LOGIN“คุณ...อื้อ!”
วินาทีต่อมา ริมฝีปากหยักกดลงหาเธออีกครั้ง
คีตะจูบเธออย่างคนไม่รู้จักพอ ยิ่งเมื่อร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน ไออุ่นและกลิ่นกายหญิงสาวก็ยิ่งพาให้สติคีตะกระเจิดกระเจิงเลือนหาย คล้ายคนมึนเมาไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจ
คีรติทำให้เขา ‘อยากได้’ เธอจนแทบคลั่ง!
“คุณคีย์ ปล่อยค่ะ อื้อ...” คีรติพยายามห้ามปากร้อนที่เริ่มคลอเคลียลงมาถึงตรงซอกคอขาว น้ำเสียงเธอสั่นระริกด้วยความหวามไหวที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หารู้ไม่ว่าแม้ปากตนจะเอ่ยห้าม มือทั้งสองข้างกลับเกาะเกี่ยวร่างหนาไว้แน่นไม่ให้ห่างกายไปไหน
แต่เธอจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้...
พลั่ก!
“เค้ก..” คีตะถูกหญิงสาวผลักอกอย่างแรงจนสติกลับเข้าร่างทันที
ให้ตายเถอะ! ชายหนุ่มนึกอยากจะชกหน้าตัวเองแรง ๆ สักที โทษฐานที่พลั้งเผลอไปตามอารมณ์วาบหวามจนเกือบจะหักหาญน้ำใจเธอ หากเขาทำอะไรเกินเลยไปตอนนี้ละก็ เกรงว่าหญิงสาวอาจจะไหวตัวทัน แล้วทุกสิ่งที่ทำมาก็อาจจะพังทลายลงได้ในพริบตา
เย็นไว้ ถึงยังไงมึงก็ต้องได้ผู้หญิงคนนี้สักวัน...
คีตะเตือนตัวเองพลางยกมือลูบผมเผ้าให้เข้าที่เข้าทาง คนตัวเล็กรีบลุกออกจากตักเขาราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังตื่นกลัวเสือร้ายก็ไม่ปาน แม้จะโกรธที่ตัวเองปล่อยให้หญิงสาวมีผลต่อความรู้สึกตนขนาดนี้ อีกด้านหนึ่ง คีตะกลับพอใจไม่น้อยที่ได้ละเมียดชิมเนื้อแสนหวานตรงหน้านิด ๆ หน่อย ๆ แล้ว
“คือผม...”
“คุณคงเมา ฉันเข้าใจค่ะ คุณกลับไปก่อนเถอะ” คีรติไม่อยากโทษว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นความผิดของชายหนุ่มแต่เพียงผู้เดียว เพราะเธอเองก็เป็นฝ่ายปล่อยตัวปล่อยใจให้เขาจนเกือบดึงสติตัวเองกลับมาไม่ทันเหมือนกัน
“ผมไม่ได้เมา คุณก็รู้ว่าดื่มแค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้ ที่ผมทำแบบนั้นก็เพราะ...”
“คุณคีย์ ฉันไม่อยากพูดถึงมันตอนนี้ค่ะ คืนนี้เราอย่าเพิ่งคุยกันเลยนะคะ”
“ผมขอโทษที่ทำคุณตกใจ แต่ผมไม่ขอโทษเรื่องที่จูบคุณ เพราะเรื่องนั้นผมตั้งใจ” สายตาคมกริบจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสั่นไหวของหญิงสาวอย่างหนักแน่น
“คุณหมายความว่ายังไงคะ” คนตัวเล็กถามกลับด้วยใจร้อนรนไม่เป็นสุข หัวใจเธอเต้นรัวแรงไม่ต่างจากเด็กสาววัยแรกแย้มที่เพิ่งมีความรักครั้งแรก
เธอไม่รู้หรอกว่ามันเรียกแบบนั้นได้ไหม แต่คีตะคือผู้ชายคนแรกที่เธอยอมเปิดใจใกล้ชิดด้วย และเป็นเขาก็เป็น ‘จูบแรก’ ของเธอเช่นกัน
“ผมชอบคุณ ที่ผมเหมาคิวบาร์ทั้งเดือนก็เพราะอยากทำความรู้จักคุณให้มากกว่านี้” คีตะสาวเท้าเดินเข้าไปใกล้หญิงสาว อีกฝ่ายกลับเขยิบเท้าถอยหลังไปอีกก้าวหนึ่ง
“คุณจะชอบฉันได้ยังไง ในเมื่อเราสองคนไม่ได้รู้จักกันเลย...”
ยอมรับว่าตอนนี้คีรติทั้งเขินอายและสับสนไม่น้อย จริงอยู่ว่าคีตะแสดงออกมาตลอดว่าเขาสนใจเธอมากเป็นพิเศษ แต่…เธอไม่อยากจะเชื่อว่าผู้ชายที่เพียบพร้อมด้วยเสน่ห์อย่างเขาจะไม่มีใครข้างกายเลย
คีตะมีเสน่ห์มาก…มากเสียจนสามารถทลายกำแพงน้ำแข็งในใจเธอได้อย่างง่ายดาย!
“ผมชอบคุณตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเลยกับการเสียเงินไม่กี่แสนแลกกับการได้รู้จักคุณ เค้กครับ…ผมจริงจังกับคุณนะ” ชายหนุ่มใช้จังหวะที่เธอกำลังอึ้งกับคำสารภาพ ตรงเข้าจับมือขาวนวลทั้งสองข้างมาไว้ในอุ้งมือตน เขาบีบมือนิ่มเบา ๆ หวังให้เธอรับรู้ความรู้สึกทั้งหมดที่เขามี
“ผมอยากอยู่ใกล้คุณทุกเวลา…”
ร่างสูงเขยิบเข้าใกล้คีรติมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับแม่เหล็กที่ดูดเข้าหากัน วินาทีนั้นหัวใจของหญิงสาวไร้ประสบการณ์เต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง กลิ่นน้ำหอมที่คีตะใช้ทั้งเย้ายวนและล่อลวงให้เธอหลงใหล ถึงขั้นยืนนิ่งยอมให้เขาสัมผัสครั้งแล้วครั้งเล่า…
แน่นอนว่าปฏิกิริยาทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาคีตะ คราวนี้เขายกมือเกลี่ยปอยผมที่ปรกดวงหน้าหวานอย่างนุ่มนวล ก่อนเผยรอยยิ้มจาง ๆ ออกมา
คีรติเริ่มผ่อนคลาย กลับมาหายใจเป็นปกติอีกครั้งเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้จะฝืนรุกเธอซ้ำสอง
“คุณกลับไปก่อนได้ไหมคะ ฉันอยากให้เราสองคนมีสติกว่านี้แล้วค่อยคุยกัน”
“ได้สิ ผมจะไม่เร่งรัดหรือบังคับคุณ ไม่ต้องกลัวผมนะคนดี ขอให้คุณรู้ไว้ว่าผมจะเป็นคนสุดท้ายที่จะทำร้ายคุณ” คีตะก้มลงจูบหน้าผากหญิงสาวแผ่วเบา แล้วยอมผละห่างจากร่างเล็กด้วยความจำใจ
อย่างน้อยคืนนี้ทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่เขาวางเอาไว้!
***
ตั้งแต่คีตะกลับไป คืนที่ผ่านมาคีรติก็แทบนอนไม่หลับ คำพูดของเขาที่ทำเอาใจสั่นไหวเอาแต่วนเวียนอยู่ในหัวเธอ ที่สำคัญเธอไม่สามารถลืมรสจูบที่เขามอบให้ได้เลย
จริงอยู่ว่าการกระทำของคีตะนั้นเรียกได้ว่าจาบจ้วง บ่งชัดว่าหิวกระหายในตัวเธออย่างน่ากลัว แต่…คีรติกลับไม่รู้สึกรังเกียจ ซ้ำร้าย เธอไม่อยากยอมรับเลยว่าตนหลงใหลรสจูบเมื่อคืนนี้มาก
สำหรับคืนนี้...
อีกไม่กี่นาทีชายหนุ่มก็จะมาถึงแล้ว ไม่รู้ว่าหลังสร่างเมามีสติครบถ้วน คีตะจะยังจำเรื่องราวทั้งหมดได้อยู่หรือไม่ หรือเขาจะนอนไม่หลับ เก็บเอาเรื่องพวกนี้ไปคิดเหมือนเช่นเธอกัน?
“เหม่ออีกแล้วนะ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ผมแอบเข้ามาจะทำยังไง”
“คุณคีย์?! ขอโทษค่ะ ฉันไม่คิดว่าคุณจะมาก่อนเวลา” คีรติมองคนตรงหน้าที่กำลังส่งยิ้มหวานเหมือนเคย เธออยากถามออกไปตรง ๆ นักว่าเขาไม่ประหม่าหรือเกร็งบ้างหรืออย่างไรกัน
อีกฝ่ายทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่เขากับเธอเพิ่งจูบกันไปเมื่อคืน!
“เพราะผมรอเจอหน้าคุณไม่ไหวแล้วไง” คีตะมองใบหน้าสวยที่ขึ้นสีแดงก่ำ คนตัวเล็กเอาแต่หลบตาด้วยความขัดเขิน
ตลอดทั้งคืนจวบจนเช้าวันนี้คีตะนอนหลับแทบนับชั่วโมงได้ นั่นเพราะทุกครั้งที่เริ่มจมเข้าสู่ห้วงนิทรา ภาพหญิงสาวแสนสวย กลิ่นกายหอมหวาน และรสจูบแสนเย้ายวน ทุกสิ่งของคีรติคอยรบกวนจิตใจเขาจนนอนไม่หลับ
ขอยอมรับเลยว่าเขาคิดถึงคีรติเหลือเกิน
แม้การทำให้หญิงสาวตกหลุมรักเป็นหนึ่งใน ‘แผนการ’ แต่เรื่องที่เขา ‘ติดใจ’ จูบของคนตรงหน้ามันไม่ได้อยู่ในแผนนั้นเลยสักนิด!
หญิงสาวตั้งสติ ถาม “เอ่อ คืนนี้คุณอยากดื่มอะไรดีคะ”
“คุณ” คีตะเห็นบาร์เทนเดอร์สาวชะงักก็รีบเอ่ยต่อ “ผมหมายถึง...อยากดื่มกับคุณ”
ว่าจบ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็แย้มพรายเต็มหน้าชายหนุ่ม
รู้อะไรไหม คืนนี้เขาจะไม่ปล่อยให้เสียเวลาอีกแล้ว
“คุณคีย์คะ ฉันว่าเรื่องเมื่อคืนนี้มัน…”
“อื้ม คงอยากจะเจอหลานมั้ง น้องครีมทำอะไรเอ่ยให้พ่อช่วยไหมคะ” คนเป็นพ่อรีบเปลี่ยนเรื่องด้วยการหันไปสนใจลูกสาวที่กำลังระบายสีอย่างเพลิดเพลินแบบเนียน ๆ“คุณพ่อระบายสีแดงนะคะ” เด็กน้อยยื่นดินสอสีแดงให้พ่อ“เอ...อาทิตย์นี้พ่อยังไม่ซื้อของเล่นให้เราเลยใช่ไหม” คีตะนิ่งไปเมื่อนึกขึ้นได้ว่าช่วงนี้เขายุ่ง ๆ กับเรื่องงานจนไม่มีเวลามองหาของเล่นมาเอาใจลูกสาวทุกอาทิตย์เหมือนอย่างเคย“ไม่เป็นไรค่ะ อาทิตย์นี้น้องครีมไม่อยากได้อะไร” น้องครีมเจื้อยแจ้วตอบเสียงใสคำตอบของลูกทำให้คนเป็นแม่ลอบยิ้มพลางพยักหน้าเห็นด้วย นี่เป็นสิ่งที่เธอไม่ได้สอนสั่ง ทว่าครีมเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองว่าของเล่นที่มีอยู่ตอนนี้ก็เต็มบ้านจนเล่นแทบไม่ทันแล้ว“แน่ใจ?” คีตะย้ำถาม“งุยยย จริง ๆ ครีมอยากได้ลาบูบู้ค่ะ แต่คุณครูบอกว่ามันแพ้งแพง”“อะอ้าว ไหนบอกว่าไม่อยากได้อะไรไงคะลูก” คุณแม่อ้าปากเหวอทันที“ก็มีแค่ลาบูบู้ที่อยากได้ แต่มันแพงมากกก” เจ้าตัวน้อยลากเสียงยาวพลางทำตาปริบ ๆ“ไม่ได้แพงขนาดนั้นหรอกน่า เดี๋ยวพ่อจัดให้เลยดีไหมคะ” คนเป็นพ่อยักไหล่ราวกับเป็นเรื่องง่ายดายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือเตรียมจะส่งข้อความสั่
“แหวะ!”“ไหวไหมเค้ก...” ชายหนุ่มลูบหลังปลอบคนรักที่กำลังก้มตัวอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงสาบานเลยว่าคีตะโคตรจะโกรธเกลียดตัวเอง ทำไมกันนะก่อนหน้านี้เขาทำบ้าอะไรอยู่ เขาควรจะดูแลคีรติช่วงตั้งท้องสองสามเดือนแรกให้ดี ๆ ดูซิว่าอาการแพ้ท้องเล่นงานหญิงสาวหนักขนาดไหน!หนักขนาดไหนน่ะเหรอ...ก็ชนิดที่ว่ากินอะไรไม่ได้ พานเหม็นจนคลื่นไส้ไปหมด ลุกขึ้นยืนเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็หน้ามืดวิงเวียนศีรษะ ถ้าเลือกได้เขาอยากจะแพ้ท้องแทนเธอเสียจริงตั้งแต่ตั้งครรภ์เข้าเดือนที่สี่ เธอก็ยิ่งแพ้ท้องหนักขึ้นจนกินอะไรไม่ได้ ต้องกินแค่อาหารอ่อน ๆ หรืออาหารรสจัดเท่านั้น แถมสภาวะอารมณ์ก็ไม่ค่อยปกติเท่าที่ควรอันที่จริงอาการแพ้ท้องควรจะหายไปได้แล้ว ไม่รู้เหตุใดคีรติถึงยังคงแพ้ท้องอยู่ ราวกับว่าลูกในท้องอยากให้พ่อเห็นใจแม่เยอะ ๆแต่แม่ก็เหนื่อยนะ...“ไม่เป็นไรค่ะ คุณกลับไปกินข้าวต่อเถอะ เค้กชินแล้—” พูดยังไม่ทันจบหญิงสาวก็โก่งคออาเจียนเป็นรอบที่เท่าไรของวันแล้วก็ไม่รู้เป็นเรื่องปกติที่อารมณ์คนท้องจะแปรปรวน คีรติรู้ตัวทว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หลายต่อหลายครั้งที่เธอเผลอหงุดหงิดใส่คีตะ แต่พอได้สติก็ต้องรีบไปขอโทษชายหนุ่มทัน
ก็ไม่ได้ผิดคาดสักเท่าไร...ผู้เป็นพ่อถอนหายใจ แต่ถึงอย่างไรสิ่งที่คีตะทำเมื่อคืนก็ไม่ถูกต้องนัก“เค้ก มานั่งข้างป้ามา” นิษฐาเรียกลูกเลี้ยงพลางจับแขนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง คีรติกำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอไม่อยากให้เรื่องเครียดกระทบกระเทือนจิตใจเจ้าตัวมากนัก“มึงคิดว่าสิ่งที่มึงทำมันถูกต้องไหม” ฐานทัตจ้องคีตะเขม็ง“ไม่ครับ ผมรู้ว่าทำไม่ถูกที่พาเค้กไปแบบนั้น แต่ผมไม่มีทางเลือกจริง ๆ ถ้าผมไม่ทำ คุณกับไอ้เขตก็คงไม่ให้ผมเจอเค้กง่าย ๆ” คีตะตอบตามตรง ยอมรับว่าผิด แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาก็จะยังทำเช่นเดิมต่อให้คีรติไม่ใจอ่อนยอมคืนดีด้วย อย่างน้อย ๆ ครั้งหนึ่งเขาก็ได้พยายามจนสุดชีวิตเพื่อจะเปิดอกพูดคุยกับเธอแล้ว เขาไม่เสียใจเลยกับสิ่งที่ทำลงไป“มึงเลยใช้วิธีแบบพวกไม่มีการศึกษา ลักพาตัวน้องกูเนี่ยนะ” เขตคามเข่นเขี้ยว“ถ้ามันทำให้กูดีกับเมียได้ ต่อให้โดนด่าว่าไร้การศึกษา ทำตัวเหมือนสวะข้างถนน กูก็ยอม”“มึงนี่เหมือนพ่อมึงไม่มีผิด ช่างยึดมั่นถือมั่นในเป้าหมายเสียจริงนะ” ชายวัยกลางคนกระตุกยิ้มเมื่อหวนนึกถึงบุคลิกของตฤณภพ ที่ดู ๆ ไปก็เหมือนลูกชายหัวดื้อของมันอยู่“...”ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบอีกครั้
เช้านี้ไม่เหมือนหลายวันที่ผ่านมา...คีรติตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดอบอุ่นของคีตะ เมื่อคืนเป็นคืนแรกที่เธอได้นอนหลับสนิท เพียงเพราะเรื่องราวค้าง ๆ คา ๆ ที่ทำให้กังวลใจมาตลอดหลายเดือนถูกปลดล็อกจนเคลียร์ การให้อภัยชายหนุ่มและให้โอกาสตัวเองได้รักเขาอีกครั้ง เป็นเสมือนยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาจิตใจเธอได้ในชั่วข้ามคืน“แอบมองผมแบบนี้ อยากได้อะไรครับ” คีตะปรือตาถามด้วยน้ำเสียงงัวเงียคีรติพอรู้ตัวว่าโดนจับได้ก็ทำท่าจะรีบผละกายออกจากอ้อมอกเขา เสียแต่ว่าคนมือไวแถวนี้คว้าร่างเปล่าเปลือยของเธอไปกอดแนบชิดยิ่งกว่าเดิม“คุณคีย์ ปล่อยนะคะ” หญิงสาวเขินจนหน้าแดงรีบท้วง ในใจไพล่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้...หลังจากเธอใจอ่อนยอมให้คีตะจูบ ไหนเลยเขาจะยอมจบแค่จูบเพียงครั้งเดียว คนเจ้าเล่ห์ใช้ประสบการณ์รักที่คุ้นเคยมาชักจูงเธอ ยั่วยวนเธอ จนเธอยินยอมมอบกายให้ ที่สำคัญเธอเองก็โหยหาเขาไม่ต่างกัน สุดท้ายก็พลาดท่าเสียตัวให้เขาอีกจนได้ โชคยังดีที่คนของขาดมานานนึกขึ้นได้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ คีตะละเมียดละไมกลืนกินเธออย่างอ่อนหวาน นุ่มนวล จนเธอหลงระเริงไปกับเขา“ไม่ปล่อย นุ่ม ๆ หอม ๆ ขนาดนี้ใครปล่อยก็บ้าแล้ว” คีตะแย้มยิ้มแ
“ฉันไม่เก่งเท่าคุณหรอกค่ะ...” เธอเอ่ยเสียงเรียบ แต่ทุกคำเต็มไปด้วยความปวดร้าว “สุดท้ายฉันก็โง่... ปล่อยให้คุณเข้ามาในชีวิตอยู่ดี” คำพูดของเธอแทงลึกเข้าไปในใจของคนฟังยิ่งกว่าคำด่าเสียอีกภายนอกเธอเหมือนจะเข้มแข็ง เย็นชาไม่ใส่ใจอะไรอีกต่อไปแล้ว แต่ในใจลึก ๆ คีรติกลับอดนึกถึงวันแรกที่ได้เจอกับเขาไม่ได้...ต้องยอมรับอย่างไม่อาจหลอกตัวเองได้เลยว่า แค่ได้สบตาเขา แค่ได้พูดคุยกันเพียงไม่กี่คำ ปราการในใจเธอก็สั่นสะเทือนจนแทบพังคีตะ...ผู้ชายคนนั้นเหมือนเกิดมาเพื่อล่อลวงให้เธอตกหลุมพรางโดยเฉพาะเสน่ห์ของเขาร้ายกาจเกินกว่าจะต้านทานได้ และเธอ ผู้หญิงที่ไม่เคยสนใจใครเลยสักคนในชีวิต กลับมีแต่เขาคนเดียวอยู่ในสายตาตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา“ผมคิดว่ามันคือโชคชะตาระหว่างเรามากกว่านะ เหมือนที่ตอนแรกผมไม่คิดจะรักคุณเลยด้วยซ้ำ ตั้งใจไว้แล้วแท้ ๆ ว่าจะทำให้คุณหลง... แล้วก็เดินจากไปตามแผน”เขาหัวเราะนิด ๆ กลั้วความขมขื่น สายตาแอบสั่นไหวเล็กน้อย“แต่ไป ๆ มา ๆ กลับเป็นผมเองที่รักคุณ แก้แค้นเองรักเสียเองซะอย่างนั้น อ้อ... ถึงจะรู้ตัวช้าไปหน่อยก็เถอะ”คีรติมองสบตาเขาอยู่นาน ก่อนตัดสินใจยอบกายนั่งลงข้างเขาเงียบ ๆ
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงจากหางตา เธอปาดมันทิ้งอย่างรวดเร็วราวกับไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอกำลังอ่อนแอ“แต่สุดท้าย คนที่ทำลายกำแพงนั้นจนพังยับก็คือคุณ คุณทำให้ฉันรู้สึกไร้ค่า วัน ๆ เอาแต่วิ่งตามคุณ พยายามง้องอน พยายามขอความรัก อ้อนวอนให้คุณกลับมา มันน่าสมเพชแค่ไหนคุณรู้บ้างไหม” เธอกัดฟันแน่น กลั้นเสียงสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคอ“ฉันจะเป็นจะตายทุกครั้งที่คุณเย็นชาใส่ เหมือนโลกทั้งใบจะพังทลายเวลาคุณไม่สนใจ แต่พอวันนี้ วันที่ฉันเลือกเดินออกมาจากชีวิตคุณ... คุณกลับมาบอกว่าขอโทษ?”เสียงหัวเราะเย้ยหยันหลุดออกมาอย่างไม่อาจห้าม“เหอะ แล้วคุณก็คงจะเริ่มพล่ามเรื่องอดีต... เหมือนมันจะเปลี่ยนแปลงเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดได้งั้นละ ถามหน่อยสิ... มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ คุณทำลายชีวิตฉันจนพังไปหมด แล้วแค่คำว่า ‘ขอโทษ’ คำเดียว... คุณคิดว่ามันจะลบล้างทุกอย่างได้งั้นเหรอ?!”ความเจ็บปวดที่เก็บงำมานานแสนนาน ในที่สุดก็ถูกปลดปล่อยออกมาหมดสิ้น...“ลืมแล้วเหรอ... ว่าคุณทำให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงโง่ที่โดนคุณหลอกใช้ กลายเป็นผู้หญิงที่...ท้องลูกไม่มีพ่อ!” เสียงสั่นเครือของคีรติดังขึ้นทั้งน้ำตา ราวกับกรีดหัวใจคนฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่า“คุณร







