“ผมว่าเราคงต้องรอดูผลคะแนนเสียงในที่ประชุมครั้งต่อไปก่อน ว่าจะออกมาเป็นยังไง” สีหน้าเขตคามเครียดขรึมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ถึงพ่อจะไม่ค่อยชอบนายตฤณภพเท่าไร แต่ยอมรับว่ามันมีมนุษยธรรมกว่าน้องมันเยอะ นี่อะไร...ชั่วเกินคน!”
“เค้กขอตัวก่อนนะคะ” คีรติรู้ว่าบทสนทนาบนโต๊ะกำลังจะกลายเป็นเวทีให้พ่อเธอก่นด่าพรรคการเมืองฝั่งตรงข้ามให้ฟัง จึงรีบขอตัวออกจากตรงนี้ก่อนดีกว่า
“เหอะ! แกนี่มันไม่เคยสนใจปัญหาครอบครัวเลยจริง ๆ นะเค้ก” คนเป็นพ่อมองลูกสาวที่เดินหันหลังจากไปด้วยความโมโห นิษฐาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ได้แต่จับมือสามีไว้ให้ใจเย็นลง
“เค้กไม่ค่อยชอบฟังเรื่องเครียดพ่อก็รู้ เดี๋ยวผมไปดูน้องก่อนนะครับ”
เขตคามรีบลุกตามน้องสาวไปทันที ด้วยไม่อยากเห็นคีรติต้องคิดมาก ประเดี๋ยวจะพานไม่อยากกลับบ้านนานเป็นเดือน ๆ เหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา
***
คีรติเหม่อมองสวนหลังบ้าน พืชผักมากมายที่เพาะไว้อย่างงาม ยามนี้ออกดอกออกผลพร้อมให้เก็บเกี่ยวไปประกอบอาหารแล้ว เธอยังจำตอนที่แม่ชวนปลูกผักแก้เบื่อได้ดี ตอนนั้นคีรติในวัยเพียงห้าขวบตื่นเต้นดีใจจนกระโดดตัวลอยเมื่อเห็นต้นพริกที่ลงมือปลูกมากับมือเริ่มออกผลผลิตให้ชื่นใจ
เวลามีเรื่องไม่สบายใจหญิงสาวมักจะมายืนอยู่ตรงมุมนี้ ที่ซึ่งทำให้คิดถึงชีวิตไร้ทุกข์ร้อนยามวัยเด็ก
และมากไปกว่านั้น...เธอคิดถึงแม่เหลือเกิน
แม่อาจเป็นผู้หญิงเลวในสายตาของใครต่อใคร ทว่าพัชรีเป็นผู้หญิงที่ทำหน้าที่แม่ได้ดีที่สุดจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต
“กินข้าวอิ่มแล้วหรือไงเรา”
“พี่เขต?” คนตัวเล็กหันไปสบตาพี่ชาย เขตคามยังคงยิ้มอ่อนโยนให้น้องสาวอย่างเธอเสมอมา ทั้งที่ความจริงเขาควรจะโกรธเกลียดลูกเมียน้อยอย่างเธอด้วยซ้ำ
“ยังหรอกค่ะ ใครจะกินต่อลงกันล่ะ” คีรติขำในลำคอ
“อย่าคิดมากเลย พ่อพูดไปแบบนั้นเพราะเป็นห่วงเรานะ เราเป็นผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียว ถ้าเกิดเจอลูกค้าผู้ชายลวนลามจะทำยังไง พี่รู้ว่าพ่อห่วงเรามาก แต่ท่านก็นิสัยแบบนั้น พูดดี ๆ ไม่เคยเป็น”
ทุกคนในบ้านต่างรู้ว่าฐานทัตเป็นพวก ‘ปากร้ายแต่ใจดี’ ที่สำคัญท่านเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กสุดหัวใจด้วย
“ทีต่อหน้านักข่าวยังพูดดีได้เลยนี่คะ” คีรติสวนทันที นั่นเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เธออคติกับนักการเมือง หลายครั้งที่พ่อต้องปั้นหน้ามีความสุข ฉีกยิ้มตลอดเวลา ใครจะคิดว่าบางครั้งฐานทัตก็เก็บเอาเรื่องเครียดมาลงกับคนในครอบครัว เพราะไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ยามอยู่นอกบ้าน
“เอาน่ะ นั่นมันงานของพ่อ เค้กน่าจะภูมิใจนะที่มีพ่อรักบ้านเมือง ทำเพื่อประชาชนขนาดนี้”
“แหม กลัวเค้กไม่รู้เหรอคะว่าพี่เขตเป็นโฆษกพรรค” คีรติอดแซวพี่ชายไม่ได้ เขตคามก็ยังคงเป็นเขตคามเสมอ เขาทั้งใจเย็น เป็นสุภาพบุรุษ คอยปกป้องน้องสาวอย่างเธอ รวมถึงคอยปกป้องคนในครอบครัวด้วยเช่นกัน
“หึ ว่าแต่เราเถอะที่บาร์ยังโอเคไหม” เขตคามไม่ได้หัวโบราณเรื่องผู้หญิงกับงานกลางคืน แต่ครั้งแรกที่น้องสาวเดินมาบอกว่าอยากเปิดบาร์ วินาทีนั้นพี่ชายอย่างเขาก็อดห่วงไม่ได้จริง ๆ
เนื่องจาก Your Night Bar แตกต่างจากบาร์อื่น ๆ และการมีน้องสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาจิ้มลิ้มสะสวยก็ทำให้เขาคิดถึงภัยอันตรายมากกว่าเรื่องดี ๆ มันยิ่งทำให้เขตคามไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไรนัก
แต่ในเมื่อคีรติยืนกรานหนักแน่น ไม่ยอมเปลี่ยนใจ เขาในฐานะพี่ชายก็ทำได้เพียงคอยยืนดูอยู่ห่าง ๆ เพื่อระวังภัยให้เท่านั้น
“ก็เรื่อย ๆ ค่ะ ตั้งแต่เค้กจ้างน้ำผึ้งมาช่วยงาน อะไรหลาย ๆ อย่างก็เริ่มลงตัว อ่อ ช่วงนี้มีคนจองเหมาทั้งเดือนด้วยนะคะ แถมยังใจป้ำโอนยอดเต็มมาแล้วด้วย เค้กนี่ดีใจจนแทบจะร้องกรี๊ด แต่ก็ต้องทำนิ่งไว้ไม่งั้นจะเสียฟอร์มเอา” ทุกครั้งที่อยู่กับเขตคาม คีรติจะกลายร่างจากผู้หญิงที่เข้าถึงยากเป็นคนขี้เล่น ดูราวกับเป็นคนละคนไม่มีผิด
“เดี๋ยวนะ ที่ว่าเหมาทั้งเดือนนี่ ‘คนเดียว’ เหมาทั้งเดือนเลย?” เขตคามย้ำถาม
“ใช่ค่ะ เขาคงเหงามั้งคะ”
พูดมาถึงตรงนี้ คีรติยังไม่ลืมสายตาทรงเสน่ห์แฝงอารมณ์เศร้าสร้อย อ้างว้าง และเปล่าเปลี่ยวของคีตะเลย
หญิงสาวมั่นใจว่าภายใต้ความกะล่อนของเขายังมีเรื่องราวมากมายตรงข้ามกับบุคลิกที่เจ้าตัวแสดงออก เพียงแต่เธอไม่ได้อยู่ในจุดที่ชายหนุ่มจะไว้ใจพอจนสามารถเล่าเรื่องส่วนตัวเบื้องลึกให้ฟังเท่านั้นเอง
“ผู้ชาย?” เขตคามเลิกคิ้วถาม
“ค่ะ”
“มันชอบเค้กอะสิ ถึงได้เหมาขนาดนั้น ชื่ออะไร เป็นพวกไฮโซที่ชอบเก็บแต้มดาราดังหรือเปล่า”
“อะไรกันพี่เขต คิดไปถึงนั่น เค้กไม่ใช่ดารานะคะ อีกอย่างผู้ชายคนนั้นก็ไม่น่าใช่ไฮโซอะไร เค้กไม่เห็นจะคุ้นหน้าเลย”
“ทำอย่างกับเราออกสังคมตายละ พี่ว่ามันแปลกนะ จองคิวดื่มยาว ๆ ทั้งเดือนแบบนี้ ใครมันจะเหงาได้ทุกวี่ทุกวัน เค้กยกเลิกคิวมันเถอะ” คนเป็นพี่พูดด้วยน้ำเสียงไม่ไว้ใจ
“พี่เขตคะ เค้กเป็นแค่เจ้าของบาร์นะ ไม่ได้เป็นนักการเมืองหรือมีศัตรูที่ไหน พี่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ไม่มีใครมาทำอะไรเค้กหรอก” หญิงสาวอมยิ้ม รู้ดีว่าพี่ชายเผชิญกับสถานการณ์ ‘ลอบกัด’ มาเยอะ แต่เธอไม่ได้อยู่ในแวดวงเดียวกับเขาและพ่อสักหน่อย เรื่องที่เขตคามกังวลไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“พี่ไม่ได้กลัวเรื่องนั้น แต่น้องพี่โตเป็นสาวแล้ว แถมสวยมากด้วย มันเลยน่ากังวลเป็นธรรมดา” เขตคามกล่าว คีรติไม่เพียงแต่สวยเท่านั้น หากใครได้รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริงของเธอต่างต้องหลงเสน่ห์ไปตาม ๆ กัน
ไม่เว้นแม้แต่ ‘เหมราช’ เพื่อนสนิทของเขาที่แอบรักคีรติมานานหลายปี
“งั้นพี่เขตก็วางใจได้เลยค่ะ น้องสาวพี่คนนี้ไม่ได้จีบง่าย ๆ แน่” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจ ทว่าทันใดนั้นภาพคีตะกลับฉายชัดขึ้นมาในใจอย่างไม่อาจห้าม
ทั้งรูปลักษณ์น่าดึงดูด ทั้งน้ำเสียงนุ่มชวนน่าฟัง ที่สำคัญดวงตาทรงเสน่ห์ที่เธอไม่อาจถอดถอนสายตาหนีไปไหนได้...คีรติชักไม่มั่นใจในประโยคที่ตนเพิ่งพูดซะแล้วสิ
ผู้ชายคนนั้นมีผลต่อความรู้สึกของเธอมากอย่างที่ไม่ควรจะเป็นเลย!
“แล้วไปค่ะ ไม่งั้นเค้กก็แย่เลยสิ” คีรติถอนหายใจ ยินยอมเปิดเปลือยทุกความรู้สึกของตนให้ชายหนุ่มรับรู้อย่างไม่อาย สำหรับความรักครั้งนี้ เธอไม่อยากมีข้ออคติในใจ รวมทั้งอยากให้ชายหนุ่มได้รู้จักตัวตนของเธอในทุกด้านด้วย“จริงสิ ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงไม่ยอมมีแฟนล่ะ ลูกค้าหนุ่ม ๆ ก็น่าจะตามจีบคุณเยอะไม่ใช่เหรอ ผมเชื่อว่าผมไม่ใช่คนแรกแน่ ๆ ที่สนใจคุณ”“อืม...ไม่รู้สิคะ” หญิงสาวย่นคิ้วน้อย ๆ ก่อนเอ่ยต่อ “ก่อนหน้านี้เค้กคิดว่ายังไม่พร้อมจะมีใคร คนที่ทำให้รู้สึกดีด้วยถามว่ามีไหม มันก็มีค่ะ แค่สุดท้ายไปกันไม่รอด เพราะพ่อเค้กไม่อนุญาตให้มีแฟน ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่คนที่ท่านเลือกให้”หญิงสาวกำลังนึกถึง ‘เหมราช’ เพื่อนของพี่ชาย คนที่ฐานทัตผู้เป็นพ่อหมายมั่นจะให้เป็นคนรักของเธอ จริงอยู่ว่าเหมราชแสดงออกชัดเจนว่าเขารู้สึกกับเธอมากกว่าพี่น้อง แม้เขาจะไม่เคยพูดมันออกมาตรง ๆ ก็ตาม แต่เธอมองเหมราชเป็นพี่ชายมาโดยตลอด เพราะเข้าใจไปว่าทุกสิ่งที่เขาทำน่าจะเกิดจากความต้องการของผู้เป็นพ่อ“แบบนี้ผมก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ท่านเห็นสินะ” คีตะเหยียดยิ้ม คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เขาเลือกเข้าหาคีรติ เธอคงไม่รู้อะไรเลย แต่เขารู้...รู
ก๊อก ๆ ๆ คีรติเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ปัญหาใหญ่ที่เธอเพิ่งนึกขึ้นได้นั่นคือ พวกเขาสองคนไม่ได้ตระเตรียมเสื้อผ้าสำหรับค้างคืนมาด้วย ทว่า…ก่อนจะได้ทำอะไร เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นเสียก่อนหญิงสาวจัดสาบเสื้อคลุมอาบน้ำบนร่างให้ปกปิดมิดชิด แล้วเดินไปส่องที่ตาแมวตรงประตู พบว่าเป็นพนักงานหญิงของทางโรงแรมจึงเปิดให้ทันที“มีอะไรหรือเปล่าคะ” หญิงสาวถามน้ำเสียงเป็นมิตร“ดิฉันเอาเสื้อผ้ามาให้คุณผู้หญิงค่ะ” พนักงานคนดังกล่าวส่งถุงใส่ของมาให้เธอคีรติส่ายศีรษะปฏิเสธ “เอ่อ แต่ว่าฉันไม่ได้สั่งอะไรนะคะ”“คุณผู้ชายที่มากับคุณเป็นคนสั่งให้ค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” พนักงานตอบยิ้ม ๆ“อ่อ ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” คีรติยอมรับถุงเสื้อผ้าเมื่อรู้ว่าใครเป็นคนจัดการเรื่องนี้หญิงสาวเปิดถุงเสื้อผ้าออก พบว่ามีเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งและกางเกงขาสั้นสีดำ ทั้งสองชิ้นนี้ไม่ได้สวยน่ารักหรือสวมใส่สบายเท่าชุดนอนตัวโปรดของเธอ แต่คีรติกลับพอใจกับมันจริง ๆ โชคดีที่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก สามารถใส่เสื้อยืดผู้ชายแบบโอเวอร์ไซซ์ได้ ไม่อย่างนั้นพนักงานคงหาซื้อชุดให้เธอลำบากแย่ว่าแต่...ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่นะเธอมองเวลา ตอนนี้เกือบเที่ยงคืนแล้ว เด
“ฮ่า ๆ โอเค ๆ ผมไม่แกล้งคุณแล้ว ว่าแต่คุณออกมากับผมแบบนี้ทางบ้านว่าอะไรไหม” คีตะเริ่มเข้าเรื่องสำคัญ เขารู้ว่าคีรติเป็นลูกนอกทะเบียนสมรสของฐานทัตกับภรรยาน้อย แต่ที่เขาไม่แน่ใจนักคือความสัมพันธ์ของเธอกับผู้เป็นพ่อ ในข่าวต่างตีแผ่มากมายว่าเธอเป็น ‘ลูกนอกคอก’ ที่พ่อไม่รัก แต่พอได้รู้จักกับหญิงสาวจริง ๆ คีตะไม่อยากจะเชื่อว่าฐานทัตจะใจจืดใจดำจนไม่นึกรักลูกสาวคนนี้ในเมื่อคีรติทั้งน่ารักและอ่อนหวานเสียปานนี้“อ่อ เค้กไม่ได้บอกอะไรค่ะ” สีหน้าหญิงสาวหม่นลง หากบอกพ่อว่าออกไปเที่ยวต่างจังหวัดกับแฟน มีหวังทั้งเธอและคีตะคงไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคู่รักทั่วไปแน่“ทำไมล่ะ...เอ่อ ขอโทษถ้าผมเสียมารยาท คุณไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมเข้าใจ”“คุณไปอยู่เมืองนอกมานาน เค้กไม่แน่ใจว่าคุณจะรู้จักพรรคการเมืองในไทยบ้างหรือเปล่า”“ทำไมเหรอครับ” คีตะกระตุกยิ้มซ่อนแววตาลึกล้ำทำไมจะไม่รู้ เขารู้เสียยิ่งกว่ารู้เลยละ!“พ่อของเค้กท่านเป็นหัวหน้าพรรคไทยยั่งยืนค่ะ” เธอเดาไม่ออกเลยว่าคีตะจะรู้สึกอย่างไร บางคนอาจจะดีใจที่ได้คบหากับผู้หญิงจากครอบครัวมีอำนาจ แต่บางคนอาจจะมองว่าการคบหากับเธอจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเสียมากกว
คีรติกับคีตะเป็นแฟนกันแล้วทุกสิ่งอาจจะดูเหมือนเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น แต่เมื่อทั้งสองคนต่างเปิดเผยความรู้สึกที่มีให้กัน คีรติกลับมีความสุขมาก เธอรู้ใจตัวเองยิ่งขึ้นว่าตนหลงรักชายหนุ่มมาก...มากเสียจนไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหนมาก่อนเขาคือรักแรกของเธอ และเธอก็หวังว่าเขาจะเป็นรักเดียวตลอดไปด้วย“รอนานไหมครับ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยทักบุคคลที่หญิงสาวกำลังนั่งเหม่อคิดถึงอยู่เดินเข้ามาด้านในบาร์ วันนี้คีตะแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำทะเล ลุคของชายหนุ่มวันนี้ยิ่งมองแล้วยิ่งรู้สึกสบายตา แม้จะแตกต่างจากทุกคืนที่เธอได้เห็นก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคีตะเป็นผู้ชายหุ่นดี ไม่ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้าแบบใดก็ยังน่ามองเสมอ“ไม่เลยค่ะ ไปกันเลยไหม” หญิงสาวส่งยิ้มให้ ‘แฟนหนุ่ม’ แล้วก้าวไปหาเขา“วันนี้คุณแต่งตัวน่ารักจัง” คีตะหยิกแก้มคนตรงหน้าเบา ๆวันนี้คีรติสวมชุดเดรสสายเดี่ยวสีขาว ผ้าพลิ้ว ปล่อยผมยาวสลวยเป็นลอนคลาย ๆ ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงเล็กน้อย ส่งเสริมบุคลิกให้ดูเป็นผู้หญิงที่ทั้งอ่อนหวานและเซ็กซี่ในคราเดียวกัน“ปากหวานแต่หัววันเลยนะคะ” หญิงสาวแสร้งค้อน ตั้งแต่คบกันมาไม่เค
“ผมพูดจริงนะ ถ้าคุณคิดว่าผมแค่เมาละก็ คุณเข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้เมา มีสติรู้ตัวทุกอย่างเลยละ ผมจำได้ทุกการกระทำ ทุกคำพูดของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องที่ผมจูบคุณ”“ไม่ต้องพูดมันออกมาก็ได้นะคะ!” คีรติสวนกลับทันควัน สีหน้าเธอแลดูอับอายเหลือจะเอ่ย นี่เขากล้าพูดเรื่องแบบนั้นตรง ๆ ได้อย่างไรกัน โชคดีนะที่น้ำผึ้งยังไม่กลับมา ไม่เช่นนั้นเธอคงขายหน้ามากกว่านี้แน่“ก็มันเรื่องจริงนี่ ผมจำได้ว่าผมจูบคุณ” ยิ่งเห็นคีรติเขินเขาก็ยิ่งอยากแกล้ง เธอคงไม่รู้ตัวว่าเวลาทำสายตาดุ ๆ ใส่กลบเกลื่อนทั้งที่หน้าแดงก่ำ มันยิ่งทำให้เธอดูน่าแกล้งขึ้นเป็นเท่าตัว“ค่ะ! คุณลืมมันไปดีกว่านะคะ มันอาจจะเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ เพราะทั้งคุณและฉันเราต่างดื่มแอลกอฮอล์ด้วยกันทั้งคู่”“นี่อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนคุณขอเวลานอก เพื่อจะสรรหาคำมาปฏิเสธผม ในขณะที่ผมนอนไม่หลับ คอยแต่คิดว่าจะทำยังไงให้คุณเชื่อใจและยอมรับรักผมสักที” สีหน้าคีตะแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด“คือฉันแค่คิดว่าบรรยากาศมันอาจพาไป คุณเลยเผลอทำเรื่องแบบนั้นไปโดยไม่ได้ตั้งใจ” น้ำเสียงของคีรติขาดห้วง ยังคงสับสนอยู่มากว่าควรเชื่อในสิ่งที่คีตะพูดออกมาหรือไม่“คีรติ…ผ
“คุณ...อื้อ!” วินาทีต่อมา ริมฝีปากหยักกดลงหาเธออีกครั้งคีตะจูบเธออย่างคนไม่รู้จักพอ ยิ่งเมื่อร่างกายของทั้งสองแนบชิดกัน ไออุ่นและกลิ่นกายหญิงสาวก็ยิ่งพาให้สติคีตะกระเจิดกระเจิงเลือนหาย คล้ายคนมึนเมาไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจคีรติทำให้เขา ‘อยากได้’ เธอจนแทบคลั่ง!“คุณคีย์ ปล่อยค่ะ อื้อ...” คีรติพยายามห้ามปากร้อนที่เริ่มคลอเคลียลงมาถึงตรงซอกคอขาว น้ำเสียงเธอสั่นระริกด้วยความหวามไหวที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน หารู้ไม่ว่าแม้ปากตนจะเอ่ยห้าม มือทั้งสองข้างกลับเกาะเกี่ยวร่างหนาไว้แน่นไม่ให้ห่างกายไปไหนแต่เธอจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้...พลั่ก! “เค้ก..” คีตะถูกหญิงสาวผลักอกอย่างแรงจนสติกลับเข้าร่างทันทีให้ตายเถอะ! ชายหนุ่มนึกอยากจะชกหน้าตัวเองแรง ๆ สักที โทษฐานที่พลั้งเผลอไปตามอารมณ์วาบหวามจนเกือบจะหักหาญน้ำใจเธอ หากเขาทำอะไรเกินเลยไปตอนนี้ละก็ เกรงว่าหญิงสาวอาจจะไหวตัวทัน แล้วทุกสิ่งที่ทำมาก็อาจจะพังทลายลงได้ในพริบตาเย็นไว้ ถึงยังไงมึงก็ต้องได้ผู้หญิงคนนี้สักวัน...คีตะเตือนตัวเองพลางยกมือลูบผมเผ้าให้เข้าที่เข้าทาง คนตัวเล็กรีบลุกออกจากตักเขาราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังตื่นกลัวเสือร้ายก็ไม่ปาน แม