Share

ขับไล่วิญญาณร้าย

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-10-23 11:24:59

นักพรตหนุ่มที่สวีม่านนีเชิญมา จัดตั้งโต๊ะประกอบพิธีกรรมขับไล่ดวงวิญญาณทันที หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยุติการโต้เถียงกัน ชาวบ้านในอำเภอเหออันต่างก็รู้ดีเรื่องชื่อเสียงของนักพรตผู้นี้ ทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นพนมหลังจากที่เขาเริ่มบทสวด

เสียงสวดภาวนาของเขาดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนต่างเงียบเพื่อรอดูเหตุการณ์ต่อไป เถียนสวี่หลันที่เป็นตัวเอกยืนมองชาวบ้านที่มามุงดูด้วยสายตาเรียบเฉย

แม้จะมีโอกาสได้มีชีวิตถึงสองครั้ง แต่เรื่องวุ่นวายทำนองนี้ก็ไม่ยอมหายไปจากชีวิตของนางเสียที นางจะต้องทำอย่างไรที่จะให้พวกเขายอมเลิกราไปแต่โดยดี เถียนสวี่หลันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย

ผู้ช่วยที่ติดตามนักพรตมาด้วยเชือดไก่สองตัวเพื่อรีดเอาเลือดของมัน ทุกคนเห็นกับตาว่าไก่สองตัวนั้นดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวดจนกระทั่งมันหยุดดิ้นเพราะถูกรีดเอาเลือดไปจนหมดตัว

ผู้ช่วยนำเลือดมาวางด้านหน้านักพรตหนุ่มที่ยืนกวัดแกว่งกระบี่ไม้ของตนที่หน้าปะรำพิธี นักพรตหนุ่มผู้นั้นยังคงหลับตาปากก็ไม่ยอมหยุดสวดภาวนา จนกระทั่งเขาใช้ยันต์แผนสี่เหลืองโยนขึ้นไปด้านบนพร้อมกัน สวีม่านนีที่ยืนมองอยู่ข้างสวีไคมองไปยังเถียนสวี่หลันที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อม ใบหน้ากลมแป้นยกยิ้มอย่างสะใจ เจ้าจบเห่แล้ว

ไก่สองตัวที่ทุกคนคิดว่าตายไปแล้วก่อนหน้านี้ กลับลุกขึ้นมาดิ้นพล่านอีกครั้ง มันวิ่งเข้าหาเถียนสวี่หลันที่ยืนกอดอกอยู่ตรงกลาง จากนั้นจึงหยุดอยู่ด้านหน้านาง คอไก่ที่ถูกเชือดจนขาดล่องแล่งส่ายไปมา ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างร้องฮือฮาด้วยความอัศจรรย์ใจ เพราะไม่คิดว่านักพรตผู้นี้จะมีอิทธิฤทธิ์มากมายเพียงนี้

“พวกท่านทุกคนดูให้ดี นางบอกว่าตนเองมิใช่ดวงวิญญาณร้ายที่มาสิงร่างของเถียนสวี่หลัน แล้วเหตุใดไก่ที่ตายไปแล้วของท่านนักพรตถึงได้ไปหยุดยืนอยู่ต่อหน้านาง”

สวีม่านนีที่คอยหาโอกาสเล่นงานเถียนสวี่หลัน ไม่มีทางยอมปล่อยนางไปง่ายๆ นางใช้เหตุการณ์ตรงหน้าเอ่ยกระตุ้นชาวบ้านให้เห็นด้วยกับตน

เถียนสวี่หลันไม่มีท่าทีตื่นตระหนกกับสิ่งที่เกิดตรงหน้าแม้แต่น้อย ถึงนางจะไม่รู้ว่านักพรตผู้นี้ใช้วิธีใดทำให้ไก่ที่ตายไปแล้วลุกขึ้นมาวิ่งได้ แต่เขาไม่กล้าหักหลังนางแน่ เพราะนางเป็นคนที่กุมความลับของเขาเอาไว้

ชาวบ้านของหมู่บ้านหนานซานต่างก็คุกเข่าลงเพราะศรัทธาต่ออิทธิฤทธิ์ที่นักพรตหนุ่มกำลังแสดง แต่ไม่มีใครรู้เลยว่านักพรตที่พวกเขาต่างก็ศรัทธานั้น ยังมีความลับบางอย่างซุกซ่อนเอาไว้

เมื่อชีวิตที่แล้ว เถียนสวี่หลันเคยได้ยินว่ามีหญิงหม้ายจากจวนคหบดีผู้หนึ่งกำลังพัวพันอยู่กับเขา แต่อีกสองเดือนจากนี้นางจะจับได้ว่าเขาแอบซุกลูกเมียเอาไว้

เรื่องนี้ทำให้นางโกรธมากเพราะนางเป็นผู้ปรนเปรอเงินทองและคอยหนุนหลังนักพรตหนุ่มมาหลายปี ดังนั้นนางจึงออกมาป่าวประกาศให้คนทั่วทั้งอำเภอเหออันได้รับรู้

นางบังคับให้นักพรตหนุ่มหย่าร้างกับภรรยาลับของตน แต่เขาไม่ยอมทำให้เรื่องนี้ถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเลยทีเดียว เมื่อคืนนี้เถียนสวี่หลันได้พูดข่มขู่นักพรตหนุ่มไปแล้ว หากเขาไม่ทำตามที่นางสั่ง นางจะนำความลับของเขาไปบอกแก่หญิงหม้ายผู้นั้น

นักพรตหนุ่มใช้เลือดไก่เขียนยันต์ขึ้นมาสองแผ่น ก่อนที่จะติดไปที่หัวของไก่ทั้งสองตัว และแล้วเป้ามายของพวกมันก็เปลี่ยนไป ไก่สองตัวพุ่งเข้าหาสวีม่านนีเป็นคนแรกจากนั้น ยันต์ที่ติดอยู่บนตัวพวกมันก็ลุกไหม้ขึ้น

นักพรตหนุ่มซัดข้าวสารที่อยู่ในถ้วยไปที่สวีม่านนี รอบๆ ตัวนางเกิดระเบิดเล็กๆ ขึ้นเหมือนคนกำลังจุดประทัด ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ตกใจวิ่งหนีกันอลหม่าน เถียนสวี่หลันเหลือบมองนักพรตที่กำลังรำกระบี่ด้วยสายตาเลื่อมใส ท่านนักพรตเจ้าเล่นใหญ่มากไปแล้ว

สวี่ม่านนี่ที่โดนระเบิดนางก็กรีดร้องออกมาเสียงแหลม ที่ชายชุดของนางถูกไฟไหม้ไปบางส่วน สภาพของนางในตอนนี้ไม่ต่างจากขอทานข้างถนนสักเท่าใดนัก ถึงสภาพของนางจะเป็นอย่างนั้น แต่ปากของนางก็ไม่หยุดก่นด่าเถียนสวี่หลัน

“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ มันต้องเป็นเจ้ามิใช่หรือที่ถูกผีเข้า เจ้ากำลังใช้กลอุบายบางอย่างกับข้าใช่หรือไม่ สารเลวบอกมาว่าเจ้าทำอะไรกับข้ากันแน่”

เถียนสวี่หลันยืนกอดอกหัวเราะเบาๆ

“โอ้!! สวีม่านนี เป็นเจ้าอย่างนั้นหรือที่ถูกวิญญาณร้ายเข้าสิง มิน่าเล่าคนที่ไม่เคยแม้แต่จะกล้าเงยหน้ามองข้าสักครั้ง ถึงได้มีความกล้ามาพูดยุยงให้ชาวบ้านขับไล่คนตระกูลเถียนออกไปจากที่นี่”

เถียนสวี่หลันเอ่ยออกมาเสียงดัง ท่าทางของสวีม่านนีแสดงออกว่าตกใจไม่น้อยที่เหตุการณ์กลับตาลปัตรเช่นนั้น ชาวบ้านที่ยืนอยู่ใกล้สวีม่านนีต่างก็ถอยห่างจากนางด้วยความหวาดกลัว

“ไม่ใช่ข้านะ!! พวกท่านต้องเชื่อข้า ท่านพ่อช่วยข้าด้วย เป็นฝีมือของเจ้าใช่หรือไม่เถียนสวี่หลัน หญิงสารเลว ไม่อย่างนั้นข้าจะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”

เถียนสวี่หลันไม่สนใจเสียงโวยวายของสวีม่านนี นางหันไปขยิบตาส่งสัญญาณให้นักพรตหนุ่มทำพิธีต่อ ไก่สองตัวที่ยืนนิ่งตอนนี้กับบินไปทางต้นไม่ใหญ่ร้อยปีที่ยืนต้นอยู่ตรงกลางหมู่บ้าน เป็นอีกครั้งที่เถียนสวี่หลันรู้สึกทึ่งในความสามารถของนักพรตผู้นี้

ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนต่างก็รีบเดินตามไก่หัวเกือบขาดสองตัวนั้นไป ครอบครัวตระกูลเถียนเองก็เช่นเดียวกัน เถียนสวี่หลันเดินตามไปเป็นคนสุดท้าย ทำให้ร่างสูงของใครบางคนสามารถขวางนางเอาไว้ได้โดยที่ไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น

“เพราะแบบนี้ใช่หรือไม่ เจ้าถึงได้ออกจากหมู่บ้านไปกลางดึก ทั้งยังแอบปีนเข้าไปในเรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน”

เว่ยเจ๋อหมิงเอ่ยกับนางเสียงเบาเพราะกลัวว่าจะยังมีชาวบ้านหลงเหลืออยู่ในละแวกนี้มาได้ยินคำพูดของตน เถียนสวี่หลันมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยื่นเข้ามาใกล้อย่างกะทันหัน ทำให้นางไม่สามารถหลบเขาได้

หัวใจของนางตอนนี้เต้นกระหน่ำรัวจนแทบทะลุออกมานอกอก แต่ถึงอย่างไรนางก็จะไม่มีวันแสดงความตื่นเต้นออกมาให้เขาได้เห็นแน่ ร่างบางที่ถูกประชิดเอนกายไปด้านหลังเพื่อให้ใบหน้าของนางห่างจากเขา ดวงตากลมโตมองเฉไปด้านข้างดูท่าทางประหม่า

“ใช่แล้วอย่างไรไม่ใช่แล้วอย่าง เจ้าจะไปป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้อย่างนั้นหรือ เอาเลยสิเจ้ามันคนรักความยุติธรรมอยู่แล้วนี่นา บัณฑิตเว่ย”

คำสุดพูดท้ายนางเอ่ยประชดประชันเพราะนึกถึงเรื่องเมื่อคืนขึ้นมา เว่ยเจ๋อหมิงได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับพูดไม่ออก ร่างสูงถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ

“ข้ามิได้จะบอกใคร ข้าเพียงอยากจะบอกเจ้าว่า จะทำสิ่งใดให้ทำแต่พอดี ถึงอย่างไรทุกคนก็ยังเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน เจ้าต้อนนางจนมุมเช่นนี้วันหน้าพวกเจ้าสองคนจะมองหน้ากันอย่างไร”

เถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนจะได้ยินเรื่องเช่นนี้ออกมาจากปากของเว่ยเจ๋อหมิง ปกติคนผู้นี้เป็นคนเถรตรงเสียยิ่งกว่าไม้บรรทัด เหตุใดตอนนี้ถึงได้พูดเหมือนกำลังเข้าข้างนางอยู่เล่า

อีกอย่างเมื่อคืนเขาพูดจาดูถูกนางเอาไว้เสียขนาดนั้น นางไม่มีทางญาติดีกับเขาเพียงเพราะคำพูดไม่กี่ประโยคที่เข้าข้างนางหรอกนะ

เถียนสวี่หลันกระแอมไอเพื่อกลบเกลื่อน ถึงแม้นางจะรู้สึกดีใจอยู่บ้างที่เขาพูดเช่นนี้กับนางเป็นครั้งแรก แต่นางไม่มีทางยอมรับออกมาตรงๆ หรอก อีกอย่างเรื่องในครั้งนี้มองจากบนฟ้าก็ยังรู้เลยว่าเป็นแผนของสวีม่านนี นางจะยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ ได้อย่างไร นางหาใช่ลูกพลับนิ่มที่จะปล่อยให้ใครต่อใครบีบได้ง่ายๆ

“ข้าก็ไม่ได้จะทำให้นางจนมุมขนาดนั้นเสียหน่อย ถึงอย่างไรเรื่องทั้งหมดก็ต้องโยนให้เป็นความผิดของผีอยู่ดี อีกอย่างหากไม่สั่งสอนนางเสียบ้างข้าคงจะนอนไม่หลับ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   หลงป่า

    แม่นางหลี่กอดบุตรสาวเอาไว้ เถียนสวี่หลันเองก็วางมือจากพู่กันหันมากอดมารดาของตน“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว ข้าสัญญา”หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไป กลายเป็นตระกูลสวีที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในเรือน แม้แต่สวีไคที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่กล้าออกมาสู้หน้าชาวบ้านอีกแล้ว เหตุเพราะบุตรสาวของตนทำเรื่องงามหน้าเอาไว้มากมายเช่นนั้นครบกำหนดห้าวันสวีไคได้นำเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาส่งให้เถียนสวี่หลันด้วยตนเอง ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ แต่สวีไคก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ เพราะตอนนี้เขาไม่มีชาวบ้านหนานซานคอยหนุนหลังอีกแล้ว หากต้องการจะเล่นงานตระกูลเถียนถือว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขา“อาเล็กอาสะใภ้รอง พวกท่านกำลังจะไปที่ใดอย่างนั้นหรือ”เถียนสวี่หลันที่พึ่งออกมาจากห้อง เห็นสมาชิกทั้งสองของตระกูลเถียนกำลังสะพายตะกร้าไม้ไผ่เดินออกจากเรือนไป“หลายวันมานี้ฝนตกทุกวัน เรากำลังจะขึ้นเขาไปดูสักหน่อยว่ามีผักป่าขึ้นบ้างหรือไม่ เผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาทำอาหารเย็นบ้าง”เถียนสวี่หลันได้ยินเช่นนั้นนางก็นึกสนุกขึ้นมา นางเกิดมามีชีวิตถึงสองครั้งแต่กลับไม่เคยขึ้นไปบนเขาด้านหลังหมู

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   อับอายและพ่ายแพ้

    ท่าทางยืนก้มหน้าเท้าเขี่ยพื้นของนางตอนนี้ในสายตาของเว่ยเจ๋อหมิงมันช่างดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้สองสามเดือนเขาได้ยินจากเถียนซู่เจิงว่าอาการของนางไม่ค่อยดี ความรู้สึกเป็นห่วงนางแปลกๆ ก็เกิดขึ้นภายในใจของเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุเขาเองก็ไม่อยากยอมรับว่าตั้งแต่ที่นางแสดงอาการหวาดกลัวซ่งหยางเฉิงออกมาที่ร้านขายตำรา ในหัวของเขาก็มีแต่ภาพของนางและไม่สามารถสลัดมันให้หลุดออกไปได้ยิ่งได้ยินว่านางกำลังป่วยเขายิ่งรู้สึกเป็นห่วงและร้อนรน เขาอยากไปพบนางที่เรือนตระกูลเถียน แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ระหว่างเขาและนางเราสองคนมิได้มีความสัมพันธ์ใดต่อกัน แล้วเขาจะใช้เหตุผลใดเข้าไปเยี่ยมนางเล่า“หากเจ้าไม่มีอะไรแล้วก็ปล่อยแขนของข้าเสียที มิใช่ว่าเมื่อคืนข้าพูดกับเจ้าชัดเจนแล้วหรือ ต่อไปนี้ระหว่างเราไม่จำเป็นจะต้องพูดคุย เมื่อเจ้าพบข้าโดยบังเอิญเจ้าก็ทำเหมือนข้าเป็นอากาศเสีย”เถียนสวี่หลันดึงแขนของตนออกจากมือของเว่ยเจ๋อ หมิง ก่อนที่จะเดินมุ่งหน้าไปยังเรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน เว่ยเจ๋อ หมิงมองมือที่ว่างเปล่าของตนไม่ต่างจากหัวใจของเขาที่เหมือนถูกฉีกกระชากเขาไม่รู้ว่าเหตุใดทุกครั้งที่เขาพยายามจะพูดคุยดีๆ กับนา

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ขับไล่วิญญาณร้าย

    นักพรตหนุ่มที่สวีม่านนีเชิญมา จัดตั้งโต๊ะประกอบพิธีกรรมขับไล่ดวงวิญญาณทันที หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยุติการโต้เถียงกัน ชาวบ้านในอำเภอเหออันต่างก็รู้ดีเรื่องชื่อเสียงของนักพรตผู้นี้ ทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นพนมหลังจากที่เขาเริ่มบทสวดเสียงสวดภาวนาของเขาดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนต่างเงียบเพื่อรอดูเหตุการณ์ต่อไป เถียนสวี่หลันที่เป็นตัวเอกยืนมองชาวบ้านที่มามุงดูด้วยสายตาเรียบเฉยแม้จะมีโอกาสได้มีชีวิตถึงสองครั้ง แต่เรื่องวุ่นวายทำนองนี้ก็ไม่ยอมหายไปจากชีวิตของนางเสียที นางจะต้องทำอย่างไรที่จะให้พวกเขายอมเลิกราไปแต่โดยดี เถียนสวี่หลันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายผู้ช่วยที่ติดตามนักพรตมาด้วยเชือดไก่สองตัวเพื่อรีดเอาเลือดของมัน ทุกคนเห็นกับตาว่าไก่สองตัวนั้นดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวดจนกระทั่งมันหยุดดิ้นเพราะถูกรีดเอาเลือดไปจนหมดตัวผู้ช่วยนำเลือดมาวางด้านหน้านักพรตหนุ่มที่ยืนกวัดแกว่งกระบี่ไม้ของตนที่หน้าปะรำพิธี นักพรตหนุ่มผู้นั้นยังคงหลับตาปากก็ไม่ยอมหยุดสวดภาวนา จนกระทั่งเขาใช้ยันต์แผนสี่เหลืองโยนขึ้นไปด้านบนพร้อมกัน สวีม่านนีที่ยืนมองอยู่ข้างสวีไคมองไปยังเถียนสวี่หลันที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อม ใบหน

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ยั่วยุ

    เมื่อได้ยินเถียนสวี่หลันเอ่ยเช่นนั้น ชาวบ้านหนานซานทั้งหมดต่างก็มองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเป็นตาเดียว สวีไคมีท่าทีลังเลเล็กน้อย หากวันนี้เขาไม่ยอมรับผิดชอบคำพูดของตน ต่อไปคงจะไม่มีใครเชื่อถือในคำพูดของเขาอีกต่อไปแล้ว“ได้ เถียนสวี่หลันหากว่าเจ้ามิได้ถูกผีเข้า ข้าจะยอมจ่ายให้เจ้ายี่สิบตำลึงเป็นค่าทำขวัญ”เถียนสวี่หลันยกยิ้มมุมปาก ยี่สิบตำลึงอย่างนั้นหรือ เงินเพียงแค่นั้นยังไม่พอค่าจ้างและค่าเสียเวลาของข้าเลยสักนิด นางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนึ่งร้อยตำลึง ไม่อย่างนั้นข้าจะไปแจ้งกับทางการว่าพวกเจ้าชาวบ้านหนานซานใส่ร้ายข้าและคิดจะบีบคั้นให้คนตระกูลเถียนของข้าออกไปจากหมู่บ้าน”“พวกเจ้าลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือ ว่าหลายคนที่นี่ต่างก็เช่าที่ดินของบ้านข้าทำนาอยู่ หากไม่อยากอดตายก็จงทำตามที่ข้าเรียกร้องซะ ไม่อย่างนั้น....ข้าจะให้ท่านปู่ขายที่ดินในหมู่บ้านหนานซานคืนให้ทางการ เมื่อถึงเวลานั้นค่าเช่าก็คงจะเป็นหกต่อสี่ อีกทั้งยังต้องจ่ายภาษีให้กับทางการอีก พวกเจ้าจงเลือกเอาว่าจะเลือกหนทางไหน”เถียนสวี่หลันยิ้มเยาะเย้ยสวีไค หากเขาไม่ทำตามความต้องการของนาง คนที่ถูกกดดันก็จะเป็นตัวเขาเอง ใครบ้างไม่รู้ว่าคนตระกูลเถ

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   งิ้วคณะใหม่

    “เราไปกันเถอะไปดูว่าวันนี้จะมีงิ้วอันใดให้ดูกัน”สองอาหลานเดินมาถึงหน้าเรือน ที่นั่นมีครอบครัวของนางรวมตัวอยู่กันครบนอกจากเถียนห่าวซวนที่ไปสำนักศึกษา เถียนสวี่หลันมองชาวบ้านที่มาชุมนุมที่หน้าเรือของนางทีละคน ก่อนที่จะไปหยุดที่สวีม่านนีที่ยืนอยู่หลบอยู่ด้านหลังบิดาของนาง“ท่านย่า ชาวบ้านเหล่านี้มาที่เรือนของเราด้วยเหตุใดหรือเจ้าคะ”เถียนสวี่หลันถามแม่เฒ่าจางด้วยใบหน้าใสซื่อ เหมือนนางไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้“จะอะไรเสียอีก ก็คนพวกนี้หาว่าหลันเอ๋อของย่าถูกผีเข้าน่ะสิ จึงได้พาซินแสมาที่นี่”หลังจากแม่เฒ่าจางเอ่ยจบคนตระกูลเถียนก็มายืนขวางระหว่างนางและชาวบ้านเอาไว้ เถียนสวี่หลันเห็นเช่นนั้นนางก็รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจทันทีเหตุใดชีวิตก่อนนางถึงมองไม่เห็นความรักความหวังดีที่พวกเขามีให้นางบ้างเลยนะ หลังจากที่ซ่งหยางเฉิงเดินทางเข้าไปในเมืองหลวง นางก็รีบตามเขาไปไม่แม้แต่จะคิดติดต่อกลับมาที่ตระกูลเถียนอีกเลยนางนี่ช่างเป็นคนเลวที่ลืมแม้แต่บุญคุณของคนในครอบครัวที่รักและปกป้องนางมาทั้งชีวิต หรือว่าเรื่องที่เกิดกับนางทั้งหมดจะเป็นเวรกรรมที่นางสมควรได้รับกัน“แม่เฒ่าจาง ท่านอย่าปกป้องนา

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ความสับสนในใจของเว่ยเจ๋อหมิง

    “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!!”เถียนสวี่หลันพยายามแกะมือใหญ่ที่กำลังลากตนด้วยท่าทางทุลักทุเล เพราะเว่ยเจ๋อหมิงที่ตัวสูงกว่าจึงทำให้ภาพออกมาเหมือนเขากำลังหิ้วเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งในมือ“เถียนสวี่หลันบอกมาซิว่าเจ้าเข้าไปทำอันใดในเรือนตระกูลสวี ข้านึกว่าหลายเดือนมานี้ที่เจ้าอยู่เงียบๆ เป็นเพราะว่าเจ้าคิดได้แล้ว แม้แต่อาเล็กของเจ้าก็ยังเอ่ยปากแทนว่านิสัยของเจ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว ดูเหมือนทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่การแสดงสินะ สุนัขที่เคยกินอาจมมันย่อมไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยได้ง่ายๆ”เถียนสวี่หลันหยุดดิ้นทันที ดวงตาแดงก่ำจ้องไปยังร่างสูงอย่างแข็งกร้าว คำพูดที่แสนดูถูกของเขาทำให้นางนึกถึงเรื่องราวในชีวิตก่อน ตอนที่นางยังไม่ได้ถูกตัดแขนขานางเคยถูกบ่าวรับใช้ในเรือนของซ่งหยางเฉิงรังแก พวกเขาทุกคนต่างประชดประชันนางว่าเป็นหมูบ้างล่ะ เป็นสุนัขที่กินอาจมบ้างล่ะคำพูดดูแคลนสารพัดต่างก็ถูกซัดสาดมาที่นาง หลังจากที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนจะมาได้ยินคำพูดดูถูกเหล่านั้นอีกครั้งดวงตากลมโตไหวระริก ความเจ็บปวดทั้งหลายปรากฏขึ้นในดวงตางาม เถียนสวี่หลันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ นางไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status