ไอ้คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแสนเอาแต่ใจตัวเองกระหน่ำโกยกินฟาติมาจนหนำใจ ทำเอาเธออ่อนเปลี้ยเพลียแรง พอได้ระบายอารมณ์ ได้ปลดปล่อยเขาก็ไล่เธอออกจากห้องทำงานทันที ฟาติมาชินแล้วกับเรื่องแบบนี้ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พอกัมปนาทโกรธแล้วจะจับเธอกระแทกกระทั้นระบายอารมณ์ ในห้องทำงานบนตึกสูงแสนหรูหราแห่งนี้ เขาใช้มันเป็นสถานที่เริงรมย์มานับครั้งไม่ถ้วน ผู้ชายคนนี้ไม่สนว่าจะเป็นที่ไหนเวลาใด หากเขาต้องการจะกระทำความป่าเถื่อน เขาจะทำมันในทันทีโดยไม่แยแสอะไรทั้งนั้น บนรถข้างถนนเขาก็ทำมาแล้ว ในห้องน้ำร้านอาหารเขาก็เคยทำ หนักที่สุดคงจะเป็นในห้องน้ำบนเครื่องบิน ตอนที่บินไปดูงานต่างประเทศเมื่อปีก่อน
ความสะใจที่กัมปนาทชอบมากที่สุดคือตอนที่เขาทำให้ฟาติมาเสียวจนถึงที่สุด แต่ครางออกมาไม่ได้
เขามันโรคจิต!
ระหว่างที่กำลังประชุมแผนการการลงทุนในไตรมาสต่อไป กัมปนาทที่รู้ทุกอย่างดีอยู่แล้วปล่อยให้พวกผู้บริหารคนอื่นคุยกันไป ส่วนตัวเขาก็เอาแต่นั่งมองเลขาส่วนตัวที่กำลังม่วนอยู่กับการจดบันทึกที่ประชุม ก็เธอมีหน้าที่นำข้อมูลเหล่านี้ไปสรุปแล้วรายงานเจ้านาย หน้าที่ของเธอคือทำให้งานของกัมปนาทราบรื่นแล้วสะดวกรวดเร็วที่สุด เขาไม่เคยพูดหรอกว่าเธอคนนี้ทำงานได้ดีโดยไม่มีข้อบกพร่อง แต่เวลาสามปีที่เขายังคงจ้างเธอมันเป็นข้อชี้ชัดว่าหญิงสาวเป็นเลขาที่พอใช้ได้
เป็นเลขาที่ทำงานผิดพลาดน้อยที่สุด
ในใจของกัมปนาทกำลังคิดว่าฟาติมาไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดหรือไงที่ได้เห็นว่าเขาสนใจผู้หญิงคนอื่น ทำไมเธอไม่แสดงทีท่าอะไรออกมาเลย ทั้งที่เธอเคยบอกว่าไม่ว่าจะยังไงก็ไม่มีทางเลิกรักเขาได้ อย่างนั้นมันก็แปลว่าตอนนี้เธอยังคงรักเขาอยู่ไม่ใช่หรือ อย่างนั้นแล้วทำไม…ทำไมเธอทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย?
หรือว่าเธอมันด้านชาจนเหมือนไม่มีหัวใจแล้วจริง ๆ?
จนแล้วจนรอดการประชุมก็สิ้นสุดลง ฟาติมาตามท่านประธานเข้ามาที่ห้องทำงาน เธอเพียงจะรายงานว่าวันนี้เขาไม่มีประชุมหรือนัดที่ไหนแล้ว คิดว่ารายงานเสร็จแล้วก็จะไปทำรายงานสรุปการประชุม อยู่ออฟฟิศเธอเป็นเลขา ก็อยากทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ให้มันคุ้มกับเงินเดือนที่เขาจ่าย
“วันนี้คุณกั้งไม่มีนัดที่ไหนแล้วนะคะ ส่วนพรุ่งนี้ก็ไม่มีประชุมด้วยค่ะ คุณกั้งอยากให้ฟ้าเลื่อนนัดอื่นขึ้นมาเป็นพรุ่งนี้ไหมคะ เพราะว่า…”
“ฉันมีงานให้เธอทำ” กัมปนาทไม่สนใจเรื่องนัดอะไรทั้งนั้น ตลอดการประชุมที่เพิ่งจบไป เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เชิญว่ามาเลยค่ะ”
“ฉันอยากให้เธอไปตีสนิทศรา”
“คะ?” เอาอีกแล้ว งานบ้า ๆ แบบนี้มันมาอีกแล้ว
“ก็ได้ยินแล้วนี่ว่าที่ผ่านมาฉันยังทำให้ศราพอใจไม่ได้ เขาถึงไม่ยอมคบกับฉัน ไปหาทางมาว่าถ้าฉันอยากได้หัวใจของศรา จะต้องทำยังไงบ้าง”
“…” อยากได้หัวใจของวริศราอย่างนั้นหรือ? นี่เขาไม่รู้จริง ๆ หรือไงว่าการจะได้หัวใจของใครบางคนมาจะต้องทำยังไง ทั้งที่เมื่อก่อนเคยบอกเธอเองด้วยซ้ำ
“หน้าที่ของเธอคือต้องช่วยให้ฉันได้เป็นแฟนกับศรา ฉันจะต้องได้แต่งงานกับผู้หญิงคนนี้”
“การจะได้ใจใครสักคนมาครอบครอง เราต้องให้ใจเขาก่อน” ฟาติมาเอ่ยเสียงสั่นเครือ นึกอยากจะร้องไห้แต่ก็ต้องอดกลั้นมันเอาไว้ พยายามปรับโทนเสียงให้นิ่งที่สุดแต่มันก็ได้แค่นี้
“ว่าไงนะ?”
“มีใครบางคนเคยบอกฟ้าค่ะ ว่าถ้าอยากได้ความรักจากใคร…ก็ต้องให้ความรักไปก่อน ถ้าคุณกั้งอยากทำให้คุณศรารัก คุณกั้งก็ต้องรักคุณศราก่อนค่ะ”
“…” กัมปนาทจำได้ว่าใครเป็นคนบอกเรื่องนี้กับฟาติมา ก็เขาไงจะใครล่ะ! “งั้นฉันควรต้องรักศรางั้นสิ? รักได้อยู่แล้ว…ศราเป็นผู้หญิงที่ดี คู่ควรให้ฉันรัก เธอคิดว่างั้นไหม?”
“ค่ะ” ฟาติมาก้มหน้างุด ตอบออกไปเสียงแผ่วเบา ตอนนี้น้ำตาที่พยายามอดกลั้นมันไหลออกมาแล้ว
“ตอบดัง ๆ ฉันถามว่าศราคู่ควรกับความรักของฉันไหม?!”
“ฮึก! คู่ควรค่ะ คุณศราคู่ควร เธอเป็นผู้หญิงที่ดี มีคุณสมบัติทุกอย่างที่เหมาะสมกับคุณกั้ง”
“งั้นแล้วใครที่ไม่คู่ควรได้ความรักจากฉัน?”
“ฟ้าค่ะ ผู้หญิงเลว ๆ อย่างฟ้า ผู้หญิงที่โกหก หลอกลวง หักหลังอย่างฟ้าไม่คู่ควรที่จะได้รับความรักจากคุณกั้ง” ฟาติมาเงยหน้าขึ้นมองตากัมปนาททั้งน้ำตา เขาพูดอยู่ตลอดว่าอยากเห็นเธอเสียใจ นี่ไง…เธอกำลังแสดงความเสียใจให้เขาเห็น
“ตอบได้ดีนี่ รู้ตัวนี่ว่าเธอมันเลวแค่ไหน ดีที่รู้จุดยืนของตัวเองนะฟาติมา ต่อจากนี้ก็มาช่วยฉันทำให้ศราใจอ่อน ถ้าเธอทำให้ฉันได้คบและแต่งงานกับศราได้…”
“จะให้อภัยฟ้าเหรอคะ?” ถามว่าจุดประสงค์หลักที่ฟาติมายอมทรมานอยู่ที่จุดนี้คืออะไร? หากใครคิดว่าเธอต้องการให้กัมปนาทกลับมารักเหมือนเดิม บอกเลยว่าไม่ใช่ เธอเจียมตัวมากเหลือเกิน ไม่กล้าอาจเอื้อมไปไขว่คว้าความรักจากเขาอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่เธอต้องการมีเพียงการชดใช้ อยากเอาความทรมานที่มีอยู่นี้ไปแลกกับการอภัย อยากเอาความยากลำบาก ความเหน็ดเหนื่อยและความอดทนไปพิสูจน์ให้เขาเห็นว่าเธอรักเขา และรู้สึกผิดกับเขาจริง ๆ เธอเพียงอยากให้เขาปล่อยวางจากความโกรธแค้นที่มีต่อเธอ อยากเห็นเขามีความสุขอีกครั้ง เธอก็แค่อยากให้เขามีความสุขอย่างแท้จริง เพราะหากกัมปนาทยังเจ้าคิดเจ้าแค้นกับเธอแบบนี้ไปตลอด มันก็ยากเหลือเกินที่เขาจะมีความสุขและเริ่มต้นใหม่ได้จริง ๆ
“ฉันไม่มีวันให้อภัยเธอได้ฟาติมา แต่เมื่อไหร่ที่ฉันได้เป็นแฟนกับศรา ฉันจะเขี่ยเธอทิ้ง…”
“เขี่ยทิ้ง?” การปล่อยเธอไปกับเขี่ยทิ้งให้พ้นทางมันมีความหมายไม่เหมือนกัน
“ฉันไม่อยากทำผิดกับผู้หญิงที่ฉันรัก ถ้าฉันรักศราและได้เป็นแฟนกับเขา เธอก็ไม่จำเป็นสำหรับฉันอีกต่อไป ชีวิตที่เธอยกให้ฉันมาบดขยี้เล่น สักวันฉันคงเบื่อ ถึงวันนั้นจะคืนมันให้กับเธอแล้วกัน และคำสั่งสุดท้ายที่ฉันจะสั่งเธอในวันนั้นคือจะไปตายที่ไหนก็ไป”
“…” อีกเรื่องที่กัมปนาททำได้ดีมากคือการบดขยี้หัวใจฟาติมาด้วยคำพูดแสนใจร้ายใจดำ เขาเก่งจริง ๆ กับการทำให้เธอต้องเสียน้ำตา
“โทษฉันไม่ได้หรอกฟาติมา เธอทำมันเองทุกอย่าง เธอเลือกเองทุกทาง…ตั้งแต่ที่หักหลังฉัน จนกระทั่งหน้าด้านกลับมายืนตรงหน้าแล้วร้องขอพื้นที่ข้าง ๆ ฉัน ถ้าวันนั้นเธอไม่วิงวอนว่าขอกลับเข้ามาในชีวิตฉันแล้วยกชีวิตไร้ค่าให้ฉัน วันนี้เธออาจไม่ต้องมาเสียใจแบบที่เป็นอยู่ก็ได้” เขาได้เห็นแล้วน้ำตาของเธอ หลังจากที่ไม่ได้เห็นมาพักใหญ่ ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าฟาติมายังมีความรู้สึกอยู่บ้าง
“ฟ้าแค่อยากเห็นคุณกั้งมีความสุขอย่างแท้จริง ที่มาอยู่ตรงนี้…ก็เพราะอยากชดใช้และหวังว่าสักวันคุณกั้งจะให้อภัยฟ้าได้”
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันไม่มีวันให้อภัยเธอ! อย่าคิดว่าฉันจะโง่กลับไปรักผู้หญิงอย่างเธออีก!”
“ไม่เลยค่ะ ฟ้าน่ะ…อยากได้แค่การอภัยจริง ๆ ไม่ได้อยากให้คุณกั้งกลับมารักฟ้าอีกแล้วล่ะ”
“?!” คำตอบของฟาติมาทำเอากัมปนาทพูดไม่ออก เธอบอกว่าไม่อยากให้เขากลับไปรักอย่างนั้นหรือ? ที่ขอโอกาสได้ชดใช้…เธอเพียงอยากได้แค่การให้อภัยแค่นั้นจริง ๆ สินะ? นี่เขาประมาทผู้คนนี้เกินไปหรือเปล่า? เขาประเมินเธอผิดไปตั้งแต่แรกใช่ไหม? เพราะตลอดมาเขาคิดมาเสมอว่าเธอยังเฝ้าหวังในความรักของเขาอยู่!
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว…ฟ้าขอตัวไปทำงานต่อนะคะ” ฟาติมาไม่ได้ตั้งใจจะตอกกลับ ไม่ได้ประชดประชันหรือท้าทาย เธอไม่เคยคิดเล่นเกมกัมปนาท ทั้งหมดที่พูดออกไป…เธอคิดแบบนั้นจริง ๆ
แต่การที่บอกว่าไม่อยากได้ความรักจากเขา มันไม่ได้แปลว่าเธอจะไม่รักเขาเสียหน่อย
พี่กั้งจะเป็นรักแรกและรักเดียวของฟ้า
เจ็ดวันเจ็ดชุดมีอยู่จริงหนึ่งคืนสี่ยกก็มีอยู่จริงเช่นกันฟาติมาคิดได้ก็วันที่เจ็ด ว่าเธอไม่น่าเอาเรื่องชุดนอนไม่ได้นอนมาหลอกล่อสามีจอมหื่นกระหายเลย เธอลืมไปเสียสนิทว่าสามีนั้นเจ้าเล่ห์แค่ไหน แค่เพราะเธอบอกว่าจะยอมให้ชุดแสนวาบหวิวที่เขาซื้อให้ เพียงเท่านั้นเขาก็สั่งเพิ่มมาอีกเป็นสิบ ๆ ชุด ยกเอาคำสัญญาของเธอขึ้นมาอ้าง ชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมเธอ ออดอ้อนเธอสารพัด ส่งสายตาน่าสงสาร บอกรักไม่หยุดปากเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการและใช่…ไอ้พี่กั้งมันได้ไปแล้วหกวัน ได้เห็นฟาติมาสวมชุดนอนไม่ได้นอนจนครบหกสีแล้ว คืนนี้เป็นคืนวันอาทิตย์ก็เป็นคืนที่เจ็ด เธอสวมชุดนอนผ้าลูกไม้สีแดงซีทรูที่บางแสนบาง บางจนแทบไม่ปกปิดอะไรเลย เดินออกจากห้องน้ำมาหยุดยืนที่ด้านหลังสามี เขานั่งหันหลังอยู่เตียง กอดอกทำท่าทีกระฟัดกระเฟียดไม่พอใจเพราะกำลังงอนงอนที่ฟาติมาจะไม่ยอมสวมชุดสีแดงที่เขาชอบที่สุด งอนที่เธอจะไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เขางอนที่เธอบอกว่าเหนื่อย ทั้ง ๆ ที่หกวันที่ผ่านมาเป็นเขาที่ทำอยู่ฝ่ายเดียว ไอ้พี่กั้งมันรอยคอยคืนนี้แบบใจจดใจจ่อ เพราะสีเหลือง สีชมพู สีเขียว สีส้ม สีฟ้า สีม่วงมันไม่เร้าใจเขามากกว่าสีแดง
งานแต่งงานของฟาติมาและกัมปนาทจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในวันที่มีท้องฟ้าเปิดโล่งแจ่มใส แสงแดดแรกของวันส่องผ่านกิ่งไม้และดอกไม้หลากสี เจ้าบ่าวยืนอยู่ในชุดสูทสีขาวสะอาดตา ท่ามกลางแขกที่มาร่วมงานเพียงสี่คนเท่านั้นคือบุรธัช ผู้เป็นพ่อบุญธรรม ภวัตพี่ชายนอกสายเลือดคนที่เป็นเหมือนผู้ให้ชีวิตใหม่แก่เขา อิทธิ เพื่อนที่คอยร่วมทุกข์ ร่วมสุขกันมา สุดท้ายก็คือชัชวินทร์ ชายหนุ่มที่มาในฐานะเพื่อนและพี่ชายที่แสนดีของเจ้าสาวสวนดอกไม้ถูกจัดเตรียมอย่างสวยงามด้วยแถบดอกไม้สีสันสดใส เสียงนกร้องเบา ๆ เป็นบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม ฟาติมาเดินเข้ามาในชุดเจ้าสาวสีขาว เธอสวยสะกดหยุดทุกสายตา เพียงแวบแรกที่ได้เห็น ดวงตาของกัมปนาทก็เปล่งประกายขึ้นมาทันตาเห็น เขาเคยมีภาพนี้อยู่ในความคิดมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันดับสลายไปในวันที่ต้องเข้าไปนอนระทมอยู่ในคุก จากที่ไม่คิดไม่ฝันแล้วว่าจะได้กลับมารักและแต่งงานกับฟาติมา สุดท้ายมันก็เกิดขึ้น…เขาที่ไม่เคยหมดรักเธอได้ ตอนนี้ได้มายืนอยู่ตรงหน้าเธอในวันงานแต่งงานแล้วฟาติมาเดินเข้ามาใกล้ชิดกับกัมปนาท พอเขายื่นมือมาให้เธอก็รับมือนั้นไว้ทันที สัญญาด้วยชีวิตและหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข
เกือบสองเดือนมานี้ ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่กัมปนาทมีความสุขที่สุด เพราะฟาติมาคนเดิมได้กลับมานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว เพราะบทพิสูจน์จากเบื้องบน หรือกรรมเก่าที่เขาต้องชดใช้ได้จบลงแล้ว ตอนนี้เขาได้เมียกลับมานอนกอดที่บ้านอย่างสบายใจ ได้หอมได้จูบเธอโดยไม่ต้องกลัวว่าเธอจะปฏิเสธ ตอนนี้เขาพูดได้เต็มปากเลยว่าโคตรมีความสุขเลยจุ๊บ! จุ๊บ! จุ๊บ!เขาจูบแก้มเธอ จูบหน้าผาก จูบที่ดวงตาคู่สวย จูบแล้วจูบเล่าหลังจากที่ต้องอดกลั้นมานานสองเดือน กอดเธอแน่นจนเธอแทบหายใจไม่ได้ รัดตัวเธอไว้แนบกายราวกับว่ากลัวเธอจะหายไปจากเขาอีก“งื้อ! พี่กั้งจูบฟ้าไม่เลิกเลย ไม่กลัวฟ้าช้ำหมดหรือไง?”“ไม่กลัว ช้ำก็ไม่เป็นไร…รู้ไหมว่าพี่รอคอยวันนี้มานานขนาดไหน จุ๊บ!” ว่าแล้วเขาก็จูบแนบปากเธออีกที“สองเดือนไง พี่กั้งพูดตั้งหลายครั้งแล้วว่าต้องดูแลฟ้าเวอร์ชันทั้งดื้อทั้งซนมาสองเดือนเต็ม ๆ”“สำหรับคนอื่นมันอาจจะแค่สองเดือน แต่พี่น่ะ…พี่รู้สึกเหมือนมันยาวนานชั่วชีวิตเลย ช่วงเวลาที่ยาวนานและทรมานใจพี่มากที่สุดคือตอนที่ฟ้าอยู่ในห้องผ่าตัดกับห้อง ICU ตอนที่ฟ้าอยู่ระหว่างความเป็นกับความตาย ตอนนั้นพี่คิดแต่ว่าขอให้เป็นพี่เถอะ ขอให้พี่ตายแท
“แต่ทำไมพี่กั้งใส่ชุดเจ้าบ่าว?”นึกสงสัยขึ้นมาฟาติมาก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับกัมปนาท เธอไล่สายตามองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ…เพราะคิดว่าวันนี้จะมีแค่เธอคนเดียวที่ได้ถ่ายรูปสวย ๆ“เอ่อ…ก็ถ้ามีเจ้าสาว ก็ต้องมีเจ้าบ่าวด้วยไม่ใช่เหรอ? หรือฟ้าไม่อยากให้พี่ถ่ายรูปด้วย?”“ก็แล้วพี่กั้งจะมาเป็นเจ้าบ่าวของน้องฟ้าได้ยังไง?”“ก็แล้วทำไมจะเป็นไม่ได้? พี่เป็น…” เวร! เวรอีกแล้ว! เขาจะพูดได้ยังไงว่าเป็นแฟนเธอ พูดได้หรือว่าเป็นผัวเธอด้วย “ช่างเถอะ ถ้าฟ้าไม่อยากให้พี่ถ่ายรูปด้วย พี่ไม่ถ่ายก็ได้ ฟ้าคงอยากให้พี่ชัชมาเป็นเจ้าบ่าวมากกว่าพี่!”“น้องฟ้าไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย น้องฟ้าแค่สงสัยว่าพี่กั้งอยากแต่งงานกับน้องฟ้าเหรอ? ถึงได้ใส่ชุดเจ้าบ่าวแบบนี้”“แล้วถ้าพี่บอกว่าใช่ล่ะ ฟ้าจะแต่งงานกับพี่ไหม? ถ้าพี่บอกว่าพี่อยากจูบฟ้าจนแทบบ้าแล้ว ฟ้าจะยอมให้พี่ทำไหม?” เออ! ทุกวันนี้เขาต้องรอให้เธอหลับก่อน ถึงจะเข้าไปนอนกอดเธอได้ ทุกคืนต้องลักลอบกอดเมีย หอมเมีย แล้วก็ทำได้แค่นั้น เช้าขึ้นมาก็ต้องรีบตื่นเพราะกลัวว่าเธอจะตื่นก่อนแล้วตกใจที่เห็นว่าเขาไปนอนกอดแบบนั้น“จูบเหรอ? แบบที่เอาปากกับปากมาชน
ตามจริงแล้ววันนี้กัมปนาทจะต้องพาฟาติมาออกไปหาชัชวินทร์ แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไปไม่ไหวแล้ว เพราะเธอไม่สบายตัว รู้สึกปวดท้องประจำเดือนจนไม่เป็นอันทำอะไร เห็นเมียนอนซมอยู่แต่บนโซฟา ไอ้พี่กั้งมันก็กระวนกระวายคล้ายจะเป็นบ้า ออกไปหายาแก้ปวดประจำเดือนมาให้เธอกิน ประคบประหงมเธอจนเกินเบอร์ อบอุ่นยิ่งกว่าถุงน้ำร้อนบนท้องฟาติมาตอนนี้เสียอีก“ดีขึ้นบ้างหรือยัง? ยังปวดท้องอยู่ไหม?” เขาเข้ามานั่งข้าง ๆ เธอ จับแขนเธอบ้าง ลูบแก้มเธอบ้าง ไม่ชอบเลยที่ต้องมาเห็นเมียนอนปวดท้องแบบนี้“ไม่ปวดแล้ว น้องฟ้าหายปวดแล้ว น้องฟ้าเพิ่งเปลี่ยนผ้าอนามัยไป ตอนนี้น้องฟ้าออกไปหาพี่ชัชได้หรือยัง?” ยังปวดอยู่ ลุกเดินแทบไม่ไหวด้วยซ้ำ แต่ว่าอยากออกไปเที่ยว อยากออกไปลองชุดเจ้าสาวที่ร้านพี่ชัช“ไม่จริงเลยสักนิด พี่เห็นอยู่ว่าฟ้ายังปวดท้อง ฟ้าเดินไปเข้าห้องน้ำจะไม่ไหวด้วยซ้ำ ต้องให้พี่อุ้มไปด้วยซ้ำ พักไปเล่นกับพี่ชัชก่อนนะ ค่อยไปวันหลังดีไหม?”“แต่พี่ชัชบอกว่าจะให้น้องฟ้าใส่ชุดเจ้าสาวถ่ายรูป!”“วันอื่นก็ได้ครับ”“แต่น้องฟ้าจะไปวันนี้! ถ้าน้องฟ้าตายล่ะ? ปวดท้องมาก ๆ อาจจะตายก็ได้นะ ถ้าน้องฟ้าตายก็จะไม่ได้ใส่ชุดเจ้าสาวสวย ๆ นะ!” ฟา
ตั้งแต่ที่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับฟาติมาวัยเจ็ดขวบ มีหลายสิ่งอย่างที่กัมปนาทต้องเรียนรู้ เขาต้องหาความรู้ใหม่ราวกับว่าตัวเองเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่มีลูกสาวอยู่ในวัยกำลังโต ถึงแม้จะพร่ำบอกฟาติมาอยู่หลายครั้งว่าความจริงแล้วเธออายุยี่สิบแปด เธอไม่ใช่เด็กเจ็ดขวบอย่างที่เข้าใจ เธอไม่จำเป็นต้องไปเรียนหนังสือ แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนลมที่เข้าหูซ้าย ทะลุออกหูขวาทุกวันฟาติมาก็ตกใจกับเรือนร่างของตัวเอง บางวันเธอเคยนั่งร้องไห้เพราะตกใจหน้าอกที่โตผิดหูผิดตา เคยถึงขั้นร้องกรี๊ดเพราะกลัวไรขนอ่อน ๆ ที่ตรงส่วนนั้น กัมปนาทต้องนั่งสอน นั่งคุย ต้องพะเน้าพะนออยู่ตลอด พอไม่ต้องนั่งวีลแชร์ฟาติมาก็ชอบวิ่งเล่นไปทั่วเพนท์เฮาส์ ทุกเช้าหลังอาบน้ำเสร็จจะต้องรีเควสให้กัมปนาททำผมทรงต่าง ๆ ที่เธออยากได้ ไอ้เขาที่ไม่เคยมีลูก ไม่เคยทำผมให้ใครเลยต้องมานั่งหัดถักเปีย หัดผูกผม แล้วที่เคยทำอาหารเป็นอยู่ไม่กี่อย่าง หนึ่งเดือนมานี้เขาหัดทำเพิ่มขึ้นมาจนทำเป็นหลายอย่างแล้วใช่…ตอนนี้ฟาติมาอยู่ในสภาวะความทรงจำถดถอยมาหนึ่งเดือนเต็มแล้ว“วันนี้เอาทรงอะไรครับ?” วันนี้กัมปนาทเหนื่อยแต่เช้า เพราะกว่าจะเล่นวิ่งไล่จับกับเด็กน้อยแ