ตัวไป๋หลันที่ไม่เคยมีพี่น้อง จู่ๆ ก็มีน้องสาวน่ารักแสนดีแบบนี้ ก็รู้สึกแปลกเหมือนกัน ตอนเด็กซู่หรานชอบน้องสาวคนนี้มาก ซินซินก็เชื่อฟังพี่สาวทุกอย่าง แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ซู่หรานรู้สึกเปลี่ยนไป
“เอ่อ..ข้าเองก็ผิด ต่อไปข้าจะปรับปรุงตัว” ไป๋หลันพูดแทนซู่หราน
ท่านย่ายังไม่อยากเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไรนัก แต่หลักฐานชัดเจนเกินไปจนเอ่ยสิ่งใดไม่ได้ นางจึงอ้างว่าแก่แล้ว เหนื่อย อยากพักผ่อน เรื่องนี้ให้พ่อจัดการ จากนั้นท่านพ่อก็สั่งให้ซู่หรานกลับไปอาบน้ำทำแผล
ฮูหยินของบ้าน แม่ของซินซินน้ำตาคลอด้วยความดีใจ รีบสั่งบ่าวให้ไปตามท่านหมอมารักษาแผลให้ซู่หราน ซินซินจะตามไปดูแลพี่สาวด้วย แต่ไป๋หลันบอกว่าดึกแล้ว ซินซินก็เหนื่อยมาทั้งวัน ให้รีบกลับไปพักผ่อน
ไป๋หลันทบทวนในความทรงจำ พ่อของซู่หรานเป็นคนมีเหตุผล ฉลาด มีความรู้ แต่บางครั้งจะขี้โมโห เขารักซู่หราน เพราะเกิดจากเมียอนุที่เขาเคยรักมาก แต่เขาก็ต้องแต่งกับเมียเอกที่ท่านย่าจัดงานแต่งให้ ฮูหยินเป็นหญิงสาวที่จิตใจงดงาม เพียงแต่เขาไม่ได้รัก
ท่านย่ารังเกียจว่าแม่ของซู่หรานเป็นหญิงเจ้าเล่ห์ ทำให้ลูกชายคนเดียวของนางเพลี่ยงพล้ำต้องตบแต่งกับหญิงยากจนหน้าด้านคนหนึ่ง ทำให้ท่านย่าพานไม่ชอบซู่หรานไปด้วย
หลังจากแม่ของซู่หรานที่เป็นอนุตายไป ท่านพ่อจึงรักและเอ็นดูซู่หรานมาก ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนดีมีศีลธรรม แม้ไม่ได้รักเมียเอก แต่ก็ดูแลให้เกียรติอย่างดี ไม่เคยทำให้เมียเอกซึ่งเป็นแม่ของน้องสาวไม่สบายใจ
ติดก็แค่ ซู่หรานเป็นคนขี้อิจฉา อยากได้ทุกอย่างไว้คนเดียว ไม่ว่าน้องสาวได้อะไรนางก็ต้องได้ นางเกลียดน้องสาวที่แย่งทุกอย่างจากนาง แม้ว่าความจริงแล้วซู่หรานจะถือว่าเป็นคนเก่งคนหนึ่ง แต่กลับใช้ความฉลาดไปทางเลว เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคนน่ากลัว
สุดท้ายเลยลงเอยด้วยความตาย!!
ไป๋หลันหันไปมองท่านพ่อ เธอสงสัยว่า ถ้าไม่มีตัวเองตกลงมาเข้าร่างของซู่หรานจะเป็นเช่นไร ถ้าพ่อของซู่หรานรู้ว่าลูกสาวที่เขารักตายไปแล้ว เขาจะรู้สึกอย่างไร ไป๋หลันไม่เคยมีพ่อแม่ก็จริง แต่เธอรู้จักดีความรู้สึกที่ต้องสูญเสียคนที่รัก มันทรมานมาก
การที่ไป๋หลันตกลงมาในร่างของซู่หรานคงมีเหตุผลบางอย่าง ซู่หรานเองก็รักพ่อมาก สิ่งเดียวที่เธอเสียใจคือไม่สามารถทำให้พ่อภูมิใจ นี่อาจเป็นเหตุผลให้ไป๋หลันได้เข้าร่างของซู่หราน
ไป๋หลันรั้งอยู่จนฮูหยินกับซินซินออกไปแล้วจึงพูดกับพ่อของซู่หรานว่า
“ท่านพ่อ ที่ผ่านมา ข้าเป็นลูกอกตัญญูยิ่งนัก ทำให้ท่านต้องเดือดร้อนเสมอ ต่อไปข้าจะปรับปรุงตัวเองเจ้าค่ะ” ไป๋หลันพูดคำเลี่ยนๆ พวกนั้นได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ เพราะอย่างไรก็ไม่ใช่พ่อของเธอ
แต่ท่านพ่อของซู่หรานกลับทำตาแดงๆ ไม่กล้าหันมามองลูกสาว เขาเพียงพยักหน้าว่ารับรู้แล้ว ไป๋หลันรู้สึกว่าหัวใจของซู่หรานกำลังบีบรัด จู่ๆ เธอก็อยากร้องไห้เหมือนกัน น้ำตาของซู่หรานไหลอาบแก้ม
ไป๋หลันถือว่าได้ทำเพื่อเจ้าของร่างบ้างแล้ว ตอบแทนที่ให้เธอได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง แม้เธอจะไม่ได้อยากมีชีวิตเท่าไหร่ แต่การมีชีวิตอยู่ ย่อมดีกว่าตกลงมาถูกไม้ไผ่เสียบตาย
ไป๋หลันถูกพาไปยังห้องของซู่หราน มีคนมาทำแผลที่ไหล่ให้ มีสาวใช้มาคอยปรนนิบัติรับใช้ คอยทำความสะอาดเช็ดหน้าเช็ดตัวให้ แม้ไป๋หลันจะไม่คุ้นชิน แต่ก็รู้สึกดี เธอบอกตัวเองว่าอย่าคิดมาก ไหนๆ ก็ได้เกิดเป็นคุณหนูของบ้านคนรวยแล้ว ก็เสวยสุขให้เต็มที่ คิดเสียว่าไปร้านทำสปา
ในที่สุด ไป๋หลันก็ได้ส่องกระจก ถึงแม้จะเป็นกระจกทองเหลืองที่มองไม่ชัด แต่ก็เห็นรายละเอียดได้อยู่
‘โอ้โห เธอนี่มันสาวสวยสุดเซ็กซี่เลยนี่นาซู่หราน’ ไป๋หลันมองกระจกแล้วได้แต่ร้องตะโกนในใจ เพราะภาพสะท้อนที่เห็นอยู่ มันสวยจนไป๋หลันก็ลืมหน้าตาของตัวเองไปแล้ว
ปากเล็ก จมูกโด่ง ขนตายาวงอน ตากลมโตสวยงามชวนมอง หน้าก็เล็กนิดเดียว ตอนเห็นหน้าอกบิ๊กแมคของซู่หราน ไป๋หลันนึกว่าจะตัวใหญ่กว่านี้ แต่กลายเป็นว่าใหญ่แค่หน้าอก ตัวของซู่หรานกลับผอมบางน่ารักมาก ผมยาวสลวยราวกับเส้นไหม
ไป๋หลันคิดว่าปรับตัวกับชีวิตใหม่ได้ง่ายมาก เพราะเธอรับมือได้เป็นอย่างดีตั้งแต่มาถึงที่นี่ ความทรงจำของซู่หรานก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น แต่เธอกลับนอนไม่หลับ พลิกไปมาอยู่ทั้งคืนก็นอนไม่หลับ เธอสัมผัสได้ถึงความกลัวบางอย่างในใจ แม้เธอจะทำเป็นไม่ใส่ใจ
ที่แท้ไป๋หลันก็ยังอาลัยอาวรณ์โลกเก่าอยู่ เธอไม่มีใครก็จริง แต่ถ้าเพื่อนของเธอรู้ว่าเธอตกลงมาถูกเสียบตาย มันจะเป็นยังไง แฟนสารเลวนั่นจะยิ่งหัวเราะเยาะเธอหรือไม่นะ
เธอบอกตัวเองว่าจะทิ้งชื่อไป๋หลัน เธอไม่อยากเป็นป่ายล่านอีกต่อไปเธอจะเป็นซู่หราน เป็นคนใหม่ ให้สมกับที่ได้มีโอกาสเกิดใหม่ เธอคิดหลายอย่างมาก ทั้งรู้สึกไม่คุ้นชินกับที่นอนใหม่ จนใกล้เช้าเธอถึงนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
ซู่หรานรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งหลับตานิดเดียวก็ถูกเรียกตัวเสียแล้ว ยังไม่ทันได้นอนเลย แต่ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะคนโบราณต้องตื่นเช้า ในความทรงจำของซู่หราน เธอต้องออกไปทำความเคารพท่านย่าทุกเช้าด้วย
เธอนั่งให้สาวใช้แต่งตัวให้ หน้าอกใหญ่ของเธอมันเป็นอุปสรรคมากจริงๆ ชุดโบราณที่เคยชอบมาก ใส่ยังไงก็ไม่สวย เหมือนคนคอตัน อาจเพราะรูปแบบเสื้อผ้าที่รัดจนถึงคอ ซู่หรานแอบคิดว่าคงต้องตัดชุดใหม่
ระหว่างที่กำลังเลือกเสื้อผ้า มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งมา ก้มหน้าก้มตาทำท่าทางหวาดกลัวซู่หรานอย่างเห็นได้ชัด
“มีอะไร ว่ามาตรงๆ ไม่ต้องกลัว” ซู่หรานคนเก่าเคยเป็นคนโมโหร้าย แต่ตอนนี้ เธอไม่ใช่ซู่หรานคนนั้นแล้ว
“คือว่า..ฮูหยินผู้เฒ่าบอกว่า..บอกว่า ว่าคุณหนูซู่หรานเพิ่งได้รับความตกใจมาก ทั้งยังมีแผลเต็มตัว วันนี้..และต่อไป ไม่ต้องไปทำความเคารพแล้วเจ้าค่ะ และ..ขอให้คุณหนูซู่หรานอยู่แต่ในจวน อย่าออกไปไหนเจ้าค่ะ” สาวใช้กลัวมาก พูดไปบีบมือไป
“ไม่ต้องไปเหรอ....ว้าว ชีวิตดีอะไรขนาดนี้” ซู่หรานคนเก่าคงจะทั้งเศร้าทั้งโกรธ แต่ตอนนี้ซู่หรานคนใหม่ เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ก็ไม่ปาน
“ข้าไม่ต้องออกไปไหน อยู่แต่ในห้อง มีคนคอยทำอาหารมาให้กิน นั่งๆ นอนๆ ก็ได้ใช่ไหม ข้า..ข้าหมายถึง ไม่ต้องทำงานอะไรใช่หรือไม่” ซู่หรานถาม
“เอ่อ ใช่เจ้าค่ะ” สาวใช้แปลกใจ
"ข้าไม่รู้ว่าอะไรคือรัก อะไรคือหลง ข้าบอกได้เพียงว่า เพราะเป็นเจ้า ข้าจึงหลง ไม่ว่าจะอกโตของเจ้า ริมฝีปากนุ่มนิ่ม เสียงร้อง รอยยิ้ม ความหน้าด้าน ความบ้าคลั่ง หรือกระทั่งหยดน้ำตา ข้าก็ทั้งหลงทั้งรักไม่อาจสูญเสียไปได้จริงๆ" คำบอกรักของเขาชวนใจเต้นแล้วแต่คำขอแต่งงานยิ่งชวนให้รู้สึกดีใจจนอยากร้องไห้มากยิ่งกว่าอีกซู่หรานมือเท้าสั่นเทาจนไม่รู้จะทำตัวอย่างไร"ขะ ข้า..ข้ากลัว" เธอบอกเขาถึงความในใจ เธอก็ไม่รู้ว่ากลัวอะไรแต่เธอรู้สึกกลัวการต้องใช้ชีวิตกับคนอื่นมากจริงๆ"ข้าก็กลัว" เขาตอบเสียงทุ้ม"เจ้า..เจ้ากลัวแล้วยังขอแต่งงานอีกหรือ""อืม""เจ้าโง่ไปแล้วหรือ" ซู่หรานน้ำตาร่วง มือสั่นจนเริ่มควบคุมไม่ได้"ข้ากลัวว่าเจ้าจะทิ้งข้าอยู่ทุกวัน กลัวว่าพรุ่งนี้เจ้าอาจเปลี่ยนใจไปหาผู้อื่น แต่ข้ากลัวจะไม่ได้อยู่กับเจ้ามากกว่า ไม่ว่าอะไรข้าก็จะโยนทิ้งให้หมด""ข้ากลัวจะเสียใจ" ซู่หรานบอกเขาตามตรง"แต่เจ้าไม่กลัวว่าจะเสียข้าให้ผู้อื่นหรือ" เขาถามตรง จี้ความกลัวของเธอ"กลัว กลัวสิ ฮือ" เธอตอบพร้อมเสียงสะอื้น"เช่นนั้นก็แต่งเถิด" เขาเริ่มใช้น้ำเสียงออดอ้อนขอร้อง และเธอรู้สึกว่ามันน่ารักจนไม่อาจทนได้จริงๆ"อ
"ไม่ เจ้าน่ารัก ข้าไม่กลัวแล้ว"สิ้นคำตอบของคนน่ารัก จิ้งจื่อก็ค่อยๆ ดันมังกรยิ่งใหญ่ของเขาเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับนาง เขารู้สึกดีใจจนแทบคลั่ง ดีใจจนอธิบายไม่ถูก ในใจมีความสุขยิ่ง ร่างกายยิ่งกว่าสุขสมจนน้ำพุพุ่งกระจาย แต่เขาตัวสั่นกอดร่างเล็กอยู่เพียงครู่เดียวก็เริ่มขยับต่อไป ความคับแน่นทรมานก่อนหน้านี้ที่คับแคบจนเขาขยับลำบากก็เริ่มลื่นไหลมากขึ้น"อ้า อะ อ้า อื้อ จิ้ง อึก..อึก อื้อ"จิ้งจื่อเงยหน้ามองดูคนน่ารักของเขาที่ปกติแม้จะสุขสมเพียงใดก็ไม่ค่อยส่งเสียง นางมักจะกัดปากเก็บเสียงเงียบ แต่ยามนี้นางกำลังครางไม่เป็นภาษา ลืมเลือนแม้กระทั่งกัดปาก ได้แต่ร้องรับแรงกระแทกของเขาอย่างลืมตัวเขาดีใจมากที่สามารถเป็นฝ่ายกลั่นแกล้งจนนางทำตัวไม่ถูกได้บ้างแล้ว ยิ่งเวลาที่เขาบดเบียดจนนางเสร็จสม แต่เขาไม่ยอมพักและกระแทกกระทั้นต่อไปทันที นางจะจะจับไหล่เขาจนแน่น บางครั้งถึงขั้นจิกเล็บลงไปบนหลังเขา ร้องครางจนลืมตัวเขาต้องรีบจูบปิดปากเพราะกลัวใครจะได้ยิน แน่นอนว่าเขาชอบเสียงครางของคนน่ารักยิ่งกว่าสิ่งใด แต่เขาไม่ต้องการให้ใครได้ยิน เขาอยากเก็บเอาไว้เป็นของเขาคนเดียว ดังนั้นเขาจึงชอบกระแทกให้นางสุขสมจนแทบก
"อีกครู่เดียว..ได้หรือไม่ ทำเช่นนี้ช่วยให้หายหนาว เจ้าเป็นคนบอก จำไม่ได้หรือ" เขาพยายามต่อรองซู่หรานรู้สึกสงสารท่าทางน่ารักนั้นยิ่งนัก เธอเสร็จสมแล้ว แต่เขายังไม่ได้เริ่มทำอะไรเลย เมื่อคิดแล้วก็รู้สึกว่าสงสารยิ่ง แต่ตัวเองก็ไม่มีแรงแล้ว เธอจึงยกมือชี้ที่ปากตัวเองแทน"เอ่อ..เจ้า.." เขาอยากพูดว่าหากนางไม่ไหวแล้วก็ไม่เป็นไร แต่ความร้อนรุ่มก็กำลังกัดกินเขา"มาสิ" เธอพูดอย่างอ่อนแรงจิ้งจื่อตัดสินใจขยับตัวขึ้นไปคร่อมอยู่ตรงคอของร่างเล็ก เขาพยายามจัดท่าทางไม่ให้ทับจนนางหายใจไม่ออก ก่อนจะจ่อหัวมังกรชมพูไปที่ปากเล็กของนางซู่หรานยามนี้ เหนื่อยจนอ่อนแรง แต่อยากเอาใจเขาจึงอ้าปากแลบลิ้นไปเลียหัวมังกรร้อนผ่าวลำนั้น"อื้อ อะ" เธอเพียงเลียแผ่วปลาย เขาก็ส่งเสียงครางสุขสันต์จนน่าสงสารไปหมดซู่หรานอยากให้เขาสุขสมยิ่งขึ้นจึงยกมือดันก้นแน่นของเขาเพื่อให้เจ้ามังกรใหญ่ขยับเข้าปากมากขึ้นจิ้งจื่อรู้สึกดีจนตัวสั่น นางไม่เพียงอ้าปากให้ความสุขเขา แต่ยังขยับลิ้นไปมาเพื่อดุนดันลิ้นไปทั่วหัวมังกร ยิ่งทำให้เขาสุขสมยิ่งขึ้น เขาชอบสัมผัสนั้นมากจนไม่อาจห้ามใจไหว จึงขยับสะโพกขึ้นลงเบาๆ"อ้า อา" เขามีความสุขมากเกินไป
"ใช่แล้ว หากไม่ได้เขาข้าอาจตายไปนานแล้ว หรือไม่ตายก็คงเหมือนตายอยู่ดี" เขาพูดและรวบตัวคนขี้สงสัยเข้ามากอด"ครั้งแรกที่ข้าเข้าสู่สนามรบ ข้าฆ่าคนไปมากมายจนไม่อาจนับได้ หลังจากนั้นข้าไม่อาจมองผู้คนเช่นเดิมอีกเลย ผู้คนต่างยกย่องข้าแต่ก็หวาดกลัวข้าราวกับปีศาจร้าย ถึงพวกเขาจะเรียกข้าว่าวีรบุรุษสงคราม แต่ข้าก็คือฆาตกรที่ฆ่าคนไปมากมาย ข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรจะยืนอยู่บนพื้นโลกกับผู้อื่นต่อให้พวกเขาจะมองข้าด้วยความชื่นชมแต่ก็มองด้วยความกลัวเช่นกัน จนข้าได้มาพบเขา ปณิธานของเขาทำให้ข้าอยากจะลองมีชีวิตอยู่และลงมือช่วยเหลือเขาสักครั้ง ต่อให้ต้องลงมือฆ่าคน ข้าก็รู้สึกว่าคุ้มค่า ข้าศรัทธาในตัวเขาและความตั้งใจของเขามาก""เพราะเช่นนี้ เจ้าจึงไม่ชอบที่ถูกจ้องมองหรือ" ซู่หรานถาม"อืม""เจ้าเป็นไท่เหอเจียนหู่ตั้งแต่อายุสิบสองเช่นนั้นหรือ" เธอตัดสินใจถามคำถามในสิ่งที่เธอกังวลตั้งแต่รู้ว่าเขาคือไท่เหอเจียนหู่"อืม" คำตอบของเขาเรียบง่าย แต่บีบคั้นหัวใจของซู่หรานจนเจ็บปวด เธอรู้สึกหายใจไม่ออกแทนเขา เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ต้องแบกภาระมากขนาดนี้ โลกนี้ช่างโหดร้ายยิ่งนัก ซู่หรานอยากปลอบประโลมเขาให้สมกับเป็นเพีย
"จิ้งจื่อ ไม่เอา" เธอผลักและพยายามถอยหนี แต่มือแข็งแกร่งของเขารวบจับสองมือเธอขึ้นไปไว้บนหัว และเริ่มจูบวนรอบยอดถัน พยายามดูดดันหัวมังกรเข้าไปอีกครั้ง"ไม่เอาแบบนี้ จิ้งจื่อ อย่าทำเช่นนี้ ขอร้อง" เธอเสียงสั่นกลัว"เพราะเหตุใด" เขายอมพูดคุยกับเธอแล้ว"ขะ ข้ากลัว" "แล้วต้องทำเช่นไรเจ้าถึงจะไม่กลัว" เสียงของเขาสั่นเครือ แต่ไม่ใช่เพราะความกำหนัด คล้ายว่าเขากำลังจะร้องไห้มากกว่า"จิ้ง..จิ้งจื่อ" ซู่หรานเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติในน้ำเสียง"ต้องเป็นเขาเท่านั้นหรือ" เขายอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอในที่สุด"ข้ารักเจ้า รักมากกว่าเขา เขาไม่ได้รักเจ้า เหตุใดเจ้าจึงยึดติดกับเขานัก" นัยน์ตาของจิ้งจื่อแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า ใกล้จะร้องไห้เต็มทีซู่หรานชะงักค้าง เธอตกใจทั้งกับคำบอกรักและท่าทางเจ็บปวดของเขา หัวใจของเธอกำลังพองโต"เป็นข้าไม่ได้หรือ ข้ารักเจ้า รักมาก..รักจนไม่อาจสูญเสียไปได้ เปลี่ยนเป็นข้าเถิด ข้าสาบานด้วยชีวิต ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ข้าล้วนยินยอมทั้งสิ้น" จิ้งจื่อสบตาหญิงสาว พูดความในใจตัวเองออกมาด้วยความเจ็บปวดและรู้สึกพ่ายแพ้ยิ่งแต่สำหรับซู่หราน เธอคล้ายตกหลุมรักความน่ารักของเขาเป็นครั้ง
"ข้าคิดถึงเจ้า คืนก่อนเจ้าก็ยังบอกว่าคิดถึงข้าอยู่เลย วันนี้เจ้าน้อยใจอะไรอีก เจ้าไม่พูดข้าจะรู้ได้อย่างไร" เธอพยายามพูดง้อเขา มือหนึ่งเกาะเอวไว้อีกมือก็ลูบคลำจนสิ่งนั้นของเขาเริ่มจะพองโตใหญ่ขึ้นบ้างแล้ว"หยุด!" เขาพยายามพูดเสียงให้ดุที่สุด แต่สองมือของเขากลับทำได้เพียงกุมข้อมือบางเล็กของนางไว้เท่านั้น ยิ่งนางลูบคลำ ขายาวของเขาก็ยิ่งสั่นมากขึ้น"เจ้าหนาวหรือ ให้ข้าช่วยนะ" เธอพูดออดอ้อนและเริ่มดึงเข็มขัดของเขาออก"หยุด!!" เขาแทบจะตะคอกใส่เธอซู่หรานตกใจจนสองมือหยุดชะงักเธอค่อยๆ หดมือกลับมาไว้ข้างตัวจิ้งจื่อเดินไปตรงกำแพงและโขกหัวตัวเองกับกำแพงแรงๆ หนึ่งที"เจ้าทำอะไร!!" ซู่หรานตกใจเธอรีบร้อนจะวิ่งไปดูเขา"อย่าเข้ามา!!" เขาตะเบ็งเสียงใส่จนเธอไม่กล้าเข้าใกล้"เจ้า..เจ้าเป็นอะไร อย่าทำเช่นนี้" หัวใจของซู่หรานเจ็บปวดมากเมื่อเห็นเขาต้องเจ็บเช่นนี้"ข้าเกลียดเจ้า" จิ้งจื่อเสียงเย็น"...อ้อ ได้ ขะ ข้าเข้าใจแล้ว" ซู่หรานรู้สึกแย่มากที่พยายามไล่ตามผู้ชายคนหนึ่ง เธอรู้สึกว่าตัดสินใจผิดพลาดแล้ว เธอไม่น่าฟังคำของน้องสาวจนมาทำเรื่องน่าอายพวกนี้เลย"เจ้ามันเป็นปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง เป็นสตรีหน้าด้าน ไ