“นางฟ้าไหนของเอ็งวะ ข้ายังไม่เห็นสักคน”
มือหนาหมุนแก้วเหล้าไปมา ก่อนจะยกขึ้นดื่มน้ำสีอำพันลงสู่ลำคอรวดเดียวหมดแก้ว
“นั่นไง เอ็งเห็นไหม คนที่ใส่ชุดสีดำที่เซ็กซี่ ๆ นั่นน่ะ นางฟ้าของข้า”
นัยน์ตาคมกริบมองตามนิ้วเรียวของณัฐพงษ์ จนมาสะดุดอยู่ที่ร่างบางระหงในชุดแซคสีดำสุดเปรี้ยว กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างเย้ายวน โดยรอบข้างก็มีผู้ชายมากหน้าหลายตาเริ่มเข้ามารุมล้อม
‘ลีลายั่วไม่เบาเลยแฮะ ไอ้สวยก็สวยอยู่หรอก แต่เขารู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาเอาซะเลย’
“หึ นั่นน่ะเหรอ นางฟ้าของเอ็ง นางยั่วล่ะสิไม่ว่า”
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างดูถูกดูแคลนสาวชุดดำสุดเซ็กซี่
‘ยั่วยวนขนาดนี้ ไม่บอกก็รู้ว่าโชกโชนขนาดไหน ดูลีลาของคุณเธอสิ ผู้หญิงดี ๆ ที่ไหน จะเต้นได้บาดอารมณ์ผู้ชายขนาดนั้น’
“ถึงจะเป็นนางยั่ว แต่ก็สวยดั่งนางฟ้าล่ะว้า เดี๋ยวข้ามานะเว้ย จะไปทำความรู้จักกับนางฟ้าของข้าสักหน่อย”
พูดจบเพลย์บอยหนุ่มรูปหล่อก็ก้าวขายาวแกร่ง เดินมุ่งหน้าไปยังเป้าหมายทันที
ณัฐพงษ์ กิตติอนันท์ เจ้าของบริษัท เค ที เอ ไดมอนด์ ผู้ส่งออกอัญมณีรายใหญ่ของประเทศ เพลย์บอยหนุ่มรูปหล่อเพื่อนสนิทของสิบทิศ เป็นหนุ่มโสดเจ้าสำราญและมีคารมเป็นเลิศ ด้วยเหตุนี้จึงมีสาว ๆ เข้ามาติดพันเขาไม่แพ้สิบทิศ เพราะหลงระเริงกับคำพูดหวาน ๆ ของเขา
“สวัสดีครับ คุณคนสวย”
เสียงทุ้มหวานชวนละลายเอ่ยทักทายนางฟ้าสุดสวย หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองบุคคลผู้มาใหม่ด้วยความงุนงง ที่จู่ ๆ เขาก็เข้ามาทักเธอ
“เอ่อ สวัสดีค่ะ คุณ...”
เสียงหวานใสกล่าวทักตอบเช่นกัน ก่อนจะหยุดชะงักงัน เมื่อไม่รู้ว่าควรจะเรียกเขาอย่างไร
“ณัฐพงษ์ครับ เรียกว่าณัฐเฉย ๆ ก็ได้ครับ เอ่อ ไม่ทราบว่าคนสวยอย่างคุณ มีชื่อว่าอะไรเหรอครับ ผมจะได้เรียกถูก”
คนเจ้าชู้ประตูดินรีบแนะนำตัว แล้วถามชื่อเสียงเรียงนามของสาวสวยตรงหน้าด้วยเสียงทุ้มหวานชวนฟัง หวังให้เธอหลงใหลในน้ำเสียงที่เปล่งออกมา
“ตรีชฎาค่ะ เรียกว่าผิงก็ได้ค่ะ” เธอบอกชื่อให้ชายหนุ่มรับทราบ
“ตรีชฎา ชื่อเพราะจังเลยนะครับ ชื่อก็เพราะ คนก็...สวย”
เขาเอ่ยชมด้วยความเจ้าชู้ที่ปิดยังไงก็ปิดไม่มิด ดวงตาพราวระยับมองสบตาสาวสวยตรงหน้า ชนิดที่ผู้หญิงเห็นแล้วเป็นต้องใจละลาย
“ขอบคุณค่ะที่ชม”
เรียวปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานให้ณัฐพงษ์ จนคนที่ได้รับรอยยิ้มนั้น แทบจะใจละลายไปเลยทีเดียว
‘ผู้หญิงอะไรทั้งสวยทั้งน่ารักเป็นบ้าเลย’ เขาคิด
“ถ้าผมจะขอนั่งด้วยคน จะเป็นการรบกวนคุณผิงเกินไปหรือเปล่าครับ”
หนุ่มเจ้าสำราญส่งสายตาหวานวาวระยับให้หญิงสาวอีกครั้ง หวังเหลือเกินว่าจะได้นั่งเป็นเพื่อนสาวสวยที่โต๊ะนี้สองต่อสอง แต่แล้วสิ่งที่คิดไว้ก็พังทลาย เมื่อมีอีกเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา
“คงไม่ได้หรอกค่ะ เผอิญว่าไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเชิญไอ้ชีกอลามก เอ้ย คุณ นั่งกับพวกเรา ต้องขอโทษเป็นอย่างสูงด้วยนะคะ”
ณภัทรที่เพิ่งเดินกลับมาทันได้ยินคำขอของชายแปลกหน้า ก็รีบพังทลายความหวังของเขาอย่างไม่มีชิ้นดี เพราะรำคาญไอ้พวกผู้ชายชีกอที่ชอบทำเป็นเสน่ห์แรงมาขี้หลีใส่
ส่วนณัฐพงษ์ถึงกับยืนหน้าเสียกับคำพูดที่ไม่เหลือเยื่อใยของหญิงสาวผู้มาใหม่เลยทีเดียว
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนก็แล้วกันนะครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะครับคุณผิง”
ณัฐพงษ์บอกทิ้งท้าย รีบก้มหน้าก้มตาเดินกลับไปด้วยความอับอายที่โดนหักหน้าแทบแทรกแผ่นดิน
เกิดมายังไม่เคยมีใครทำให้หนุ่มนักรักเช่นเขา ต้องเสียหน้าเพราะเรื่องผู้หญิงเลยสักครั้ง จะมีก็แต่ยายผู้หญิงบ้าคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้เขาเสียความสมดุลในความหล่อของตัวเอง
“หน็อย ไอ้ชีกอลามก ไอ้พวกหื่นกาม คิดจะมาหลีหญิงไปขึ้นเตียงด้วยน่ะสิ ฝันไปเถอะย่ะ”
ณภัทรต่อว่าชายหนุ่มเป็นชุด เมื่อเขาเดินลับตาไปแล้ว
“ยายนิ้ง แกจะไปว่าเขาทำไม เขายังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”
ตรีชฎาแย้งเพื่อนสาว
“ก็ฉันไม่ชอบนี่ ถึงมันจะยังไม่ทำอะไรแก แต่ถ้าฉันมาช้ากว่านี้ก็ไม่แน่หรอก ผู้ชายพวกนี้ไว้ใจได้ที่ไหน เสียดายที่ฉันมาช้าไปนิด ไม่อย่างนั้นแม่จะด่าให้กระเจิงเอาให้อายคนทั้งผับเลย”
สาวเปรี้ยวซ่าเท้าสะเอวทำสีหน้าเอาจริงเอาจัง แต่คำต่อว่าต่าง ๆ นานาของเธอ ส่งผลให้คนที่ถูกด่าเป็นต้องจามติดกันถึงสามครั้งสามครา
“ฮะ ฮัดชิ่ว ฮะ ฮัดชิ่ว ฮะ ฮัดชิ่ว! เฮ้ย ใครแอบด่าเราวะ”
เพลย์บอยหนุ่มบ่นพึมพำมาตามทาง
“ไงวะไอ้ณัฐ ไปทำความรู้จักกับนางฟ้าของเอ็งถึงขั้นไหนแล้วล่ะ ไหงกลับมาทำหน้าบอกบุญไม่รับอย่างนี้วะ”
สิบทิศกระเซ้าเย้าแหย่เพื่อนรักด้วยน้ำเสียงขบขัน ที่เห็นหน้ายุ่งคิ้วขมวดของณัฐพงษ์ ดูแล้วคงจะซื้อแห้วกลับมาด้วย
จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากบางเฉียบ ซุกไซ้ซอกคอขาวเนียน สูดดมความหอมละมุนจากกลิ่นกายของภรรยาสาว ยิ่งได้กลิ่นก็ยิ่งคลั่งไคล้ในตัวเธอ ลิ้นอุ่นชื้นไล้เลียละเลียดไปตามผิวเนื้อนวลลออราวกับกำลังกินเค้กหน้านิ่มก็ไม่ปาน“เมียผมหอมจังเลย”เขาค่อย ๆ แทะเล็มขบเม้มทั่วลำคอระหง ใช้ปากร้อนงับติ่งหูของเธอสลับกับไล้ปลายลิ้นไปตามใบหูช้า ๆ จนตรีชฎาต้องหลับตาพริ้ม เบี่ยงหน้าไปอีกทาง เพราะความสยิวลามไปทั่วกลางหลัง ก่อนที่เขาจะจูบพรมไล่ตามซอกคอลงมาถึงเนินอกอวบอิ่มสิบทิศดึงเชือกคล้องคอชุดของขวัญวาบหวิว จับรั้งโบตรงช่วงอกลงมาให้เต้าทรวงหลุดออกจากพันธนาการฝ่ามือหนากอบกุมข้างหนึ่ง เคล้นคลึงเบา ๆ ก่อนใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดอก อีกข้างก็ใช้ริมฝีปากครอบครอง ดูดดื่มปทุมถันอย่างหิวกระหาย“นมผิงอร่อยที่สุดเลย”เสียงทุ้มพร่าเอ่ยชม ลิ้นหนาตวัดเลียเม็ดบัวสีหวาน ซึ่งเป็นจุดกระตุ้นอารมณ์ของเมียรักได้เป็นอย่างดี“คุณสิบขา”ดวงตากลมโตหยาดเยิ้มปรือมองดูสามีกำลังดูดเลียปลายถันที่แข่งกันชูชันทั้งสองข้างของเธออย่างเมามัน เขาปลุกเร้าเธอจนเสียวซ่าน เสียงหวานครางเบา ๆ แอ่นอกประเคนตัวเองอยากให้เขาใช้ปากอันร้อนรุ่มสัมผัสปทุมถันของเธอซ้
‘อย่าลืมนะครับ คืนนี้เรามีนัดแกะของขวัญกัน’ตรีชฎานึกถึงประโยคที่สามีย้ำเตือน ก่อนที่เธอจะเข้ามาอาบน้ำ หญิงสาวมองดูตัวเองในกระจกแล้วก็ต้องอมยิ้มให้กับชุดของตัวเองของขวัญที่สิบทิศพูดถึงหมายถึงตัวเธอ เป็นของขวัญวาเลนไทน์ที่เขาควรจะได้เมื่อวานแต่ก็ไม่ได้ เพราะติดที่ลูก ๆ มานอนด้วย เธอเลยต้องเลื่อนวันมาให้เขาในคืนนี้แทน“ผลัวะ” เสียงเปิดประตูห้องน้ำ ทำให้ร่างสูงที่สวมชุดนอนกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้างต้องหันมามองโดยอัตโนมัติภาพที่ปรากฏในดวงตาคมกริบ สิบทิศถึงกับคำรามในลำคอทันที ร่างบางระหงในชุดผูกคอ ช่วงอกแต่งเป็นโบขนาดใหญ่ทำด้วยผ้าสีแดง ปล่อยห้อยชายผ้าลงมาตรงหน้าท้องแบนราบ มีสายเส้นเล็กสองเส้นแนบขนาบลำตัว เชื่อมโยงกับกางเกงชั้นในที่เป็นแค่ผ้าสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ปกปิดจุดสงวน กำลังเยื้องกรายมาหาเขาแค่เห็นเลือดในกายก็พุ่งพล่าน ปลุกให้ความเป็นชายแข็งผงาด ทั้งที่ยังไม่ได้สัมผัสร่างกายกันด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะนี่เขากำลังจะได้เมียผูกโบของแท้“ชุดอะไรของผิงเนี่ย”สิบทิศดีดตัวลุกนั่งทันทีที่ภรรยาสาวก้าวขึ้นเตียงมานั่งใกล้ ๆ ไล่มองชุดตั้งแต่บนลงล่างไม่วางตา ก่อนจะรั้งตัวเธอให้มานั่งคร่อมตักแกร่ง“ก็
“คุณสิบจะแกะเส้นนี้ออกทำไมคะ” เสียงหวานท้วง“อ้าว ก็นี่มันแค่สร้อยลูกปัดธรรมดา เอาออกเถอะครับ เดี๋ยวผมจะใส่เส้นนี้ให้แทน”“ไม่เอาค่ะ กำไลเส้นนี้เป็นเส้นแรกที่คุณสิบซื้อให้ผิง มันเป็นความประทับใจนะคะ”เขาปลาบปลื้มใจในคำตอบของเธอ จนอยากมอบจูบหวาน ๆ สักจูบสองจูบเพื่อเป็นรางวัล กำไลลูกปัดเส้นนี้ เขาซื้อให้เธอเมื่อครั้งไปฮันนีมูนครั้งแรก แม้เวลาจะผ่านมาหกปีแล้ว เธอก็ยังใส่ติดตัวไว้ตลอด แถมยังรักษาไว้เป็นอย่างดีอีกด้วย“ก็ได้ครับ ไม่ถอดก็ได้ งั้นผมใส่เส้นนี้ให้เลยแล้วกันนะครับที่รัก”ว่าแล้วสิบทิศก็สวมกำไลข้อมือราคาแพงให้ภรรยาคนสวย แล้วยกมือบางขึ้นจูบแผ่วเบา“ขอบคุณค่ะ ผิงก็มีของขวัญให้สามีของผิงเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวนะคะ ขอผิงหยิบก่อน”ตรีชฎาวางช่อดอกกุหลาบ เดินไปหยิบของขวัญที่เตรียมไว้ให้สามีสุดที่รัก ซึ่งเป็นปากกาด้ามทอง สลักชื่อเธอกับเขาไว้ด้วยกัน“ปากกาด้ามนี้ คุณสิบต้องเอาติดตัวตลอดนะคะ ผิงรักสามีที่สุดเลยค่ะ”เธอยื่นปากกาสวยหรูให้เขา โถมตัวกอดเขาด้วยความรักสุดหัวใจ แล้วจูบปลายคางอย่างออดอ้อน“ขอบคุณนะครับที่รัก เอ ผมให้ของขวัญผิงตั้งสองอย่าง แต่ผิงให้ผมแค่อย่างเดียวเองนะครับ”“อ้าว ผิงม
“ฮือ ๆ ฮือ ๆ”ไอ้เสือน้อยที่กำลังยื่นลูกโป่งให้น้องสาว หันไปตามเสียงสะอึกสะอื้น นัยน์ตาสุกใสเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้น ร้องไห้งอแงไม่ยอมหยุด แถมที่หัวเข่าก็ถลอกแดงเหมือนหกล้ม เด็กชายสรวิศจึงรีบเดินเข้าไปหา ซึ่งเด็กหญิงสิราวรรณก็เดินตามไปด้วย“น้องหกล้มเหรอครับ เป็นอะไรมากไหม ขอพี่ผลดูหน่อยนะครับ”มือเล็กของไอ้เสือน้อยจับหัวเข่าของเด็กหญิงเพื่อสำรวจดู แต่ร่างเล็กก็สะดุ้งชักขาออกทันที“เจ็บ ฮือ ๆ ฮือ ๆ”เสียงเล็กใสสะอึกสะอื้นไห้ด้วยความเจ็บ “พี่ผล เราจะทำยังไงกันดี น้องหกล้มจนหัวเข่าถลอกเลย อ้อ น้องผักบุ้งนึกออกแล้ว เดี๋ยวน้องผักบุ้งไปตามคุณพ่อคุณแม่มาดูน้องนะคะ”ริมฝีปากจิ้มลิ้มเจื้อยแจ้วบอกพี่ชาย ก่อนจะรีบวิ่งไปตามบิดามารดาที่อยู่ในร้านไอศกรีม“ไม่ร้องนะครับคนเก่ง เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้วครับ”เด็กชายสรวิศปลอบประโลมเด็กหญิง เหมือนที่คุณพ่อกับคุณแม่ชอบปลอบเวลาเขาหกล้มเสมอ เมื่อเห็นน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าเล็ก มือน้อยจึงหยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อนักเรียน มาเช็ดน้ำตาให้เด็กหญิง“พี่ผล คุณพ่อกับคุณแม่มาแล้วค่ะ”น้องผักบุ้งวิ่
“รักเหรอครับ เหมือนที่น้องผลกับน้องผักบุ้ง รักคุณพ่อกับคุณแม่ใช่ไหมครับ”ริมฝีปากสีแดงสดคลี่ยิ้มให้บิดามารดาอย่างน่ารัก มือหนาจึงเอื้อมมาลูบศีรษะทุยของลูกชายเบา ๆ“ไม่ใช่ครับลูก มันไม่เหมือนกัน รักของน้องมินที่มีให้น้องผล ก็เหมือนกับที่พ่อมีให้คุณแม่ไงครับ อืม เอาไว้น้องผลโตขึ้น เดี๋ยวน้องผลก็จะเข้าใจเอง หมดข้อสงสัยหรือยังเจ้าตัวแสบ ไปกินไอศกรีมกันดีกว่านะลูก”สิบทิศอุ้มเจ้าตัวแสบที่ยังคงทำหน้าสงสัยขึ้นรถ ตามด้วยลูกสาวคนสวย ก่อนจะเปิดประตูให้ภรรยาสาว ส่วนตัวเขาก็เดินอ้อมไปขึ้นรถทางฝั่งคนขับ แล้วขับรถออกจากโรงเรียนไปยังห้างสรรพสินค้าทันทีครอบครัวธาราธรณ์พากันมาร้านไอศกรีมที่ตกแต่งด้วยสีสันน่ารัก สิบทิศเลือกที่นั่งด้านใน ซึ่งเป็นโต๊ะโซฟายาว น้องผลนั่งฝั่งเดียวกับคุณพ่อสุดหล่อ ส่วนน้องผักบุ้งก็นั่งฝั่งเดียวกับคุณแม่คนสวย“พี่สาวคนสวยครับ น้องผลเอารสช็อกโกแลตนะครับ เอาแบบรูปนี้เลยครับ”เมื่อพนักงานในร้านมารับออร์เดอร์ เด็กชายสรวิศก็สั่งไอศกรีม พร้อมกับชี้รูปในเมนูให้ดู“น้องผักบุ้งจะทานไอศกรีมรสสตรอว์เบอร์รีค่ะ เอาแบบเดียวกับพี่ผลด้วย”นางฟ้าน้อยบอกพนักงานเสิร์ฟเจื้อยแจ้ว“คุณแม่จะทานรสอ
“พี่ผล”เสียงเล็กใสของใครคนหนึ่งเรียกชื่อไอ้เสือน้อย เจ้าตัวเลยต้องหันไปตามเสียง แล้วส่งยิ้มให้คนที่ยืนเหนียมอายอยู่ตรงประตูห้องเรียน“อ้าว น้องมิน ยังไม่เข้าเรียนอีกเหรอ”เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยถามน้องมินที่เรียนอยู่คนละชั้นปีกับตน ก่อนจะเดินไปหาร่างเล็กในชุดกระโปรงแบบเดียวกับน้องสาว เด็กน้อยหางเปียติดกิ๊บรูปกระต่ายสีชมพู ยื่นดอกกุหลาบให้เด็กชายสรวิศ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองหน้าเด็กชาย“น้องมินให้พี่ผลค่ะ”ไอ้เสือน้อยเจ้าเสน่ห์ยื่นมือมารับดอกกุหลาบจากมือเล็ก เพียงเท่านั้นเด็กหญิงตัวเล็กก็รีบวิ่งหนีไปอย่างเขินอาย นัยน์ตาสีนิลมองตามหลังเด็กหญิงด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมจะต้องวิ่งหนีเขาด้วยเวลาบ่ายสามโมง สิบทิศกับตรีชฎาก็มารับลูกชายลูกสาวเฉกเช่นทุกวัน ทั้งสองจะมารับลูกด้วยตัวเองเสมอ นอกเสียจากว่าวันไหนติดธุระไม่สามารถมารับลูก ๆ ได้ สิบทิศถึงจะส่งบอดี้การ์ดของเขามารับลูก ๆ แทนเจ้าหนูน้อยทั้งสองวิ่งมาหาคุณพ่อคุณแม่พร้อมด้วยของพะรุงพะรัง ไอ้เสือน้อยกับนางฟ้าน้อยหอมแก้มผู้เป็นบิดามารดา ก่อนจะถูกคุณพ่อยังหนุ่มกับคุณแม่ยังสาวหอมแก้มนุ่มนิ่มกลับคืน“น้องผล ของอะไรน่ะลูก ทำไมถือมาเต็มมือไปหมดอย่างนี