Share

ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 3

last update Last Updated: 2025-05-09 15:57:56

สองปีต่อมา

เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นระหว่างสองปีมานี้ มีทั้งที่ดีและไม่ดี แต่ทุกคนก็ผ่านกันมาได้ รวมถึงสองพี่น้องตระกูลเฟยที่ตอนนี้อยู่ในความดูแลของเซียวหลี่อิง

ในส่วนของจางหยวนเพ่ยเองนั้น ก็อาศัยอยู่ที่เรือนไม้ในส่วนลึกของตระกูลเซียว เรือนไม้ขนาดกลางตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางป่าไผ่เรียงราย ด้านข้างมีลำธารสายหนึ่งไหลผ่านให้ความรู้สึกเย็นสบาย ไม่ไกลกันนักยังมีเรือนเล็กอีกสามเรือนสำหรับเหล่าลูกศิษย์ ทางเดินและรอบเรือนพัก มีดอกไม้นานาพันธุ์ ปลูกประดับเอาไว้งดงามยิ่ง

“หือ เจ้าเด็กนี่กตัญญูดีจริง มาถึงก็มีน้ำชาวางไว้ให้เลย”

จางหยวนเพ่ยที่ไม่คิดอะไรมากยกถ้วยน้ำชาที่วางอยู่ในห้องของตนเองขึ้นดื่มทันทีหลังจากกลับมา เมื่อฝึกเหล่าลูกศิษย์ทั้งหลายเสร็จ ก่อนที่เฟยเทียนจะเดินเข้ามา

“ท่านอา! นั่นไม่ใช่น้ำชา มันคือยาขอรับ” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่า ที่พึ่งเดินเข้ามาใหม่ ยกมือขึ้นห้ามผู้ที่เป็นทั้งอาจารย์และท่านอาของตน แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

“ยาหรือ ทำไมกลิ่นกับรสชาติไม่เหมือนยาเลยเล่า มันคือยาอะไร” หลังจากที่ดื่มเข้าไปแล้วทั้งรสชาติและกลิ่นคล้ายชาดอกไม้เป็นอย่างมากไม่เหมือนยาสักนิด

“เป็นยาเพิ่มกำลังภายในขอรับ อยู่ระหว่างการปรับปรุงตัวยาให้เหมาะสม” เฟยเทียนบอกออกไปพร้อมกับยิ้มแห้ง

“หือ ยาเพิ่มกำลังภายในหรือ อือ…กำลังภายในพลุกพล่านจริงด้วย”

จางหยวนเพ่ยที่ลองสัมผัสกำลังภายในของตนเองดู ก็พบว่ามันกำลังพลุกพล่านอยู่ภายใน จนต้องปรับให้สมดุลและสงบลง

“มันยังไม่สำเร็จนะขอรับ แต่ฤทธิ์ยามีผลกับกำลังภายในจริง” 

ชายหนุ่มเอ่ยบอกเสียงอ่อยแต่เหมือนจางหยวนเพ่ยจะรู้ว่าอีกคนยังบอกออกมาไม่หมด

“แล้วยังไงเล่า” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามอย่างสงสัย

“คือมันมีผลข้างเคียงนะขอรับ” เฟยเทียนก้มหน้างุดพูดเสียงพึมพำไม่กล้าสบตาผู้เป็นอาจารย์

“อย่างไรก็ว่ามาสิ” จางหยวนเพ่ยเอ่ยเร่งให้ชายหนุ่มบอกผลของมัน

“ผู้ที่กินเข้าไปจะกลับกลายเป็นเด็กสิบขวบขอรับ” เฟยเทียนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อยอย่างช่วยไม่ได้

“ว่าอย่างไรนะ!” จางหยวนเพ่ยตะโกนดังลั่นก่อนจะนิ่งงันไป ในขณะที่เฟยเทียนได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ มองผู้เป็นอาจารย์พร้อมกับทำหน้าราวกับจะร้องไห้

“ไอ้เจ้าเด็กบ้า! ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้” จางหยวนเพ่ยโวยวายขึ้นทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น

“แล้วท่านถามข้าหรือยังล่ะขอรับ” เฟยเทียนกล่าวอย่างโอดครวญ

“แล้วทีนี้จะแก้อย่างไร” จางหยวนเพ่ยรีบเอ่ยถาม เป็นชายหนุ่มวัยละอ่อนไม่พอ ยังต้องเป็นเด็กอีกหรือ

“แก้ไม่ได้ขอรับ ท่านต้องอยู่ในร่างของเด็กสิบขวบไปหนึ่งเดือน แล้วจะคืนสู่ร่างเดิมเอง แหะ”

เฟยเทียนทำหน้าตารู้สึกผิดทันที แต่นั้นก็ไม่ใช่ความผิดเขาเสียทีเดียว ใครใช้ให้ท่านอาจารย์ไม่ถามก่อนเล่า

“หนึ่งเดือน” จางหยวนเพ่ยทวนสิ่งที่ได้ยินอย่างหมดแรง

“ขอรับหนึ่งเดือน” ยังจะเอ่ยย้ำอีก จางหยวนเพ่ยทำหน้าราวกับชีวิตนี้ได้พังทลายลงแล้ว

 ในคืนนั้นระหว่างที่จางหยวนเพ่ยกำลังหลับสบาย ร่างกายของชายหนุ่มโตเต็มวัยค่อย ๆ หดเล็กลงจนกลายเป็นเด็กสิบขวบตัวขาวน่าฟัดอยู่บนเตียงนอน

เช้าวันใหม่มาเยือน เสียงร้องโวยวายดังออกมาจากภายในห้องนอนของจางหยวนเพ่ยในเรือนไม้ ทำเอาเหล่าลูกศิษย์ที่กำลังฝึกวรยุทธอยู่ในบริเวณนั้น รีบวิ่งเข้าไปดูผู้เป็นอาจารย์ทันที ก่อนจะพบกับร่างเล็กของเด็กชายวัยสิบขวบที่มีเรือนผมสีขาวปลอดยาวถึงกลางหลัง ใบหน้าเล็กขาวใสเงยขึ้นสบตากับผู้มาเยือน ดวงตากลมโตสุขสกาว แพขนตาเรียงตัวสวย สองแก้มขาวนวลป่องเป็นลูกซาลาเปาน่ารักน่าหยิก เสียจนคนที่พบเห็นอยากขโมยกลับไปด้วยเสียเลย

“เจ้า เจ้าเป็นใครกัน เหตุใดจึงเข้ามาอยู่ในห้องนอนของท่านอาจารย์ได้ แล้วท่านอาจารย์หายไปไหน”

หวังเลี่ยงรุ่ยที่พึ่งได้สติกลับมา เอ่ยถามขึ้น ทำเอาเด็กน้อยถึงกับพองแก้มอย่างไม่พอใจ แต่มันช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน

“ก็ข้านี่อย่างไร อาจารย์ของเจ้า ไอ้เจ้าเด็กหน้าเหม็น”

เสียงเล็กน่ารักเอ่ยขึ้น ทั้งยังยกแขนทั้งสองข้างขึ้นกอดอกอย่างไม่พอใจ แต่มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยสักนิดเดียว

“เจ้าอย่างมาโกหก จะเป็นไปได้อย่างไร” หวังเลี่ยงรุ่ยไม่เชื่อ แต่พอลองมองสำรวจหน้าตาของเด็กน้อยคนนี้แล้วกลับมีเค้าโครงของผู้เป็นอาจารย์อยู่ไม่น้อยเลยไหนผมเรือนผมสีขาวนั้นอีก

“เจ้าก็ลองไปถามศิษย์น้องเจ้าดูสิ ข้าเผลอกินยาที่เขาปรุงเข้าไป เลยกลายเป็นเช่นนี้ ไม่น่าเลยต้องอยู่ในร่างของเด็กสิบขวบไปอีกตั้งหนึ่งเดือน”

เด็กน้อยกล่าวพร้อมกับทำหน้าจะร้องไห้ เมื่อวานเขายังพอใจชื้นอยู่บ้าง ที่ร่างกายไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้น แต่เพียงแค่ค่ำคืนเดียว จากชายหนุ่มรูปงาม ต้องมาอยู่ในร่างเด็กเล็กเช่นนี้

“ห๊ะ! ว่าอย่างไรนะ” ชายหนุ่มถึงกับอ้าปากเหวอกับสิ่งที่ได้ยิน สองแฝดเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกันจะเป็นไปได้หรือยาที่ทำให้กลายเป็นเด็กสิบขวบ

“ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อ ก็ไปถามเฟยเทียนดูสิ” ใบหน้าน่ารักบึ้งตึงขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงตัวต้นเรื่องที่ทำให้ตนเองกลายเป็นเช่นนี้

“นั่นอย่างไรตัวต้นเรื่อง เดินมานั่นแล้ว” จางหยวนเพ่ยเอ่ยขึ้นเมื่อมองไปนอกประตูห้องนอนก็เห็นร่างสูงโปร่งของใครบางคนเดินเข้ามา

“เฟยเทียน เด็กน้อยคนนี้บอกว่าคืออาจารย์ ไม่จริงใช่หรือไม่” หวังเลี่ยงรุ่ยรีบเดินไปลากคนมาใหม่ เข้ามาถามทันทีทั้งยังชี้นิ้วไปที่ร่างเล็กบนเตียง

“เอ่อ แหะ ก็อย่างที่เขาพูดนั่นแหละ” เฟยเทียนไม่มีอะไรจะแก้ตัวได้ ก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ส่งให้ทุกคนที่อยู่ในห้อง

“แล้วไม่มีทางแก้หรือ” หวังเลี่ยงรุ่ยถามขึ้นอย่างอยากรู้

“ไม่มี ต้องรอให้ครบหนึ่งเดือน ท่านอาจารย์ถึงจะกลับมาเป็นร่างเดิมได้”

เฟยเทียนเอ่ยบอกกับทุกคน พวกเขาได้แต่มองเด็กน้อยที่กำลังนั่งจุมปุ๊กอยู่กลางเตียงนอนตาใสแป๋ว

“แล้ววรยุทธกับกำลังภายในเล่า จะเป็นอย่างไร” หลิวหยางหนึ่งในแฝดชายคนพี่เอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นกังวลกับการเปลี่ยนแปลงที่กระทันหันนี้

“ยามีผลเพียงแค่เพิ่มกำลังภายใน ไม่ได้มีผลลดทอนวรยุทธหรือกำลังภายในที่มีอยู่แล้ว ถึงแม้จะอยู่ในร่างของเด็กก็ตาม เรื่องนี้สบายใจได้ ไม่มีใครสามารถทำอันตรายท่านอาจารย์ได้ทั้งนั้น”

เฟยเทียนเอ่ยอธิบาย ทุกคนจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเพราะกลัวว่าถ้าอยู่ในร่างนี้แล้วจะปกป้องตนเองไม่ได้

“ค่อยโล่งอกไปที นึกว่าจะสูญเสียวรยุทธกับกำลังภายในไปด้วยเสียอีก” หลิงเฉิงแฝดชายคนน้องเอ่ยขึ้น

“ไปๆ พวกเจ้าแยกย้ายกันไปฝึกวรยุทธต่อได้แล้ว ส่วนเจ้าไปเอาชุดมาเปลี่ยนให้ข้าเลย โทษฐานที่ทำให้ข้าเป็นเช่นนี้”

จางหยวนเพ่ยในร่างของเด็กสิบขวบชี้นิ้วไปที่เฟยเทียนก่อนจะสั่งให้อีกคนไปหาชุดมาให้เปลี่ยน

“ขอรับท่านอา” ชายหนุ่มรับคำอย่างเสียไม่ได้เพราะตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้ท่านอามาอยู่ในร่างนี้

“อ่อ อย่าลืมไปแจ้งนังหนูหลี่อิงให้ข้าด้วยเล่า เดี๋ยวจะแตกตื่นกันเสียหมดแบบเมื่อกี้” ร่างเล็กยังมิวายออกคำสั่งเพิ่มไปอีก

“ขอรับๆ ข้าทราบแล้ว” เฟยเทียนว่า ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ

ร่างเล็กของเด็กชายวัยสิบขวบ ตอนนี้กำลังถูกจ้องมองจากสายตาสองคู่ด้วยกัน อาภรณ์สีฟ้าอ่อนปักลายเมฆาเคลื่อนด้วยด้ายสีเงินยวง ข้างเอวห้อยด้วยหยกสีขาวมันแพะเนื้อดีแกะสลักลายเมฆ เส้นผมสีเงินดุจแพรไหมถูกรวบไว้อย่างเรียบง่ายด้วยผ้าปักลายเดียวกับชุด ดวงตากลมโตสุขสกาวมองสบกับผู้ที่กำลังจ้องมองตนอยู่

หญิงสาวที่ถูกดวงตากลมโตมองสบราวกับถูกขโมยหัวใจไปกับรอยยิ้มพราวจนเห็นฟันขาวดุจไข่มุก ผิวกายขาวนวลผุดผาด แก้มกลมทั้งสองข้างเปล่งปลั่งน่าหยิกเสียเหลือเกิน

ชายหนุ่มด้านข้างมองสลับเด็กน้อยน่ารักวัยสิบขวบกับบุตรชายวัยสามเดือนในอ้อมแขน ใบหน้ากลมน่ารักของทั้งสองคนคล้ายกันราวกับฝาแฝดหากบอกว่าเป็นพี่น้องก็ไม่อาจปฏิเสธได้

“พอใจแล้วหรือยัง”

เสียงเล็กน่ารักถามขึ้นอย่างเบื่อหน่ายพร้อมกับกลอกตาไปมากับอาการของทั้งสองคนตรงหน้า รอยยิ้มเมื่อครู่หุบลงทันที

“หากไม่ทราบเรื่องมาก่อน ข้าคงจะคิดว่าท่านเป็นพี่ชายของฟ่านอี้แล้วนะเจ้าคะ”

หญิงสาวเอ่ยขึ้นก่อนจะตวัดตามองไปยังหวังชิงเฟิงผู้เป็นสามีจนอีกฝ่ายเลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถามว่ามองข้าทำไม

“เฮ้อ! เป็นเพราะเจ้านั้นแหละที่พาเฟยเทียนอยู่แต่ในเรือนสมุนไพรจนเขาคิดทำยาอะไรมากมายเนี่ย”

จางหยวนเพ่ยได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะเริ่มบ่นอะไรมากมายออกมาราวกับคนแก่ อืมก็แก่จริง มือเล็กเอื้อมไปหยิบถ้วยน้ำชาขึ้นจิบแต่ก็ต้องชะงักไปจังหวะหนึ่งจนหลี่อิงถึงกับยิ้มขำออกมา

“เป็นน้ำชาเจ้าค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อเห็นอาการหวาดระแวงของเด็กน้อยตรงหน้า จนชายหนุ่มกับสองสาวใช้อดยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้

“แล้วนี่ท่าน…เจ้า จะทำอย่างไรต่อเล่า” หวังชิงเฟิงเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองรูปร่างนี้ของจางหยวนเพ่ยให้เต็มตาเสียหน่อย เพราะถ้าได้กลับคืนรูปลักษณ์เดิมแล้วเจ้าตัวคงไม่เผลอไปดื่มอะไรเช่นนี้อีกเป็นแน่

“ข้าทำอะไรได้ด้วยหรือ มีแต่ต้องจำยอมอยู่ในร่างนี้ไปก่อนนั่นแหละ อย่างน้อยวรยุทธกับกำลังภายในก็ยังอยู่แถมยังเพิ่มขึ้นมาด้วย ใครจะกล้าทำอะไรเล่า” 

คำพูดใหญ่โตนี้พอออกมาจากปากเล็ก ๆ นั้นแล้วมันไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิดแต่กลับชวนให้ยิ้มเอ็นดูเสียมากกว่า

“อืม ก็จริง” หลี่อิงเห็นด้วยแต่ก็ยังมองว่ารูปลักษณ์เช่นนี้ไม่เหมาะคำพูดโอ้อวดเหมาะกับพูดที่ดูน่ารัก ๆ เสียมากกว่าแต่ก็ไม่กล้าขัดได้แต่ตอบยิ้ม ๆ

“ดีเสียอีก อยู่ในร่างนี้ใคร ๆ ก็คงคิดไม่ถึงว่าเป็นข้า”

เด็กน้อยกล่าวขึ้นน้ำเสียงเล็กน่ารัก หน้าตาราวกับตุ๊กตากระเบื้องเคลือบไม่ได้เข้ากันกับท่าทางเรียบนิ่งเย็นชาสักนิด

“ท่านจะสืบเรื่องนั้นหรือเจ้าคะ” หลี่อิงถามขึ้น นี้ก็คงถึงเวลาแล้วสินะ

“อืม ไหน ๆ ก็ไม่มีใครจับสังเกตได้อยู่แล้ว ใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ดีกว่า” จางหยวนเพ่ยกล่าวอย่างไม่ยินดียินร้ายอะไร

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ตอนพิเศษส่งท้าย (End)

    พิเศษส่งท้ายเช้าอันสดใสมาเยือน หลงฝูหยางตื่นมาด้วยหน้าตาสดใสทั้งยังอารมณ์ดีไม่น้อย มองคนที่นอนทับตนเองอยู่ก็ได้แต่ยิ้มอย่างมีความสุข“เพ่ยเพ่ย” เสียงทุ่มเข้มเอ่ยเรียกร่างบางเสียงเบาราวกับกำลังหยอกล้อ“อืม” จางหยวนเพ่ยที่ถูกรบกวนส่ายหน้าไปมากับอกของหลงฝูหยางก่อนจะหลับลงไปอีกครั้ง“หึหึ” เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูนี้คงมีแต่จางหยวนเพ่ยเท่านั้นที่ได้รับมัน เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ยอมตื่นง่าย ๆ หลงฝูหยางก็ไม่คิดจะก่อกวนต่อ แขนแกร่งโอบคนบนตัวเอาไว้หลวม ๆ มือหนาลูบแผ่นหลังบางเป็นการกล่อมไปด้วย“อืม” เสียงครางแผ่วอย่างพอใจดังขึ้นให้ได้ยินจนอดเอ็นดูไม่ได้ ริมฝีปากหนาจึงกดจูบเบา ๆ ที่กลุ่มผมดำนุ่มนั้นหนึ่งทีในช่วงสายของวัน หลี่อิงกับเฟยเทียนจึงแวะมาดูอาการหลงฝูหยางอีกครั้งหลังจากที่ตอนแรกตั้งใจจะมาตั้งแต่เช้าแล้วแต่กลับถูกห้ามเอาไว้เสียก่อน ในตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พอมาเห็นภาพตรงหน้าแล้วก็อยากจะเดินกลับเรือนเสียเดี๋ยวนั้น“นี้ใจคอพวกท่านไม่คิดจะลุกขึ้นมาต้อนรับแขกหน่อยหรือเจ้าคะ”หลี่อิงเอ่ยขึ้นอย่างเหนื่อยใจ เมื่อเดินเข้ามาภายในเรือนแล้วพบว่าทั้งสองคนยังนอนกอดกันกลมไม่ปล่อ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 33

    งานเทศกาลหยวนเซียวที่คึกคักไปด้วยผู้คน สองร่างในชุดสีแดงดำเดินเคียงกันอย่างมีความสุข สองมือผสานกันเอาไว้แน่นอย่างไม่เกรงสายตาใคร หนึ่งงดงามหนึ่งคมคายเป็นเป้าสายตาของผู้คนเสียเหลือเกินแต่ก็มิได้รู้สึกแปลกตาแต่อย่างไรเพราะก็มีแบบนี้ให้เห็นอยู่เนื่อง ๆ อีกทั้งขุนนางบางคนยังมีฮูหยินรองหรืออนุที่เป็นบุรุษด้วย“เจ้าเคยมาเดินงานเทศกาลหยวนเซียวบ้างหรือไม่” จางหยวนเพ่ยเอ่ยถามคนที่จับจูงมือกันอยู่“ไม่เคย” หลงฝูหยางส่ายหน้าก่อนจะหันมาตอบร่างเพรียวบางด้านข้าง“แล้วมาที่นี่บ่อยหรือไม่ จำได้ว่าตอนนั้นที่เจอกันก็เป็นที่ต้าถงนี้” จางหยวนเพ่ยยังคงถามอีกต่อเรื่อย ๆ“ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอยู่ที่พรรคเป็นหลักหรือไม่ก็ไปที่อื่นเสียมากกว่าที่ต้าถง แต่เมื่อสองปีก่อนปรากฎสมุนไพรหายากขึ้นเลยเข้ามาที่นี่บ่อยขึ้น”“หืม”“โรงประมูลชิงหลงนั้นอย่างไร” หลงฝูหยางเอ่ยขึ้นยิ้ม ๆ เมื่อเห็นสีหน้าฉงนของจางหยวนเพ่ย“เอ๋ ของเจ้าหรือ” ร่างบางเอี้ยงคอถามอย่างน่ามอง ดวงตาใสแวววาวอย่างตื่นเต้น“ใช่ ให้เว่ยเหลียงเป็นคนดูแล” หลงฝูหยางไขข้อกระจ่างให้ร่างบาง“ถ้านังหนูหลี่อิงรู้ว่าท่านเป็นเจ้าของคงโดนป่วนแน่” จางหยวนเพ่ยเอ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 32

    รุ่งเช้ามาเยือนเหล่าศิษย์ทั้งหลายผู้เป็นเด็กดีทำตัวเป็นห่วงอาจารย์ผู้เป็นที่รักยิ่งมายืนรออยู่หน้าเรือนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคนจนกระทั่ง“ข้าง่วง พวกเจ้ากลับไปเลยไม่ต้องมาก่อกวนข้า” เสียงทุ้มนุ่มลอยออกมาจากในเรือนไม้แต่กลับไม่เห็นตัวคนจนเหล่าเอ่ยแซวกันเป็นแถบ“แม้อาจารย์ ผู้ชายมาเยือนเรือนลูกศิษย์ถึงกับไม่มีความหมายเลยหรือขอรับ” หวังเลี่ยงรุ่ยเอ่ยน้ำเสียงหยอกเย้าผู้เป็นอาจารย์จากนอกเรือน“ไปไกล ๆ เลยเจ้าเด็กพวกนี้”“หึหึ ขอท่านประมุขอย่าหนักมือนักเล่า” หลิวหยางเอ่ยขึ้นกั่วเสียงหัวเราะชอบใจก่อนจะพากันสลายตัวไปทำหน้าที่ของตนเองกลับมาภายในเรือนตอนนี้ร่างเพรียวบางของจางหยวนเพ่ยกำลังนอนทับอกของหลงฝูหยางอยู่ใบหน้าคมสวนงอง้ำอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อถูกก่อกวนตั้งแต่เช้าทั้งที่พึ่งได้นอนไปเพียงนิดเดียว“ถ้าง่วงก็หลับต่ออีกหน่อยเถอะ” หลงฝูหยางเอ่ยเสียงนุ่มทั้งยังลูบแผ่นหลังเนียนเป็นการกล่อมอีกคน“ไม่เอา ข้าอยากคุยกับเจ้ามากกว่า” จางหยวนเพ่ยเอ่ยเสียงอ่อยนิ้วเรียวลูบไล้ไปบนแผ่นอกชายหนุ่มเล่นอย่างไม่รู้จะทำอันไร“เรื่องของเราหรือ” หลงฝูหยางก้มหน้าลงมาถามเสียงแผ่ว“อืม”“ว่ามาเถอะ ข้าเชื่อฟังท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 31

    หนึ่งเดือนต่อมาเรื่องที่อินจางเหว่ยได้ก่อเอาไว้ถูกชำระความเรียบร้อยแล้ว จ้าวจางเว่ยและหลงจ้าวอินจบชีวิตตนเองลงในหอลงทัณฑ์ ส่วนอินจางเหว่ยนั้นหลงฝูหยางไม่ยอมให้อีกคนตายง่ายดายถึงเพื่อนั้น เขาถูกขังเอาไว้ในส่วนพิเศษในหอลงทัณฑ์ตรึงร่างด้วยโซ่ตรวนไม่ให้คิดฆ่าตัวตาย ให้ทดทุกข์ทรมานกับพิษที่ได้รับรวมถึงพิษที่เจ้าตัวปรุงขึ้นอย่างเพลิงผลาญฤทัยเก้าสุริยันจนกว่าจะตายจากมันไปข้างหนึ่งเรื่องที่ต้องสะสางก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ที่นี่ก็คงเหลือในเรื่องของหัวใจที่ยังไม่มีความกระจ่างอะไรเลย และตอนนี้บรรยากาศภายในเรือนพักของหลงฝูหยางนั้น ช่างชวนให้คนที่อยู่ด้วย อยากจะหนีออกไปเสียจริง แต่ก็ทำไม่ได้“เอ่อ ท่านประมุขขอรับ ข้าว่าถ้าไม่มีใจจะอ่าน ไป ไป ที่นี่อยากไปดีหรือไม่ขอรับ” จางเฉินเอ่ยขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ก่อนจะได้รับสายตาคมที่ตะวัดมองมาจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง“ข้าเห็นด้วยกับจางเฉินนะขอรับ ไปหาสักหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นอะไรไม่ใช่หรือ ดีกว่านั่งจมอยู่อย่างนี้แล้วตนเองไม่มีความสุขนะขอรับ” จางหลินเองก็เห็นด้วยกับความคิดของจางเฉิน ตั้งแต่ที่อีกคนกลับไปหลังจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ผู้เป็นนายของพวกเขาก็เอาแต่นั้งท

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 30

    “ข้าจะรับเอาไว้เอง และจะให้เขาชดใช้อย่างสาสม” หลงฝูหยางกล่าวให้คำมั่น หวังเลี่ยงรุ่ยจึงหันไปมองศิษย์น้องของตนเองเมื่อเห็นแววตาของทุกคนแล้ว เขาจึงหันกลับมาหาหลงฝูหยาง“ได้ พวกข้าจะให้ท่านเป็นคนจัดการ”ปึ้ง!ร่างของอินจางเหว่ยถูกเหวี่ยงไปที่ปลายเท้าของหลงฝูหยางทันทีด้วยน้ำมือของจางหยวนเพ่ย นั้นยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายของอินจางเหว่ยมากยิ่งขึ้น“พวกเจ้าอยากรู้ใช่หรือไม่ ว่าข้าเป็นใคร นามของข้าคือ หยวนเพ่ย แช่ จาง ผู้ที่เคยท่องไปทุกที่แล้วในยุทธภพนี้ ชื่อเสียงมากมายที่ข้าได้รับ ข้าล้วนไม่เคยหลงในอำนาจของมัน แล้วเจ้าเป็นใคร อินจางเหว่ย ถึงได้คิดจะขึ้นเป็นใหญ่ควบคุมทั้งยุทธภพได้” สายตาคมสวยปรายมองอินจางเหว่ยก่อน จะเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งราวกับมองมดปลวกก็มิปาน“เป็นไปไม่ได้ คนผู้นั้นเป็นใคร ใช่คนที่เจ้าจะเอามาล่อเล่นได้หรือ”อินจางเหว่ยกล่าวอย่างเหยียดหยัน ที่อีกคนกล้ายกตนขึ้นเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงดังคนผู้นั้น“ข้าเป็นพยานได้ นั้นคือ จางหยวนเพ่ย ตัวจริงไม่ผิดแน่” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นแต่กลับไม่เห็นตัวคนพูด กำลังภายในมากมายที่กดทับอยู่เหนือบริเวณนี้ บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นผู้มีกำลังภายใ

  • ท่านประมุขปล่อยข้าไปเถอะ...ข้าแก่แล้ว   ประมุขตัวร้าย ตอนที่ 29

    ในขณะที่พวกเขากำลังจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ตรงหน้า คนกลุ่มหนึ่งก็ได้ทำการเก็บกวาดศัตรูอย่างเงียบเชียบก่อนจะส่งคนของตนเองเข้ามาแทนจนที่สุดทุกอย่างก็พร้อมแล้วจางหยวนเพ่ยได้รับสัญญาณจากเหล่าลูกศิษย์แล้วจึงมองสบตากับหลงฝูหยางที่เล่นถ่วงเวลาอยู่กับหลงจ้าวอิน ร่างสูงรับรู้ได้ทันทีก่อนจะปิดจบฉากการต่อสู้นี้ปลายกระบี่แหลมคมชี้ไปที่ร่างสูงโปร่งของหลงจ้าวอินก่อนจะเปลี่ยนเป็นตะวัดครึ้งวงกลมแฝงกำลังภายในเต็มเปี่ยม อินจางเหว่ยที่เห็นท่าไม่ดีรีบเข้าช่วยบุตรชายทันที แต่ก็ยังต้านพลังของหลงฝูหยางเอาไม่ไม่อยู่สองพ่อลูกกระเด็นไถลไปกับพื้นก่อนจะกระอักเลือดออกมา อาการบาดเจ็บของอินจางเหว่ยนั้นไม่หนักหนานักเพราะก็เป็นผู้ที่มีกำลังภายในสูงส่งผู้หนึ่ง จึงพอป้องกันตนเองเอาไว้ได้ แต่กับหลงจ้าวอินนั้นไม่ใช่ร่างกายที่แสนเจ็บปวดรวดราวบ่งบอกถึงอาการบาดเจ็บที่ทำลายลึกถึงตันเถียน ร่างสูงโปร่งนอนงอตัวกอดตนเองแน่นแค่ขยับเพียงนิดก็เจ็บปวดทรมานเกินจะทานทน เสียงคำรามต่ำในลำคอนั้นแฝงความมายินยอมอยู่ด้วยหากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในขณะเดี๋ยวไป๋ซีหมิงก็สลัดออกจากการควบคุ้มมาได้อย่างง่ายดาย“เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะมีกำลังภายในถึงเพียง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status