“ที่ร้านเป็นยังไงบ้างผิง ฉันได้ข่าวแว่ว ๆ ว่ามีหนุ่มมาคอยตามเทียวไล้เทียวขื่อแกอยู่นี่ เป็นยังไง หล่อ ล่ำ บึก ไหมฮะแก”
ณภัทรถามหลังจากไม่ได้เจอตรีชฎามาเกือบสามอาทิตย์ เพราะแต่ละคนก็ยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง วันนี้เป็นโอกาสเหมาะถึงได้นัดมาเจอกัน
“ที่ร้านน่ะเหรอ ช่วงนี้คนเยอะก็เหนื่อยหน่อย ส่วนเรื่องนั้นน่ะ ฉันก็เฉย ๆ ฉันไม่ได้ชอบเขานี่” หญิงสาวตอบหน้าตาเฉย
“นังง่าว นี่ นังผิง สวย ๆ อย่างแก เลือกมากระวังจะขึ้นคานทองนะยะหล่อน”
ชายใจสาวเตือนด้วยความหวังดี เพราะกลัวเพื่อนสาวจะอยู่เป็นโสดไปจนตาย
“ก็ฉันไม่ได้ชอบเขา แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงล่ะ” ตรีชฎาแย้ง
“แล้วทำไมแกไม่ลองศึกษาดูใจเขาก่อนล่ะ เจอหน้ากันแค่นี้ แกจะรู้ได้ยังไงยะ ว่าคนโน้นคนนี้ไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับแกน่ะ ของแบบนี้แกต้องลองเปิดใจนะผิง ถ้ามัวแต่ปิดกั้นตัวเอง แล้วเมื่อไหร่แกจะเจอคนที่ใช่สำหรับแกยะ ไม่แน่บางทีเขาอาจจะเป็นเนื้อคู่ของแกก็ได้นะ”
“ถึงไม่ศึกษาดูใจ ฉันก็รู้น่ะว่าเขาไม่ใช่ ความรู้สึกมันบอกนี่”
หญิงสาวเถียง เธอไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไงกับเรื่องนี้ แต่เธอคิดแบบนี้ และถ้าเป็นเนื้อคู่ของเธอจริง เธอจะรู้สึกได้ด้วยตัวเอง
“ฉันก็คิดเหมือนยายผิงนะ ถ้าเป็นฉันก็คงจะทำใจไม่ได้หรอก ถ้าคน ๆ นั้นไม่ใช่คนที่ฉันรู้สึกชอบน่ะ จะให้มาลองคบกันมันก็แปลก ๆ”
ณภัทรก็เป็นอีกคนที่คิดแบบเดียวกับตรีชฎา เธอเห็นหลายคู่ที่พอได้คุยกัน วันรุ่งขึ้นก็เป็นแฟนกันแล้ว พอเจอคนใหม่ก็บอกเลิกกันง่าย ๆ ไม่รู้ว่าคนสมัยนี้มันรักมันชอบกันจริงหรือเปล่า หรือคบกันแค่ไม่ให้เหงาเท่านั้น
“ฮึ แกก็เหมือนกันแหละนังนิ้ง เฮ้อ พวกแกจะเลือกอะไรกันนักหนา ดูอย่างฉันสิ ไม่เห็นจะต้องเลือกอะไรมากมายเลย หุ ๆ”
กะเทยร่างยักษ์ยกมือป้องปากหัวเราะคิกคัก
“แหม ใครจะไปเหมือนแกยะนังโยธิน ใจกล้า แค่เห็นคนหล่อก็ไปงาบเขาแล้ว”
“นี่ นังนิ้ง แกก็อีกคน ฉัน โยทะกา ใจบริสุทธิ์ ค่ะ ไม่ใช่ โยธิน ใจกล้า เรียกผิดชื่อเดี๋ยวแม่จิกตบเลยนี่” สาวเทียมกระแทกกระทั้นเพื่อนสาว
“อุ๊ย! อาหารมาแล้ว ขอบใจนะจ๊ะพ่อรูปหล่อ”
มือใหญ่หนาของชายใจสาวยื่นไปรับอาหารที่บริกรหนุ่มยกมาเสิร์ฟ สายตาก็จิกมอง พร้อมกับกัดปากตัวเองให้ดูเซ็กซี่ เล่นเอาบริกรหนุ่มผู้โชคร้ายขนลุก เพราะสยองกับความเซ็กซี่ของกะเทยร่างยักษ์
เพื่อนซี้ทั้งสามละเลียดอาหารบนโต๊ะอย่างเอร็ดอร่อย ด้วยความหิวเป็นเหตุ เพียงไม่นานอาหารทุกจานก็หมดเกลี้ยง
“อิ่มแล้ว เราไปแดนซ์ย่อยอาหารกันเถอะ”
ไม่รอให้อาหารย่อย ตรีชฎาก็ลุกไปแดนซ์ทันทีอย่างไม่กลัวจุกท้อง โยธินและณภัทรลุกตามไปติด ๆ
ทั้งสามออกลวดลายแดนซ์กันกระจายในส่วนที่ทางผับจัดสรรไว้ให้สำหรับนักเต้นเท้าไฟทั้งหลาย ที่อยากจะยักย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสนุกสนานตามประสาขาแดนซ์
อีกด้านหนึ่งของผับหรู โซนวีไอพีสำหรับไฮโซกระเป๋าหนัก ได้ถูกจองโดยลูกค้าขาประจำอย่าง สิบทิศ ธาราธรณ์
เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมหลายสาขาในเครือ ธาราธรณ์ กรุ๊ป ผู้คุมบังเหียนคนปัจจุบัน หลังจากที่บิดาของเขาได้ล่วงลับไปแล้ว
ชายหนุ่มถือเป็นนักธุรกิจมือหนึ่งของประเทศเลยก็ว่าได้ เพราะความเด็ดขาดและเล่ห์เหลี่ยมเชิงกลยุทธ์ทางธุรกิจ ที่ทำให้คู่แข่งหลาย ๆ คนพากันหวาดผวา ทำให้สิบทิศกลายเป็นนักธุรกิจที่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยวัยเพียง 27 ปี เท่านั้น
นอกจากความเก่งกาจทางธุรกิจแล้ว ชายหนุ่มยังมีรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรก็ไม่ปาน จนทำให้สาว ๆ เกือบทั้งประเทศอยากที่จะตบเท้าเข้ามาขอสมัครเป็นเจ้าของหัวใจหนุ่มหล่อกันมากมาย แต่มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก เพราะสำหรับ สิบทิศ ธาราธรณ์ แล้ว
‘ผู้หญิงก็เหมือนทิชชู ใช้เสร็จแล้วก็ทิ้ง!’
“ไอ้ณัฐ เอ็งเป็นอะไรวะ ตาเยิ้มเชียว เจอเหยื่อล่ะสิท่า”
สิบทิศกระเซ้าถามณัฐพงษ์ที่ยังคงจ้องมองบางสิ่งบางอย่างด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างรู้ทัน สำหรับเพื่อนของเขาคนนี้ ลองได้ตาหวานตาเยิ้มแล้วล่ะก็ นั่นหมายความว่าต้องเจอผู้หญิงที่ถูกใจ
“ไม่ใช่เหยื่อว่ะ แต่เป็นนางฟ้า ไอ้สิบเอ๊ย ตั้งแต่ข้าเกิดมา ยังไม่เคยเจอใครสวยเท่านี้มาก่อนเลยว่ะเพื่อน ผู้หญิงอะไรสวยหยาดฟ้าขนาดนี้ หรือว่าเธอจะเป็นนางฟ้าลงมาจุติกันนะ ดูสิผิวก็ขาวอมชมพู เวลาได้กอดคงจะนุ่มนิ่มน่าดู”
ณัฐพงษ์พึมพำเหมือนคนละเมอ สายตาหลักแหลมในการมองผู้หญิงยังคงจับจ้องสาวสวยตาไม่กะพริบ
“คัต! พักกองได้”เสียงสั่งคัตจากผู้กำกับ เป็นผลให้มาเรียต้องผละออกจากนักแสดงหนุ่มตัวประกอบแทบจะทันที มือบางกรีดกรายอย่างมีจริต ปัดเนื้อปัดตัวด้วยท่าทางสะอิดสะเอียนเต็มทน“เชอร์รี่ ไปเอาแอลกอฮอล์มาซิ”มาเรียตะโกนสั่งผู้จัดการส่วนตัว แต่เมื่อเห็นว่าคนที่เธอเรียกหา ยังไม่กระดิกตัวไปทำตามคำสั่ง สายตาแหลมก็หันขวับมาจิกตาขวาง“นี่! นังเชอร์รี่ มัวนั่งบื้ออยู่ทำไมยะ ไปเอาแอลกอฮอล์มาเร็ว ๆ สิ ฉันขยะแขยงสัมผัสจากไอ้บ้านั่นเต็มทีแล้ว เร็ว ๆ”เสียงแหลมสั่งกำชับอีกครั้ง ผู้จัดการชายใจสาวจึงต้องรีบวิ่งหน้าตั้งไปหยิบแอลกอฮอล์มาให้นางแบบสาวอย่างเร่งด่วน เพราะถ้าขืนชักช้ากว่านี้ เจ้าหล่อนเป็นได้โวยวายใส่ จนปวดหัวไปสามวันเจ็ดวัน“นี่ค่ะ คุณมาเรียขา แอลกอฮอล์ที่สั่งได้แล้วค่ะ”เชอร์รี่ยื่นแอลกอฮอล์ขวดใหญ่ พร้อมสำลีหนึ่งห่อส่งให้ร่างโปร่งบางที่นั่งไขว่ห้างอยู่เมื่อรับขวดแอลกอฮอล์กับสำลีมาได้ เจ้าหล่อนก็รีบใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์ แล้วมาเช็ดตามเนื้อตัว เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย“คุณมาเรียขา เช็ดแค่นี้คราบสกปรกมันออกไม่หมดหรอกค่ะ ทำไมไม่อาบไปเลยล่ะคะ รับรองว่ากำจัดทั่วทุกซอกทุกมุมแน่ค่ะ” เชอร์รี่จีบปา
“สวัสดีครับคนสวย เมื่อกี้คุณเต้นได้เซ็กซี่มากเลย ผมรู้สึกถูกใจคุณมากเลยล่ะ ถ้าผมจะชวนคุณไปต่อ คุณจะให้เกียรติไปต่อกับผมคืนนี้ไหมครับ”ชายคนที่ฉุดแขนเธอไว้เอ่ยชวน พร้อมกับไล่มองเรือนร่างของเธอด้วยสายตาโลมเลียอย่างน่าเกลียด ตรีชฎาหน้าตึงไปชั่วขณะ ทั้งโกรธและอายมาก ที่ผู้ชายตรงหน้ามาพูดจาหยามเกียรติหยามศักดิ์ศรีเธอเช่นนี้“ปล่อยนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว”เสียงหวานตะโกนใส่หน้า แล้วสะบัดแขนออกจากคนหื่นกาม“แหม ไม่มีใครเขาเชื่อหรอก ว่าคุณไม่ใช่ เอ หรือว่าที่ทำเป็นโมโหแบบนี้ เพราะอยากจะโก่งค่าตัวเหรอครับ ลีลาดีอย่างคุณเนี่ย ผมขอเหมาสองคืนเลย เท่าไหร่ล่ะ ผมจ่ายไม่อั้นอยู่แล้ว ยิ่งถ้าคุณเด็ดถูกใจผมล่ะก็ ผมจะจ่ายให้เป็นสองเท่าเลย สนใจไหม”ผู้ชายตรงหน้ายังคงต่อรองอย่างยียวนชวนให้ตรีชฎาโกรธจัด มือบางจึงฟาดลงไปที่ซีกแก้มของอีกฝ่ายเต็มแรง“เพียะ! ไอ้บ้า ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว ต่อให้แกจ่ายให้ฉันเท่าไหร่ ฉันก็ไม่เอา แล้วจำไว้ ว่าคนอย่างฉันมีค่าพอ ไม่จำเป็นต้องเอาตัวไปเสนอให้แกหรอก ไอ้หื่นกาม” ตรีชฎาตะคอกกลับ ทำท่าจะเดินหนี แต่อีกฝ่ายก็กระชากเธออย่างแรง ร่างบางถูกดันจนหลังติดกำแพงด้วยคนที่มีพละกำลังม
“ไม่ค่ะ ผิงดื่มไม่เป็นสักอย่าง”ตรีชฎาส่ายหน้า ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยลองแตะของพวกนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว“ผู้หญิงอย่างคุณมาที่นี่ก็ออกบ่อยไม่ใช่เหรอ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะดื่มของพวกนี้ไม่เป็น อย่างคุณเนี่ย หน้าไม่ให้เป็นคนไร้เดียงสาเลยนะ หรือคุณทำเป็นแอ๊บแบ๊วว่าไม่เคยดื่มให้ตัวเองดูดีฮะ”“ผิงดื่มไม่เป็นจริง ๆ นะคะ ทำไมคุณสิบต้องมายัดเยียดข้อหาให้ผิงด้วย”“แล้วปกติคุณมาที่นี่ทำไมถ้าไม่ได้มาดื่มสังสรรค์ อ้อ ใช่สิ ผมลืมไปที่คุณมาที่นี่บ่อย ๆ ก็เพราะว่าจะมาหาเหยื่อรวย ๆ ไว้ถลุงเงินเล่นล่ะสิท่า”วาจาเผ็ดร้อนแดกดันหญิงสาวอย่างเหยียดหยามเป็นที่สุด ในใจก็ไพล่คิดไปว่าผู้หญิงอย่างแม่นางยั่วคนนี้จะมีอะไร นอกเสียจากมาล่าเหยื่อกระเป๋าหนักไปนอนด้วย“คุณสิบ! ทำไมคุณต้องว่าผิงแบบนี้ด้วยคะ ผิงดูเป็นผู้หญิงแบบนั้นมากเลยเหรอ ผิงมาที่นี่ก็แค่มาแดนซ์กับเพื่อน ๆ เพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ไม่ได้มาทำอะไรอย่างที่คุณสิบกล่าวหาผิงสักหน่อย”หน้าสวยเรียบตึงทันที เมื่อถูกเขาว่าร้าย เธอไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมเขาจะต้องหาเรื่องด่าว่าเธอได้ตลอดเวลา เขาไม่คิดบ้างเลยหรือไง ว่าเธอจะเสียใจแค่ไหนกับคำพูดที่ออกมาจากปากเขา“หึ ไม่ต
“โอ๊ย พอได้แล้ว หยุดสักที แสบแก้วหูจะตายอยู่แล้วนะ”มือหนายกขึ้นปิดหูทั้งสองข้างไว้อย่างรำคาญใจ เยื่อในหูจะฉีกขาดหมด ก็เพราะเสียงแจ๋น ๆ ของเธอนี่แหละ“คุณสิบต้องบอกมาก่อนว่าจะไปกับผิง ถ้าไม่อย่างนั้น ผิงก็จะตะโกนแบบนี้ จนคุณสิบหูแตกไปเลย”หน้าสวยสะบัดเชิดใส่เขา ก่อนจะตะโกนขึ้นมาดัง ๆ อีกรอบ“คุณสิบใจร้าย ๆ ใจร้ายที่สุดเลย ไม่ยอมไปเที่ยวกับผิง คุณสิบใจร้าย ๆ คุณสิบใจร้าย ๆ คุณสิบใจร้าย ๆ”“หยุดสักที ผมบอกให้หยุด!” เสียงเข้มตะโกนแทรกขึ้นมา“ไม่หยุด! คุณสิบใจร้าย ๆ คุณสิบใจร้าย ๆ”“โอ๊ย จะแหกปากอะไรนักหนา พอได้แล้ว ผมยอมแล้ว ไปก็ไป แต่หยุดตะโกนสักทีได้ไหม ปวดหูไปหมดแล้วเนี่ย”ในที่สุดสิบทิศก็ต้องยอมจำนนให้กับตรีชฎาจนได้ ที่ยอมไม่ใช่เพราะใจอ่อนหรอกนะ แต่ยอมเพราะทนไม่ไหวกับเสียงใสแสบแก้วหูของเธอเสียมากกว่า ถ้าขืนเธอตะโกนนานมากกว่านี้ มีหวังขี้หูออกมาเต้นระบำกันเป็นแถวแน่“จริง ๆ นะคะคุณสิบขา คุณสิบไปกับผิงจริง ๆ นะคะ พูดแล้วห้ามคืนคำนะ”ร่างบางรีบกระโดดมานั่งตักเขาด้วยความดีใจจนเกินเหตุ ก่อนจะกอดคอเขา พลางขอคำยืนยันอีกครั้ง เพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจไม่ไปกับเธอ“อืม บอกจะไปก็ไปสิ นี่
“ท่านประธานคะ คุณผิงมาขอพบค่ะ”เมื่อได้ยินเสียงของเลขานุการสาวดังมาจากอินเตอร์คอม ร่างสูงก็ต้องถอนหายใจดังเฮือก“มาอีกแล้วเหรอเนี่ย โอ๊ย อยากจะบ้าตาย เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากบ่วงกรรมสักทีวะไอ้สิบเอ๊ย”มือหนาตบศีรษะตัวเองเบา ๆ อย่างนึกเซ็ง ไม่รู้ว่าเธอจะมาทำไมทุกวี่ทุกวัน พอมาก็มานั่งเฝ้าเขาทำงานบ้างแหละ มาป่วนเขาบ้างแหละ จนพักหลัง ๆ มานี้ เขาไม่ค่อยจะมีสมาธิในการทำงานสักเท่าไหร่ เพราะแม่ยอดยุ่งที่ชื่อตรีชฎานี่แหละ“อืม”สิบทิศครางในลำคออนุญาตให้เธอเข้ามา ทั้งที่ใจก็ไม่ได้อยากจะทำอย่างนี้เสียด้วยซ้ำ แต่ถึงจะให้เธอเข้ามาหรือไม่ให้เข้ามาก็มีค่าเท่ากันเพราะครั้งก่อนเขาไม่อนุญาตให้เธอเข้ามา คุณเธอก็ไม่แคร์สื่อใด ๆ ทั้งสิ้น นั่งรอเขาอยู่หน้าห้องอย่างไม่รู้สึกเบื่อ พอเขาออกมาก็หนีเธอไม่พ้นอยู่ดี ก็เธอเล่นดักเขาเสียขนาดนั้น ถ้าเขาหนีรอดไปได้ ก็คงไม่มานั่งกลุ้มอยู่อย่างนี้หรอก“คุณสิบขา ผิงคิดถึงคุณจังเลยค่ะ”นี่ก็เป็นประโยคเด็ดที่เธอจะต้องพูดเป็นประจำทุกวัน ว่าคิดถึงเขาอย่างโน้น คิดถึงเขาอย่างนี้ตรีชฎาเดินยิ้มหน้าระรื่นมานั่งตรงที่พิงแขนเก้าอี้ ก่อนจะโอบกอดร่างสูงให้หายคิดถึง ทำอย่างกับว่าเธอไ
ผู้คนจำนวนไม่น้อยยืนต่อคิวสั่งกาแฟแถวยาวเหยียดในร้านกาแฟเล็ก ๆ เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานอยู่ในออฟฟิศ มักจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีมานั่งดื่มกาแฟใกล้บริษัท แทนการรับประทานอาหารเช้าจากที่บ้าน เพราะความสะดวกสบายและไม่ต้องเสียเวลามากนัก จึงทำให้ผู้คนนิยมที่จะบริหารเวลาของตัวเองเช่นนี้ ซึ่งมันก็ค่อนข้างประหยัดเวลาได้มากเลยทีเดียวณภัทรถือกาแฟและคุกกี้เนยสดของโปรดเดินมาหาที่นั่งทาน ซึ่งดูท่าแล้วจะไม่มีโต๊ะว่างให้เธอนั่งเลยสักโต๊ะเดียว เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่คนนั่งกันเต็มหมดแล้ว ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปทั่วร้าน จนมาสะดุดอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง มีเก้าอี้ว่างให้เธอสามารถเข้าไปนั่งได้พอดิบพอดี เห็นดังนั้น หญิงสาวจึงรีบย่ำเท้ามุ่งตรงไปที่โต๊ะนั้นโดยไม่รีรอ“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามีใครนั่งหรือเปล่าคะ ถ้าไม่มีฉันขอนั่งด้วยคนนะคะ”ณภัทรเอ่ยขอชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยคำอนุญาตใด ๆ ร่างบางก็จัดแจงจะนั่งเก้าอี้ตัวที่ว่างทันทีแต่ในจังหวะที่หญิงสาวก้าวขาเข้ามา หมายจะนั่งเก้าอี้ตัวนั้น ขาเรียวงามของเธอก็ดันไปสะดุดเข้ากับขาเก้าอี้โดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้กาแฟที่ถืออยู่ในมือหกเลอะมื