Share

บทที่ 5

Author: สายธารสะท้อนเงา
ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันขมวดคิ้วลงเล็กน้อย ก่อนจะดึงสติของตนเองกลับคืนมา นอนคว่ำตัวลงพร้อมทั้งห่มผ้าคลุมตัว แสร้งว่าตนเองกำลังหลับอยู่ ตั้งสติกลับคืนมา

พร้อมด้วยประตูห้อง ที่ถูกคนผู้หนึ่งเตะออก

พลันพัดพาลมหนาวให้เข้ามาในทันที ทำให้ห้องที่เย็นอยู่แล้วนั้น ทำเอาอุณหภูมิลดลงไปอีกสองสามองศา

“นางช่างโชคดีเสียจริง โดนโบยหนักถึงเพียงนี้กลับยังมีชีวิตอยู่รอดมาได้” สาวใช้นางหนึ่งพลันเดินเข้ามา พร้อมกับส่งเสียงบ่นออกมาด้วยความรำคาญใจ ก่อนจะวางชามใบหนึ่งลงบนโต๊ะ “หากนางตายไปได้ก็ดี พวกเราจักได้ไม่ต้องมาถูกกักขังอยู่ในที่รกร้างแห่งนี้"

“หู่พั่ว เจ้าหยุดพูดมากเสียที” สาวใช้อีกนางหนึ่งพลันเดินตามเข้ามา พร้อมกับถูมือไปมา ก่อนจะไอออกมาเป็นครั้งคราว “วันนี้อากาศหนาวยิ่งนัก”

“ใช่สิ นี่มันหน้าหนาวแล้ว หากแต่สิ่งที่พวกเราได้รับกลับมีเพียงถ่านที่ไม่อาจจุดไฟในเตาเผาให้ติดได้ รอจนหิมะตกมาเสียก่อนเถอะ พวกเราคงได้รวมหัวกันแข็งตายอยู่ในที่แห่งนี้เป็นแน่” สาวใช้ที่มานามว่าหู่พั่วนั้น พลันตะโกนกรีดร้องเสียงสูงออกมาด้วยความไม่พอใจ

“เหตุใดนางยังมีชีวิตอยู่กัน? หากนางตายไป ท่านอ๋องเจ็ดที่เห็นแก่หน้าของตนเองนั้น ย่อมต้องปฏิบัติต่อสาวใช้จากบ้านสกุลเดิมเป็นอย่างดี หากนางมิตาย ท่านอ๋องเจ็ดย่อมรังเกียจนาง ทำเอาพวกเราต้องมาทนทุกข์ทรมานไปกับนางด้วย ข้าโชคร้ายอะไรถึงกับต้องมาคอยรับใช้สตรีอับโชคเช่นนางด้วย?”

“เจ้าเอ่ยวาจาเช่นนี้กับพระชายาได้อย่างไรกัน?” เฟ่ยชุ่ยพยายามลดเสียงเบาลง นางที่ไอมานานแล้วนั้น คอของนางจึงรู้สึกแห้งยิ่งนัก

“จักต้องไปกังวลอะไรกัน? แม้แต่หมูโง่ยังฉลาดกว่านางเลย หากมิใช่เพราะนางใช้วิธีผิดจารีตประเพณีล่อลวงท่านอ๋องสามไม่สำเร็จ กลับไปปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องเจ็ดแทน…”

“หู่พั่ว” เฟ่ยชุ่ยรีบดึงแขนเสื้อของนางเอาไว้ในทันที ก่อนจะเอ่ยกำชับนางเสียงเบาว่า “หุบปากเจ้าเสีย เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในจวนท่านอ๋องเจ็ด หากคนนอกได้ยินเข้า อาจจะเกิดเรื่องขึ้นมาได้ เจ้ารีบป้อนโจ๊กให้พระชายาเสียก่อน ข้าจะไปดูที่ห้องครัวว่าอาหารพร้อมแล้วหรือไม่”

สีหน้าของหู่พั่วพลันเปลี่ยนไปในทันที นางรู้ดีว่าตนเองเอ่ยวาจามิเหมาะสมเท่าใดนัก แต่ก็ทำได้แค่กระทืบเท้าลงด้วยท่าทีโกรธเคืองแทน

“ข้าอุตส่าห์คอยดูแลรับใช้งานข้างกายคุณหนูรองก็ดีอยู่แล้ว เหตุใดต้องถูกส่งให้มาคอยดูแลรับใช้เจ้าด้วย” หู่พั่วพลันยกชามโจ๊กเดินไปหยุดที่ข้างกายฉินเหยี่ยนเย่ว์ “ในจวนอ๋องแห่งนี้ แม้แต่เสื้อผ้าอาภรณ์อาหารการกินยังเทียบมิได้กับนางกำนัลที่มีฐานะต่ำสุด โจ๊กชามนี้เองก็เป็นเฟ่ยชุ่ยที่เป็นคนไปคอยเคี่ยวอยู่นานหลายชั่วยาม เจ้าหมูโง่ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นความผิดของเจ้า”

โจ๊กที่เพิ่งเคี่ยวเสร็จย่อมมีความร้อนระอุ ยิ่งถือเอาไว้ในมือนานเท่าใด ก็อาจทำให้ร้อนจนลวกมือลงได้

หู่พั่วพลันหยิบชามโจ๊กขึ้นมาเป่าเล็กน้อย "เจ้าตัวโชคร้าย เหตุใดเจ้าถึงไม่รีบตายไปเร็ว ๆ เสีย? หากเจ้าตายเมื่อใด ข้าก็จักได้ไม่ต้องมาคอยรับใช้เจ้าอีก "

หู่พั่วพลางมองไปยังฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ยังนอนนิ่งไม่ขยับอยู่นั้น จู่ ๆ นางพลันมีความคิดร้าย ๆ ผุดขึ้นมาในหัวในทันที โจ๊กที่กำลังส่งกลิ่นควันร้อนระอุอยู่นั้น หากว่ามันหกใส่ลงไปยังบนบาดแผลที่ยังไม่หายสนิทดีละก็ พระชายาโง่ผู้นี้อาจจะถึงคราวตายก็เป็นได้

เมื่อมีความคิดเช่นนี้อยู่ในหัวนั้น นัยน์ตาของนางจึงฉายแววโหดร้ายขึ้นมาในทันที

“พระชายาเจ็ดเพคะ ท่านที่รับบาดเจ็ดสาหัสเช่นนี้ คงจะรู้สึกเจ็บปวดมากเลยใช่ไหมเพคะ? ให้บ่าวช่วยปลดปล่อยท่านดีหรือไม่เพคะ?” หู่พั่วกล่าวออกมาด้วยสีหน้าแววตามาดร้าย ก่อนจะค่อย ๆ เลิกผ้าห่มของฉินเหยี่ยนเย่ว์ขึ้นเพื่อที่จะราดโจ๊กลงไปในบาดแผลของนาง

หนังตาของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันกระตุกขึ้นมาในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์คาดเดาได้ถึงแผนการณ์ของนางกำนัลผู้นี้ในทันที

หากว่าถ้วยโจ๊กร้อน ๆ ถูกราดลงที่แผลของนางแล้วไซร้ มันย่อมทำให้เกิดการอักแสบจนรามไปถึงการติดเชื้อก็เป็นได้ ทั้งยังสามารถทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนตามมาอีกด้วย ด้วยร่างกายที่อ่อนแอของนางในยามนี้ มิอาจทนพิษบาดแผลที่เกิดขึ้นได้เป็นแน่

ฉินเหยี่ยนเย่ว์ได้แต่ลอบขมวดคิ้วออกมา ก่อนจะออมแรงเอาไว้ ยามที่หู่พั่วกำลังจะนำชามโจ๊กเทราดลงมานั้น ฉินเหยี่ยวเย่ว์จึงรีบลุกขึ้น พร้อมทั้งจับข้อมือเพื่อหยุดยั้งการกระทำของหู่พั่วอย่างรวดเร็ว

หู่พั่วพลันตกใจขึ้นมาในทันที กว่าที่นางจะได้สติกลับมานั้น ฉินเหยี่ยนเย่วที่สมควรจะโดนชามโจ๊กราดลงไปบนตัวนั้น กลับเป็นชามโจ๊กร้อน ๆ ที่ราดลงมาบนใบหน้าของนางเอง

“ท่าน ท่านทำอันใดลงไป?” หู่พั่วรีบใช้แขนเสื้อของตนเองเช็ดไปที่ใบหน้าทันที ใบหน้าของนางที่โดนโจ๊กร้อน ๆ ลวกลงไปนั้น พลันเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาในทันใด

“ข้าควรจักเป็นฝ่ายถามเจ้าเสียมากกว่า ว่าเจ้าจักทำอันใด” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันลุกขึ้นยืน

แผลที่กำลังจะใกล้ตกสะเก็ดนั้น จึงปริแตกออกมาได้ง่าย การเคลื่อนไหวเมื่อครู่นั้นใช้เรี่ยวแรงค่อนข้างมาก จึงทำให้บาดแผลเกิดการปริแตกขึ้นมาในทันที พร้อมทั้งความเจ็บปวดที่แล่นเข้าสู่ร่างกายในทันใด

“บ่าว บ่าวเพียงแค่ต้องการจะป้อนโจ๊กให้กับท่านเพคะ” ดวงตาของหู่พั่วพลันกระพริบลงไปมา “พระชายามิแยกแยะเขียวแดงดำขาว กลับมาเทโจ๊กร้อน ๆ ใส่หน้าบ่าวเช่นนี้ พระชายาช่างมิรู้จักน้ำใจของบ่าวเลยเสียจริง”

"ป้อนโจ๊กให้กับข้ารึ" ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันประจันหน้ากับหู่พั่วในทันที นัยน์ตาพลันแฝงไปด้วยประกายแห่งความเย็นชาในทันทีเผชิญหน้าเธอต่อหน้า โดยมีแสงส่องประกายในดวงตาของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

หู่พั่วพลันตกใจกับแววตาของนางในทันที ก่อนจะถอยหลังลงไปเสียหลายก้าว พร้อมทั้งภายในใจที่นึกตื่นตระหนกยิ่งนัก “เพคะ บ่าวเพียงแค่ต้องการป้อนโจ๊กให้ท่านเท่านั้น”

"ดียิ่ง เพียงแค่ต้องการป้อนโจ๊กให้ข้า อีกเรื่องหาว่าข้ามิรู้จักน้ำใจบ่าว" ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันพับแขนเสื้อของตนเองขึ้นมา ก่อนจะยื่นมือของตนเองออกไป พร้อมทั้งฟาดลงไปที่ใบหน้าของหู่พั่วอย่างเต็มแรงถึงสี่ครั้ง

หู่พั่วมิคาดคิดว่าพระชายาที่มักจะขี้อายเงอะงะและโง่เง่าเสมือนหมู จักเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเช่นนี้ ไม่เพียงแต่มีดวงตาที่ทำให้ผู้อื่นหวาดผวาด แต่การกระทำยังดูน่าหวาดกลัวมากขึ้นอีกด้วย

ยังมิทันที่หู่พั่วจะได้สติกลับมา ใบหน้าของนางกลับถูกตบลงมาอย่างรุนแรงถึงสี่ครั้ง

หลังจากถูกตบไปสี่ครั้ง ทำเอาหัวของหู่พั่วรู้สึกวิงเวียนไปในทันที พร้อมกับหูของนางที่เกิดอาการอื้ออึงขึ้นมา

“ท่าน ท่านตบบ่าวหรือ?” ถึงแม้ว่านางจักเป็นเพียงสาวใช้ แต่นางเป็นสาวใช้ขั้นสูง หาได้เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ ในยามนี้จึงรู้สึกโกรธโมโหเสียจนต้องการจะฉีกร่างของฉินเหยี่ยนเย่ว์ออกเป็นชิ้น ๆ

“หากเจ้ากล้าก้าวขึ้นมาข้างหน้าแล้วละก็ ข้าจักสั่งให้คนมาเรียกเจ้าออกไปทุบตีให้ตาย ก่อนจะจับเจ้าขายออกไปให้หอโคมเขียวเสีย” ฉินเหยี่ยวเย่ว์เอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา “เจ้าเป็นสาวใช้สินเดิมของข้า ขอเพียงแค่ข้าจัดการเจ้าย่อมมิมีผู้ใดกล้าเห็นต่าง หากเจ้ามิเชื่อก็ลองดูเสีย”

“ท่าน!” ภายในใจของหู่พั่วเต้นรัวเสียจน มิกล้าขยับตัวไปมาในทันที

ฉินเหยี่ยนเย่ว์หาได้ข่มขู่หู่พั่วไม่ ในจวนอ๋องแห่งนี้ พระชายาถือเป็นเจ้านายที่แท้จริงของนาง หากจะสังหารจะทุบตีหรือขายนางทิ้ง ล้วนแต่เป็นเพียงความต้องการของนางเพียงผู้เดียวทั้งนั้น

ในอดีต ฉินเหยี่ยนเย่ว์มิกล้าขายนาง ทว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์ในยามนี้กลับมีอารมณ์ก้าวร้าวฉุนเฉียวเสียจน เสมือนกับปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรก ด้วยท่าทีของฉินเหยี่ยนเย่ว์ในยามนี้แล้วละก็ หากพระนางต้องการจะขายนางหรือทุบตีนางมีความเป็นไปได้มากที่พระนางจะลงมือทำจริง ๆ อย่างแน่นอน

ลมหนาวที่พัดพาเข้ามาทำเอาหน้าต่างถูกเปิดออกในทันที พร้อมทั้งลมหนาวที่พัดเข้ามาภายในห้องเสียจนหน้าต่างส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดออกมา

ใบไม้ที่ร่วงหล่นปลิวเข้ามาภายในห้องพร้อมกลิ่นอายของอากาศหนาว

“เจ้ารู้หรือไม่ว่า เหตุใดข้าถึงตบเจ้า?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์ปัดใบไม้ที่ร่วงหล่นออกจากผมของหู่พั่ว ก่อนเอ่นถามด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก

หู่พั่วที่กำลังตัวสั่นเทานั้น ได้แต่กำหมัดแน่น พร้อมทั้งนัยน์ตาที่ฉายแววความเกลียดชังและเจือไปด้วยความกลัวเผยออกมา "บ่าวมิทราบว่า บ่าวทำอันใดผิดไปเพคะ"

“ดี ในเมื่อเจ้ามิรู้ว่าตนเองทำอันใดผิดไปนั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์พลางแย้มยิ้มออกมาด้วยความเย็นชา “ เช่นนั้นข้าจักบอกเจ้าเอง ฐานะบ่าวเช่นเจ้า หากแต่วาจาที่เอ่ยกลับน่ารังเกียจยิ่งนัก ทั้งหาได้มีความเคารพต่อนายของตนเองไม่ สมควรโดน นี่คือการตบในคราแรก”

“ตบคราที่สอง ในฐานะบ่าวจากสินสมรส การที่เจ้าเอ่ยวาจาสาปแช่งเจ้านายของตนเอง ทั้งยังคิดวางแผนที่จะใช้การตายของเจ้านายในการเลื่อนสถานะเพื่อให้ตนเองได้รับการปฏิบัติตัวที่ดี เจตนาร้ายเช่นนี้สมควรโดนตบแล้ว”

“ตบคราที่สาม เมื่อครู่เจ้าต้องการจะราดชามโจ๊กร้อน ๆ ใส่ตัวข้า หากว่าข้ามิหลบแล้วละก็ เกรงว่าข้าคงได้โดนโจ๊กร้อน ๆ ลวกเอาได้ เจ้าจึงฉวยโอกาสในยามที่ข้ามิอาจเรียกหมอหลวงมารักษาตัวได้นั้น ต้องการเอาชีวิตข้า ในฐานะที่ตนเองเป็นบ่าวจากสินสมรสนั้น ในใจกลับมีแต่ความอาฆาตคิดร้ายต่อนายของตน การที่ข้าตบเจ้าเพียงแค่นี้ถือว่ายั้งมือไว้ไมตรีมากพอแล้ว”

“สำหรับการตบนคราที่สี่นั้น” ฉินเหยี่ยนเย่ว์แสยะยิ้มออกมาในทันที “ฉินเสวี่ยเย่ว์ส่งเจ้ามาติดตามข้า เจ้าคิดว่าข้ามิรู้หรือ? ในยามนี้เจ้าเป็นนางกำนัลของข้าแล้ว หากแต่กลับมินึกจงรักภักดิ์ดีในตัวเจ้านายเช่นนี้ ข้ามิอาจเก็บเจ้าเอาไว้ข้างกายอีกต่อไป ในเมื่อเจ้าก็มิต้องการรั้งอยู่ข้างกายข้า เช่นนั้นก็ไสหัวไปเสีย”

หู่พั่วพลันตะลึงงันเสียจนมิอาจเอ่ยคำพูดใดออกมาได้ แผ่นหลังกลับมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลออกมามิมีหยุด

ด้วยกลิ่นอายของฉินเหยี่ยนเย่ว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้านางนั้น ทำเอาหู่พั่วมิหาสิ่งใดมาทักท้านได้เลยแม้แต่น้อย นางในยามนี้ทำได้เพียงตัวสั่นเทาเท่านั้น

เมื่อเฟ่ยชุ่ยเปิดประตูเข้ามา นางพลางสัมผัสได้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติไปในทันที ก่อนจะรีบร้อนนำอาหารวางเอาไว้บนโต๊ะ

“พระชายาเพคะ อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายดี เหตุใดท่านลุกขึ้นยืนขึ้นมาเช่นนี้?” เฟ่ยชุ่ยรีบเข้าไปประคองฉินเหยี่ยนเย่ว์ “รีบนอนลงไปเถอะเพคะ บ่าวไปซื้อยารักษาแผลฟกช้ำมาจากนอกจวน”

ฉินเหยี่ยนเย่ว์เพียงเหลือบตามองหู่พั่วเล็กน้อย "ยังมิไสหัวออกไปอีกหรือ?"

หู่พั่วได้แต่กัดเม้มริมฝีปากของตนเอง ก่อนจะสะบัดหน้าออกจาห้องไปด้วยความโกรธเคืองในทันที
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chatree Sedakum
เหมือนชีวิตจริงเลยครับ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1595

    “เจ้าพาข้าออกมา ซ้ำยังพาข้ามาที่บ้า ๆ นี่อีก ถามคำถามแปลก ๆ กับข้าแล้วก็จากไปงั้นหรือ?”“อย่างน้อยเจ้าก็ควรพาข้าลงไปสิ”ไป๋หลินยวนเดินไปไกลแล้ว และย่อมไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเขาอีกต่อไป“หลินยวน เจ้าลูกกระต่ายสารเลว เจ้าพาข้ามาที่นี่กลางดึก แล้วโยนข้ามาอยู่ตรงนี้ เจ้าพยายามจะสังหารข้า ทำมากเกินไปแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1594

    หมอหลวงหลินตกใจมาก อ้าปากกว้างอย่างเหลือเชื่อจากนั้น ก็ซาบซึ้งจนหลั่งน้ำตา“เพื่อนเก่าเอ๋ย ในที่สุดหลินยวนเขาก็ตาสว่างแล้ว ตระกูลไป๋ของพวกเจ้ามีผู้สืบทอดแล้ว ข้าโล่งใจจริง ๆ ข้ายังกลัวอยู่เลยว่าตระกูลไป๋จะสิ้นสุดลงในรุ่นของเจ้า โอ้ ฟ้ายังมีตา”หมอหลวงหลินแอบโล่งใจอยู่นาน“หลินยวน เจ้ามีคนที่ชอบแล้ว

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1593

    ฉยงฮวาสืบมาเป็นเวลานานมากแล้วแต่ไม่มีข่าวอะไรเลย เกรงว่าจะตายไปนานแล้วฉินเหยี่ยนเย่ว์หลุบตาลงสำหรับหู่พั่วแล้ว นางพูดไม่ได้ว่าชอบ แล้วก็ไม่ได้สนใจหู่พั่วมากนักเพียงแค่รู้สึกได้อย่างคลุมเครือว่าหู่พั่วจะไม่ตายไปง่าย ๆ เช่นนั้นหลังจากที่นางเงียบไปสักพัก ก็พบตำแหน่งที่สบาย และนอนตะแคง“หากมีข่าวครา

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1592

    หลังจากกลับมาถึงจวนอ๋อง ฉินเหยี่ยนเย่ว์ก็กระโดดลงจากรถม้าและเดินขึ้นไปที่ศาลาจากศาลาสามารถชมทิวทัศน์ด้านนอกได้นางเห็นท่าทางของหลิ่วฉือที่กำลังคุ้มกันชื่อเจี้ยนขณะที่จากไป จึงยิ้มบาง ๆ“พระสนมเหยาเป็นคนที่มีความสามารถ นางเพิ่งจะยอมรับน้องชายไปเองก็เริ่มมองหาคู่ให้หลิ่วฉือเสียแล้ว แล้วยังถูกใจชื่อเจ

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1591

    ฉินเหยี่ยนเย่ว์อดมิได้ที่จะเปิดหน้าต่างออกมาดูทิวทัศน์ที่อยู่ด้านนอกโคมไฟตามถนนหนทางธรรมดาถูกเก็บไปหมดแล้ว เหลือเพียงโคมไฟที่ใกล้จวนอ๋องนั้นที่ยังคงสว่างแวววาวออกมาอยู่ สิ่งก่อสร้างรอบ ๆ จวนอ๋องนั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นที่พักอาศัยเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์พวกเขาหาได้เสียดายเทียนที่อยู่บนกำแพงไม่ เพี

  • ท่านอ๋องเย็นชาผู้คลั่งรักกับพระชายาหมอหญิงผู้อ่อนหวาน   บทที่ 1590

    ตงฟางหลีหลุบสายตาลงเล็กน้อยหลายปีที่ผ่านมานี้ราชวงศ์ตงลู่อู้ฟู้เป็นอย่างมาก ข้าวสารอาหารแห้งเต็มคลังเสบียง กองคลังมีสมบัติมากมาย นั่นแสดงให้เห็นว่าในยามนี้บ้านเมืองมีความรุ่งเรืองมากเพียงใดทว่า ไม่ว่าจะร่ำรวยเพียงใด แต่ก็ยังมีสถานที่ที่มีความยากจนอยู่ดีปัญหาในตอนนี้ก็คือ ขุนนางและคนร่ำรวยในราชวงศ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status