Share

เยี่ยมร้าน

last update Last Updated: 2025-05-15 19:30:10

            “ทำไมฉันจะไม่อยากนั่ง ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรแบบนี้หรอก แต่ฉันไม่อยากไปกับคุณ” เมื่อไหร่เขาจะรู้ตัวสักทีว่าเธอรังเกียจเขานั่นแหละ คนใจร้ายใจดำ!

            “เหรองั้นค่อยโล่งใจหน่อย” สิงหราชยักไหล่ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว เขาจับกุญแจสตาร์ทรถ ก่อนจะขับออกไปด้วยจังหวะกระชากกระชั้นเพื่ออยากแกล้งคนตัวเล็ก

            “นี่ ขับเบาๆหน่อยสิ” นาราคุกรุ่นในใจ เธอแทบอยากกรีดร้องออกมา มือรีบกำสายเข็มขัดนิรภัยไว้ อยากจะหันไปด่า แต่เมื่อเห็นใบหน้าอารมณ์ดีของนายหัวของไร่แล้ว เธอก็ได้แต่เก็บอารมณ์ แช่งให้ตายในใจพอ ใช่ มีแต่เขานะที่ตาย ส่วนเธอจะรอดแล้วรอไปงานศพเขาทีเดียว!

           

            “นายหัวสะหวัดดีเจ้า เชิญเจ้า (นายหัวสวัสดีค่ะ เชิญค่ะ)” ในตัวเมืองเชียงใหม่ สิงหราชจอดรถยังหน้าร้าน ‘อิ่มใจ’ ซึ่งเป็นร้านขายของฝากที่มีสินค้าจากไร่ของเขา ความจริงสินค้าจากของธรภูมิกระจายไปทั่วทุกจังหวัด และมักเป็นอันดับต้นๆที่คนเลือกซื้อ ซึ่งเขาจะมาตรวจร้านค้าพวกนี้ทุกๆหนึ่งเดือน

            นาราเงยหน้ามองตึกอิฐแดงสองชั้นที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายของฝาก ด้านบนเป็นร้านกาแฟ มาเป็นครั้งแรก แต่หญิงสาวก็รู้สึกชอบร้านนี้เข้าอย่างจัง ภายในร้านตกแต่งไปด้วยไม้เลื้อยและบอนสีต่างๆวางไว้ทุกมุม คล้ายกับป่าเวลาเดินเข้ามา ทว่ากลับไม่รุงรังเลย เพราะมันสะอาดสะอ้านราวกับทุกอย่างถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติก

            “สวัสดีเจ้า นายหัว” แม่ม่องเจ้าของร้านแห่งนี้เมื่อเห็นร่างสง่าผ่าเผยเดินเข้ามา เธอก็หยุดบทสนทนาที่คุยกับลูกน้องไว้ รีบเข้ามาหาเขาทันที

            “ร้านเป็นยังไงบ้าง” นายหัวผู้เคร่งขรึมพยักหน้าน้อยๆ เดินเข้าไปด้านในร้าน คนที่อยู่ในร้านหันมองมาที่เขาเป็นตาเดียว ด้วยท่าทางดิบเถื่อน ใบหน้าหล่อเกินบรรยายทำให้คนสนใจได้ไม่ยาก อย่างเช่นหญิงสาวที่เดินลงมาจากชั้นสอง พอได้เห็นสิงหราชเธอก็รีบทัดผมไปด้านหลังด้วยความเขินอายทันที

            ไม่เห็นจะหล่อตรงไหน

            นาราบุ้ยปาก ถ้าผู้หญิงพวกนั้นมารู้ความร้ายกาจของเขานะ ไม่ค้านจะวิ่งหนีไป

             “ขายม่วนขนาดเลย คนซื้อปะเลอะปะเต๋อ  ส่วนหลายจะเป็นนักท่องเที่ยวเจ้า (ขายดีมากเลย คนซื้อเยอะ ส่วนมากจะเป็นนักท่องเที่ยวค่ะ)” แม่ม่องตอบอย่างกระตือรือร้น เพียงเห็นสิงหราชเธอก็ดีใจ เพราะนายหัวคนนี้ทำให้เธอกินดีอยู่ดี ต่างจากที่เธอเป็นแม่ค้าตลาดนัดจนๆสมัยก่อน

            “อืมดีแล้ว” สิงหราชพยักหน้า ดวงตาคมกวาดมองรายสินค้าในเชลล์ ก่อนจะพบว่ามันพร่องลงไปอย่างน่าพอใจ

            “แล้วอยากให้เอาอะไรมาขายอีกมั้ย” ร่างสูงหันไปถามแม่ม่องที่กำลังเดินตามแผ่นหลังใหญ่อย่างยินดี

            “แล้วแต่นายหัวเลยเจ้า ของที่มาจากไร่ธรภูมิ อะหยังกะเสี้ยงเจ้า ลูกค้ามักขนาด (แล้วแต่นายหัวเลยค่ะ ของที่มาจากไร่ธรภูมิ อะไรก็ดีหมด ลูกค้าชอบมาก)” เจ้าของร้านอิ่มใจยิ้มแป้น ไม่ว่าจะเอาอะไรมาขาย ของไร่ธรภูมิก็ขายดีทั้งนั้น ผู้คนรู้ว่าของที่มาจากไร่แห่งนี้คุณภาพดี

            ว่าจบแม่ม่องก็หันไปมองหญิงสาวที่มากับนายหัวผู้น่าเกรงขามด้วย “เออ ว่าแต่อี่น้องนี่ แฟนนายหัวสิงก่อ (เอ่อ ว่าแต่น้องนี่ แฟนหายหัวสิงมั้ย)”

            “ไม่ใช่ค่ะ เป็นคนงานเฉยๆ” นารารีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธ มองยังไงว่าเธอเป็นแฟนกับคนหน้าโหดนี่ ไม่ได้เข้ากันเลย ทว่าเหมือนแม่ม่องไม่ฟังเลยสักนิด

            “ป๊าด คืองามแต๊ งามว่า งามเนอะ ป้าก่ากึ๊ดว่าเป็นแฟนนายหัวเปิ้น (โห สวยมาก ป้าก็คิดว่าเป็นแฟนนายหัวเขา)”

            “ไม่ใช่หรอกค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันค่ะ” นารายิ้มแห้งๆ กระอักกระอ่วนใจขึ้นมา ตาคมของนายหัวไร่ธรภูมิเหลือบมองทางเธอ แต่นาราทำไม่รู้ไม่สน เดินไปรอบๆร้านแทน  ป้าเจ้าของร้านเดินตามเธอมาด้วย

            “ร้านสวยจังเลยนะคะ” คนตัวเล็กชวนคุย นอกเหนือจากขนมที่เป็นของพื้นบ้านจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ยังมีบอนไซหลายชนิดที่ตั้งไว้ให้มองอย่างสบายใจ ร่มรื่นจริงๆ

            “ใจ๊เจ้า แต่งเอง ไม้นี่ก่าเพาะไว้ที่สวนน่ะเจ้า งามแต๊ งามว่า(ใช่ค่ะ แต่งเอง ไม้นี่ก็เพาะไว้ที่สวนค่ะ สวยมากๆ” แม่ม่องยิ้มปริ่ม เห็นคนอื่นชมแบบนี้เธอก็ดีใจ

            “เย็นมากเลยค่ะ มาบ่อยๆคงจะดี” นาราชมไม่หยุดปาก เสียดายอำเภอที่เธออยู่ค่อนข้างไกล ไม่อย่างนั้นเธอคงมานั่งที่นี่บ่อยๆ

            “ข้างบนเป็นร้านกาแฟเจ้า(ข้างบนเป็นร้านกาแฟค่ะ)” เจ้าของร้านเหมือนนึกอะไรได้

            “เดี๋ยวนะเจ้า เปิ้นกึ๊ดขึ้นได้ รอสักกำเดียว (เดี๋ยวนะคะ ฉันพึ่งคิดขึ้นได้ รอแป๊บหนึ่งนะคะ)”

            แม่ม่องวิ่งไปยังชั้นบน นาราขมวดคิ้วมองตาม ไม่ถึงห้านาที เจ้าของร้านที่สวมชุดกระโปรงยาว เกล้าผมเป็นมวยก็วิ่งลงมา

            “อะไรเหรอคะ” นาราถามตอนที่แม่ม่องยื่นชุดบางอย่างมาให้เธอ พิจารณาแล้วเป็นชุดชาวเขาเผ่าม้งที่เธอเคยเห็นชาวบ้านใส่กัน

            “ชุดชาวบ้านเจ้า เปิ้นเอามาให้เฮาขาย มีหลายชุด เปิ้นเอาให้นายหัวกับอี่น้อง มีหลายไซส์ บ่ฮู้จะเม๊าะก่อ เปิ้นเลยอยากให้ตึงสองคนไปเปลี่ยนผ่อ (ชุดชาวบ้านค่ะ เขาเอามาให้ขาย มีหลายชุด เลยเอามาให้นายหัวกับน้องสาว แต่ไม่รู้ว่าจะพอดีมั้ย ฉันเลยอยากให้ทั้งสองไปเปลี่ยนดูค่ะ)” ว่าจบก็ยัดสองชุดนั้นใส่มือนารา คนตัวเล็กมองด้วยความสนใจ มองลวดลายหลากสีสันที่ถูกปักเป็นลายเรียงกันไป ชุดพวกนี้สวยก็จริงแต่...

            “หนูไม่เอาหรอกค่ะ”

            นาราโบกมือปฏิเสธ เพราะเธอรู้ว่าชุดเหล่านี้มีราคาพอสมควร ผ่านการถักทอมาอย่างดี แล้วเธอจะกล้าเอาของพวกเขาฟรีๆได้ยังไง

            “ไม่เป็นไรค่ะ เอาให้แค่นายหัวเถอะ”

            “บ่ได้กะ มากับนายหัวกะเต้าเป็นแขกของป้าด้วย ปะ ไป ไปซุบดู เชิญนายหัวเจ้า (ไม่ได้ค่ะ มากับนายหัวก็เป็นแขกของป้าด้วย ปะ ไป ไปสวมดู เชิญนายหัวค่ะ)” แม่ม่องยื่นมือไปทางนายหัวใหญ่ ก่อนจะมอบมันให้นารา นารามองคนตัวสูงแวบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะพยักหน้าให้เธอ บอกให้ไปเปลี่ยน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ตอนจบ

    นาราเดินขึ้นมาตามเนินเขาเรื่อยๆ แสงของพระอาทิตย์สาดส่องไปทั่วและสายลมที่พัดเอื่อยๆต้องผิวกายพลันทำให้เย็นสดชื่นราวกับได้เกิดใหม่ ปลดระวางความเหนื่อยล้าที่มีมาทั้งวัน หญิงสาวยิ้มร่าเมื่อคิดว่าขึ้นไปบนหน้าผาแล้วจะเจอใครคนหนึ่ง คน...ที่วันนี้คิดถึงเป็นร้อยครั้ง และใช่ เมื่อขึ้นมาก็เห็นเขายืนอยู่ก่อนแล้ว คนตัวเล็กคลี่ยิ้ม ด้านข้างของสิงหราชนั้นช่างดูดีเสียจริง หล่อเหลาราวกับรูปปั้น ไม่รวมผิวสีเข้มที่บ่งบอกว่าผ่านการแตกแดดมานมนาน เสริมให้บุคลิกของคนร่างสูงดูองอาจขึ้นไปอีก เธอไม่อยากเชื่อว่าวันหนึ่งคนคนนี้จะเป็นของเธอ ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ตรงหน้าแล้ว พร้อมกับยิ้มให้เธอด้วยความจริงใจ นาราวิ่งเข้าไปหาแขนที่อ้าออก หลับตาสูดเอากลิ่นหอมๆของชายคนรักเข้าปอด ซึ่งอีกคนก็เช่นเดียวกัน เขาประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมบาง ลอบดมกลิ่นหอมหวานจนชื่นใจ “เหนื่อยมั้ย” เสียงทุ้มทรงเสน่ห์เอ่ยอย่างเป็นห่วง ใครจะคิดว่านาราจะอึดขนาดนี้ ทำสวนไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย บ้ากว่าเขาตอนทำไร่ใหม่ๆอีกมั้ง แล้วคำตอบของเธอทำเขายิ้มออกมาอย่างไม่ยาก “ไม่เหนื่อย

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   รัก

    “แต่หนูไม่โกรธยายหรอกค่ะ แต่มาวันนี้ก็เพื่อบอกให้ยายรู้ว่าหนูจะไม่ทนอีกแล้ว ยายต้องรับผิดชอบในส่วนที่ยายทำ ถ้ายังหาเงินมาคืนสามีหนูไม่ได้ แน่นอนว่าบ้านหลังนี้กับที่ดินหนูจะยืดไปให้หมด” “นี่แก๊” ธัญญาหมดความอดทนจริงๆ ไม่คิดว่าหลานตัวเองจะเลวร้ายแบบนี้ เธอรู้ว่าตัวเองผิดที่เห็นแก่ตัวไม่ใช้หนี้ แต่เธอก็เอาเงินของเธอมาดูแลแม่ไง แม่มันไม่ดูแลยายก็ให้มันใช้หนี้ไปสิ ผิดตรงไหน คนเป็นป้าอยากพูดแบบนั้นทว่าพอเห็นสายตาเลือดเย็นของหลานสาว ก็ถึงกลับต้องหุบปากไป เพราะกลัวมันจะเพิ่มหนี้ให้เธอ “หนูมาบอกแค่นี้ล่ะค่ะ ขอตัว” หญิงสาวเดินออกมา เธอแทบจะล้มลงไปกับพื้นทว่าได้สิงหราชประคองตัวไว้ เธอพยักหน้าให้เพื่อบอกเขาว่าไม่เป็นไร ทว่าพอได้ขึ้นมาบนรถ ก็อดกลั้นไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด คนตัวใหญ่ดึงเธอเข้าไปกอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ ความอ่อนแอยิ่งถูกกระตุ้นไหลเป็นสาย บางทีโลกเราก็โหดร้ายเกินไป พยายามคิดในแง่บวกไว้ ปกปิดมันด้วยเหตุผลทุกอย่าง ทว่าพอเผชิญหน้ากับความจริงกลับเกินทนจนยากที่จะรับไหว “พี่อยู่นี่ ไม่เป็นไร” สิงหราชปลอบโยนคนต

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   เอาคืน

    รถกระบะคันเก่าวิ่งเข้ามาจอดกลางบ้าน ทำให้ธัญญาที่กำลังร้องไห้ราวกับจะขาดใจเงยหน้ามอง จากที่ราวถูกเหยียบย่ำหัวใจไปแล้ว หญิงวัยกลางคนยิ่งแหลกสลายเข้าไปกันใหญ่เมื่อเห็นหลานสาวของตนและผู้มีอิทธิพลในแถบนี้เดินเข้ามา และใช่ ลูกสาวเธอโดนจับก็เพราะพวกมัน “อีนารา! มึงยังเสนอหน้ามาอีกเหรอ” ธัญญาตะโกนดังลั่น ความโกรธเกรี้ยวของเธอทำให้ยายของนาราที่นั่งอยู่ข้างๆธัญญาลูบหลังลูกสาวเบาๆ นาราปรายตามองยายของตน หญิงใจร้ายที่ไม่เคยคิดบอกความจริงกับเธอ ที่ผ่านมาเธอใจดีมาก ทำดีกับยายมาโดยตลอดเพราะหวังว่าสักวันหญิงชราจะเห็นความดีแล้วรักเธอบ้าง ทว่าตอนนี้หญิงสาวได้รู้ว่าสิ่งที่ทำไปมันสูญเปล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยรักเธอในฐานะหลานเลย แม้ใจจะปวดหนึบ แต่ก็พยายามเก็บมันไว้ คงเห็นท่าไม่ได้ สิงหราชเลยกุมมือเธอ หญิงสาวส่ายหัวบอกเขาว่าไม่เป็นอะไร ใจเข้มแข็งพอแล้ว และส่วนหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ก็เพราะเขา “ป้าทำเหมือนโกรธหนู แต่หนูมากกว่าที่ต้องโกรธป้า” คนตัวเล็กตอบโต้กลับทันที “โกรธกูเรื่องอะไร!” ตอนนี้ธัญญาไม่วางมาดอะไรอีกแล้ว นังเด็กนี่มัน

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ทวงหนี้

    “ครับ เมียเอายังไงก็เอา แต่บอกก่อนได้มั้ยว่าจะไม่โกรธกัน” เขากลัวเมียหายไปนะ ถ้าเธอจากเขาไปทั้งไร่ต้องลุกเป็นไฟอย่างแน่นอน พลิกแผ่นดินหาไม่เจอก็จะหาอยู่แบบนั้น นาราหลุบมองคนที่ซุกอยู่บนอก ดวงตาดุๆ พลันทำให้ชายหนุ่มก้มหน้าลง เผลอใช้โอกาสนี้ซุกใบหน้าลงมามากกว่าเดิม นาราอึดอัดจนต้องขยับดิ้น เธอจิ๊ปากทีหนึ่ง “อื้อ!” เสียงอ้อนเอ่ยตามมา “บอกก่อนว่าจะไม่โกรธ” “ไม่” “ทำไมไม่” “ก็โกรธ” “แล้วทำยังไงถึงจะหายโกรธ” “ไม่รู้ ออกไปจากที่นี่มั้ง” วินาทีนั้นอ้อมแขนที่กอดเธออยู่รัดแน่นขึ้น นาราเกือบหายใจไม่ออก ทว่าต้องทำเก๊กเพราะกลัวเขาจะได้ใจ หญิงสาวเลยนิ่งไว้ “ไม่ให้ไป ไปสิ จะขังไว้ที่นี่เลย” ตัวเล็กดวงตาวาวโรจน์ “กล้าเหรอ?” “ไม่กล้า” เสียงหงอยเอ่ย นารานิ่งไป มองคนตัวใหญ่ที่กำลังไซ้หัวลงบนหน้าอกเธอเหมือนเด็ก “งั้นเอาไร่มั้ย เอาไร่ส้มสักร้อยไร่ หรือตรงที่น้องทำ พี่ยกให้หมดเลย” “ยกให้แฟนเก่ากับคุณปราณนารีสิ มาให้ฉันทำไม”

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   ยอม

    “น้ำ” เสียงแหบแห้งและฝืดเคืองครางออกมา ใช่ ตอนนี้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในทะเลทรายอันแสนแห้งแล้งและร้อนผ่าวแผดเผาอยู่ภายใต้พระอาทิตย์ แล้วในตอนนั้นเองที่เปลือกตาสีไข่เปิดขึ้น ฝ้าเพดานที่คุ้นเคยทำหญิงสาวกะพริบตาปริบๆ แรงกอดรัดช่วงตัวทำให้เธอเอี้ยวตัวมองคนที่กอดเธอไว้ สิงหราช นี่เขา พาเธอออกมาจากป่าได้จริงๆ “ตื่นแล้วเหรอ” ร่างสูงตื่นขึ้นมาพอดี เขายิ้มให้เธอ เป็นรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นเลยในชาตินี้ ยิ่งทำให้อึ้งไปกว่านั้นเพราะเขาโน้มหน้าลงมาจูบกระหม่อมกันเอ่ยคำพูดแปลกประหลาด “เมียตื่นแล้วเหรอครับ” ราวกับสติได้หลุดล่องหายไป เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ “คุณว่ายังไงนะ” “เมียตื่นแล้ว อยากได้อะไรมั้ย” แม้จะยังมึนงง ทว่านาราตอบอย่างไม่ลังเล เอาไว้ก่อนเรื่องเขาเรียกเธอว่าเมีย “น้ำ” เพียงเท่านั้นเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับเอามันมาให้เธอ ร่างสูงนั่งลงข้างเตียง ประคองเธอขึ้นนั่ง นาราดื่มน้ำด้วยความกระหาย ก่อนดวงตาจะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าควรรู้สึกยังไง มันผสมปนเปกันไป

  • นางบำเรอนายหัวสิงห์   อยู่ด้วยกัน

    “นายหัว!” นงรักตาเบิกกว้างเมื่อเห็นคนสูงใหญ่ผู้น่าเกรงขามในไร่แบกหญิงสาวตัวเล็กไว้บนหลังเดินเข้ามา พอมองสภาพของทั้งสองคนหญิงแม่บ้านก็ต้องตกใจ อะไรกันเนี่ย ทำไมดำไปทั้งตัวแบบนี้ มิหนำซ้ำท่อนขาและเท้าเปลือยเปล่าของสิงหราชยังเต็มไปด้วยบาดแผลราวกับโดนของร้อนจี้มา หรือว่าที่คนงานพูดกันว่าในป่ามีเพลิงไหม้ เกี่ยวข้องกันนายหัวและหญิงสาวตัวเล็กที่ไม่ได้สตินี่เหรอ เกิดอะไรขึ้น ใครบังอาจทำนายหัวเธอ มันเป็นใคร! วินาทีนั้นราวกับนายหัวของไร่เป็นคนบ้าใบ้ สิงหราชไม่พูดอะไร อุ้มนาราขึ้นมาบนบ้าน ดวงตาชายหนุ่มเหม่อลอย และกว่าจะเอ่ยออกมาก็ปาไปหลายนาที “ป้าเรียกหมอให้หน่อยได้มั้ยครับ” เหนื่อยจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็ยังอยากเห็นอีกคนไม่เป็นอะไร “โถ่ ได้ค่ะ” นงรักแทบร้องไห้ เธอรีบกุลีกุจอโทรไปเรียกหมอที่เป็นคนสนิทกับครอบครัว แล้วเวลานั้นเองที่ชายอีกคนโผล่มา “พี่สิง” “มึงไม่ใช่น้องกู...” สิงหราชมองไปที่น้องชายของตน ก่อนหน้านั้นเขาพอรู้มาบ้างว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่คิดว่ามันจะทำแรงขนาดนี้ “มึง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status