Share

พบกันโดยบังเอิญ

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-10-23 11:00:49

“เช่นนั้นเราก็ไปอำเภอพร้อมกันทั้งสามคนก็ได้นี่เจ้าคะ ไปเถอะ เราไปรอซวนเอ๋อที่หน้าหมู่บ้าน”

เถียนสวี่หลันคล้องแขนอาเล็กเดินออกจากเรือนไป สตรีทั้งสองเดินผ่านต้นไม้ร้อยปีทำให้แม่บ้านที่ว่างงานตะโกนถามพวกนาง

"สองอาหลานพวกเจ้ากำลังจะไปไหนหรือ"

เถียนสวี่หลันหันไปยิ้มให้สตรีวัยกลางคนที่กำลังปักชุนเสื้อผ้า

“เราสองคนกำลังจะไปรอน้องชายของข้าที่หน้าหมู่บ้านเจ้าค่ะ”

พวกนางไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กสาวสกุลเถียนที่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในหมู่บ้านจะตะโกนตอบกลับมา ยิ่งตอนที่นางยิ้มยิ่งทำให้ใบที่หน้างดงามของเถียนสวี่หลันเจิดจ้าเหมือนดวงตะวันยามเช้า

“ข้าฝันไปหรือไม่”

สตรีวัยกลางคนหันไปถามสหายของตนที่นั่งอยู่ด้วยกัน

“นางงดงามมากเหลือเกิน ข้าไม่รู้ว่าแผ่นดินนี้จะยังมีบุรุษใดที่คู่ควรกับนางอยู่อีกหรือไม่”

สตรีผู้นั้นเอ่ยออกมาคล้ายกำลังละเมอ

“ข้าเองก็อยู่มาสี่สิบกว่าปีไม่เคยเห็นสตรีใดที่งดงามเช่นนี้มาก่อน”

ถึงแม้เรื่องที่เถียนซู่เจิงมีการเปลี่ยนแปลงจะเป็นหัวข้อสนทนาของผู้คนในหมู่บ้านตลอดหลายวันมานี้ แต่เรื่องที่นิสัยของเถียนสวี่หลันเปลี่ยนไปก็เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่พวกเขาหยิบยกขึ้นมาพูดถึงบ่อยครั้ง

“อาเล็กมานั่งหลบแดดตรงนี้”

เถียนสวี่หลันกวักมือเรียกเถียนซู่เจิงให้มานั่งข้างตน ในระหว่างที่ทั้งสองนั่งรอน้องชายของนางอยู่ในศาลาหน้าหมู่บ้าน เถียนสวี่หลันได้ถามอาเล็กของนางขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

“อาเล็ก ท่านอ่านหนังสือได้หรือไม่”

เถียนซู่เจิงพยักหน้าช้าๆ อย่างไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก นางรู้ว่าหลายวันมานี้หลานสาวมุ่งมั่นอยู่กับการอ่านหนังสือและคัดตัวอักษร ทั้งที่นางไม่เคยสนใจมาก่อนเลย

“ข้าก็พออ่านได้เล็กน้อย ข้าเคยเห็นซวนเอ๋อท่องตำราอยู่บ่อยๆ เลยจดจำได้บ้าง อีกทั้ง....”

เถียนซู่เจิงไม่กล้าเอ่ยต่อ นางกลัวว่าหลานสาวของนางจะเกิดโทสะขึ้น และเข้าใจผิดเรื่องของนาง

“อะไรหรือเหตุใดท่านไม่พูดต่อเล่า”

เถียนซู่เจิงมีท่าทีลังเลเล็กน้อย

“ข้าเคยเรียนมาจากเว่ยเจ๋อหมิงด้วยนิดหน่อย”

เถียนซู่เจิงคอยสังเกตใบหน้างามของหลานสาวอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่านางจะโกรธตนยามที่เอ่ยชื่อของเว่ยเจ๋อหมิงโดยพลการ แต่น่าแปลกที่ใบหน้าของเถียนสวี่หลันยังคงเรียบเฉยไร้การเปลี่ยนแปลง

“เป็นเช่นนี้เอง ข้าก็เคยได้ยินมาบ้างว่าเขาเป็นอัจฉริยะในด้านนี้ แต่นึกไม่ถึงว่าจะสามารถสอนผู้อื่นได้ด้วย ท่านโชคดีจริงๆ นะอาเล็ก”

เถียนสวี่หลันยิ้มให้นาง ทั้งยังตบลงไปที่ไหล่ของนางเบาๆ จากนั้นสตรีทั้งสองก็พูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ อีกหลายเรื่อง เพื่อเป็นการฆ่าเวลาในการรอเถียนห่าวซวน

“พี่ใหญ่อาเล็ก พวกท่านมาทำอันใดที่นี่”

เถียนห่าวซวนส่งเสียงทักทายสตรีทั้งสองมาแต่ไกล เด็กชายที่ตัวสูงแค่หน้าอกของนางวิ่งตรงมาที่ศาลาอย่างรวดเร็ว ตะวันยามบ่ายยังคงส่องแสงร้อนแรง ทำให้บนใบหน้ากลมที่เหมือนซาลาเปาของเถียนห่าวซวนมีเหงื่อผุดขึ้นมาตามไรผม เถียนสวี่หลันหยิบผ้าเช็ดหน้าของนางออกซับเหงื่อให้น้องชายอย่างอ่อนโยน

“เหนื่อยหรือไม่”

เสียงหวานเอ่ยถามน้องชายที่ดูเหนื่อยหอบเล็กน้อย เพราะต้องวิ่งมาหาพวกนาง

“ข้าไม่เหนื่อยขอรับ ว่าแต่พวกท่านสองคนกำลังจะไปที่ใดหรือ เหตุใดมาถึงมานังอยู่ที่นี่ กลางวันร้อนจะตาย ระวังท่านย่าจะดุเอานะหากท่านเกิดไม่สบายขึ้นมา”

เถียนสวี่หลันหัวเราะเสียงใส เจ้าอันธพาลน้อยของนางรู้จักทำตัวเป็นผู้ใหญ่ริอ่านมาสั่งสอนพี่สาวอย่างนางหรือ เถียนสวี่หลันบีบแก้มนุ่มของเขาเล่นอย่างมันเขี้ยว

“ข้ากับอาเล็กมารอเจ้าเข้าไปในอำเภอพร้อมกัน อยากไปด้วยหรือไม่”

เถียนห่าวซวนพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น เพราะเขาไม่ได้ไปในอำเภอนานแล้ว ในระหว่างที่ทั้งสามนั่งรอเกวียนวัวที่ศาลาหน้าหมู่บ้าน ลุงหลิวที่มีอาชีพขับเกวียนวัวรับส่งคนในหมู่บ้านและหมู่บ้านใกล้เคียงไปยังอำเภอเหออันก็ขับเกวียนวัวมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าศาลา

ร่างสูงโปร่งของเว่ยเจ๋อหมิงก็ก้าวลงมาจากเกวียนวัวด้วยท่าทางสง่างาม เถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนเองจะบังเอิญมาเจอเขาที่นี่อีก ร่างบางรีบก้าวเข้าไปหลบที่ด้านหลังของเถียนซู่เจิงอย่างตั้งตัวไม่ทัน แต่น่าเสียดายที่เขาเห็นนางแล้ว เว่ยเจ๋อหมิงมองสำรวจสามคนที่ยืนอยู่หน้าศาลา ก่อนก้าวเข้ามาหาเถียนซู่เจิง

“เจ้ากำลังจะไปไหน”

เขาไม่แม้แต่จะทักทายสองพี่น้องที่ยืนอยู่ด้วยกัน เถียนซู่เจิงมีท่าทีอึดอัดเล็กน้อยที่เขาแสดงออกเช่นนี้ เถียนสวี่หลันเห็นเว่ยเจ๋อหมิงไม่สนใจตนนางก็รีบดึงมือน้องชายเดินไปที่เกวียนวัวอย่างรวดเร็ว คล้ายกำลังหนีอะไรบางอย่าง

“อาเล็ก ถ้าวันนี้ท่านไม่ว่างเราค่อยไปวันอื่นกันก็ได้ วันนี้ข้าไปกับซวนเอ๋อก่อน ไปเร็วท่านลุงหลิว”

เถียนสวี่หลันเร่งคนขับเกวียนวัวให้รีบไป เว่ยเจ๋อหมิงไม่เข้าใจว่าเหตุใดนางต้องแสดงท่าทางหวาดกลัวเขาเช่นนั้นด้วย เขาเพียงเข้ามาคุยกับเถียนซู่เจิงเท่านั้นมิได้คิดจะทำอันใดนางเสียหน่อย

“แม่หนูผู้นั้นไม่ไปด้วยหรือ”

ลุงหลิวถามเถียนซู่เจิง ก่อนจะใช้แซ่ฟาดไปที่วัวไม่แรงนักเพื่อกระตุ้นให้มันออกเดิน

“ขะ...ข้าก็จะไปเจ้าค่ะ รอข้าก่อน”

ลุงหลิวดึงเชือกวัวให้หยุดเดินเพื่อรอนาง

“เว่ยเจ๋อหมิงเอาไว้เราค่อยคุยกันวันหลัง ข้ามีธุระที่อำเภอ ต้องขอตัวก่อน”

นางรีบวิ่งตามให้ทันเกวียนวัวที่หยุดรอ เว่ยเจ๋อหมิงรู้สึกคาใจเขาจึงเดินตามนางไป ด้วยขาที่ยาวกว่าทำให้เขาก้าวไม่กี่ก้าวก็ทันนางแล้ว เถียนซู่เจิงขึ้นไปนั่งบนเกวียนวัวโดยที่ไม่รู้ว่าด้านหลังของตนมีร่างสูงตามมาด้วย คนที่ตกใจมากกว่าใครคือเถียนสวี่หลัน

นางรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกที่ต้องนั่งอยู่ในสถานที่เดียวกันกับเขา นางไม่ชอบที่เว่ยเจ๋อหมิงมองมาที่นางอย่างสำรวจ เพราะมันเหมือนกับเขาสามารถมองเห็นทะลุจิตใจของนางได้ เถียนสวี่หลันค่อยๆ ถอยออกไปจนสุดม้านั่ง ตลอดทางนางเอาแต่นั่งเงียบและก้มหน้าไม่ยอมพูดจากับใคร มีเพียงเสียงของน้องชายของนางที่พูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด

“เจ้าไปทำอันใดที่อำเภอเหออัน”

หลังจากที่เกวียนวัวออกวิ่งไปได้สักระยะ เขาจึงเอ่ยถามเถียนซู่เจิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง

“ข้ากับหลันเอ๋อและซวนเอ๋อแค่อยากจะเข้าไปเที่ยวเล่นในอำเภอเท่านั้น เจ้าลืมแล้วหรือว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ของข้าเปิดร้านขายของในอำเภอ อีกอย่างหลันเอ๋อเองก็อยากได้กระดาษเพื่อไปคัด...”

“อาเล็กท่านหิวหรือไม่!! เอาไว้เราไปถึงอำเภอเหออันเราหาอะไรกินกันก่อนก็ดีนะ ซวนเอ๋อเองก็คงจะหิวแล้วเช่นกัน”

เถียนสวี่หลันรีบเอ่ยขัดขึ้นก่อนที่อาเล็กของนางจะบอกเว่ยเจ่อหมิงเรื่องที่นางเริ่มเรียนอ่านเขียน เพราะนางไม่อยากให้เขาใช้สายตาถูกนางไปมากกว่านี้

เมื่อปีก่อนเถียนสวี่หลันเคยโกรธเว่ยเจ๋อหมิงที่เขาไม่สนใจ นางเลยพูดจาดูถูกเกี่ยวกับการเรียนและสำนักศึกษาของเขามาก่อน หากให้เขารู้ว่านางกำลังเรียนหนังสือเขาจะต้องดูถูกนางเป็นแน่ นางไม่อยากให้ตนเองจะต้องอับอายไปมากกว่านี้

“ดะ..ได้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   หลงป่า

    แม่นางหลี่กอดบุตรสาวเอาไว้ เถียนสวี่หลันเองก็วางมือจากพู่กันหันมากอดมารดาของตน“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้ว ข้าสัญญา”หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไป กลายเป็นตระกูลสวีที่ต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในเรือน แม้แต่สวีไคที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่กล้าออกมาสู้หน้าชาวบ้านอีกแล้ว เหตุเพราะบุตรสาวของตนทำเรื่องงามหน้าเอาไว้มากมายเช่นนั้นครบกำหนดห้าวันสวีไคได้นำเงินหนึ่งร้อยตำลึงมาส่งให้เถียนสวี่หลันด้วยตนเอง ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ แต่สวีไคก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ เพราะตอนนี้เขาไม่มีชาวบ้านหนานซานคอยหนุนหลังอีกแล้ว หากต้องการจะเล่นงานตระกูลเถียนถือว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเขา“อาเล็กอาสะใภ้รอง พวกท่านกำลังจะไปที่ใดอย่างนั้นหรือ”เถียนสวี่หลันที่พึ่งออกมาจากห้อง เห็นสมาชิกทั้งสองของตระกูลเถียนกำลังสะพายตะกร้าไม้ไผ่เดินออกจากเรือนไป“หลายวันมานี้ฝนตกทุกวัน เรากำลังจะขึ้นเขาไปดูสักหน่อยว่ามีผักป่าขึ้นบ้างหรือไม่ เผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาทำอาหารเย็นบ้าง”เถียนสวี่หลันได้ยินเช่นนั้นนางก็นึกสนุกขึ้นมา นางเกิดมามีชีวิตถึงสองครั้งแต่กลับไม่เคยขึ้นไปบนเขาด้านหลังหมู

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   อับอายและพ่ายแพ้

    ท่าทางยืนก้มหน้าเท้าเขี่ยพื้นของนางตอนนี้ในสายตาของเว่ยเจ๋อหมิงมันช่างดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้สองสามเดือนเขาได้ยินจากเถียนซู่เจิงว่าอาการของนางไม่ค่อยดี ความรู้สึกเป็นห่วงนางแปลกๆ ก็เกิดขึ้นภายในใจของเขาอย่างไม่ทราบสาเหตุเขาเองก็ไม่อยากยอมรับว่าตั้งแต่ที่นางแสดงอาการหวาดกลัวซ่งหยางเฉิงออกมาที่ร้านขายตำรา ในหัวของเขาก็มีแต่ภาพของนางและไม่สามารถสลัดมันให้หลุดออกไปได้ยิ่งได้ยินว่านางกำลังป่วยเขายิ่งรู้สึกเป็นห่วงและร้อนรน เขาอยากไปพบนางที่เรือนตระกูลเถียน แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ระหว่างเขาและนางเราสองคนมิได้มีความสัมพันธ์ใดต่อกัน แล้วเขาจะใช้เหตุผลใดเข้าไปเยี่ยมนางเล่า“หากเจ้าไม่มีอะไรแล้วก็ปล่อยแขนของข้าเสียที มิใช่ว่าเมื่อคืนข้าพูดกับเจ้าชัดเจนแล้วหรือ ต่อไปนี้ระหว่างเราไม่จำเป็นจะต้องพูดคุย เมื่อเจ้าพบข้าโดยบังเอิญเจ้าก็ทำเหมือนข้าเป็นอากาศเสีย”เถียนสวี่หลันดึงแขนของตนออกจากมือของเว่ยเจ๋อ หมิง ก่อนที่จะเดินมุ่งหน้าไปยังเรือนของหัวหน้าหมู่บ้าน เว่ยเจ๋อ หมิงมองมือที่ว่างเปล่าของตนไม่ต่างจากหัวใจของเขาที่เหมือนถูกฉีกกระชากเขาไม่รู้ว่าเหตุใดทุกครั้งที่เขาพยายามจะพูดคุยดีๆ กับนา

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ขับไล่วิญญาณร้าย

    นักพรตหนุ่มที่สวีม่านนีเชิญมา จัดตั้งโต๊ะประกอบพิธีกรรมขับไล่ดวงวิญญาณทันที หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายยุติการโต้เถียงกัน ชาวบ้านในอำเภอเหออันต่างก็รู้ดีเรื่องชื่อเสียงของนักพรตผู้นี้ ทุกคนต่างก็ยกมือขึ้นพนมหลังจากที่เขาเริ่มบทสวดเสียงสวดภาวนาของเขาดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน ทุกคนต่างเงียบเพื่อรอดูเหตุการณ์ต่อไป เถียนสวี่หลันที่เป็นตัวเอกยืนมองชาวบ้านที่มามุงดูด้วยสายตาเรียบเฉยแม้จะมีโอกาสได้มีชีวิตถึงสองครั้ง แต่เรื่องวุ่นวายทำนองนี้ก็ไม่ยอมหายไปจากชีวิตของนางเสียที นางจะต้องทำอย่างไรที่จะให้พวกเขายอมเลิกราไปแต่โดยดี เถียนสวี่หลันถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายผู้ช่วยที่ติดตามนักพรตมาด้วยเชือดไก่สองตัวเพื่อรีดเอาเลือดของมัน ทุกคนเห็นกับตาว่าไก่สองตัวนั้นดิ้นพล่านด้วยความเจ็บปวดจนกระทั่งมันหยุดดิ้นเพราะถูกรีดเอาเลือดไปจนหมดตัวผู้ช่วยนำเลือดมาวางด้านหน้านักพรตหนุ่มที่ยืนกวัดแกว่งกระบี่ไม้ของตนที่หน้าปะรำพิธี นักพรตหนุ่มผู้นั้นยังคงหลับตาปากก็ไม่ยอมหยุดสวดภาวนา จนกระทั่งเขาใช้ยันต์แผนสี่เหลืองโยนขึ้นไปด้านบนพร้อมกัน สวีม่านนีที่ยืนมองอยู่ข้างสวีไคมองไปยังเถียนสวี่หลันที่ยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อม ใบหน

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ยั่วยุ

    เมื่อได้ยินเถียนสวี่หลันเอ่ยเช่นนั้น ชาวบ้านหนานซานทั้งหมดต่างก็มองไปที่หัวหน้าหมู่บ้านเป็นตาเดียว สวีไคมีท่าทีลังเลเล็กน้อย หากวันนี้เขาไม่ยอมรับผิดชอบคำพูดของตน ต่อไปคงจะไม่มีใครเชื่อถือในคำพูดของเขาอีกต่อไปแล้ว“ได้ เถียนสวี่หลันหากว่าเจ้ามิได้ถูกผีเข้า ข้าจะยอมจ่ายให้เจ้ายี่สิบตำลึงเป็นค่าทำขวัญ”เถียนสวี่หลันยกยิ้มมุมปาก ยี่สิบตำลึงอย่างนั้นหรือ เงินเพียงแค่นั้นยังไม่พอค่าจ้างและค่าเสียเวลาของข้าเลยสักนิด นางส่ายหน้าปฏิเสธ“หนึ่งร้อยตำลึง ไม่อย่างนั้นข้าจะไปแจ้งกับทางการว่าพวกเจ้าชาวบ้านหนานซานใส่ร้ายข้าและคิดจะบีบคั้นให้คนตระกูลเถียนของข้าออกไปจากหมู่บ้าน”“พวกเจ้าลืมไปแล้วอย่างนั้นหรือ ว่าหลายคนที่นี่ต่างก็เช่าที่ดินของบ้านข้าทำนาอยู่ หากไม่อยากอดตายก็จงทำตามที่ข้าเรียกร้องซะ ไม่อย่างนั้น....ข้าจะให้ท่านปู่ขายที่ดินในหมู่บ้านหนานซานคืนให้ทางการ เมื่อถึงเวลานั้นค่าเช่าก็คงจะเป็นหกต่อสี่ อีกทั้งยังต้องจ่ายภาษีให้กับทางการอีก พวกเจ้าจงเลือกเอาว่าจะเลือกหนทางไหน”เถียนสวี่หลันยิ้มเยาะเย้ยสวีไค หากเขาไม่ทำตามความต้องการของนาง คนที่ถูกกดดันก็จะเป็นตัวเขาเอง ใครบ้างไม่รู้ว่าคนตระกูลเถ

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   งิ้วคณะใหม่

    “เราไปกันเถอะไปดูว่าวันนี้จะมีงิ้วอันใดให้ดูกัน”สองอาหลานเดินมาถึงหน้าเรือน ที่นั่นมีครอบครัวของนางรวมตัวอยู่กันครบนอกจากเถียนห่าวซวนที่ไปสำนักศึกษา เถียนสวี่หลันมองชาวบ้านที่มาชุมนุมที่หน้าเรือของนางทีละคน ก่อนที่จะไปหยุดที่สวีม่านนีที่ยืนอยู่หลบอยู่ด้านหลังบิดาของนาง“ท่านย่า ชาวบ้านเหล่านี้มาที่เรือนของเราด้วยเหตุใดหรือเจ้าคะ”เถียนสวี่หลันถามแม่เฒ่าจางด้วยใบหน้าใสซื่อ เหมือนนางไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้“จะอะไรเสียอีก ก็คนพวกนี้หาว่าหลันเอ๋อของย่าถูกผีเข้าน่ะสิ จึงได้พาซินแสมาที่นี่”หลังจากแม่เฒ่าจางเอ่ยจบคนตระกูลเถียนก็มายืนขวางระหว่างนางและชาวบ้านเอาไว้ เถียนสวี่หลันเห็นเช่นนั้นนางก็รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจทันทีเหตุใดชีวิตก่อนนางถึงมองไม่เห็นความรักความหวังดีที่พวกเขามีให้นางบ้างเลยนะ หลังจากที่ซ่งหยางเฉิงเดินทางเข้าไปในเมืองหลวง นางก็รีบตามเขาไปไม่แม้แต่จะคิดติดต่อกลับมาที่ตระกูลเถียนอีกเลยนางนี่ช่างเป็นคนเลวที่ลืมแม้แต่บุญคุณของคนในครอบครัวที่รักและปกป้องนางมาทั้งชีวิต หรือว่าเรื่องที่เกิดกับนางทั้งหมดจะเป็นเวรกรรมที่นางสมควรได้รับกัน“แม่เฒ่าจาง ท่านอย่าปกป้องนา

  • ท่านอดีตสามีข้าผิดไปแล้ว   ความสับสนในใจของเว่ยเจ๋อหมิง

    “ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ!!”เถียนสวี่หลันพยายามแกะมือใหญ่ที่กำลังลากตนด้วยท่าทางทุลักทุเล เพราะเว่ยเจ๋อหมิงที่ตัวสูงกว่าจึงทำให้ภาพออกมาเหมือนเขากำลังหิ้วเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งในมือ“เถียนสวี่หลันบอกมาซิว่าเจ้าเข้าไปทำอันใดในเรือนตระกูลสวี ข้านึกว่าหลายเดือนมานี้ที่เจ้าอยู่เงียบๆ เป็นเพราะว่าเจ้าคิดได้แล้ว แม้แต่อาเล็กของเจ้าก็ยังเอ่ยปากแทนว่านิสัยของเจ้าได้เปลี่ยนไปแล้ว ดูเหมือนทั้งหมดจะเป็นเพียงแค่การแสดงสินะ สุนัขที่เคยกินอาจมมันย่อมไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยได้ง่ายๆ”เถียนสวี่หลันหยุดดิ้นทันที ดวงตาแดงก่ำจ้องไปยังร่างสูงอย่างแข็งกร้าว คำพูดที่แสนดูถูกของเขาทำให้นางนึกถึงเรื่องราวในชีวิตก่อน ตอนที่นางยังไม่ได้ถูกตัดแขนขานางเคยถูกบ่าวรับใช้ในเรือนของซ่งหยางเฉิงรังแก พวกเขาทุกคนต่างประชดประชันนางว่าเป็นหมูบ้างล่ะ เป็นสุนัขที่กินอาจมบ้างล่ะคำพูดดูแคลนสารพัดต่างก็ถูกซัดสาดมาที่นาง หลังจากที่ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งเถียนสวี่หลันไม่คิดว่าตนจะมาได้ยินคำพูดดูถูกเหล่านั้นอีกครั้งดวงตากลมโตไหวระริก ความเจ็บปวดทั้งหลายปรากฏขึ้นในดวงตางาม เถียนสวี่หลันพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ นางไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status