค่ะ”

แม่นมที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กังวลอยู่บ้าง อันที่จริงตลอดสองปีมานี้ ฮูหยินมัวแต่จมอยู่กับเรื่องนี้ไม่ยอมปล่อยวาง แม้แต่นายท่านเองก็พูดกับนางไม่ใช่เพียงครั้งเดียว อย่าได้ก่อเรื่องวุ่นวายอีก

หากถูกนายท่านรู้เรื่องเข้า น่ากลัวว่าจะต้องทะเลาะกันอย่างแรงอีกแน่

“สกุลซ่งแล้วอย่างไร? ข้ารู้ดีว่าช่วงนี้สกุลซ่งโชคกำลังขึ้นจริง สร้างผลงานครั้งใหญ่ ลูกชายลูกสาวแต่ละคนก็ล้วนมีความสามารถ”

“เจ้าพูดเถอะ คุณชายสามสกุลซ่งคนนั้น อยากแต่งงานกับหญิงสาวเช่นไรก็เลือกได้ทั้งนั้น แต่กลับมายั่วพวกเราให้ไม่สบอาร
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1762    

    พวกเขาต่างคิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะแต่งตั้งฉู่อ๋องเป็นรัชทายาทในวันนี้...... จวนเหลียงอ๋อง ฉีชิงอีก็ตั้งตารออยู่ในเรือนด้วยใจอันปลื้มปีติแต่เช้าตรู่ “เมื่อวานท่านอ๋องก็นำข่าวดีนี้เข้าวังไปแล้ว คาดว่าวันนี้คงมีรางวัลพระราชทานแน่!” “พระชายา ท่านตั้งครรภ์แฝด ในเชื้อพระวงศ์นับเป็นข่าวมงคลใหญ่ แต่น่าเสียดายนักที่บัดนี้ตวนเฟยล้มป่วยหนัก ไม่เช่นนั้นคงเสด็จมาเยี่ยมท่านแน่เจ้าค่ะ” บ่าวรับใช้เอ่ย ฉีชิงอียิ้มพลางพยักหน้า “ก็น่าเสียดายอยู่จริง ๆ ไม่แน่ว่าเมื่อตวนเฟยได้ยินข่าวที่ข้าตั้งครรภ์ ร่างกายอาจจะดีขึ้นก็เป็นได้” “โบราณว่าไว้ถูกต้องจริง ๆ การแก้เคล็ดก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ? ไม่แน่ว่าครานี้ข้าอาจสร้างความชอบก็เป็นได้” “เจ้าว่า ในวังจะมีรางวัลอะไร? ท่านอ๋องถูกกักบริเวณมาตลอด เพราะเรื่องครั้งก่อน บัดนี้คงได้ปลดโทษนั้นแล้วกระมัง?” ฉีชิงอีคิดถึงท่าทีของเหลียงอ๋องเมื่อคืน ตั้งแต่วันที่นางเสียโฉม ท่านอ๋องก็ไม่เคยย่างกรายมาเรือนของนางอีกเลย ความห่วงใยอันอ่อนโยนของเขาเมื่อวาน นางแค่นึกถึงก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ถังเสวี่ยหนิงคิดว่าทำลายโฉมของนางไปแล้ว ก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1761

    ครั้นเมื่อหมอหลวงยกยาที่ต้มเสร็จแล้วเข้ามาในห้อง ซ่งรั่วเจินก็เก็บเข็มเงินเสร็จพอดี “รั่วเจิน ยาเรียบร้อยแล้ว บัดนี้จะให้ไทเฮาดื่มเลยหรือไม่?” ฮองเฮาตรัสถามขึ้น ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “บัดนี้อาการของเสด็จย่าดีขึ้นมากแล้ว เพียงแต่ยังต้องฝังเข็มต่ออีกสองสามวัน” “บัดนี้เสด็จย่ายังไม่หายดีทั้งหมด แต่รออีกไม่กี่วันอาการก็จะค่อย ๆ หายดี พระโอษฐ์ก็จะกลับมาเป็นปกติ” นางมองดูอาการของไทเฮา บัดนี้เป็นเพียงการฝังเข็มครั้งแรก อาการก็ดีขึ้นมากแล้ว จึงทำให้นางมั่นใจว่าสามารถรักษาให้หายได้แน่ เพียงแต่ว่า ต่อไปนี้เรื่องสมุนไพรจำต้องใส่ใจให้มาก ต้องคอยดูแลอย่างระมัดระวัง เอาใจใส่อาหารการกินไม่เช่นนั้น หากคราวหน้ากำเริบอีก อาการก็มีแต่จะแย่ยิ่งกว่าเดิม ฮ่องเต้เสด็จมายังข้างกายของไทเฮา “เสด็จแม่ ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?” “ต้องขอบคุณแม่หนูรั่วเจิน ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว” บนพระพักตร์ของไทเฮาเผยรอยแย้มที่อ่อนโยนออกมา “ต้องลำบากนางจริง ๆ” ฮ่องเต้เห็นว่า ก่อนหน้านี้ไทเฮาแม้แต่จะพูดก็ยังพูดไม่ออก ทำได้เพียงพูดติด ๆ ขัด ๆ บัดนี้แม้อารมณ์บนใบหน้ายังคงไม่ธรรมชาตินัก แต่ก็เห็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1760

    หมอหลวงเมื่อได้ยินตำรับโอสถที่ซ่งรั่วเจินกล่าวออกมา ก็รู้ทันทีว่าเป็นตำรับโอสถสำหรับรักษาอาการอัมพฤกษ์ ทว่าเมื่อได้ฟังอย่างละเอียดแล้ว ก็ค้นพบว่าตำรับโอสถนี้ละเอียดลึกซึ้งกว่าที่พวกเขาใช้อยู่เป็นประจำอย่างเห็นได้ชัด“สมแล้วที่เป็นพระชายาฉู่อ๋อง ตำรับโอสถของนางช่างล้ำเลิศยิ่งนัก!”หมอหลวงถึงกับอุทานออกมาด้วยความอัศจรรย์ใจ เพียงเปลี่ยนสมุนไพรสองสามชนิดเท่านั้น ฟังตอนแรกอาจรู้สึกประหลาด คล้ายไม่ถูกต้องเหมาะสม แต่เมื่อได้ฟังจนจบแล้วก็รับรู้ได้ทันทีว่าผลลัพธ์จากการผสมสมุนไพรเหล่านี้เข้าด้วยกันจะต้องได้ประสิทธิภาพดีเยี่ยมเป็นแน่แท้“ข้าเคยเห็นวิชาแพทย์ของพระชายาฉู่อ๋องกับตามาก่อน รู้ดีว่าวิชาแพทย์ของนางเก่งกาจปราดเปรื่องยิ่งนัก แต่โรคอัมพฤกษ์นี้ ใช่ว่าจะรักษาได้ง่าย ๆ”หมอหลวงอีกจำนวนหนึ่งยังคงสีหน้าหนักใจ พวกเขาเข้าใจถึงความเสี่ยงของโรคดังกล่าวนี้ดี ใช่ว่าจะรักษาได้ง่ายดายปานนั้น“เสด็จย่า หม่อมฉันจะใช้การฝังเข็มรักษาท่านนะเพคะ ไม่เจ็บเพคะ เสด็จย่าอย่าได้ทรงกังวลพระทัยเพคะ”ไทเฮาพยักหน้า นางเชื่อซ่งรั่วเจินสุดหัวใจ “เด็กน้อย เจ้า…รักษา…รักษาเถิด”ซ่งรั่วเจินเปิดห่อเข็มของตนเองออก ก่อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1759

    ภายในพระราชวังเมื่อซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงมาถึงตำหนักบรรทมของไทเฮาแล้ว แม้ท้องฟ้าจะยังไม่สว่างดี แต่ที่นี่กลับมีผู้คนรวมตัวกันแน่นขนัดแล้วฝ่าบาทและฮองเฮารวมถึงพระสนมอีกหลายพระองค์ต่างเสด็จมากันพร้อมหน้า เมื่อได้ยินว่าไทเฮาประชวร พวกเขาก็พากันมาถวายการเฝ้าไข้ดูแลยิ่งคนของสำนักแพทย์หลวงแทบจะมารวมตัวกันที่นี่ครบทุกคนแล้ว ในเวลานี้แต่ละคนต่างมีสีหน้าตึงเครียดฝ่าบาททรงมีความกตัญญูต่อไทเฮามาตลอด บัดนี้ไทเฮาทรงพระอาการทรุดหนักถึงเพียงนี้ พวกเขาเองก็พยายามรักษาทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลบัดนี้ประคับประคองชีวิตไทเฮาเอาไว้ได้ก็นับว่าถึงขีดจำกัดความสามารถแล้ว มิอาจรับประกันได้เลยว่าไทเฮาจะหายกลับมาเป็นปกติดังเดิม เพียงแต่ในบรรดาพวกเขาไม่มีผู้ใดกล้ากล่าววาจาเช่นนี้ออกมาความจริงอาการประชวรลักษณะเช่นนี้ของไทเฮา สามารถพบเจอได้บ่อยในหมู่ผู้สูงอายุ เรียกว่าโรคอัมพฤกษ์ แต่พอตอนนี้คนที่ล้มป่วยคือไทเฮา จึงอึดอัดน่าลำบากใจ“จวินถิง รั่วเจิน พวกเจ้ามากันแล้ว”ฮองเฮาเห็นทั้งสองคนเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความกังวล นางจึงเป็นฝ่ายตรัสขึ้นก่อนว่า“เจินเอ๋อร์ วิชาแพทย์ของเจ้าสูงส่งเลิศล้ำมาตลอด บัดน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1758

    เพราะในที่สุดเรื่องของฮวนเอ๋อร์ก็คลี่คลายลงได้เสียที หินก้อนใหญ่ในใจของทั้งสองถูกยกออกไปในที่สุด ความรู้สึกโล่งสบายเอ่อล้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกความจริงพวกเขาเองก็รู้ดีแก่ใจ เหลียงอ๋องมองพวกเขาเป็นเหมือนหนามยอกในตามาตลอด ส่วนอวิ๋นอ๋องกับฮวนเอ๋อร์ก็พัวพันอยู่กับพวกเขาเลยถูกลูกหลงไปด้วยหากรักษาชีวิตเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้ พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ยากจะแก้ตัวปฏิเสธความรับผิดชอบกระทั่งสืบเท้าจนใกล้ถึงประตูเรือน ฉู่จวินถิงก็อุ้มซ่งรั่วเจินขึ้นมาภายใต้สายตาประหลาดใจของสตรี เขาก้มศีรษะลงมอบจุมพิตให้นาง พร้อมกลั้วหัวเราะพลางเอ่ยว่า “ฮูหยินช่างเก่งกาจปราดเปรื่องยิ่งนัก หากไม่ได้เจ้าวันนี้ เกรงว่าจนตอนนี้พวกข้าคงยังไม่รู้ว่าเมื่อใดจะเจอตัวสตรีผู้นั้น”ซ่งรั่วเจินเข้าใจกระจ่างแจ้งทันที อันที่จริงนางรู้มานานพักใหญ่แล้ว ฉู่จวินถิงให้ความสำคัญกับไมตรีผูกพันระหว่างพี่น้องของเขากับอวิ๋นอ๋องมากบุรุษผู้นี้โดยปกติเก็บสีหน้าอยู่ตลอด แทบจะมองอารมณ์จากสีหน้าแววตาของเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป แต่เขาก็เป็นห่วงอวิ๋นอ๋องมากจริง ๆหากเกิดเหตุเลวร้ายขึ้นกับเด็กคนนั้น เขาเองก็ร้อนรนมาไม่แพ้ใคร“เรื่องนี้มิใช่ความดีความ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1757

    “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมกลับคิดว่าเหตุผลที่พวกฉู่อ๋องไม่แจ้งฝ่าบาท คงเพราะกังวลว่าไม่มีหลักฐานแน่นหนามากพอ หากพูดออกไปก็มิอาจยืนยันได้ว่าจะมีคนเชื่อคำพูดของพวกเขา”เสนาบดีศาลต้าหลี่ช่วยพูดแทนฉู่จวินถิงและอวิ๋นอ๋อง แม้ว่าเขาจะเป็นคนสนิทของฝ่าบาท ทว่าในบรรดาท่านอ๋องทุกพระองค์ คนที่เขาชื่นชมที่สุดก็คือฉู่อ๋องฉู่อ๋องมิเพียงสร้างคุณูปการทางในการศึกไว้มากมาย ในด้านการวางตัวก็สุขุมมั่นคง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นคนที่มีความสามารถ และที่สำคัญที่สุดคือ…เขารู้สึกได้ว่าฉู่อ๋องให้ความเคารพยำเกรงต่อฝ่าบาทเป็นอย่างยิ่ง และจิตใจอันมุ่งมั่นทะเยอทะยานในด้านนั้นก็มิได้เข้มข้นรุนแรงเท่าพวกเหลียงอ๋องด้วยอย่างน้อยที่สุด พวกเขาก็ไม่เคยกล่าวหาว่าร้ายผู้บริสุทธิ์คนใดเพราะความทะเยอทะยานอันร้อนแรงของตนเองบัดนี้ความขัดแย้งระหว่างเหลียงอ๋อง ก็เป็นเหลียงอ๋องเองที่เริ่มต้นขึ้นมาก่อน อวิ๋นอ๋องเป็นพระอนุชาแท้ ๆ ของเขา ฉู่อ๋องจึงสามารถคิดแทนพระอนุชาแท้ ๆ ของตนเองได้ถึงเพียงนี้ไม่เพียงอวิ๋นอ๋อง แม้แต่องค์ชายใหญ่และอ๋องชายเจ็ด ก็ยังเชื่อใจในตัวฉู่อ๋องเป็นที่สุดเสนาบดีศาลต้าหลี่ยังคิดได้ แน่นอนว่าฝ่าบาทก็คิดถึงจุดนี้ได

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status