Share

บทที่ 2 (3.3) ส่งเหยื่อไปล่อ

last update Last Updated: 2025-01-30 18:35:54

     สองสามวันมานี้กู่ซิงอีคอยเฝ้าประกบตามดูคุณชายว่านอยู่ตลอด วันไหนที่คุณชายว่านออกมาจากจวนเพื่อมาร้านว่านกู่ซิงอีก็จะไปดักรอตั้งแต่ออกจากจวนตามมาจนกระทั่งถึงร้านว่าน ด้วยเพราะรถม้าตระกูลว่านเคลื่อนที่ช้ายิ่งนักเขาจึงเดินตามทันไม่เคยคลาดสายตาแม้แต่น้อย แต่ตลอดทางก็ไม่เห็นคนด้านในชายตาแลสาวคนไหน ผ้าม่านรถม้าถูกปิดไว้อย่างไรก็ยังคงปิดไว้ดังเดิมตลอดมิเคยเปิดออก

     แถมตอนอยู่ที่จวนคุณชายว่านก็เอาแต่ทำงานทั้งวัน ถึงตัวกู่ซิงอีจะมิได้แอบเข้าไปด้านในเพราะมีคนเดินตรวจตราอยู่ตลอด แต่แค่ปีนกำแพงอยู่ด้านนอกคอยสังเกตอยู่ห่าง ๆ ก็รู้ได้แล้วว่าคนผู้นี้บ้างานขนาดไหน เพราะห้องทำงานของคุณชายว่านก็คือเรือนที่อยู่ใกล้กับกำแพงเลยเห็นได้ว่าอีกฝ่ายไม่ออกไปไหนเลย มีเพียงคนสนิทของคุณชายว่านเท่านั้นที่เดินถือของเข้าออกอยู่ตลอดเวลา

     อีกทั้งเท่าที่สังเกตเห็นบ่าวรับใช้ในจวนที่เป็นสตรีก็มีแต่คนสูงวัยทั้งนั้น คล้ายว่าระวังตัวเรื่องชู้สาวไว้อยู่แล้ว วันเวลาจึงดำเนินทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์ โดยยังมิทันได้เรื่องราวใดเป็นชิ้นเป็นอันเสียที

     ต่อมาไม่กี่วันกู่ซิงอีกับเซี่ยลู่หลินก็หาคนได้แล้ว เป็นดรุณีน้อยแรกแย้มที่ถูกขายมาให้หอแห่งหนึ่งในย่านโคมแดงเมื่อสามปีก่อนและยังอยู่ในช่วงฝึกตัวยังไม่ทันได้ออกไปรับแขก

     นางมีนามว่าฉีหย่า ยามนี้อายุสิบแปดปีเท่ากับกู่ซิงอีพอดี เป็นวัยที่กำลังเหมาะสม หน้าตาก็เข้าขั้นว่างดงามพริ้มเพรา ท่าทางการเดิน การส่งสายตาก็เป็นงานยิ่งนัก ขนาดเซี่ยลู่หลินเห็นยังคิดว่าหากตนชอบสตรีคงต้องหลงรักแม่นางฉีหย่าเป็นแน่

     หลังจากได้ลองพูดคุยกันแล้วก็พบว่าแม้แต่การพูดยังพาให้ผู้คนหลงใหลได้ ไม่คิดว่าความกว้างขวางของมือหมักสุราอันเลื่องชื่ออย่างสหายที่ชอบปลีกตัวอยู่คนเดียวผู้นี้จะทำให้เจอคนที่เหมาะสมได้ไวขนาดนี้

     เมื่อนัดแนะแผนการกันเรียบร้อยทั้งสามคนก็เริ่มดำเนินการทันที ไม่ปล่อยให้เวลาเดินไปอย่างสูญเปล่า

     เซี่ยลู่หลินอ่านนิยายพื้นบ้านบ่อย นางบอกว่าแผนนี้ได้ผลนัก จะเข้าถึงตัวคนผู้หนึ่งได้ต้องมีแค่ทางนี้เท่านั้น

     และวันนี้เป็นวันที่ว่านฟู่เฉิงจะออกจากจวนมาร้านว่านกลางตลาดพอดี เส้นทางการเดินทางของเขากู่ซิงอีรู้ดียิ่งนักจึงพาทั้งสองคนมาดักรอ

     ก่อนหน้าที่จะมาก็ให้แม่นางฉีหย่าเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างเนื้อหยาบและเก่าซึ่งมีร่องรอยการใช้งานมานานเพื่อให้เข้ากับแผนการ

     “หากทุกอย่างสำเร็จข้าจะไม่ลืมบุญคุณที่นายท่านทั้งสองช่วยไถ่ตัวข้าเลยเจ้าค่ะ” ฉีหย่ากล่าวอย่างนอบน้อม มุมปากระบายยิ้มนุ่มนวลอยู่ตลอดเวลา

     เรื่องในครั้งนี้นอกจากนางจะได้เป็นอิสระจากหอย่านโคมแดงแล้วก็ยังจะได้ตกถังข้าวสารใบใหญ่ ตอนนี้ในใจตื่นเต้นยิ่งนักเพราะคิดว่าชีวิตจะได้พลิกผันในอีกไม่ช้า ตัวนางไม่เคยคิดถึงแผนการเอาตัวเองไต่เต้าไปในที่สูงขนาดนี้ได้มาก่อนเพราะดูไม่น่ามีโอกาสแบบนั้นในชีวิต แต่ยามนี้พอเห็นหนทางก็รีบคว้าไว้ทันที

     ทั้งสามคนพูดคุยกันอีกสักพักก็เริ่มแยกย้ายกันทำงาน

     จากนั้นไม่นานรถม้าของคุณชายว่านก็กำลังขับผ่านมาพอดี กู่ซิงอีที่เดินไปรออยู่ต้นทางก็ส่งสัญญาณมาให้เซี่ยลู่หลินที่อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสามคน

     เซี่ยลู่หลินเห็นดังนั้นก็พยักหน้ารับและรอจังหวะที่รถม้าผ่านหน้าตนไปแล้วถึงค่อยส่งสัญญาณมือให้ฉีหย่าเตรียมตัวอีกที

     พวกเขาเลือกจุดที่คนค่อนข้างเนืองแน่นเพื่อให้ง่ายต่อแผนในครั้งนี้ ตรงที่ทั้งสามคนอยู่คือตลาดใกล้กับร้านว่านผู้คนมากหน้าหลายตาเดินกันคลาคล่ำจะมีที่ใดเหมาะเท่าจุดนี้อีกเล่า

     เมื่อรถม้าตระกูลว่านใกล้ถึงจุดที่ฉีหย่าอยู่นางก็วิ่งตัดหน้ารถม้าเพื่อแสร้งถูกรถม้าของตระกูลว่านชนตามที่เซี่ยลู่หลินวางแผน

     “โอ๊ย” ดรุณีน้อยล้มไม่เป็นท่าก่อนที่รถม้าจะมาถึงตัวเสียอีก นางรีบซ่อนมือข้างหนึ่งไว้ใต้ชายเสื้ออีกข้างแล้วหยิกต้นแขนตนเองอย่างแรงเพื่อบีบน้ำตา

     คนขับรถม้าได้ยินเสียงก็ตกใจจนแทบหยุดรถม้าไม่ทัน เสียงม้าที่ถูกบังเหียนดึงรั้งก็ตะเบ็งร้องเสียงก้องไปทั่วบริเวณก่อนที่เท้าของมันจะหยุดลงได้ทันท่วงที

     “แม่นางเป็นไรหรือไม่” เขารีบร้อนลงไปดูด้วยสีหน้าตื่นตระหนก เมื่อครู่ยังไม่มีคนเลยจู่ ๆ ตนเองกะพริบตาเพียงครั้งเดียวไยถึงมีสตรีคนหนึ่งมาขวางทางไว้ได้ ในใจก็มิแน่ใจว่าตนชนถูกนางเข้าแล้วหรือไม่

     ชาวบ้านแถวนั้นพอได้ยินเสียงม้าร้องก็เริ่มหันมาดู กู่ซิงอีที่เดินตามรถม้ามาก็เริ่มมาอออยู่ในฝูงชนกับเขาด้วย

     บริเวณนี้เป็นพื้นที่คนสัญจรไปมาอยู่กลางถนนเพราะเป็นตลาดดังนั้นการเคลื่อนตัวของรถม้าไม่ได้ไวมากนัก อีกทั้งรถม้าของตระกูลว่านก็ขับช้าอยู่แล้วเขาถึงมาดูเหตุการณ์และคอยยุยงอยู่ด้านข้างได้ทัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ บทส่งท้าย ตราบจนนิรันดร์

    ค่ำคืนวันนี้ไร้ดวงจันทร์คอยส่องแสงอย่างเคย ทางเบื้องหน้ามืดสนิทจนแทบมองไม่เห็นทางเดิน แต่กู่‍ซิง‍อีกลับไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวอย่างที่คิด อาจเป็นเพราะยามนี้เขาได้ขี่อยู่บนหลังผู้อื่น ลำตัวแนบชิดกับคนที่กำลังเดินอยู่จนไร้ช่องว่างระหว่างกาย รับรู้ได้ถึงแผ่นหลังที่สั่นไหวเบา ‍ๆ‍ ทำให้รู้ว่ายังมีใครอีกคนอยู่กับตนเสมอ กู่‍ซิง‍อีกระชับอ้อมแขนที่เกี่ยวคอคนออกแรงอยู่เพิ่มขึ้นอีกนิด “อีกนานหรือไม่” เขาเอ่ยถามออกไปเพราะรู้สึกว่าตนถูกแบกมาไกลมากแล้ว กระนั้นว่าน‍ฟู่‍เฉิงก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเดิน “เสี่ยว‍อี เหนื่อยแล้วหรือ” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเดินช้าลงและย่ำเท้าด้วยความเบา ด้วยเกรงว่าตนอาจจะเดินเร็วไปจนตัวสะเทือนทำให้คนที่อยู่บนหลังรู้สึกไม่สบายตัว “ข้าจะเหนื่อยได้อย่างไร ท่านเป็นคนแบกข้าอยู่นะ” กู่‍ซิง‍อีซบคางลงที่ไหล่ของว่าน‍ฟู่‍เฉิง ใจจริงแล้วเขาอยากให้เวลาหยุดอยู่เช่นนี้ตลอดไปเลยต่างหาก ถึงได้กำลังกลัวว่าจุดหมายปลายทางจะมาถึงเร็วเกินไป กระนั้นก็ยังอดห่วงว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงจะหนักอยู่ดีเลยไม่ได้บอกความในใจออกไป กู่‍ซิง‍อีเพิ่งได้รู้ว่าเมื่อก่อนตอนที่ว่าน‍ฟู่‍เฉิงถูกเขาแบกขึ้นบนหลังเดินไ

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 10 กาลก่อนท่านเป็นคนเอ่ย ว่าข้าไร้มารยาท

    หลี่เซียวที่กำลังเดินอยู่ในจวนก็พบกับคุณชายของตนกำลังเดินมาหาด้วยท่าทางเร่งรีบ เขาไม่ได้เดินไปหาอย่างที่ควรจะเป็น กลับรอคุณชายเดินเข้ามาหาตนที่หยุดรออยู่ก่อนแล้วแทน พลางคิดในใจว่า เอาอีกแล้ว ‍!‍ “เห็นเสี่ยว‍อีของข้าหรือไม่” นั่นไง จะมีสิ่งใดที่เขาเดาผิดไปจากท่าทางเร่งรีบของคุณชายได้อีก ‍!‍ “เมื่อ‍ครู่พอคุณชายกู่เตรียมรากบัวต้มน้ำตาลอยู่ในครัวเสร็จแล้วคิดจะถือนำไปให้คุณชายด้วยตัวเอง แต่ไม่ทันระวังเผลอสะดุดจนของในมือหกรดตัวเอง ตอนนี้น่าจะกำลังไปเปลี่ยนชุดขอรับ” “สะดุดหรือ ‍!‍ แล้วเสี่ยว‍อีบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงพูดค่อนข้างเร็วอย่างหาได้อยาก แทบจะยืนไม่ติดที่อยู่แล้ว ตอนนี้ร่างกายอยู่ตรงนี้แต่หัวใจกลับลอยไปไกลแล้ว “ไม่เป็นอะไรมากขอรับ คุณชายกู่ทรงตัวได้ทันจึงไม่ได้ล้มพับไปกับพื้น แถมรากบัวก็มิได้ร้อนมากและก็เพียงเปื้อนโดนปลายอาภรณ์เล็กน้อยเท่านั้น” สิ่งที่หลี่เซียวไม่ได้กล่าวจนหมดก็คือกู่‍ซิง‍อีนั้นร้อนรนขนาดไหนหลังจากทำขนมหกใส่ตัวเอง เอ่ยปากบ่นอยู่หลายประโยคว่าชุดนั้นคุณชายเป็นคนเลือกให้ตนเองกับมือแถมยังแพงมากด้วย ครั้นบ่นเสร็จก็รีบจาก

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 9 ถูกจับได้เสียแล้ว

    ด้วยเพราะรู้ว่ากู่‍ซิง‍อีหลับลึกขนาดไหน ว่าน‍ฟู่‍เฉิงจึงใช้เรื่องนี้ในการแอบเอาเปรียบกู่‍ซิง‍อีอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นเมื่อคืนที่เขาตื่นมากลางดึกและพบว่ามีใครแอบขยับมาซุกกายแนบชิดตนอยู่ แบบนั้นมีหรือจะอดใจไหว เผลอกัดกู่‍ซิง‍อีไปหลายทีจนกระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเหมือนจะรู้สึกตัวเขาถึงได้แสร้งหลับลงไปตามเดิม แต่กลับไม่ได้ปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระ เมื่อก่อนจะแอบทำทีไรต้องหักห้ามใจตลอด แต่บัดนี้ทั้งคู่ตบแต่งกันแล้ว เขาขอเชยชมสักนิดก็คงไม่เป็นไรกระมัง แต่อาจเพราะเผลอตัวมากไป กลับกระทำการไม่แนบเนียน โดนจับได้ตั้งแต่อีกฝ่ายลืมตาตื่นขึ้นมา “คุณ‍ชาย‍ว่าน เมื่อคืนทำอะไรแปลก ‍ๆ‍ หรือไม่” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงหันมองคนที่ลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง เพราะกู่‍ซิง‍อีขี้ร้อนเป็นทุนเดิมเวลาสวมเสื้อผ้านอนมักจะมัดหลวม ‍ๆ‍ พอตื่นนอนมาทีไรเสื้อผ้าที่มัดไม่แน่นก็จะหลุดลุ่ยอย่างเช่นตอนนี้ อาภรณ์ที่เปิดกว้างเผยให้เห็นแผ่นอกขาวเนียนบางส่วนที่มีรอยช้ำจาง ‍ๆ‍ ผมดำเงาชี้ฟูเล็กน้อย ดวงตาก็หรี่เล็กลงยังไม่ทันลืมตาได้เต็มที่ แต่กลับถามเหมือนรู้บางอย่างเช่นนี้ เล่นเอาคนที่กำลังยกน้ำชาไปให้รู้สึกร

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.2 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา

    รุ่งอรุณก่อนวันงานเทศกาลฉีเฉียว “เสี่ยว‍อี เจ้ากำลังจะไปที่ใด” ว่าน‍ฟู่‍เฉิงเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาและกำลังลุกขึ้นนั่งก็ทันได้เห็นกู่‍ซิง‍อีที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จเข้าพอดี แถมดูท่าทางรีบร้อนเหมือนจะออกไปจากห้อง เมื่อถามเสร็จเขาก็เบนสายตามองดูท้องฟ้าข้างนอกหน้าต่าง ฟ้ายังไม่ทันสว่างเท่าไรนักน่าจะเลยยามเฉิน[1]มาเพียงไม่นาน ([1] ยามเฉิน คือ 07.00 – 08.59 น. ) แน่นอนว่าปกติทั้งสองคนต่างพากันตื่นเช้ากว่านี้นัก แต่เมื่อวานคุยกันแล้วว่าจะหยุดทำงานสามวัน เหตุใดกู่‍ซิง‍อีถึงลุกมาแต่งตัวคล้ายจะไปทำงานอีก ต่อให้ปกติพวกเขาจะสลับทำงานที่จวนและที่ร้านว่าน และวันนี้คือวันที่ต้องทำงานที่จวน ทว่าว่าน‍ฟู่‍เฉิงอยากให้ดูไม่มีความน่าสงสัยจึงเปลี่ยนเป็นหยุดงานทั้งหมดแทน คำกล่าวเช่นนั้นก็รวมถึงงานที่จวนก็ไม่ต้องทำมิใช่หรือ หยุดก็คือหยุด ไหนเลยกลับคาดไม่ถึงว่ากู่‍ซิง‍อีจะไม่เข้าใจสิ่งที่หมายถึงให้หยุดอยู่จวนจริง ‍ๆ‍ ครั้นพอได้เห็นอีกฝ่ายแต่งตัวก็คิดว่าจะออกไปที่ห้องทำงาน “ไปร้านขนมไฉ่ที่ข้าชอบอย่างไรเล่า นานครั้งเราถึงจะว่างในช่วงเช้าแบบนี้ รอบนี้ก็ไม่ต้องวานให้คนอื่นไปต่อแถวแทน ได้

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (4.4)

    อีกทั้งด้ายแดงที่เด่นชัดแม้อยู่ห่างไกลกันถึงเพียงนี้จากข้อมือแต่ละข้างของว่าน‍ฟู่‍เฉิงและกู่‍ซิง‍อีก็ดูคล้ายกันยิ่งนัก คนแอบมองจิตใจลนลานรีบหันกลับไปด้วยดวงตาเบิกโพลง ก้าวเดินตามหลังคนนำทางไปติด ‍ๆ‍ ด้วยท่าทางที่เร่งรีบขึ้นกว่าเดิมราวกับกำลังโดนไฟไล่เผาก้นมา สิ่งที่คนภายนอกกล่าวมาเรื่องฮูหยินของตระ‍กูล‍ว่านไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัดหลอมรวมกับการกระทำของคนทั้งสองด้านหลัง และยังบวกกับก่อนหน้านี้ที่ได้พูดคุยกับกู่‍ซิง‍อีก็คล้ายว่างานทั้งหมดของตระ‍กูล‍ว่านได้ตกอยู่ในมือกู่‍ซิง‍อีแล้ว ดังนั้นทุกอย่างที่นึกขึ้นได้จึงไม่ใช่ตนคิดไปเองแน่ ‍ๆ‍ ทว่าเซี่ย‍หลี่‍จวินแม้จะได้ล่วงรู้ความลับเรื่องนี้เข้าแต่ก็ไม่ได้คิดจะป่าวประกาศให้คนอื่นได้รับรู้หรอก เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเป็นหลัก เนื่องจากตระ‍กูล‍ว่านเป็นคนเปิดเส้นทางหลายสายให้เขา ดังนั้นนอกจากแตะว่าน‍ฟู่‍เฉิงไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งห้ามทำให้กู่‍ซิง‍อีไม่พอใจอีกด้วย ‍!‍ ถ้าล่วงรู้อนาคตได้ว่าเรื่องราวจะดำเนินมาเป็นแบบนี้เขาคงจะเห็นใจกู่‍ซิง‍อีอีกสักหน่อย บางทีตัวเขาอาจได้ผลประโยชน์มากกว่าให้บุตรสาวของตนตบแต่งกับน้องชายบุญธรรมของว่าน‍ฟู่

  • ทั่วทั้งใต้หล้า ข้ามองหาเพียงเจ้า   ตอนพิเศษ 8.1 เทศกาลฉีเฉียวมาเยือนอีกครา (3+4.)

    “ขอรับ ‍!‍” หลี่เซียวรีบร้อนรับคำก่อนจากไป ฉี‍หย่าหันมองซ้ายขวาด้วยความตกใจ นางจะถูกปฏิบัติอย่างนี้จริง ‍ๆ‍ หรือ นางไม่งดงามหรือไรทำไมคุณ‍ชาย‍ว่านถึงไม่คิดจะสนใจหรือเมตตานางสักนิด แม้จะต้องยอมรับว่าสองคนตรงหน้านางรูปงามไร้ที่ติ แต่นางไม่คิดว่าตนเองจะด้อยค่าถึงเพียงนี้ ‍!‍ จังหวะนั้นเองประตูห้องบานเดิมพลันเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นนาย‍ท่าน‍เซี่ยเดินออกมา พอเห็นบ่าวในจวนของตนที่นั่งกองกับพื้นก็ฉงน ที่แท้คนที่ส่งเสียงดังเมื่อ‍ครู่ก็คือฉี‍หย่าสาวรับใช้ที่บุตรสาวทิ้งไว้ที่จวนเมื่อสองปีก่อน สตรีนางนี้แม้หน้าตาจะงดงามแต่กลับทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง มีดีแค่ดนตรีกับร่ายรำ แต่มันจะมีประโยชน์อะไรกับการทำงานในจวนได้เล่า ดังนั้นสำหรับเขาแล้วนางแทบไม่มีสิ่งใดให้ใช้งานได้เลย ตัวเขาแทบไม่อยากพามาทว่านางก็ดื้อดึงขอตามมาจนได้ เขายังกลัวว่าฮูหยินของตนจะเข้าใจผิดด้วยซ้ำ บัดนี้ยังจะมาสร้างความเดือดร้อนให้อีก ช่างน่าขายหน้าจริง ‍ๆ‍ เซี่ย‍หลี่‍จวินหันมองว่าน‍ฟู่‍เฉิงด้วยความระวัง กลัวว่าสิ่งที่เคยสัญญาไว้จะถูกยกเลิกเพียงเพราะบ่าวรับใช้ในจวนของตนเอง “คุณ‍ชาย‍ว่าน เป็นข้าไม่อบรมบ่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status