เขาได้ยินคำพูดยาวเหยียดที่ซื่อสัตย์และจริงใจของนาง ในใจก็มีความประหลาดใจผุดขึ้นมาเขาได้ยินคำพูดเช่นนี้ของนางเป็นครั้งแรก กลับรู้สึกว่าค่อนข้างมีเหตุผลตอนนั้น หลังจากที่เสด็จแม่ของเขาเกิดเรื่อง เขาในวัยเยาว์ ในใจเต็มไปด้วยความโกรธแค้น จากนั้นก็ค่อย ๆ จมลงสู่ความมืดมิดอย่างช้า ๆ กระหายเลือด เหี้ยมโ
ฉินเหยี่ยนเย่ว์ฟังบทสนทนาที่เหล่านางสนมพูดคุยกันจนเข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่งนางสนมเหล่านี้ตำแหน่งต่ำต้อย นางจึงจำไม่ค่อยได้ราวกับว่า ตอนที่ข่าวมู่เหยี่ยและซูเตี่ยนฉิงได้รับบาดเจ็บแพร่เข้ามาถึงตำหนักฮองเฮา นางสนมที่เข้ามาคารวะยามเช้าเหล่านี้ก็อยู่ตรงนั้นด้วยเช่นกัน พวกนางจึงตามมาพร้อมกันส่วนใหญ่เป็นพ
“เสด็จพ่อ” ขณะที่ฉินเหยี่ยนเย่ว์กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ตงฟางหลีก็กล่าวขึ้น “ให้ลูกดูอาการบาดเจ็บของฉิงเอ๋อร์ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อนางได้ยินคำพูดนี้ หัวใจพลันร่วงลงสู่ก้นเหวทันทีมุมปากมีความเย้ยหยันผุดขึ้นมาอะไรกัน...เหตุใดนางถึงได้สมองบิดเบี้ยวไปเชื่อเขาได้?ตงฟางหลีเชี่ยวชาญด้านเสแร้งเป็นที่
ตงฟางหลีหนักใจตอนนี้เขามิอาจเอื้อนเอ่ยออกไปได้หากห้ามปราม หญิงผู้นี้จักต้องคิดว่าเขาปกป้องซูเตี่ยนฉิงอย่างไร้สมองเป็นแน่ และทำให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะยิ่งจบยากมากขึ้นพูดกันตามตรงแล้ว หากมิใช่นิสัยที่แข็งกร้าวจนถึงที่สุดของนาง คงไม่ทำพฤติกรรมอย่างเช่นปะทะกับเสด็จพ่อ หรือเผชิญหน้าแ
พระสนมเจิ้นเห็นฮ่องเต้ไม่แสดงท่าที ก็ลอบร้อนใจอยู่เงียบ ๆ“พระสนมเจิ้นไม่อยากรู้ตัวการที่ทำให้มู่เหยี่ยเป็นเช่นนี้หรือเพคะ?” ฉินเหยี่ยนเย่ว์เอ่ยถามเสียงเบา“ตัวการมิใช่เจ้าหรอกหรือ?” พระสนมเจิ้นเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน“ฮ่าฮ่า ข้าและมู่เหยี่ยหาได้มีความแค้นคืองต่อกันไม่ เหตุใดต้องลงมือกับมู่เหยี่ยด้วยเล่
ทุกคนตื่นตะลึงโดยเฉพาะฮองเฮา ทั้งตัวนางแข็งชะงักอยู่กับที่ ก่อนที่ร่างกายจะอ่อนยวบลงไป ต้องอาศัยเก้าอี้พยุงไว้ถึงจะฝืนยืนให้ตรงได้การที่ตงฟางหลียอมรับคำพูดของฉินเหยี่ยนเย่ว์ ก็หมายความว่ายอมรับว่าซูเตี่ยนฉิงไปชิงความโปรดปราณที่จวนอ๋องเจ็ดคราวนี้ ไม่ใช่เพียงซูเตี่ยนฉิงที่ชื่อเสียงถูกทำลายจนย่อยยับ
พูดกันตามตรง เป็นนางที่คิดใช้ซูเตี่ยนฉิงและมู่เหยี่ยมากำจัดฉินเหยี่ยนเย่ว์ทิ้งพร้อมกัน แต่กลับถูกซูเตี่ยนฉิงหลอกใช้แทนการที่นางถูกฉินเหยี่ยนเย่ว์บีบบังคับมาจนถึงจุดนี้ เกรงว่าจะอยู่ในการคำนวณของซูเตี่ยนฉิงเช่นกันฮองเฮาเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ รู้สึกเย็นยะเยือกอยู่ในใจนางและฮ่องเต้เป็นสามีภรรยากันมาหล
บรรยากาศในท้องพระโรงเริ่มตกอยู่ในความตึงเครียดไปในทันทีทุกคนต่างก็รับรู้เป็นอย่างดีว่า ฉินเหยี่ยนเย่ว์มีลักษณะนิสัยเป็นเช่นไรเป็นไปมิได้เลยที่สตรีโง่เง่าขี้ขลาดเช่นนาง จักมีความสามารถเช่นนี้ได้ ทั้งยังไม่น่าจะมีความกล้าหาญเช่นนี้อีกด้วยองค์จักรพรรดิถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเขาเองก็เคยพบหน้าค่าตาฉินเห
หลังจากที่ได้พบนางนั้น โดยเฉพาะยามที่นางวิ่งโร่เข้ามากอดเขา ราวกับเมฆหมอกที่เคยบดบังได้จางหาย ภูเขาน้ำแข็งได้หลอมละลายลงมา คล้ายกับว่าบุปผากำลังเบ่งบานตงฟางหลีโอบกอดนางเอาไว้ พลางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไรแล้ว ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”“อื้ม” ฉินเหยี่ยนเย่ว์จับใบหน้าของเขาเอาไว้ ก่อนจะเอา
“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ หากพระองค์จะฝ่าเข้าไปโดยใช้กำลังเช่นนี้ ระวังอาวุธลับ...” เฟยอิ่งรีบร้อนกล่าวออกมาสายเกินไปที่จะเอ่ยออกมาแล้วดาบของตงฟางหลีเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารมากมายที่ล้อมรอบเอาไว้ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังหินอ่อนขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงทางเข้าดาบเล่มนี้สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นการตัดหินหา
ตงฟางหลีจึงยื่นมือไปสัมผัสหินที่อยู่บนรูปปั้นภายในเรือนมีบรรยากาศแห้ง ๆ เย็น ๆ ทว่า ด้านบนก้อนหินกลับมีความชื้น มือที่เอื้อมไปสัมผัสนั้นพลันรู้สึกได้ถึงหยาดน้ำเปียก ๆ ขึ้นมาสายตาของตงฟางหลีจ้องมองไปที่รูปปั้นหินอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่จุดเชื่อมต่อระหว่างรูปปั้นหินกับกำแพงรอยต่อระ
ผู้ที่ตอบเขากลับมาจากห้องลับที่อยู่ด้านล่างนั้น หาใช่ใครอื่นใดไม่ เว้นเสียแต่เหยี่ยนเย่ว์ตงฟางหลีพลันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก“เฟยอิ่ง หาทางเข้าต่อไปเถอะ หากภายในระยะเวลาหนึ่งก้านธูปยังไม่อาจหาทางเข้าเจอละก็ ทุบช่องระบายอากาศนี้ทิ้งเสีย” ตงฟางหลีกำแขนเสื้อเอาไว้แน่นตำแหน่งของห้องลับนั้น ตั้งอยู
บุรุษผู้นั้น ไม่เพียงแต่พบสถานที่แห่งนี้ แต่ยังพบตำแหน่งของห้องลับอีกด้วยหากว่าเขาทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้แล้ว นั่นหมายความว่าเขาได้ค้นพบการมีอยู่ของห้องลับห้องนี้อย่างแน่นอนต่อจากนี้ นางเพียงแค่ต้องส่งข่าวว่าตนเองอยู่ด้านล่างไปหาเขาเท่านั้นทั้งนางและเซียวเซี่ยงหว่านจะต้องรอดออกไปแน่นอน!ฉินเหย
ภายในใจของฉินเหยี่ยนเย่ว์พลันรู้สึกลิงโลดยิ่งนักหากการพบเจอเหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญนั้นแล้วการที่เจอเหรียญทองแดงสี่เหรียญในคราเดียวเล่า ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีคนอยู่ข้างบน!มีคนโยนเหรียญทองแดงลงมาจากช่องระบายอากาศทั้งสี่ช่องการปรากฏตัวที่นี่ในยามนี้ ทั้งยังพยา
เขาต้องหาตัวพวกนางเจอให้เร็วที่สุด!“ท่านอ๋อง” หลังจากเฟยอิ่งค้นหาไปแล้วหนึ่งรอบ “หาอะไรไม่เจอเลยพ่ะย่ะค่ะ นี่ออกจะแปลกเกินไปแล้ว ตามหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นกลไกหรือว่าห้องลับ ล้วนจะต้องเหลือร่องรอยไว้บ้าง”“ตามผนังในห้องนี้ล้วนเป็นกำแพงตัน ไม่มีกลไก แล้วก็ไม่มีช่องกั้น ด้านล่างของห้องนี้ก็คือทะเลสาบ แล
นกการเขนเงาเป็นนกที่เงามีโดยเฉพาะ เป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างเงาด้วยกันพวกมันอยู่ไปทั่วทุกหนแห่ง และสามารถส่งข่าวสารไปทั่วทุกที่นกกางเขนเงาทุกตัวล้วนได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวด และระหว่างพวกมันเองจะมีรูปแบบวิธีการแยกแยะตัวตนหนึ่งชุดไม่เพียงเท่านี้ ช่องทางการสื่อสารข้อมูลระหว่างเงาจะมีระบบรหัสที
ความเป็นไปได้มากที่สุด คือพี่ใหญ่ใช้ประโยชน์จากทาสเป่ยลู่คนนั้น ทำเรื่องที่มิอาจเปิดเผยได้เหล่านั้นอยู่ที่นี่หากเป็นเหตุผลเช่นนี้ เบาะแสทุกอย่างล้วนราบรื่นแล้วตงฟางหลีเดินอ้อมห้องอีกหนึ่งรอบใช้มือสัมผัสและเคาะสิ่งของที่น่าสงสัยทั้งหมดเบา ๆ ไปหนึ่งรอบน่าเสียดาย ที่หาร่องรอยของห้องลับไม่เจอ“จางฉู