LOGINนาเดียเหลือบมองเจ้าของใบหน้าคมเข้มด้วยไรเคราที่ก้าวเข้ามาในห้องพักพิเศษ นับตั้งแต่เธอรู้สึกตัวขึ้นมาทั้งคู่คุยกันเพียงไม่กี่คำ เพราะหญิงสาวถามถึงแค่เพื่อนของตนเอง ไม่มีเรื่องอื่นที่อยากรู้ อีกฝ่ายก็บอกเพียงว่าเธอยังเจอเพื่อนไม่ได้ แต่ทุกคนได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย และยืนยันการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ว่าพวกเธอเป็นเหยื่อขององค์กรค้ามนุษย์ข้ามชาติ
“ฉันอยากได้พาสปอร์ต มือถือ อยากออกจากโรงพยาบาล อยากเจอเพื่อนๆ”
หญิงสาวเอ่ยขึ้นทันทีอย่างไม่ต้องการให้เสียเวลา
“พวกเราต้องกลับเกาหลี”
เลยกำหนดกลับสำหรับพวกเธอแล้ว นั่นยิ่งทำให้นาเดียกังวลใจว่าเพื่อนๆ ของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง
“มือถือคุณตรวจสอบเสร็จแล้ว หัวหน้าผมจะเอามาให้พร้อมพาสปอร์ตอีกวันสองวัน”
“แล้วจะไม่มีปัญหาอะไรเหรอคะ”
“ทางเราจัดการให้เรียบร้อยแล้ว เพื่อนคุณจะได้กลับอาทิตย์หน้า ส่วนคุณรอหายดี ระหว่างนี้เราจะดูแลคุณ”
“ฉันไม่ได้กลับพร้อมพวกเขาเหรอ”
นาเดียชักไม่สบายใจขึ้นมา ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมวงของเธอกลับไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อย่างน้อยก็คงต้องเผชิญหน้ากับสื่ออย่างแน่นอน เธออยากยืนอยู่ข้างพวกเขาเมื่อเจอปัญหา ทว่าสิ่งที่ยังพอโล่งใจได้บ้างคือ พวกเธอสามารถฟ้องร้องยกเลิกสัญญาได้โดยไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
“แย่หน่อยนะ แต่คุณบาดเจ็บเพราะเป็นนกต่อให้เรา เราต้องดูแลคุณจนหายดีและมั่นใจว่าจะไม่มีผลข้างเคียงหรือผลกระทบอะไรกับร่างกายคุณจากการบาดเจ็บครั้งนี้”
เมื่อถูกบังคับให้ไปรับรองแขกอีกครั้ง ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจโทรไปตามเบอร์ที่อยู่บนนามบัตรของร้านรับซ่อมรถ กลั้นใจรอไม่นานก็มีคนรับ และน้ำเสียงของเขาก็ทำให้เธอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ให้มาแบบส่งๆ แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่าเขาจะช่วยได้จริงหรือไม่
‘ฉันเอง คนที่คุณบอกว่าช่วยฉันได้’
นาเดียเอ่ยขึ้นก่อน แล้วก็ได้ยินชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ในลำคอก่อนเขาจะเอ่ยด้วยคำที่ทำให้เธออดหมั่นไส้ไม่ได้
‘ผมรู้ว่าคุณต้องโทรมาสาวน้อย’
จากนั้นเขาก็ถามเธอหลายอย่าง นาเดียตอบไปเท่าที่รู้ รวมถึงทางออกฉุกเฉินที่เธอเคยหนีออกมา จนต้องถูกจับตามองไม่ให้ก่อเรื่องขึ้นซ้ำเพราะนายใหญ่จะเข้ามาในวันที่เธอต้องไปรับรองแขกอีกสองวันข้างหน้าซึ่งเธอไม่อยากไป
‘โป๊ะเช๊ะ!’
อีกฝ่ายส่งเสียงราวถูกใจสวนขึ้นหลังเธอบอกอย่างนั้น
‘ผมจะไปช่วยคุณวันนั้นสาวน้อย’
เขาเอ่ยอย่างมั่นใจก่อนบอกในสิ่งที่เธอต้องทำและนัดเวลา พร้อมสั่งว่าตั้งแต่นี้ไปเขาจะส่งข้อความหาเธอเพียงอย่างเดียว
นาเดียมองร่างสูงใหญ่ขณะเขานั่งลงบนโซฟาที่จัดเอาไว้ห่างออกไปแล้วถอนหายใจอย่างไม่สามารถทำอะไรได้ อีกฝ่ายมักนั่งนิ่งๆ ดูแทบเลตในมือเงียบๆ อยู่ตรงนั้น ส่วนเธอเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรเพราะอย่างไรเขาก็เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ แถมหน้าตาเข้มดุก็ดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
คนที่ช่วยให้นาเดียผ่อนคลายและพูดคุยด้วยอย่างสบายใจก็คือ ‘อลิซ’ สาวรุ่นพี่ที่เธอเคยช่วยอีกฝ่ายเอาไว้ อลิซมาเยี่ยมเธอแทบทุกวัน นับเป็นเรื่องบังเอิญที่อลิซเป็นพี่สะใภ้ของผู้ชายคนนี้ และหนุ่มชาวเอเชียที่เข้ามาช่วยเธอในคลับนั้นก็คือพี่ชายของเขา
นาเดียแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่พี่ชายกับน้องชายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะผู้ชายคนนี้ ‘คลินตัน’ เธอรู้ชื่อเขาเพราะพี่ชายเขาเรียก ดูเป็นหนุ่มยุโรปเต็มตัวไม่มีเสี้ยวผสมใดๆ ทว่าพี่ของเขากลับเป็นคนเอเชียอย่างชัดเจน โดยเธอมารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนไทยแท้จากอลิซ เพราะเธอถามหญิงสาวด้วยความสงสัยในวันหนึ่ง แล้วก็ได้รู้ว่าพวกเขาไม่มีสายเลือดเกี่ยวข้องกัน แต่เป็นพี่น้องเพราะบิดามารดาของทั้งคู่แต่งงานกัน
“แล้วฉันต้องไปอยู่ที่ไหน”
อีกฝ่ายราวกับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบโดยไม่สนใจมองเธอ
“อยู่กับผม”
ตากลมโตขยายขึ้น มองคนตัวโตอย่างคาดไม่ถึง
“ผมดึงคุณเข้ามาเอี่ยวด้วย คุณคือความรับผิดชอบของผม”
คำพูดของชายหนุ่มที่เอ่ยขณะหันมามองเธอด้วยสายตาคมจริงจังทำเอานาเดียรู้สึกหน้าร้อนแปลกๆ จนต้องหลบสายตาเขา แล้วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น
“ฉัน...ขอไปอยู่กับพี่อลิซไม่ได้เหรอ”
“คุณก็เห็นว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว เชื่อผมเถอะว่าพี่ชายผมคงไม่สนุกด้วยแน่ เพราะผมเคยไปอยู่กับพวกเขามาแล้ว หมอนั่นมองผมตาเขียวทุกครั้งที่เจอหน้า”
เขาบอกพร้อมยักไหล่ด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ
นาเดียจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ อยู่คนเดียว นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองพูดคุยกันนานที่สุด แต่เธอรู้สึกอึดอัดน้อยกว่าตอนที่ต่างคนต่างก็นั่งเงียบๆ ในห้อง
=====
“ฉันเป็นส่วนเกินค่ะ”คำพูดของหญิงสาวทำเอาเขาถอนหายใจยาว“คุณมีคุณค่านาเดีย”“แต่จะดีกว่า ถ้าไม่กลับไป”เสียงหวานไม่ได้เครือทว่าก็เบาอย่างเหลือเกินจนเขาต้องกระชับร่างเล็กเข้าหาตัวเองมากขึ้น“แม่ต้องพยายามประคับประคองครอบครัวของแม่ ต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันรู้ว่าแม่อาจจะสงสัยพ่อเลี้ยง แต่ก็ต้องทำเหมือนไม่ระแคะระคายอะไร แม่คงเหนื่อยมาก ต้องเก็บทุกอย่างเอาไว้คนเดียว เพราะแม่ใช้ชีวิตคู่กับเขาแล้ว มีลูกด้วย ฉันรู้ว่าแม่อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อม และฉันเป็นรอยด่างในชีวิตของแม่”“ลูกสาวทุกคนคือนางฟ้าตัวน้อยของแม่”คลินตันไม่อยากให้หญิงสาวลดทอนคุณค่าในตัวเองลง“ก็จริงนะคะ แต่ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้าของแม่หรอก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็รู้ว่าแม่รักฉัน เพราะตอนที่มีกันแค่สองคนท่านพยายามเลี้ยงดูฉันอย่างดี ฉันชอบเรียนเต้นท่านก็ยังให้เรียน ทั้งที่ค่าเรียนไม่ธรรมดาเลย แม่ทำเพื่อฉันมามากค่ะ”“คุณก็เลยทำเพื่อท่านด้วยการจากมา”นาเดียพยักหน้าเบาๆ“ผมอยากให้คุณมีความสุขในทุกๆ อย่าง รวมทั้งเรื่องแม่”ชายหนุ่มบอกสิ่งที่เขาคิด แต่เขาจะไม่บังคับให้เธอทำ ทุกอย่างต้องเป็นการตัดสินใจของนาเดียเอง“ฉันม
เสียงเพลงบรรเลงขึ้น ทุกคนภายในงานยืนขึ้น ขณะที่ร่างเล็กในชุดสีขาวยาวก้าวเดินตามทางที่เด็กตัวเล็กสองคนโปรยดอกไม้ มือคล้องแขนชายมีอายุใบหน้าบ่งบอกว่าเป็นชาวเอเชีย ดวงหน้างดงามมีผ้าลูกไม้สีขาวปิดบัง ปลายทางมีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มในชุดสูทดูดีรออยู่พร้อมกับบาทหลวงเมื่อหญิงสาวก้าวไปถึงชายหนุ่มก็เป็นคนมารับเธอแทน ใบหน้าคมเข้มไร้หนวดเคราดูหล่อเหลาสะดุดตา ยิ่งเมื่อแย้มยิ้มบางก็ยิ่งน่ามองดวงหน้าสวยน่ารักภายใต้ผ้าลูกไม้ถูกเปิดโดยชายหนุ่ม ทั้งคู่กล่าวคำสาบานและสวมแหวน จุมพิตบางเบา บรรดาแขกลุกขึ้นปรบมือแสดงความยินดีแม้จะมีญาติใกล้ชิดและเพื่อนสนิทไม่กี่คนหากบรรยากาศก็อบอุ่น นาเดียกวาดมองทุกคนที่เธอรู้จักพร้อมกับน้ำตาไหลอาบแก้ม แม้ตรงนี้จะไม่มีแม่ของเธอ แต่ทุกคนที่นี่ก็รักและจริงใจกับเธอ ซูจินกับพี่ๆ ในวงอลิซเซียและครอบครัวของคลินตัน รวมถึงแอรอน ไมลี่ แม้แต่เจมมี่ด้วยเพราะอีกฝ่ายหมั้นกับไมลี่แล้ว จึงถือเป็นคนสนิทของคลินตันเช่นกัน แม้ทั้งคู่จะยังดูไม่ค่อยลงรอยกันนักก็ตามนาเดียไม่เคยคิดว่าเธอจะมีงานแต่ง สำหรับเธอแค่ได้ใช้ชีวิตกับคลินตันก็เพียงพอแล้ว ทว่านาตาชามารดาของชายหนุ่มจัดการให้ และผู้ที
“รู้ว่าคุณไม่ไหวแล้ว”คลินตันบอกพร้อมลูบผมชื้นเหงื่อ เท่านี้ก็ดีที่สุดแล้ว เซ็กส์ระหว่างเธอกับเขาให้ความรู้สึกเร้าใจทุกครั้ง ได้สัมผัสเท่าไรยิ่งต้องการกันและกันมากขึ้น สิ่งที่นาเดียทำกับเขานั้นไม่ใช่ความเก่งกาจเด็ดดวง ทว่าเป็นความกล้า กล้าที่จะทำตามความต้องการของตน นั่นทำให้เขาตื่นตัวตามไปด้วย“เซ็กส์ของเรามันสุดยอดทุกครั้งเพราะคุณ”นาเดียอดตาโตไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็หน้าร้อนผ่าวยิ่งขึ้น เพราะอารมณ์ยังไม่คงที่ ทำไมอยู่ๆ เขามาพูดเรื่องนี้ล่ะ“ฉันเนี่ยนะ”“คุณกระตือรือร้น กล้าเรียนรู้ กล้าทำตามใจตัวเองทั้งที่ไม่รู้อะไรเลย เหมือนเดินไปข้างหน้าในความมืด แต่มันก็ชวนให้ตื่นเต้นเร้าใจ ท้าทายดี”“คุณนี่มันคนเถื่อนจริงๆ”คนฟังตีสีหน้าไม่ถูก ทั้งขัดเขินทั้งอับอายจึงต่อว่าชายหนุ่มแทน หากเขาก็เพียงยกยิ้มมุมปากก่อนจะจูบหน้าผากเธอ“คนเถื่อนก็เหมาะกับเด็กใจแตก จริงไหม”“จริงค่ะ”นาเดียไม่ปฏิเสธในข้อนี้ เธอรู้ดีว่าสำหรับเธอแล้ว มีเพียงคลินตันเท่านั้นที่เธออยากมีเซ็กส์ด้วย“คุณมาที่นี่เพื่อรับฉันไปอยู่ด้วย หรือว่าจะมาอยู่กับฉัน”เมื่ออาการวาบหวิวคลายลง หญิงสาวก็ถามในสิ่งที่เธออยากรู้หลังจากคุยกับซูจินแ
ไม่มีเวลาพักหายใจด้วยซ้ำชายหนุ่มก็พาให้เธอนอนหงาย ปลดสายเสื้อชั้นในออกจากแขน ก่อนจะฝังใบหน้าคมเข้มลงแนบบนทรวงขาวสล้าง คลอเคลียฟอนเฟ้นด้วยปากได้รูป พอใจกับความชูชันล่อตาจากปลายยอดสีหวานจนต้องครอบครองเข้ามาภายในปากอุ่นแผ่นหลังบางแอ่นขึ้นตามการดูดดื่มจากปากชายหนุ่ม คลินตันดื่มกินหนักหน่วง แถมความกร้าวร้อนยังเบียดไล้กลางร่างเธอจนหญิงสาวต้องขยับตามเขา ต่างฝ่ายต่างบดเบียดทำให้ความเร่าร้อนทะยานสูงขึ้น คลินตันจับขาเรียวสองข้างเกาะสะโพกตนเอง แล้วขยับขึ้นจับเอวเล็กไว้ด้วยสองมือ เลื่อนไล้ตนเองอย่างพึงพอใจกับสัมผัสหวามเสียงทุ้มในลำคอหนาบ่งบอกอารมณ์ของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี นาเดียมองร่างสูงใหญ่ด้วยตาปรือปรอยหากก็ปลื้มใจที่เขากำลังแสดงออกถึงความถูกใจ ทว่าครู่หนึ่งชายหนุ่มก็หยุดขบกรามแน่น ตาคมกล้ามองเธอก่อนจะโน้มตัวลงมากอดรัดแน่น“ที่รัก ช่วยผม”เขาบอกก่อนจะย้ายตัวเองไปนอนด้านล่างแล้วจับเอวเธอให้ขยับบนตัวเขาแทน ทำให้เรือนร่างงามไล้บนตัวเขาตามไปด้วย ดวงหน้าเล็กเหนือดวงหน้าเขาซุกลงแนบข้างแก้มที่เต็มไปด้วยไรเครา อกอวบขาวบดเบียดเกยบนอกเขาจนแทบขยับมาอยู่บนหน้า หากคลินตันมองด้วยสายตาล้ำลึกวาบหวิว กระทั
“ขอไว้เรื่องหนึ่งแล้วกัน”“นี่คุณกำลังขอฉันแต่งงานใช่ไหม”นาเดียสนใจประโยคแรกที่ชายหนุ่มพูดมากกว่า ตาคู่กลมโตวาวระยับจนคนเห็นอดยิ้มออกมาไม่ได้“แล้วคุณพร้อมหรือยังสาวน้อย”แขนเรียวเล็กสอดขึ้นมากอดคอเขา ก่อนที่หญิงสาวจะขยับดวงหน้าเล็กขึ้นมาหาแล้วแนบปากอิ่มเล็กกับปากเขา“จุ๊บ”เธอจูบเขาเร็วๆ แล้วผละออกมายิ้มกว้าง“แต่งหรือไม่แต่ง ฉันก็พร้อมจะอยู่กับคุณค่ะ”“เด็กใจแตก”คลินตันหรี่ตาลงพร้อมตำหนิ หากก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาพึงพอใจ จากนั้นก็จูบหน้าผากเล็กหนักๆ แล้วเปลี่ยนมายังปลายจมูกเล็ก แก้มนวลเนียนมีสีเลือดฝาด ก่อนจะประทับแนบแน่นลงบนปากน่ารักสีชมพูระเรื่อ เคล้าคลึงแผ่วผิวแล้วค่อยเพิ่มแรงบดเบียดลงไป หญิงสาวเริ่มขยับตอบกลับเขา ชายหนุ่มจึงเม้มกลีบปากอิ่มดึงเบาๆ อย่างยั่วเย้านาเดียเผยอปากส่งลิ้นไปแตะไล้อีกฝ่ายก่อน ชายหนุ่มก็สอดรับทันที ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนลมหายใจกันและกันอย่างเร่าร้อนตามแรงคิดถึง เมื่อเขาผละออกร่างเล็กก็ถึงกับหอบรัวแรง ขณะที่อีกฝ่ายจูบแก้มนุ่มซุกไซ้ลงหาคอขาวผ่อง รู้สึกถึงความอุ่นชื้นไล้เลียบนคอตนเองแล้วก็ต้องปล่อยเสียงครวญบางเบาเพราะอาการซ่านสยิวเล่นงาน“คลินตัน ฉันคิดถึงคุ
“ฉันต้องโทรหาซูจินก่อน”นาเดียพูดขึ้นหลังจากทั้งคู่กินอาหารเย็นที่เธอซื้อมาพร้อมกับสั่งรูมเซอร์วิสมาเพิ่ม“เธอรู้อยู่แล้วล่ะ”“ว่าไงนะ”คลินตันยื่นชาแก้วใหม่มาตรงหน้าให้เธอจิบอีกครั้ง“คุณคิดว่าผมมาหาคุณถูกได้ยังไงล่ะ”“ซูจิน? เป็นไปได้ยังไง คุณไม่รู้จักเธอนี่”หญิงสาวถามอย่างแปลกใจ“คุณเป็นคนกดติดตามแอ็กเคานต์ของผมกับคุณไม่ใช่เหรอ”ชายหนุ่มพูดพร้อมยิ้มมุมปาก แต่ทำเอานาเดียหน้างอปากยื่น“นี่หมายความว่าคุณเข้ามาส่องไอจีฉันแต่ไม่เคยคอมเมนต์ กดถูกใจหรือส่งข้อความหาฉันเลยเนี่ยนะ”“อย่าเพิ่งงอนน่า”เขายื่นมือมาโยกหัวเธอเบาๆ“ผมเพิ่งเข้ามาดูหลังจากคิดได้ว่าควรตามคุณมานี่เอง แล้วก็เห็นคุณแท็กเธอบ่อยๆ ดูชื่อก็เลยรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทคุณ”เขาตั้งใจไม่บอกเรื่องที่ตัวเองเจ็บหนักกับนาเดีย“คุณก็เลยแอบติดต่อเธอ”ชายหนุ่มพยักหน้ารับเบาๆ ทว่านาเดียขมวดคิ้ว“ซูจินเชื่อคุณได้ยังไงเนี่ย”เพื่อนสาวของเธอน่าจะระวังการคุยกับคนอื่นผ่านโซเชียล“ก็ต้องตอบคำถามเยอะอยู่เหมือนกันกว่าเธอจะเชื่อว่าผมเป็นคนที่ดูแลคุณช่วงที่คุณต้องพักฟื้นที่ลอนดอน”เขาบอกพร้อมกับปล่อยมือจากอีกฝ่ายแล้วยักไหล่“ดื่มชาให้หมด ร่างกายจะไ







