공유

บทที่ 2

작가: พิณเคล้าสายฝน
“ข้าอยากได้น้ำ น้ำ……”

พอตั้งใจฟังแล้ว เสียงนั้นดังมาจากเรือนอวิ๋นซวน

และผู้ที่อาศัยอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนก็คือท่านอ๋องของจวนนี้ - เยี่ยเป่ยเฉิง

หลินซวงเอ๋อร์นึกถึงคำพูดของท่านป้าจ้าวทันที

หากท่านอ๋องเรียกเจ้า เจ้าก็เข้าไปปรนนิบัติรับใช้ ถ้าไม่เรียก เจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจ

หลินซวงเอ๋อร์ลังเล เธอไม่อยากไปปรนนิบัติรับใช้ ตอนกลางวันได้ยินมาว่าท่านอ๋องโมโหร้าย ถ้านางปรนนิบัติไม่ดี ก็จะลงเอยเหมือนเสวี่ยหยวน

“น้ำ… ข้าอยากได้น้ำ…”

เสียงของชายหนุ่มเริ่มแหบแห้งมากขึ้นเรื่อยๆ ตามด้วยเสียงหอบเบาๆหลายครั้ง ราวกับว่ากำลังพยายามสุดขีดเพื่ออดทนต่อความเจ็บปวด

บางที ท่านอาจจะแค่อยากดื่มน้ำ?

พอคิดอย่างนี้ สุดท้ายหลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่สนใจอะไรมากนัก หยิบปิ่นปักผมจากใต้หมอนแล้วมัดผมอันดำขลับไว้ด้านหลังศีรษะ นางกำลังจะไปหยิบผ้าพันหน้าอก แต่กลับพบว่าผ้าพันอกยังเปียกและมีน้ำหยดอยู่..

ด้วยความจนใจ หลินซวงเอ๋อร์จึงเอาเสื้อคลุมหลวมๆตัวหนึ่งจากตู้เสื้อผ้ามาสวมแบบลวกๆ

พอมาถึงเรือนอวิ๋นซวน เสียงของชายหนุ่มก็ดังมาจากข้างในเป็นระยะๆ

หลินซวงเอ๋อร์เปิดประตูอย่างตัวสั่นงันงก

สองปีที่นางอยู่ที่จวนแห่งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ย่างกรายเข้าไปในเรือนอวิ๋นซวน

ห้องหับใหญ่โตมาก เครื่องประดับตกแต่งภายในก็หรูหรา ในห้องจุดเพียงตะเกียงน้ำมันสลัวๆอันหนึ่งเท่านั้น ทุกสิ่งในห้องดูเหมือนจะถูกคลุมไปด้วยม่านลึกลับ จึงทำให้หลินซวงเอ๋อร์มองเห็นได้ไม่ชัดเจน

เสียงลมหายใจฟืดฟาดของชายหนุ่มดังมาจากในม่านเตียง

หลินซวงเอ๋อร์เหลือบมองกาน้ำชาบนโต๊ะ เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หยิบกาน้ำชาขึ้นมาแล้วเทน้ำลงไปในถ้วยชา

“ท่านอ๋อง น้ำมาแล้ว…” หลินซวงเอ๋อร์ก้าวขยับไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ แต่กลับหยุดอยู่ด้านนอกม่านเตียง

"สมุนไพรอาบน้ำ เตรียมสมุนไพรอาบน้ำเสร็จหรือยัง?"ชายหนุ่มที่อยู่ข้างในพูดด้วยความยากลำบาก

หลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว นางไม่รู้ว่าสมุนไพรอาบน้ำคืออะไร นางแค่เอาน้ำมาให้เขา

ชายหนุ่มที่อยู่ข้างในไม่พูดอะไรอีก แต่เสียงลมหายใจฟืดฟาดกลับหนักขึ้นเรื่อยๆ

หลินซวงเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเปิดม่านเตียงด้วยมือที่สั่นเทา

“ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ทันทีที่พูดจบ จู่ๆก็มีมือยื่นออกมาจากด้านใน และคว้าข้อมือของนางเอาไว้อย่างแรง

หลินซวงเอ๋อร์ได้ยินเสียงกระดูกข้อมือของตนเอง

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของนางซีดเผือด ถ้วยชาที่อยู่ในมือก็หล่นลงไปที่พื้น

“ท่านอ๋อง เจ็บ…” หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถอยหลัง ขณะที่นางดิ้นรนปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะก็หลุดไปอย่างเงียบๆ

ทันใดนั้น ผมดำสลวยก็ไหลลงมาราวกับว่าเป็นน้ำตก เส้นผมที่เยือกเย็นก็เลื่อนผ่านระหว่างนิ้วของเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างเงียบๆ

ความเย็นเพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาสั้นๆนั้น ราวกับว่าหาน้ำหนึ่งหยดในทะเลทรายอันแห้งแล้งเจอ และหยดลงบนหัวใจของเยี่ยเป่ยเฉิงทันที

เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเกือบจะควบคุมตนเองไม่ได้เล็กน้อย

เขาพยายามหรี่ตาเพื่อให้มองเห็นคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน แต่สุดท้ายก็ยังมองไม่ชัด ภายใต้แสงไฟสลัวๆ เห็นแค่รูปร่างอันเพรียวบางของหญิงสาว งดงามอ่อนช้อย ราวกับว่าอยู่ในความฝัน ถ้าให้เทียบกับความงามในใต้หล้า มันมีเสน่ห์จนไม่อาจพรรณนาได้

“ท่านอ๋อง... ท่านอ๋อง ข้าเจ็บ” หลินซวงเอ๋อร์ตกใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว นางดิ้นรนดิ้นรนสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่อาจสลัดพ้นได้

เสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน เสมือนยันต์เร่งความตาย ที่ทำลายเจตจำนงของเยี่ยเป่ยเฉิงทีละนิด

เยี่ยเป่ยเฉิงออกแรงที่แขน แล้วโยนนางลงไปบนเตียงอย่างแรง

“ใครใช้ให้เจ้าเข้ามา! เสวียนอู่ล่ะ?”

เขาออกคำสั่งไว้อย่างชัดเจน ไม่ให้ผู้หญิงเข้ามา!

หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวจนสีหน้าซีดเซียว แต่ในขณะเดียวกัน นางก็เห็นรูปร่างหน้าตาของเยี่ยเป่ยเฉิงได้อย่างชัดเจน

เมื่อก่อน นางทำได้แค่เพียงมองจากระยะไกล และสิ่งที่เหลือไว้ให้นางมีเพียงแค่แผ่นหลังเท่านั้น

พอตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์ผู้ไม่รู้หนังสือจู่ๆก็นึกประโยคหนึ่งขึ้นมาได้

รูปงามกว่าผู้ใดในโลกหล้า สง่ากว่าผู้ใดในแผ่นดิน

โดยทั่วไปแล้วคงจะนำมาใช้พรรณนาเขา

อย่างน้อย นางก็ไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนหน้าตาดีกว่าเขามาก่อนเลย

“นังสารเลว! ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” เสียงต่ำทุ้มแหบแห้งราวกับว่าเป็นสัตว์ร้ายที่ถูกผูกไว้กำลังจะหลุดพ้น

เสียงคำรามทำให้หลินซวงเอ๋อร์กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง

ความกดดันที่อยู่บนตัวชายหนุ่ม ทำให้หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวจนควบคุมตนเองไม่ได้

นางอยากหลบหนี แต่มือที่เหนี่ยวนางไว้นั้นเปรียบเสมือนโซ่เหล็กที่ล็อกนางไว้แน่น

หลินซวงเอ๋อร์ดิ้นรนต่อไป

ในระหว่างนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็ได้กลิ่นหอมที่มีเสน่ห์

ซึ่งแตกต่างจากกลิ่นหอมของแป้งใดๆ กลิ่นหอมจางๆนี้ นี้แทรกซึมเข้าไปในจมูกของเขาเป้นระยะๆ แล้วกลืนประสาทสัมผัสของเขา กลืนกินปณิธานของเขา และค่อยๆปลุกสัตว์ร้ายในร่างกายของเขาให้ตื่น

ความร้อนผะผ่าวในร่างกายยังคงร้อนขึ้นเรื่อยๆ

ร่างกายของเยี่ยเป่ยเฉิงร้อนจนทนไม่ไหว จนทำให้สมองสั่งการไม่ได้

หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าผิดปกติไปเช่นกัน ขนาดสัมผัสผ่านเสื้อผ้า นางยังรู้สึกถึงความร้อนบนตัวของเยี่ยเป่ยเฉิง

หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวสุดขีด จึงผลักเขาออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

นางวิ่งไปที่ประตูสุดชีวิต แต่ทันทีที่เปิดประตู จู่ๆมือขนาดใหญ่ก็กดไปที่ประตู แล้วร่างสูงใหญ่หนักๆก็กดทับลงมา...

“ท่านอ๋อง... ท่านอ๋องอย่า”หลินซวงเอ๋อร์ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง และนิ้วของนางก็ได้ทิ้งรอยเลือดไว้ที่บานประตู

ลมหายใจอันร้อนผะผ่าวไม่มีทีท่าว่าหายไป ริมฝีปากที่สั่นเทาเล็กน้อย และเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาข้างคอ ล้วนทำให้หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวเป็นอย่างมาก

คำพูดของท่านป้าจ้าวยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของนาง

“อยู่ในจวนอ๋อง จะทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ไม่ได้ มิฉะนั้นจะต้องจ่ายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส”

หลินซวงเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าตนเองทำอะไรผิดท่านอ๋องถึงทำกับนางเช่นนี้

เห็นอยู่ชัดๆว่านางว่านอนสอนง่ายมาก

เห็นอยู่ชัดๆว่านางเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านป้าจ้าว

แต่เหตุใด...

เหตุใดถึงทำกับนางเช่นนี้...

ใครจะมาช่วยนาง...

“ซวงเอ๋อร์ผิดไปแล้ว ซวงเอ๋อร์จะไม่กล้าทำอีกแล้ว...”

สิ่งนั้นรุกล้ำเข้าไปที่ละนิ้ว จนเข้าไปทุกกระเบียดนิ้ว

หลินซวงเอ๋อร์ร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

ปลายนิ้วจิกแผ่นหลังที่แข็งแกร่งของเขาจนเกิดเป็นรอยแดง นางมองดูแสงไฟที่กระเส่าไปมา ค่อยๆลุกไหม้ และดับไปต่อหน้าต่อตาของนาง

ในสมองของนาง มีร่างของชายผู้หนึ่งผุดขึ้นมาไม่หยุด และคำสัญญาประโยคนั้นที่ล่องลอยออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารออีกสักหน่อย การสอบขุนนางในปีหน้า ข้าจะต้องสอบระดับเกาจ้งได้แน่นอน”

“ซวงเอ๋อร์ ข้าใกล้จะเก็บเงินค่าไถ่ครบแล้ว…”

“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้ไหม ว่าความรู้สึกที่ข้ามีให้เจ้า...”

“ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์...”

นางหลับตาลง ร่างนั้นก็ค่อยๆห่างออกไป...
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status