Masukณ สถานการณ์ปัจจุบัน...
“เพื่อนร่วมงานผมบอกมาว่าคุณเปิดประตูไม่ได้”
ชายชาวเอเชียบอกเพื่อยืนยันตัวเอง อาจจะเพราะสายตาของเธอดูสงสัย
ได้ยินอย่างนั้นนาเดียก็สูดหายใจเข้าอย่างแรง ทว่ายังไม่ทันพูดอะไรเสียงผู้จัดการของเธอก็ดังขึ้น
“เธอออกมานานแล้วนะนาเดีย”
นาเดียหันมองพร้อมกับสะดุ้งตกใจ ทว่ายังไม่ทันมีใครขยับตัวเสียงปืนกระทบบางอย่างหลายนัดก็ดังขึ้นที่ด้านหลัง หญิงสาวถึงกับตัวเย็นเฉียบหน้าซีดเผือด เธอสบตากับผู้จัดการอยู่พอดี อีกฝ่ายมองเธอตาขวางแล้วขยับเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“ไม่นะ ช่วยฉันด้วย”
ร่างเล็กรีบขยับตัวไปข้างหลังผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆ พร้อมกันนั้นการ์ดหลายคนก็วิ่งมาทางนี้ ชายหนุ่มขวางตัวเธอเอาไว้เมื่อผู้จัดการจะดึงแขนเธอ
“อย่ายุ่งกับเธอจะดีกว่า”
ชายหนุ่มชาวเอเชียบอก
“เธอเป็นคนของที่นี่ และผมเป็นคนดูแลเธอ”
ผู้จัดการของเธอโต้กลับเสียงเข้มด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“มีอะไร”
การ์ดคนหนึ่งถามขึ้น ในขณะที่คนอื่นๆ วิ่งเลยไปยังประตูฉุกเฉินด้านหลัง
“ฉันจะเอาตัวเธอกลับไปที่ห้องแขกวีไอพี”
เขาบอกแต่นาเดียพยายามหลบหลังผู้ชายอีกคนอย่างไม่ยินยอม
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมเสียงโวยวาย ทั้งยังค่อยๆ ใกล้เข้ามาอีกด้วยทำให้การ์ดคนนั้นต้องรีบไปดู ไม่มีเวลาสนใจเหตุการณ์ตรงนี้ ขณะที่ผู้จัดการของเธอพยายามเข้ามาคว้าแขนเธอให้ได้
“ไปกับฉันเดี๋ยวนี้นาเดีย”
ชายหนุ่มตรงหน้าเธอป้องกันไม่ให้ผู้จัดการจับเธอได้ จนเขาโมโหแล้วอยู่ๆ ก็ชักปืนออกมาจากด้านในเสื้อสูท ชี้ใส่หน้าอกชายชาวเอเชียด้วยท่าทางดุดัน
“ยุ่งนัก อยากตายหรือไง”
นาเดียมองผู้จัดการวงของตนราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน เธอไม่รู้ว่าเขามีปืนติดตัวด้วยซ้ำ
ผู้ชายตรงหน้าเธอยืนนิ่ง ไม่ได้มีท่าทางจะต่อสู้ขัดขืนอีก ทำเอาหญิงสาวกลัวอย่างที่สุด เธอจับแขนเขาแน่น ไม่อยากกลับไปกับผู้จัดการ
“มานี่นาเดีย”
“ไม่”
เธอส่ายหน้าปฏิเสธออกไป
“ฉันบอกให้มานี่”
ขณะนั้นเหมือนจะมีคนโผล่เข้ามาจากทางด้านหลัง ผู้จัดการของเธอจึงเสียสมาธิหันไปมอง ผู้ชายที่เธอขอความช่วยเหลือจึงอาศัยจังหวะนั้นดันมือที่เขาจับปืนขึ้น ปืนถูกยิงขึ้นด้านบนในทันใด้ พร้อมกับผู้ที่เข้ามาใหม่ตะโกนขึ้น
“หยุดอย่าขยับ”
ในเวลาเดียวกันการ์ดของคลับจากด้านในก็มาเพิ่มอีกเช่นกัน พวกเขายิงผู้บุกรุกในทันทีโดยไม่สนใจสิ่งใด ทำเอาทุกคนในบริเวณนี้ต้องรีบก้มหลบอย่างกะทันหัน ชายชาวเอเชียถูกผู้จัดการของเธอกระแทกร่างชนกับผนังขณะที่ต่างก็หลบกระสุน
นาเดียย่อตัวลงด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว ค่อยๆ ขยับจะหนีไปยังห้องน้ำแต่ถูกผู้จัดการกระโจนมาดึงแขนเอาไว้ ทว่าผู้ชายคนนั้นก็ตามมาใช้ไหล่กระแทกร่างสันทัดให้ล้มลงจนปืนในมือหลุด จากนั้นเขาก็หันมาทางเธอ
“หนีไปจากตรงนี้ก่อนเร็ว”
ปัง!
เสียงปืนดังใกล้ๆ พร้อมกับนาเดียเห็นว่าชายที่ช่วยเธอผงะเล็กน้อย หญิงสาวหันไปยังจุดกำเนิดเสียงก็เห็นว่าผู้จัดการของเธอเก็บปืนของเขาได้และตอนนี้ก็กำลังเล็งมาทางเธอ
“มากับฉัน...โอ๊ะ!”
ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นมาอีกสองครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน หนึ่งมาจากคนที่บุกเข้ามา อีกที่คือปืนในมือผู้จัดการของนาเดีย
ร่างเล็กเซถอยหลังแล้วทรุดฮวบลงโดยที่ร้องไม่ออกด้วยซ้ำ ความร้อนแข็งกระด้างรุนแรงกระแทกทะลุเข้ามาในช่องท้องของเธออย่างไม่ทันได้ตั้งตัว หญิงสาวเหลือบมองผู้จัดการเห็นเขาจับแขนตนเองข้างที่ถือปืนซึ่งตกลงราวไม่มีเรี่ยวแรง เลือดสีแดงค่อยๆ ไหลออกมาบนแขนเขา ขณะที่ใครคนหนึ่งกระโจนเข้ามารวบตัวเขาไว้แล้วแย่งเอาปืนไป
ทั้งที่คิดว่าตนเองมีสติรับรู้ ทว่าทุกอย่างที่เห็นกลับเลือนรางลงเรื่อยๆ ตาของเธอหนักอึ้ง ร่างทั้งร่างแทบขยับไม่ได้ สิ่งสุดท้ายที่มองเห็นคือใบหน้าคมของชายชาวเอเชียที่เป็นคนบอกว่า ‘เขามาช่วยเธอ’
=====
เสียงเล็กสั่นตะกุกตะกัก ตัวเธอเกร็งจนต้องหยุดหายใจไปด้วย สัมผัสจากปากกระด้างไม่เพียงนาบลงมา เข้ายังเม้มผิวเนื้ออ่อน ทั้งยังส่งลิ้นเย็นชื้นออกมาแตะสลับอีกด้วย รอยจูบปะพรมไปทั่วคอข้างหนึ่งของเธอ ทำเอานาเดียสะดุ้งน้อยๆ เป็นระยะ งอตัวหดคอหนีแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเขายังสามารถเปลี่ยนมาซุกไซ้อีกด้านได้อีก นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวขนลุกไปทั้งท้ายทอย“หยะ...อย่า”เธอพยายามห้าม ทว่าก็ไม่เป็นผล แขนกำยำข้างหนึ่งโอบรอบเอวของเธอ ร่างหนาเบียดกดให้เธอชิดผนังยิ่งขึ้นจนแทบขยับไม่ได้ ริมฝีปากร้อนเล็มสลับไล้เลียแล้วไล่ระเรื่อยลงต่ำผ่านเสื้อยืด ฝังปากกับจมูกสูดดมซุกเบียดทรวงงาม มืออีกข้างวางเกาะหมับบนก้อนเนื้ออวบอิ่มเต็มกำมือ ก่อนจะเคล้นเบาๆ ทำเอาร่างเล็กถึงกับผวาขึ้น ทว่าก็ราวกับนำเสนอตัวเองให้ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นไปด้วยแม้มีเสื้อผ้าขวางกั้นแต่การแตะต้องของอีกฝ่ายก็ทำให้นาเดียร้อนไปทั้งตัว ขาอ่อนแรงอย่างไม่เคยเป็น ทว่าก่อนจะทรุดลงเข่าแข็งแกร่งก็แทรกเข้ามาระหว่างหน้าขาขวางไม่ให้ตัวเธอต่ำลง“อื้อ”หญิงสาวอดที่จะปล่อยเสียงสั่นแปลกๆ ออกมาได้ ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งขึ้นจากสัมผัสแปลกใหม่กลางร่าง ทั้งยังรับรู้ได้ถึงมือ
คลินตันเงียบตั้งแต่มาขึ้นมอเตอร์ไซค์กระทั่งมาถึงเซฟเฮาส์ วันนี้ชายหนุ่มไม่ได้ให้คีย์การ์ดกับเธอ นาเดียจึงต้องยืนรออีกฝ่ายอยู่หน้าบ้าน เขากลับมาหลังจอดรถที่ส่วนจอดรถและเก็บหมวกเรียบร้อย บ้านหลังนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้เธอทึ่ง ที่จอดรถแยกเป็นสัดส่วน มีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกายมีเครื่องเล่นหลายชนิดติดกระจกอยู่ริมสระว่ายน้ำ ประตูก็สามารถใช้คีย์การ์ดหรือกดรหัสก็ได้ ทว่านาเดียไม่รู้รหัสจึงต้องรอชายหนุ่มเมื่อเปิดประตูบ้านแล้วนาเดียก็เข้ามาก่อน แม้ปกติคลินตันจะพูดน้อยอยู่แล้วทว่าตอนนี้เธอกลับรู้สึกถึงความอึมครึมกดดันแปลกๆ จึงคิดว่าเลี่ยงไปก่อนน่าจะดีกว่า ทว่าอยู่ๆ อีกฝ่ายก็พูดขึ้น“แปลกนะ ทั้งที่กลัวเวลาซ้อนมอเตอร์ไซค์ผม แต่คุณกลับอยากขึ้นรถแข่งซูเปอร์คาร์”หญิงสาวชะงักเท้า ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่ตามเธอเข้ามา ชายหนุ่มจ้องเธอด้วยแววตาเย็นชาทว่ากลับดูเชือดเฉือนผิดปกติ“ฉันก็แค่อยากลองดู”เธอไม่รู้จะพูดอะไร เพราะจะปฏิเสธว่าไม่อยากลองนั่งมันก็ขัดกับสิ่งที่ทำไปแล้ว“ทำไม เพราะซูเปอร์คาร์มันแพง แรงเร้าใจกว่าอย่างนั้นเหรอ”คิ้วเรียวสวยขมวดกับคำพูดกวนชวนหาเรื่องของชายหนุ่ม“ค
“ว่าไงนะ”“นาเดียอยากลองนั่งซูเปอร์คาร์กับเจมมี่น่ะ”ไมลี่ตอบหลังคลินตันถามย้ำพวกเธอมายังโรงรถแล้วก็เห็นคลินตันกับช่างสามคนกำลังตรวจเช็กรถแข่งคันหรูอยู่ ทั้งหมดเดินเข้าไปแล้วเจมมี่ก็ถามเกี่ยวกับรถของตนว่าเรียบร้อยหรือไม่จะได้ลองขับเลย พอคลินตันตอบว่าตามสบาย เจมมี่บอกต่อทันที‘งั้นฉันขอพาสาวน้อยคนนี้ไปลองรถด้วยก็แล้วกันนะ’คลินตันถึงกับหันมองหนุ่มหล่ออีกคนในทันที คิ้วเข้มขมวดพร้อมถามซ้ำไมลี่จึงเป็นฝ่ายตอบ ทำให้ชายหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายมายังเธอแทน นาเดียอึกอักขยับปากจะพูดแต่ไมลี่ก็แทรกขึ้นอีกครั้ง“แหม อย่ามองน้องเขาด้วยสายตาแบบนั้นสิคลิน ดุแบบนี้ใครจะไปกล้าตอบล่ะ เอางี้ ฉันเองก็อยากรู้ว่ารถปรับแต่งเครื่องใหม่ของเจมมี่จะแรงดีสักแค่ไหนเหมือนกัน งั้นเรามาแข่งกับเขาดีไหม นาเดียไปกับเจมมี่ ฉันจะไปกับคุณเอง”หญิงสาวจัดการเองเสร็จสรรพ ซึ่งนาเดียรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายน่าจะอยากหาโอกาสอยู่ใกล้กับคลินตัน และอยากให้เธอสนับสนุน เพราะไมลี่เหลือบมาทางด้วยสายตาขอร้อง เธอจึงได้แต่กระอักกระอ่วนใจแล้วพึมพำเสียงเบา“เอ่อ...ก็...น่าสนใจเหมือนกันนะคะ”คำพูดของเธอทำให้คลินตันตาวาววับ แววตาคมดุฉายออกมาอย่างชัดเ
นาเดียมองตอบสาวสวยด้วยสายตามึนงงว่างเปล่า ไม่รู้ต้องทำอย่างไรในสถานการณ์กระอักกระอ่วนแบบนี้เพราะรับรู้ได้ถึงไอบางอย่างแผ่จากแววตาหญิงสาวอีกคนเมื่อได้ยินว่าเธอเป็นใคร แม้จะลำบากใจแต่เธอก็ไม่รู้จะเริ่มพูดกับอีกฝ่ายอย่างไร จะแก้ตัวก็คงแปลกๆ เหมือนเธอร้อนตัวอาจจะเพราะเห็นสีหน้าไม่สบายใจและอึดอัดของเธอ สุดท้ายคนที่พูดขึ้นมาก่อนก็เป็นอีกฝ่าย“ไฮ ฉันไมลี่”“นาเดียค่ะ”ไมลี่ส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันไปบอกสองหนุ่มที่คุยกันเรื่องงานด้วยสีหน้าจริงจัง“พวกคุณทำงาน ให้นาเดียไปกับฉันดีกว่า รออยู่ในนี้เธอคงเบื่อ”“จะไปไหน”คลินตันหันมาถาม ใบหน้าคมนิ่งแต่มีรังสีดุจากแววตา เขาเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง แล้วกลับไปจ้องเอาคำตอบจากไมลี่“ฉันจะพาเธอนั่งเล่นกินขนมกับน้ำที่คาเฟ่ข้างหน้านี่แหละ”“อืม ไปเถอะ”เมื่อรู้พิกัดแล้วเขาก็พยักหน้ารับง่ายๆ แล้วกลับไปสนใจเรื่องงานต่อนาเดียเดินตามไมลี่ออกไปอย่างไม่คิดมากเช่นกันเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้มีปัญหาอะไร นั่นน่าจะหมายความว่าปลอดภัยสำหรับเธอ“เธอรู้จักกับคลินได้ยังไงเหรอ”หลังจากสั่งเครื่องดื่มกับเค้กของทั้งสองคนเรียบร้อย ไมลี่ก็ถามขึ้นทันที นาเดียเข้าใจแล้วว่าอีกฝ่ายต
เช้าวันต่อมานาเดียอ่านข้อความตอบกลับจากซูจิน แล้วก็พิมพ์ตอบอีกครู่ใหญ่ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำซูจินบอกว่าสำนักข่าวให้ความสนใจในการตีแผ่ข่าวบริษัทของพวกเธอ และช่วยเหลือในการหาสำนักกฎหมายให้ด้วย บรรดาแฟนคลับต่างก็รวมตัวกันแท็กข้อความให้กำลังใจพวกเธอและบอกว่าจะอยู่เคียงข้างเสมอ ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ได้รับรู้ว่าเธอบาดเจ็บจากการพยายามช่วยเพื่อนร่วมวง จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับเกาหลีได้ในตอนนี้ และต่างก็แท็กขอให้เธอหายเร็วๆ ด้วยเช่นกัน แม้ยังมีแฟนคลับไม่มากนักแต่สิ่งที่เห็นก็ทำให้รู้สึกดีและอุ่นใจไม่น้อยจนถึงกับน้ำตาซึมหลังจากนาเดียเข้าไปอ่านแท็กนั้นมีค่ายติดต่อเข้ามาสองสามค่ายเกี่ยวกับการเซ็นสัญญาแต่ซูจินกับพี่ๆ ในวงอยากคุยกันในตอนที่เธออยู่ด้วย จึงขอเวลาจัดการเรื่องการฟ้องร้องให้เรียบร้อยเสียก่อนสาวร่างเล็กลงไปข้างล่างก็พบกับคนที่เพิ่งวิ่งออกกำลังกายจนเหงื่อท่วมกำลังจะกลับเข้าห้องของเขา“วันนี้เราจะไปที่ทำงานของผม”ชายหนุ่มบอกทันทีที่เห็นเธอ แต่แม้นาเดียจะทำหน้าแปลกใจเขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรนอกจากเอ่ยสั่ง“กินอาหารเช้าให้เรียบร้อยเสีย”พูดจบเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนตัดสีดำเปียกจ
คลินตันกลับมาอีกครั้งในลุคที่นาเดียต้องนึกอ่อนใจกับตัวเอง เพียงแค่ชายหนุ่มใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มตัวเดิมเธอก็คิดว่าอีกฝ่ายดูเซ็กซี่อย่างไม่น่าให้อภัยแล้ว หญิงสาวเหลือบมองร่างสูงใหญ่เพียงนิดแล้วปอกมันฝรั่งในมือต่อ ไม่ต้องการให้ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าจิตใจเธอไม่ได้อยู่กับเนื้อกับตัวเลยแม้แต่น้อยคงเพราะได้เห็นกล้ามแน่นๆ ของอีกฝ่าย โดยไม่เคยได้เห็นของจริงเต็มๆ มาก่อนนั่นแหละ เธอจึงสติฟุ้งซ่านแบบนี้ไม่แฟร์เลยสักนิด ทั้งที่เขาไม่ให้เธอใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นออกนอกห้อง แต่ตัวเองกลับถอดเสื้อเดินไปเดินมาเสียอย่างนั้นหญิงสาวคิดขณะมองชายหนุ่มล้างชิ้นปลาที่แพ็คมา และราวกับรู้ว่าเธอมองคลินตันเองก็หันมาทางเธอเช่นกัน เขาเหลือบมองมันฝรั่งก่อนจะพูดขึ้น“หั่นเสร็จแล้วก็เตรียมจานเตรียมซอส ผมทอดเอง”“มีซอสเหรอคะ”“ใช่ ผมซื้อสำเร็จรูปมาแล้ว อยู่ในตู้เย็นนั่นแหละ”เธอพยักหน้าเข้าใจ“งั้นฉันทำสลัดเพิ่มด้วยดีกว่า”“เยี่ยม”คลินตันยกนิ้วให้นาเดียจึงยิ้มตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาตินาเดียหั่นมันฝรั่งในขนาดที่คิดว่าพอดี แล้วก็เอาผักในตู้เย็นที่พอทำสลัดได้มาล้างหั่นเสร็จก็โรยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก







