“อะไรก็ไม่ได้”
ใบหน้าสวยแดงก่ำขณะย้ำกับเขาด้วยท่าทางขุ่นเคือง ธิติอยากจะบอกว่าคนที่ควรหงุดหงิดมันเขามากกว่าเสียอีก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาต้องระงับมือไม้ตัวเอง ร่างกายเบื้องล่าง รวมทั้งจิตใจที่กำลังสั่นคลอนสักแค่ไหน
“ถ้าไม่ทำ มันไม่หายง่ายๆ หรอกนะ”
ธิติกัดฟันบอกเสียงเข้มจ้องกลับตาดุ บ่งบอกว่าไม่ต้องการถอยเช่นเดียวกัน
“ไม่”
ดวงตาสองคู่จ้องกันนิ่งเพียงนิด เมื่อคนตัวโตตัดสินใจละมือออกอย่างกะทันหันพร้อมผละออกจากร่างสวยแล้วกอดอกมองอีกฝ่ายราวยืนยันคำเดิม
“แค่นี้มันไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย” เสียงเข้มย้ำ
ใจดวงน้อยวูบหายทันทีเมื่อไอร้อนผ่าวที่โอบร่างห่างออกไป ผิวกายระยิบระยับด้วยความซ่านระริกอีกครั้ง เฌอเอมมองคนที่อยู่ใกล้ทว่าพยายามทำตัวเหมือนนั่งห่างกันลิบอย่างโมโหระคนเจ็บลึกในร่าง ตอนนี้ทุกอณูผิวเนื้อจนถึงกระดูกของเธอกำลังกรีดร้อง อาการแปลบปลาบจนสั่นไปทั้งกายแต่ด้วยทิฐิที่มี ทั้งยังคิดว่าตนเองยอมและเผลอตัวกับเขามากจนเกินไปแล้ว หากจะให้วอนขอคงไม่อาจเปล่งคำพูดได้ หญิงสาวรีบหลุบตาลงต่ำ ไม่ยอมมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังเชิญให้เธอกระโดดเข้าใส่เขา พยายามดึงเสื้อผ้าตัวเองลงทว่าก็ไม่ช่วยอะไรมากนักเพราะความยืดของเนื้อผ้า แล้วหาทางคลานไต่กลับไปยังเบาะของตนทั้งที่ร่างกายร้าวรวดจนต้องครางผะแผ่ว ขยับขาเมื่อไรอาการเสียวแปลบก็พุ่งเล่นงานทันทีจนทรุดลงในที่สุด
ชายหนุ่มกัดฟันมองตามร่างสั่นเทาซบซุกอยู่กับเบาะตรงข้าม ขณะที่เรียวขาขาวยังพาดมาทางฝั่งเขา โดยกระโปรงตัวสวยที่ปิดอะไรไม่มิดแทบจะเปิดเปลือยทุกอย่าง ดูก็รู้ว่าเธอไม่อาจทำอะไรหรือมัวเขินอายได้ นอกจากกอดตัวเอง จิกทึ้งผิวเนื้อนวลไปทั้งเนื้อตัวจนเขาสะท้อนใจ ท้ายที่สุดธิติก็จำต้องทำในสิ่งที่เขาไม่เคยนึกถึงว่าจะทำกับผู้หญิงคนนี้ แต่จะว่าไปเรื่องราวในคืนนี้ก็เกินคาดมากหลายขั้นแล้ว
ร่างสูงใหญ่โน้มไปหาหญิงสาว อุ้มร่างสวยให้สะโพกวางบนเบาะที่เธอนั่งอย่างเต็มที่ แล้วปรับที่นั่งเอนลงเพิ่มพื้นที่ รั้งซับในชิ้นเล็กของเธอลงต่ำจนพ้นปลายเท้า พร้อมทั้งยกขาเรียวสวยทั้งสองข้างออกให้ห่างจากกัน
“จะทำอะไร” อีกฝ่ายผวา สีหน้าหวาดหวั่น
“เอาน่า ไม่ใส่อะไรเข้าไปหรอก”
ชายหนุ่มพูดห้วนๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเพราะตนเองก็ใช่ว่าจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขาหากต้องการขึ้นมาแล้วข่มลำบากยิ่งนัก แต่ธิติก็จำต้องฝืนเอาไว้
ใบหน้าคมก้มต่ำลงไปโดยไม่หยุดคิดแม้แต่นิด ได้ยินเสียงอุทานแปลกใจจากหญิงสาวพร้อมกับริมฝีปากและจมูกคมฝังลงบนความนุ่มชุ่มชื้น ชายหนุ่มบรรจงเอาใจใส่หากก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงเพราะรู้ว่าตนเองไม่สามารถทำสิ่งใดได้มากกว่านี้ ปลายลิ้นอุ่นลูบโลมเร่งระรัว ก่อนจะล่วงลึกล้ำรุกชนิดแทบไม่หยุดหายใจ
เสียงหวานครวญพร่าผะแผ่ว ก่อนจะค่อยๆ แรงขึ้น ร่างสวยหอบสะท้อนสะท้าน สะโพกลอยสูงโดยไม่รู้ตัว มือบางสองข้างวางกำแน่นบนกลุ่มผมสั้นที่สลวยและหนา กดอีกฝ่ายประชิดแทบจะกลืนกินเธอได้เลยทีเดียว เวลานี้คนที่ได้ชื่อว่านางฟ้า ทั้งยังมักจะทำตัวถือดีอยู่เสมอไม่นึกถึงสิ่งใด นอกจากปลายลิ้นอุ่นกับริมฝีปากร้อนที่กำลังมอบไฟเผาผลาญในร่างเธอ ลืมตัวลืมใจ ลืมว่าความจริงแล้วทั้งคู่มองหน้ากันไม่เคยติดเลยสักครั้งตลอดสี่ปีที่เรียนที่เดียวกัน
ธิติกับเฌอเอมอยู่คนละคณะ คนละกลุ่ม แม้จะต่างก็รู้จักกันและกันดีแต่เฌอเอมวางตัวห่างเหินกับชายหนุ่มเสมอ รวมทั้งเขาเองก็ไม่เคยแสดงท่าทีว่ารู้จักหรืออยากเป็นเพื่อนกับเธอ ทั้งที่เขาเป็นแฟนเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มของเธอ เพราะเบื้องหลังของทั้งคู่เป็นสิ่งที่เฌอเอมมองว่าชายหนุ่มอยู่คนละชั้นกับเธอ
ขณะที่ปรนเปรอหญิงสาวอยู่นั้นธิติอดไม่ได้ที่จะเหลือบตามองคนที่กำลังร้องเบาๆ ทั้งยังตอบรับเขาอย่างร้อนแรงแม้ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเพียงภายนอก ทั้งที่รู้แก่ใจว่าที่อีกฝ่ายเป็นแบบนี้เพราะฤทธิ์ยาก็ตาม ทว่ามองแล้วชายหนุ่มกลับเป็นฝ่ายตะลึงไปเอง ทั้งปากเขายังเร่งร้อนหนักขึ้น ด้วยใบหน้างดงามที่กำลังกัดริมฝีปากตัว ตาคู่สวยปรือพริ้มเหลือบลงมามองสบกับเขา ขณะที่คิ้วยังขมวดมุ่น แต่สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความเต็มอกเต็มใจ พร้อมเสนอร่างให้เขาเต็มที่ ราวกับของขวัญล้ำค่าในความรู้สึกของธิติ เขาไม่คิดว่าเฌอเอมจะร้อนแรงเซ็กซี่กระตุกใจเขาแปลกๆ อย่างไม่เคยมีใครทำได้
ด้วยความที่หญิงสาวเป็นนางแบบชุดชั้นในดัง ธิติรู้ว่ารูปร่างเธอเซ็กซี่น่ากิน ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางได้ตำแหน่งนางฟ้าประจำแบรนด์มา ทว่าความรู้สึกภูมิใจอยู่ลึกๆ ในแบบที่เขาไม่เคยเป็นกับใครนี่ต่างหากที่ทำให้ธิติพยายามส่งนางฟ้าคนสวยอย่างถึงอกถึงใจแม้ว่าจะแตะต้องได้เพียงปลายลิ้นกับริมฝีปากก็ตาม ปลายนิ้วแข็งแกร่งวางลงพลิ้วไหวเร่งแรงช่วยเสริมด้วย ทำเอาร่างสวยเกร็ง ปลายเท้าจิกเข้าหากัน พร้อมมือบางก็ยิ่งทึ้งผมชายหนุ่มหนักขึ้น ขาเรียวขยับดิ้นรนทั้งสองข้าง สุดท้ายเรือนร่างสวยก็สะท้านเฮือก ทว่าเสียงหวีดร้องนั้นถูกธิติขยับกายขึ้นมาปิดด้วยจูบล้ำลึก โดยที่ปลายนิ้วแกร่งยังไม่หยุดแตะไล้ ร่างกายของเฌอเอมก็สั่นระรัวแรงอยู่ครู่หนึ่งจนค่อยๆ ผ่อนลงเหลือเพียงอาการหอบหนักๆ
เมื่อปฏิกิริยาร้อนแรงคลายลงชายหนุ่มจึงผละจูบออกมา ตาคู่คมสบเข้ากับดวงตาคู่สวยล้ำลึกที่เพิ่งเปิดขึ้นเช่นกัน ทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไร จนเมื่อชายหนุ่มกำลังจะผละร่างห่างออกไปนั่นแหละเฌอเอมจึงอุทานเบาๆ
“อุ๊ย...”
สายตาสองคู่ก้มลงมองมือบางที่กำอยู่ตรงอกเสื้อของชายหนุ่ม หากแต่สาบเสื้อถูกดึงกระตุกจนกระดุมหลุดหายไปไหนไม่รู้ ธิติเหลือบขึ้นสบตาหญิงสาวก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าเชิดไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งที่ต่างก็รู้ดีกว่าช่วงที่เธอทุรนทุรายแล้วเขาผละจากส่วนล่างขึ้นมาจูบนั้น เธอดึงทึ้งเสื้อเขาแทนผมจนกระดุมหลุด
ในเมื่อเห็นว่าคงไม่ได้รับคำขอโทษร่างสูงจึงถอยออกไป แต่มือบางที่ตามมาคว้าแขนเขา ทำให้ชายหนุ่มหันไปมองเป็นคำถาม ทว่าสีหน้าลำบากใจเหมือนจะพูดแต่ไม่ยอมพูด พร้อมปากอิ่มสวยที่เผยอก่อนจะกัดริมฝีปาก ดวงตาสีน้ำเงินล้ำลึกฉ่ำหวานที่ยังไม่คลายลงทำให้ธิติรู้สึกถึงหายนะของจริง
=====
“อะไรก็ไม่ได้”ใบหน้าสวยแดงก่ำขณะย้ำกับเขาด้วยท่าทางขุ่นเคือง ธิติอยากจะบอกว่าคนที่ควรหงุดหงิดมันเขามากกว่าเสียอีก เธอไม่รู้หรอกว่าเขาต้องระงับมือไม้ตัวเอง ร่างกายเบื้องล่าง รวมทั้งจิตใจที่กำลังสั่นคลอนสักแค่ไหน“ถ้าไม่ทำ มันไม่หายง่ายๆ หรอกนะ”ธิติกัดฟันบอกเสียงเข้มจ้องกลับตาดุ บ่งบอกว่าไม่ต้องการถอยเช่นเดียวกัน“ไม่”ดวงตาสองคู่จ้องกันนิ่งเพียงนิด เมื่อคนตัวโตตัดสินใจละมือออกอย่างกะทันหันพร้อมผละออกจากร่างสวยแล้วกอดอกมองอีกฝ่ายราวยืนยันคำเดิม“แค่นี้มันไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย” เสียงเข้มย้ำใจดวงน้อยวูบหายทันทีเมื่อไอร้อนผ่าวที่โอบร่างห่างออกไป ผิวกายระยิบระยับด้วยความซ่านระริกอีกครั้ง เฌอเอมมองคนที่อยู่ใกล้ทว่าพยายามทำตัวเหมือนนั่งห่างกันลิบอย่างโมโหระคนเจ็บลึกในร่าง ตอนนี้ทุกอณูผิวเนื้อจนถึงกระดูกของเธอกำลังกรีดร้อง อาการแปลบปลาบจนสั่นไปทั้งกายแต่ด้วยทิฐิที่มี ทั้งยังคิดว่าตนเองยอมและเผลอตัวกับเขามากจนเกินไปแล้ว หากจะให้วอนขอคงไม่อาจเปล่งคำพูดได้ หญิงสาวรีบหลุบตาลงต่ำ ไม่ยอมมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังเชิญให้เธอกระโดดเข้าใส่เขา พยายามดึงเสื้อผ้าตัวเองลงทว่าก็ไม่ช่วยอะไรมากนักเพราะความย
“ช่วย”เขาตอบสั้นๆ แล้วพลิกให้หญิงสาวเป็นฝ่ายเอนไปนั่งบนเบาะ โดยร่างสูงกำยำตะแคงแนบกายอยู่ข้างๆ แล้วอาศัยความเร็วปล่อยมือที่โอบอีกฝ่ายเลื่อนปรับเบาะลงไปนอน พร้อมกับใบหน้าหล่อคมตามลงไป ก่อนจะแนบปากได้รูปลงไปจูบกลีบปากอิ่มหอมหวานจนเขาแปลกใจที่นึกพอใจ ทั้งที่เวลาปกติเขาจะไม่ชอบหน้ากับปากเชิดๆ หยิ่งราวเจ้าหญิงของเธอสักนิดเฌอเอมประท้วงในลำคอเมื่อถูกจูบ ทว่าพออีกฝ่ายบดชิดไล้เลียกลีบปากเธอชั่วอึดใจเท่านั้น เสียงครางพึงพอใจก็ตามมา ด้วยร่างกายของกำลังเรียกร้องถึงการสัมผัสจากร่างกายที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นตึง หญิงสาวมั่นใจว่าแม้จิตใจเธอจะปฏิเสธแข็งขืนสักเพียงใด ต่อให้คนตรงหน้าเป็นโจชัวร่างกายของเธอก็จะยินยอม เพราะการครอบงำของฤทธิ์ยาที่รุนแรงราวกับจะล้มผู้ชายตัวโตๆ ให้เข่าอ่อนทันทีที่มันออกฤทธิ์ เฌอเอมไม่แปลกใจเลยที่ตอนนี้ร่างกายของเธอพร้อมยิ่งกว่าพร้อม ทั้งที่ไม่เคยผ่านช่วงเวลาหวามหวานแบบนี้มาก่อนในชีวิตก็ตามมือหนาค่อยๆ ละจากข้อมือสองข้างของหญิงสาว ขณะเคลื่อนไปเกาะกุมทรวงอวบอิ่มที่เขารู้สึกว่าใหญ่ล้นมือกว่าตอนมองด้วยตาเปล่า โดยยังมอบจูบคลอเคลียกับปากสวยไม่ห่าง พอมือของเขาเคล้าคลึงเบาๆ ก็เห
ธิติพยายามจับมือไม้หญิงสาวให้อยู่นิ่ง อีกมือก็รั้งชุดสวยลงปกปิดสิ่งล่อตาล่อใจ โดยไม่รู้เลยว่าการที่ร่างสูงกำยำของเขาโน้มมาหา มือหนาจับต้อง และลมหายใจร้อนผ่าวที่ตกกระทบผิวเชิญชวนให้เฌอเอมโผเข้าหามากแค่ไหน หญิงสาวมองอีกฝ่ายตาวาวโดยไม่รู้ตัว ร่างกายร้อนซ่านมากขึ้นเรื่อยๆ สำนึกและสติที่พอจะสะกดจิตใจเลือนราง ความต้องการพุ่งสูงพล่านไปทั่วเรือนร่าง เมื่อชายหนุ่มปล่อยมือบางและกำลังจะผละถอยออกเพราะเห็นเธอหยุดนิ่ง แขนเรียวกลับยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งเป็นเพราะชายหนุ่มเคลื่อนถอยกลับมาที่เบาะตนเองจึงเป็นการพาคนที่โถมเข้าหาตามมาด้วย ร่างสวยจึงไปเกยอยู่บนตักแกร่ง นวลเนื้อที่เบียดลงมาหาทำเอาชายหนุ่มนิ่งขึง แต่ที่น่าตกใจกว่าคือริมฝีปากอิ่มสวยที่ทาบทับบนปากได้รูปของเขาคนสองคนมองสบตากันนิ่งนานในระยะประชิด แววตาคู่สวยหวานลึกซึ้งเพราะฤทธิ์ยา ในขณะที่ตาคู่คมเต็มไปด้วยความสับสน ประหลาดใจ ไม่คาดคิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้สมองเขายังเต็มไปด้วยความแปลกใจแต่ชายหนุ่มก็ยังมีสติมั่นคง ถึงร่างกายกับจิตใจจะคลอนแคลนลงเพราะความหอมละมุนที่โอบล้อมกับเรือนร่างสวยที่เบียดคลอเคลียอยู่บนตักก็ตาม หลังจากคนที่ทาบปากแนบปากเขานิ่งอ
ธิติ วัชรวิญญู หรือ แทน เหลือบมองสาวสวยที่กำลังหอบหายใจหนักขณะความกังวลเริ่มมาเยือน เขานั่งอ่านหนังสือพิมพ์รอริกะสาวที่นัดไว้อยู่ตรงโถงล็อบบี้และสังเกตเห็นเธอ ตอนแรกแค่คุ้นตาแต่พอจ้องตามจึงจำได้ คิดว่าทำเหมือนคนไม่รู้จัก ไม่ทักทายเหมือนทุกๆ ครั้งดีกว่า ริกะก็โทรเข้ามาขอให้รออีกสักพัก และเขาเห็นชายที่ก้าวตามเฌอเอมอย่างเร่งร้อนมีท่าทีคุกคามและดันเธอไปตรงมุมอับของต้นเสา ธิติจึงตัดสินใจบอกปัดริกะว่าเอาไว้นัดกันใหม่ จากนั้นจึงวางสายแล้วให้เจ้าหน้าที่เอารถเขามารอด้านหน้า ก่อนจะเดินตามไปในมุมนั้น“เอมพักที่ไหน”ชายหนุ่มหันมาใส่ใจคนข้างกาย เมื่อขับรถพ้นสถานที่จัดงานเลี้ยงหลังจบแฟชั่นมาพักหนึ่ง เชื่อว่าหากเธอยังจำเขาได้ หมายความว่ายังมีสติอยู่“โรงแรม...”น้ำเสียงหวานที่ตอบเขาดูพร่าจนน่าหวั่นใจ แต่ก็ยังดีที่เธอพักที่เดียวกับตน จะว่าไปบรรดานางแบบหลายคนก็พักที่นั่น รวมทั้งริกะด้วยชายหนุ่มไม่คิดหันไปสบตาคนข้างๆ เพราะแววตาของเฌอเอมที่มองสบขณะจับแก้มเขาก่อนจะขึ้นรถมานั้นดูราวเรียกร้องวิงวอนอย่างที่เขาไม่เคยเห็น ทำเอาลมหายใจสะดุดไปอึดใจทีเดียว ปฏิกิริยาราวโดนวางยาปลุกอารมณ์ของเธอ ทำให้ธิติคิดหาทางอ
“หึๆ ผมไม่ได้เล่น ผมเอาจริง ช่วยไม่ได้ ในเมื่อคุณไม่เปิดโอกาสให้ผมเลย และผมก็ไม่ใช่คนที่จะยอมเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวเสียด้วย”ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม เท่ากับยอมรับกรายๆ ว่าตั้งใจวางยาเธอ มือหนาประคองข้างแก้มนุ่มนิ่มตั้งใจจะประทับจูบลงไปบนริมฝีปากอิ่ม แม้เธอจะพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่ร่างระหงสั่นเทาตกอยู่ในอ้อมกอดเขาจนยากที่จะหนีแล้วโจชัว บลายเดนท์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังอลิซเซียตั้งแต่เริ่มต้น เขาเป็นคนพาเธอก้าวเข้ามาสู่วงการแฟชั่นระดับโลก เป็นคนดูแลเธอพร้อมๆ กับฐานะคนรัก หลังจากขอคบกับหญิงสาวเมื่อเธอเป็นนางแบบแถวหน้าของวงการ ทว่าช่วงเวลาแสนหวานนั้นมีระยะเวลาเพียงหนึ่งปี ทั้งคู่คบหากันไม่นานวิมานหวานก็พังครืนเมื่อโจชัวมีผู้หญิงอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิต และอลิซเซียก็เป็นฝ่ายถอยออกมาก่อนที่เธอจะได้เป็นนางฟ้าของแบรนด์ดัง ด้วยความโดดเด่นของใบหน้าหวานแบบไทยผสมผสานกับความคมสวยจากเชื้อสายกรีกที่มีครึ่งหนึ่งในสายเลือด ดวงตาสีน้ำเงินครามค่อนข้างเข้มคมโตทรงพลังล้ำลึก รูปร่างระหงได้สัดส่วนงดงามสมบูรณ์ เรียกได้ว่าเธอมาถึงจุดนี้ด้วยตนเองและดูแลตัวเองมาตลอดเวลาสามปีที่หันหลังให้โจชัว“อย่านะ
ร่างระหงเฉิดฉายในชุดชั้นในที่ออกแบบหรูหรา มีอัญมณีประดับบนเนื้อผ้าลูกไม้สีขาวตามแนวลวดลายลูกไม้ พร้อมผ้าซีทรูโปร่งบริเวณเนื้อหน้าท้อง มีเนื้อผ้าหนาปกปิดส่วนที่ควรปิดซ้อนทับด้วยลูกไม้อีกชั้น ส่งให้ชุดขาวบริสุทธิ์บนผิวเนื้อนวลตาดูเซ็กซี่เย้ายวน เรียกร้องให้สายตาทุกคู่มองด้วยความชื่นชม ช่วงจังหวะการเดินมั่นใจคละเคล้าด้วยดนตรีเร้าใจที่มีนักร้องขับขานไปพร้อมกับนางแบบบนเวทีได้อรรถรสสำหรับผู้รับชมเต็มอิ่มมากขึ้นในมุมหนึ่งสายตาร้อนแรงจ้องเรือนร่างระหงงามราวหงส์ขาวบนเวทีอย่างไม่ปิดบัง รอยยิ้มมุมปากหยักยกขึ้นอย่างย่ามใจแฟชั่นโชว์สุดอลังการและตื่นตาตื่นใจของชุดชั้นในแบรนด์ดังของอเมริกาที่มีเหล่านางแบบซึ่งขนานนามว่า ‘นางฟ้า’ เดินอวดโฉมดำเนินไปและดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้ตลอดงานกระทั่งทุกอย่างจบลงอย่างสวยงาม ท่ามกลางความพึงพอใจของทุกฝ่ายในงานเลี้ยงหลังจบงานแฟชั่น อลิซเซีย พาร์ท บอกลาเพื่อนสาวสองคนซึ่งเป็นนางฟ้าเหมือนตนเองก่อนแยกตัวออกมา เธอไม่ได้มีแฟนหนุ่มมารอรับเหมือนสองสาว ไม่มีแม้กระทั่งผู้จัดการ จึงต้องเดินทางกลับคนเดียว หญิงสาวดูแลตัวเองมาได้สามปีหลังจากก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนางฟ้าของแบรนด์