Share

บทที่13 เรามากินหม้อไฟกัน

Aвтор: zuey
last update Последнее обновление: 2024-12-31 17:48:50

เสี่ยวหลันจื่อที่เอาชีวิตรอดมาจากสนามรบของสตรีมาได้ก็รู้สึกหิวเป็นอย่างมาก นางนึกถึงหม้อไฟในชาติก่อนได้ซดน้ำซุปร้อนๆ คงจะรู้สึกดี เสี่ยวหลันจื่อรีบจ้ำอ้าวไปที่แผงขายเนื้อทันที

“เถ้าแก่ เอาเนื้อเเดงให้ข้าสี่จิน สามชั้นสี่จิน กระดูกซี่โครงด้วย เอาทั้งหมดเลย มีเครื่องในหรือไม่”

เสี่ยวหลันจื่อร่ายยาวเป็นชุดด้วยความคล่องแคล่ว คล้ายกับทำเป็นประจำ

“โอ้ ได้เลยแม่นางฟ้า เดี๋ยวข้าลดให้จินละสองอีแปะเพราะเจ้าซื้อเยอะ”

เสี่ยวหลันจื่อยิ้มตาหยีให้เถ้าแก่ที่กำลังชั่งเนื้อให้กับนาง

“แล้วเครื่องในเจ้าต้องการเท่าไหร่” เถ้าแก่ถามนาง

“ทั้งหมดเลย” เสี่ยวหลันจื่อเหมา

“ได้ๆ เจ้าจะเอาเครื่องในพวกนี้ไปทำอะไรตั้งมากมาย คนที่นี่ไม่ค่อยกินเครื่องในหมูกันหรอกนะ กลิ่นมันเหม็น” เถ้าแก่เตือนเสี่ยวหลันจื่อด้วยความหวังดี เพราะเขาเป็นคนซื่อตรงและนางซื้อเนื้อกับเขาไปเยอะทีเดียว

“ถ้าข้าทำรับรองไม่เหม็น” เสี่ยวหลันจื่อยิ้มตาหยีอีกครั้ง ยิ่งทำให้ใบหน้าเล็กๆ งดงามน่ามองยิ่งขึ้นกว่าเดิม

“ทั้งหมดเท่าไหร่เถ้าแก่” เสี่ยวหลันจื่อถามเขา

“เนื้อหมูสี่จิน ราคาเดิมคือสิบแปดอีแปะ หมูสามชั้นยี่สิบอีแปะ ซี่โครงสิบห้าอีแปะ เครื่องในหมูสิบอีแปะ ข้าลดให้เจ้าทุกอย่างจินละสองอีแปะ ทั้งหมดคือ....” เถ้าแก่ใช้ลูกคิดคำนวณ เสี่ยวหลันจื่อนิ่งไปสักครู่

“สามร้อยสามสิบสี่อีแปะ ใช่หรือไม่เถ้าแก่”

เถ้าแก่ที่กำลังดีดลูกคิดอยู่เงยหน้าขึ้นมองนางจากนั้นรีบคำนวณทันที

“โอ้ สาวน้อยเจ้านี่เก่งจริงๆ เลย ไม่นึกว่า ไม่ต้องใช้ลูกคิดเจ้าก็คำนวณออกมาได้อย่างรวดเร็ว” เสี่ยวหลันจื่อยิ้มตาหยีจนโค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว ใครล่ะจะไม่ชอบคำเยินยอ จากนั้นนางจึงจ่ายเงินให้เถ้าแก่ตามจำนวนที่นางคำนวณ

“ไปได้แล้ว” เสียงเยือกเย็นดังขึ้นด้านหลังของนาง เสี่ยวหลันจื่อยกตะกร้าขึ้นสะพายหลัง แล้วเดินนำหน้าเขาไป นางยังต้องซื้อวัตถุดิบอีกหลายอย่าง

เถ้าแก่ร้านขายเนื้อปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก สามีแม่นางน้อยผู้นี้หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่สายตาช่างน่ากลัวเหลือเกิน

เสี่ยวหลันจื่อซื้อของที่ต้องการทั้งหมดเสร็จแล้วจึงกลับมาที่เกวียนวัวของพวกเขาอีกครั้ง ต้องรีบกลับบ้านนางมีอะไรที่ต้องทำอีกหลายอย่าง

เกวียนวัวของเสี่ยวหลันจื่อ จอดลงที่หน้าบ้านสกุลหลิวฉีเยี่ยนกับฉีเหลยที่กำลังผ่าฟืนอยู่หลังบ้านรีบวิ่งออกมาต้อนรับนายของตน พวกเขายกตะกร้าและของที่เสี่ยวหลันจื่อซื้อมาเข้าไปในเรือน แล้วนำเกวียนวัวไปเก็บ ฉีเยี่ยนรีบนำน้ำชามาต้อนรับเจ้านายของเขา ท่านอ๋องจะต้องเหนื่อยมากแน่ๆ ที่ต้องฝืนทำเช่นนี้ ฉีเยี่ยนมองเซียวอี้เหิงด้วยความเห็นใจ

“มองอะไร มีอะไรก็ไปทำ” เซียวอี้เหิงไล่ฉีเยี่ยนด้วยความรำคาญ

เสี่ยวหลันจื่อไม่สนใจพวกเขาเจ้านายลูกน้อง เมื่อนางกลับมานางก็เตรียมวัตถุดิบทำหม้อไฟทันที นางหั่นเนื้อทั้งหมดที่ซื้อมาบางๆ จากนั้นเตรียมน้ำซุป นางใช้กระดูกซี่โครงที่ซื้อมาใช้ต้มเป็นน้ำซุปส่วนเครื่องปรุงแน่นอนว่านางซื้อมาจากร้านค้าออนไลน์ ตอนที่จ่ายเงิน นางปวดใจเป็นอย่างมากเพราะมันใช้เงินถึงยี่สิบตำลึง ขูดเลือดกันชัดๆ

จากนั้นนางสั่งให้ฉีเหลยที่เข้ามาช่วยในครัว ไปเก็บผักที่หลังบ้านมา มีทั้งผักกาดขาว กวางตุ้ง ผักบุ้งนางยังนำเห็ดที่เก็บมาจากบนเขาที่ยังทานไม่หมด มาหั่นรวมใส่ในถาดด้วย จากนั้นแบ่งออกเป็นสามชุด ตกแต่งอย่างสวยงาม เสี่ยวหลันจื่อเห็นแล้วนึกถึงร้านอาหารที่นางทำงานพาร์ทไทม์

เสียงเดินของฉีเยี่ยนที่เข้ามาในครั้วทำให้เสี่ยวหลันจื่อหลุดจากภวังค์

“แม่นางอวี้ ข้ารู้ว่าข้ามีคุณสมบัติไม่เพียงพอ แต่ข้าอยากขอร้องท่านสักเรื่องได้หรือไม่” เสี่ยวหลันจื่อมองท่าทางของฉีเยี่ยนอย่างสนใจ

“ว่ามาสิ” เสี่ยวหลันจื่อรอฟัง

“คือ..... ข้ารู้ว่าเมื่อก่อนท่านอ๋องทำไม่ดีไว้กับท่านอย่างมาก แต่ข้าขอร้องท่านได้หรือไม่ ท่านอย่าทำให้ท่านอ๋องของข้าต้องลำบากใจ....”

ฉีเยี่ยนยังพูดไม่ทันจบแต่โดนฉีเหลยดึงตัวออกมาก่อน

“เจ้าคิดจะพูดอะไร”

“ข้าแค่สงสารท่านอ๋องที่ถูกนางใช้ให้ทำงาน” ฉีเยี่ยน  อธิบายด้วยใบหน้าเศร้าสร้อย

“เจ้าเห็นนางใช้ท่านอ๋องทำงานหรือ” ฉีเหลยถาม

“ไม่เห็น แต่ว่าวันนี้ท่านอ๋องขับเกวียนให้นางนั่งนะ ในแคว้นเหลียงเซียวแห่งนี้มีใครบ้างที่กล้าใช้ให้ท่านอ๋องขับเกวียนให้ขี่กันมีแค่นางคนเดียวที่ใจกล้าขนาดนั้น” ฉีเยี่ยนยังคงเถียง

“เจ้าโง่ ในสมองเจ้าคงมีแต่น้ำสินะ เบิ่งตาของเจ้า หน่อยเมื่อเช้าข้าก็บอกแล้วว่าถ้าท่านอ๋องไม่เต็มใจมีหรือจะยอมทำเช่นนั้น เลิกคิดเรื่องไร้สาระเถอะ ท่านอ๋องกลับมาข้าก็ไม่เห็นท่านอ๋องจะเหน็ดเหนื่อยอะไร ไปเถอะ ไปช่วยแม่นาง  อวี้ทำอาหาร เจ้าคงไม่อยากเป็นคนเดี่ยวที่ต้องอดกินข้าวเย็นหรอกนะ”

ฉีเหลยร่ายยาวรอบเดียว กอดคอฉีเยี่ยนที่ยังมีท่าทีไม่ยินยอม เดินเข้าไปในครัว

ฉีเยี่ยนเป็นเด็กกำพร้าที่ท่านอ๋องเก็บมาตอนที่ออกไปรบที่ชายแดนครั้งแรก ตอนนั้น

เขาทั้งผอมและหิวโซใกล้ตายเพราะได้รับความช่วยเหลือของเซียวอี้เหิงเขาจึงมีชีวิตรอด ตอนนี้จึงสำนึกบุญคุณเซียวอี้เหิงที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้

เสี่ยวหลันจื่อที่ยังง่วนอยู่กับการทำอาหาร ไม่สนใจว่าบุรุษสองคนคุยอะไรกัน

“คุมไฟให้ข้าหน่อย อย่าให้ไฟแรงเกินไป” เสี่ยวหลันจื่อสั่งโดยไม่หันมามองพวกเขา

ฉีเหลยดึงฉีเยี่ยนให้นั่งลง กลิ่นหอมของน้ำซุปลอยกระจายไปทั่วเรือน เฒ่าหลิวที่นั่งสานตะกร้าอยู่หลังบ้าน เดินเข้ามาดูว่าเสี่ยวหลันจื่อทำอะไรกิน

“หอมจริงๆ” เฒ่าหลิวอุทานเบาๆ

“ท่านตา ท่านออกไปรออยู่ข้างนอกอีกสักครู่ก็เสร็จแล้ว” เสี่ยวหลันจื่อดันหลังเฒ่าหลิวออกจากครัวไป

เมื่อทุกอย่างได้ที่แต่ดวงตะวันยามบ่ายยังอยู่สูง     เสี่ยวหลันจื่อจึงหั่นหมูสามชั้นและสั่งให้ฉีเหลยฉีเยี่ยนตักน้ำมาล้างไส้หมูและเครื่องใน บุรุษสองคนไหนเลยจะเคยสัมผัสประสบการณ์เช่นนี้ ทั้งล้างทั้งอ้วกเพราะเหม็นคาวเครื่องในหมู เสี่ยวหลันจื่อขบขันท่าทางของทั้งสองคนยิ่งนัก

เสี่ยวหลันจื่อให้ทั้งสองคนใช้ขี้เถ้าล้างไส้หมูจนสะอาดจากนั้นนำเครื่องในทั้งหมดไปลวกน้ำร้อนดับกลิ่นคาว แล้วล้างอีกหลายครั้งจนไม่มีกลิ่นคาวแล้วจึงนำทั้งหมดมาตุ๋นทำพะโล้เครื่องใน นางยังใส่สามชั้นตุ๋นแยกสำหรับคนที่ไม่ชอบกินเครื่องใน สำหรับนางนี่ถือเป็นอาหารที่นางชอบเมื่อชาติก่อน ตุ๋นเครื่องในหมู เครื่องในหมูทอดกระเทียม เครื่องหมูย่างหม่าล่า และอีกหลายเมนูที่นางคิดว่าจะทำกินอีกครั้งที่นี่

ตะวันคล้อยต่ำลงเสี่ยวหลันจื่อให้ฉีเหลยกับฉีเยี่ยนยกเตาเล็กสองเตาออกไปส่วนเสี่ยวหลันจื่อ กำลังปรุงน้ำซุปสองอย่างทั้งน้ำซุปธรรมดาและน้ำซุปหม่าล่าเผ็ดแบบที่นางชอบ เมื่อทุกอย่างขึ้นโต๊ะ ทุกคนมองนางเป็นตาเดียว

“จื่อเอ๋อนี่เจ้าทำอาหารตั้งนาน มีแต่เนื้อหมูดิบกับผักดิบนี่หรือ” เฒ่าหลิวที่น้ำย่อยร้องคราญครางมานานแล้วเห็นแล้วรู้สึกผิดหวัง

“ท่าตาเจ้าคะ มันยังไม่เสร็จสักหน่อย” เสี่ยวหลันจื่อสั่งให้ฉีเยี่ยนยกหม้อดินเผาขึ้นตั้งบนเตาเล็ก หม้อหนึ่งเป็นน้ำซุปธรรมดา อีกหม้อคือน้ำซุปหม่าล่า นางอธิบายวิธีกิน หลังจากใสผักกับเนื้อ และเห็ดลงไป น้ำซุปจากที่หอมอยู่แล้วกลับยิ่งหอมมากขึ้น ทุกคนใจจดใจจ่ออยู่กับเนื้อในหม้อ เสี่ยวหลันจื่อใช้ตะเกียบคีบเนื้ออกมาใส่ในจานแม่เฒ่าสวีกับผู้เฒ่าหลิว

“ท่านลองชิมดู น้ำซุปแบบเผ็ดกับไม่เผ็ด” เสี่ยวหลันจื่อ ตักน้ำซุปให้ทั้งสองผู้เฒ่า

“พวกเจ้าก็ลองดูสิ” เสี่ยวหลันจื่อ บอกพวกเขาที่รอดูปฏิกิริยา ของสองสามีภรรยาเฒ่า "โอ้ มันอร่อยมาก ข้าไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”

จากนั้นสงครามหม้อไฟก็เกิดขึ้น แม้แต่เซียวอี้เหิงที่ปกติจะนิ่งขรึมอยู่ตลอด ยังร่วมวงการแย่งชิงเนื้อในหม้อกับพวกเขา เสี่ยวหลันจื่อได้แต่มองตาปริบๆ ดูเหมือนจะทำน้อยไปหน่อยสำหรับสามคนนี้ เนื้อสี่จินสำหรับชาวบ้านธรรดาอย่างพวกเขา จะได้กินก็แค่ช่วงวันสำคัญเท่านั้น ไหนเลยจะมีให้กินมากขนาดนี้ เสี่ยวหลันจื่อลุกขึ้นเดินเข้าครัวไป

เซียวอี้เหิงที่เคียวเนื้อตุ้ยๆ มองตามหลังนางไป จากนั้นก็หันมาแย่งเนื้อในหม้อกับฉีเหลยและฉีเยี่ยนต่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ตอนพิเศษ2

    ตอนพิเศษ2“คิดจะพาลูกของข้าหนีไปที่ใด เจ้าตัวแสบ”เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากทางหน้าเรือนเสี่ยวหลันจื่อก็หันขวับไปทันที นางเห็นร่างสูงโปร่งที่ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าเรือน บุรุษที่ เหล่อเหลาที่สุดของนางบุรุษที่นางคิดถึงอยู่ทุกวันแม้ในยามหลับฝัน บุรุษของนางกลับมาแล้ว เสี่ยวหลันจื่อวิ่งเข้าสู่อ้อมแขนที่กำลังยกขึ้นเพื่อรอรับนาง“ยินดีต้อนรับท่านอ๋องของข้า”เสี่ยวหลันจื่อยิ้มทั้งน้ำตา ในที่สุดเขาก็กลับมาอย่างปลอดภัย“ข้าคิดถึงท่านยิ่งนัก ทำไมท่านไม่ส่งจดหมายกลับมาหาข้าบ้างเลย”เซียวอี้เหิงลูบผมยาวนุ่มสลวยของนางอย่างแสนคิดถึง“ข้าได้อ่านจดหมายของเจ้าทุกฉบับ แต่ที่ข้าไม่ได้ตอบกลับมาก็เพราะข้าอยากมาตอบเจ้าด้วยตนเอง” เซียวอี้เหิงก้มลงจูบปากอวบอิ่มของสตรีที่เขารักประหนึ่งดวงใจ เนิ่นนานกว่าเขาจะปล่อยนางเป็นอิสระ“ข้ากลับมาแล้วชายารัก ข้าก็คิดถึงเจ้าเช่นกัน”เสี่ยวหลันจื่อโผเข้ากอดร่างสูงอีกครั้งอย่างมีความสุข หลังจากที่ทุกคนกลับมาก็ได้รับข่าวดีว่าเสี่ยวหลันจื่อตั้งครรภ์ แม้แต่ผู้ปกครองทั้งวังหน้าและวังหลังก็ยังส่งของมาร่วมยินดีกับว่าที่บิดามารดามือใหม่ที่จวนอ๋อง แต่เจ้าของจวนทั้งสองกลับไม่มีใครอ

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ.......เซียวอี้เหิงได้รับสามรลับมาจากชายแดนว่าแคว้นฉู่ได้ยกทัพมาประชิดชายแดนเมืองชิงโจวแล้ว สี่ยวหลันจื่อที่รู้เข้าก็ตกใจอดีต รัชทายาทถูกจับกุมแล้วตระกูลกู้ก็ถูกประหารแล้วเหตุใดสงครามยังมีอยู่อีก แสดงว่านางไม่สามารถเปลี่ยนเนื้อเรื่องทั้งหมดได้ เสี่ยวหลัน จื่อเดินวนไปวนมานางกำลังกังวลเรื่องสงคราม แต่เซียวอี้เหิงกลับมีท่าทีสบายๆ“ท่านไม่กังวลใจเลยหรือ สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้วนะเหตุใดท่านจึงยังสบายอกสบายใจได้อยู่อีก”เสี่ยวหลันจื่อเอ็ดเซียวอี้เหิงเสียงเขียว นางกังวลใจจะตายอยู่แล้วเจ้าตัวที่ต้องนำทหารออกรบกลับยังทำหน้าระรื่นอยู่อีก“จื่อเอ๋อเจ้าจะกังวลไปใย การลงสนามรบของข้าก็เป็นเพียงการคืนสู่เหย้าเท่านั้น ฉู่หมิงเทียนจะทำอันใดได้ ดูท่าจะยังไม่รู้เรื่องที่พันธมิตรของเขาล่มไปแล้ว ข่าวสารแคว้นฉู่ช่างล่าช้าเสียจริง”ความจริงเซียวอี้เหิงให้คนของเขาสกัดสายลับของแคว้นฉู่เอาไว้ไม่ให้ส่งข่าวไปที่รัชทายาทฉู่หมิงเซียว เขาอยากจะใช้สงครามครั้งนี้กำหราบเจ้าโง่ที่ชอบอวดตัวว่าตนเองแข็งแกร่งทั้งที่รู้เรื่องการรบแค่งูๆ ปลาๆ เท่านั้น ทั้งยังเอาแต่ยั่วยุทหารของเขาที่ชิงโจวแต่กลับไม่กล้าสู้กันซึ่ง

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายเซียวอี้เหิงพาเสี่ยวหลันจื่อกลับไปที่จวน เขาขังนางเอาไว้ในห้องกับตนเองถึงห้าวันเพื่อเป็นการลงโทษเสี่ยวหลันจื่อขอร้องเขาอย่างไรเซียวอี้เหิงก็ไม่ใจอ่อน แม้นางจะบีบน้ำตาก็ตาม จะไม่ให้เสี่ยวหลันจื่ออ้อนวอนเขาได้อย่างไรการลงโทษของเซียวอี้เหิงนั้นช่างวาบหวิวน่าอายนัก เจ้าคนเย็นชานี่ไม่นึกเลยว่าเมื่อได้ลองเรื่องนี้แล้วจะติดใจจนแทบไม่ปล่อยนางลงจากเตียง ไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรียวแรงมากที่ใดเคี่ยวกรำเสี่ยวหลันจื่อทั้งวันทั้งคืนนจนนางระบบไปหมดแล้วเขาคิดว่าตนเองแค่เล็กๆ อย่างนั้นหรือ“ท่านอ๋องข้าขอร้อง ข้ารับไม่ไหวแล้วส่วนล่างของข้าระบมไปหมดแล้ว” เสี่ยวหลันจื่อโอดครวญเสียงหวาน“ข้าเคยได้ยินท่านหมอบอกว่าเมื่อเราเป็นแผลที่ใดให้ใช้น้ำลายแตะก็จะหายเร็ว มาเถอะชายารักข้าจะใช้น้ำลายช่วยรักษาให้เจ้าเอง”เซียวอี้เหิงจับขาทั้งสองข้างของเสี่ยวหลันจื่อชันขึ้นแล้วเขาก็ก้มตัวลงไปละเลงลิ้นบนความชุ่มฉ่ำของนางรียกเสียงครางหวานออกมาจากริมฝีปากแดงช้ำเพราะถูกจูบเซียวอี้เหิงจูบจนนางแทบสำลักลมหายใจเสี่ยวหลันจื่อตอนนี้ในหัวของนางขาวโพลน ไม่รู้ว่าเซียวอี้เหิงวางยาอะไรนางแต่ตอนนี้นางต้องการเขาให้เติมเต็มส่วนล่า

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ภาพจำสุดท้าย

    เสี่ยวหลันจื่อร้อนใจเป็นอย่างมากรีบพาเซียวอี้เหิงกับองครักษ์หลายนายตรงไปที่เรือนหลังหนึ่งทางทิศใต้ของเมืองหลวง เรือนหลังนี้ไม่โดดเด่นนักเหมือนกับเรือนหลังอื่นในระแวกนี้ แต่ครั้งก่อนที่นั่นมีทางลับที่องค์ชายสามทำเอาไว้ เขาไม่มีโอกาสได้ใช้แต่เป็นกู้รั่วอวิ๋นต่างหากเมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนยังไม่มีผู้ใดเข้ามาที่นี่ เพราะเมื่อคืนมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ถ้ามีคนมาที่นี่จะต้องมีรอยเท้าอย่างแน่นอน“นางยังมาไม่ถึงที่นี่ อาจเพราะมีทหารออกค้นหาทั่วเมืองจึงทำให้นางไม่สะดวกประกฏตัว” เซียวอี้เหิงวิเคราะห์“จื่อเอ๋อ เจ้ากลับไปรอฟังข่าวที่จวนดีหรือไม่ที่นี่อันตรายนัก หากกู้รั่วอวิ๋นกับพวกของนางมาที่นี่จะต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นแน่”เสี่ยวหลันจื่อทำท่าไม่ยินยอม นางอยากเห็นกับตาว่ากู้รั่วอวิ๋นถูกจับไม่อย่างนั้นนางไม่สบายใจ“ท่านอ๋องคนของเรามากเพียงนี้ยังต้องกลัวนางอีกหรือ ท่านให้ข้าอยู่ที่นี่เถอะ ข้ารับรองจะอยู่ด้านหลังตลอดไม่ทำตัวเป็นฮีโร่แน่”เซียวอี้เหิงถอนหายใจอย่างจนใจกับความดื้อดึงของเสี่ยวหลันจื่อแม้เขาจะไม่รู้ว่าฮีโร่คือสิ่งใดเเต่เขาก็ยอมตามใจนาง “เช่นนั้นเจ้าอย่าออก

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   จับกุม

    “ท่านยาย”ประโยคแรกที่เสี่ยวหลันจื่อเอ่ยขึ้นหลังจากที่นางได้สติ เสี่ยวหลันจื่อโผเข้าหาแม่เฒ่าสวีทันทีกอดนางร้องไห้ออกมาเสียงดังจนทุกคนในเรือนตกใจ พวกเขาสงสัยว่านางเป็นอะไรหลังจากที่ตื่นเหตุใดจึงได้ร้องไห้คร่ำครวญเพียงนั้น แม่เฒ่าสวีทำอะไรไม่ถูก็ได้แต่กอดปลอบนาง เซียวอี้เหิงสังเกตทุกอิริยาบทของเสี่ยวหลันจื่อ ตอนแรกเขาคิดว่านางกำลังละเมอแต่ว่าไม่ใช่“แม่นางเจ้า.....รู้จักข้าหรือ” เม่เฒ่าสวีถามเสี่ยวหลันจื่ออย่างไม่เเน่ใจหลังจากที่นางตั้งสติได้แล้ว เสี่ยวหลันจื่อพยักหน้าให้แม่เฒ่าสวีอย่างจริงจัง“ไม่เพียงแต่ท่านที่ข้ารู้จัก ข้ารู้ยังจักทุกคนเกินครึ่งหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ ถ้าท่านไม่เชื่อข้าสามารถบอกชื่อพวกเขาให้ท่านฟังได้นะ”เเล้วเสี่ยวหลันจื่อก็เอ่ยชื่อของชาวบ้านที่นางรู้จักบางคนแม้กระทั่งว่าบ้านของพวกเขาตั้งอยู่ตรงไหนของหมู่บ้านนางก็สามารถบอกได้ถูก แม่เฒ่าสวีรู้สึกอัศจรรย์ยิ่งนัก แม้แต่เซียวอี้เหิงที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ยังคล้อยตาม“ข้าดีใจจริงๆ ที่พวกท่านทั้งหมดยังอยู่ ข้าสัญญาว่าจะต้องปกป้องท่านเอาไว้ให้ได้” แม้แม่เฒ่าสวีจะยังงงกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ก็ยิ้มให้กับท่าทางที่น่

  • ทะลุมิติไปเป็นตัวละครลับของท่านอ๋องอำมหิต   ข้ากลับมาแล้ว

    เมื่อเสี่ยวหลันจื่อหลับไป ภายในความฝันร่างของนางค่อยๆ ล่องลอยไปไกล จนถึงสถานที่แห่งหนึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขาตอนนี้นางกำลังยืนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่นางรู้สึกคุ้นเคยเสี่ยวหลันจื่อไม่รู้ว่านั่นเป็นบ้านของใครแต่นางกลับรู้สึกคิดถึงที่นี่มาก คล้ายกับว่าตนเองเคยอยู่เมื่อนานมาแล้ว นางผลักบานประตูที่ทำจากไม้เนื้อแข็งดูเก่าเหมือนจะถูกสร้างมานานหลายปีแล้วแต่ยังดูเเข็งเเรงเมื่อเดินเข้าไปในบ้านเสี่ยวหลันจื่อเห็นต้นอู๋ถงที่ล้านหน้าบ้านออกดออกบานสะพรั่งสวยงาม นางเดินไปเก็บดอกที่หล่นบนพื้นขึ้นมาดม เสียงพูดคุยภายในเรื่อนหลังน้อยแต่ดูอบอุ่นเรียกความสนใจของเสี่ยวหลันจื่อให้หันไป นางเดินตามเสียงนั้นผ่านห้องโถงเลยไปจนถึงห้องครัวนางพบสองผู้เฒ่าวัยชราที่กำลังถกเถียงกันอยู่เหมือนสองผู้เฒ่าจะรู้การมาของนางทั้งสองหันมายิ้มให้เสี่ยวหลันจื่อและพูดกับนางบางอย่าง แต่เสี่ยวหลันจื่อไม่ได้ยิน นางพยายามที่จะฟังแต่เหมือนเสียงนั้นจะค่อยๆ ห่างไกลออกไปนางรู้สึกเหมือนจะขาดใจเสี่ยวหลันจื่อร้องไห้ออกมาพร้อมทั้งตะโกนเรียกทั้งสองคนเสียงดัง“จื่อเอ๋อ! จื่อเอ๋อ! ตื่นร็วเกิดอะไรขึ้น” เป็นเซียวอี้เหิงที่เขย่าตัวปลุก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status