Share

บทที่ 7

Author: Karawek House
last update Last Updated: 2025-08-14 00:22:31

“ทั้งข้าและศิษย์ต่างเป็นผู้ฝักใฝ่ความเงียบสงบ ไม่สันทัดการรับรองผู้คน อาจจะดูเสียมารยาท ทว่ารังมุสิก[1]เล็กจ้อยไม่อาจรองรับคนร่างใหญ่ พวกท่านรีบออกจากหุบเขาเสียจะดีกว่า ยิ่งดึกลมแรง ข้ามหุบเหวตอนลมแรงนับเป็นเรื่องอันตราย อาจมีผู้ใดพลัดตกลงไปได้ทุกเมื่อ” จ้าวหุบเขาเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง น้ำเสียงก็ยังราบเรียบดุจเดิม ทั้งอย่างนั้น คนฟังต่างเย็นวาบไปทั้งศีรษะ ยิ่งนึกถึงภาพใบไม้ในก้อนหิน ในอกก็ยิ่งสั่นสะท้าน

นะ...นี่...นี่เขาเพิ่งขู่จะฆ่าทุกคนใช่หรือไม่!

พ่อบ้านสกุลซุนกำหมัดแน่นขึ้นอีก

“ท่านจ้าวหุบเขา แต่ว่ามือของนายน้อย...”

“พ่อบ้านสกุลซุน ท่านช่างไม่รู้จักเกรงใจเสียเลย ท่านคิดว่าตอนนี้ล่วงเข้ายามใดแล้ว” จ้าวหุบเขาหยิบขวดใบจ้อยทรงรีเรียวออกมา แล้วซัดฝ่ามือเบาๆ เข้าใส่ ส่งมันเข้าสู่อุ้งมือพ่อบ้านชรา “เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับประมุขซุน ข้าจะช่วยดูมือนั่นให้”

พ่อบ้านชรารีบโค้งตัวคำนับเป็นการใหญ่ จวบจนจ้าวหุบเขาโบกมือปราม เขาจึงยอมหยุดกิริยานั้น

“ให้เขากินยานั่นก่อน อีกไม่เกินสองเค่อ รอข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย

ดีแล้วจะช่วยต่อเส้นเลือดและเส้นเอ็นให้ ส่วนค่ารักษา...”

“หนึ่งหมื่นตำลึงทอง!” พ่อบ้านสูงวัยตอบโดยไม่ต้องคิด

จ้าวหุบเขาพยักหน้าน้อยๆ “ท่านเป็นผู้รู้กฎระเบียบ”

พ่อบ้านตระกูลซุนอยากจะแค่นเสียงด่าออกมาดังๆ ทว่าไม่กล้า

หึ แน่สิ...พวกข้าย่อมต้องรู้กฎระเบียบดีอยู่แล้ว!

นับตั้งแต่ติดต่อค้าขายกันมา มีครั้งใดบ้างที่จ้าวหุบเขาผู้นี้จะยอมขยับตัวทำงานโดยไร้เงื่อนไข?

เห็นหน้านิ่งๆ น้ำเสียงที่ใช้ก็สงบราบเรียบ กิริยาอาการดูสุขุมใจเย็นเช่นนี้...จ้าวหุบเขาผู้นี้ช่างรู้จักทำการค้ายิ่งนัก! เขาทำราวกับว่าทักษะการแพทย์และทักษะเกี่ยวกับยาพิษทั้งหมดทั้งมวลไม่อาจใช้โดยเปล่า ตั้งกฎเรียบง่ายแต่โหดร้ายไว้ว่าทุกสิ่งย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย ผู้ละเมิดกฎเหล็กข้อนี้ หากไม่ตายทั้งเป็นก็หายสาบสูญ

บุรุษผู้นี้ช่างโหดเหี้ยมเย็นชา หนำซ้ำยังมีวรยุทธแกร่งกล้าฆ่าไม่ตาย ตลอดหลายปีมานี้เขาใช้ชีวิตด้วยการค้าขายทักษะการรักษาตลอดจนความรู้เรื่องยาพิษ แม้จะมีผู้ไม่พอใจ แต่ก็ไม่มีผู้ใดกล้าลบหลู่ และยิ่งไม่มีใครกล้าลองดีไม่ชำระหนี้สินที่ตกค้าง ครั้งนี้นายน้อยเล่นสนุกจนเลยเถิดเกินไปแล้วจริงๆ

เฮ้อ...

พ่อบ้านสกุลซุนประสานมือคารวะ กล่าวเสียงนุ่ม “ท่านจ้าวหุบเขา นี่ก็ดึกมากแล้ว อาการนายน้อยของพวกเราเป็นเช่นนี้คงไม่อาจลงจากหุบเขา ถ้าอย่างไร...”

ท่านจ้าวหุบเขาเหลียวจ้องตาพ่อบ้านชรา ราวกับจะถามว่า “ข้าให้คืบแล้ว พวกเจ้ายังคิดจะเอาศอกอีกหรือ” พ่อบ้านสกุลซุนจึงต้องเก็บกลืนสิ่งที่คิดจะพูดกลับลงคอโดยพลัน

“รออยู่ที่นี่ ห้ามใครขยับตัวไปที่ใดทั้งนั้น หากผิดไปจากนี้ ข้าจะยกเลิก

การรักษาทันที เข้าใจหรือไม่”

ชายชรารีบตอบทันที

“ได้ ได้! พวกเรารับปาก!”

จ้าวหุบเขาเดียวดายปรายตาไปยังนายน้อยสกุลซุน ราวกับไม่ใส่ใจผู้อื่นแม้แต่น้อย

ซุนเย่เห็นดังนั้นก็กลืนน้ำลายลงคอ รีบออกปากสัญญา

“ขอจ้าวหุบเขาโปรดวางใจ ข้าและผู้ติดตามจะรักษากฎระเบียบ แม้ว่าท่านจะเอื้อเฟื้อที่พักให้ก็จะประพฤติราวไร้ตัวตน ไม่บังอาจรบกวนท่านจ้าวหุบเขาและลูกศิษย์แม้แต่น้อย”

“อืม...”

ท่านจ้าวหุบเขาลุกขึ้นจากที่นั่ง ตั้งท่าจะก้าวขาออกไปนอกโถง พ่อบ้านชราจึงอดแปลกใจไม่ได้

“นั่นท่านจ้าวหุบเขาจะไปที่ใด ไม่ใช่ว่าท่านต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อทำการรักษานายน้อยของพวกเรารึ?”

แทนคำตอบ ท่านจ้าวหุบเขาปรายตามองคนถามราวกับจะถามว่า “ข้าจะทำอะไรแล้วเจ้ามีสิทธิ์อันใดมาสงสัย” พ่อบ้านชราจึงได้แต่ปิดปากลง ค้อมกายน้อมส่งเจ้าบ้าน

“ดูเหมือนว่าจ้าวหุบเขาจะมุ่งหน้าไปทางเรือนเล็กทางทิศใต้นะขอรับ...” ผู้ติดตามร่างยักษ์คนหนึ่งอดเอ่ยปากไม่ได้ “ไม่ใช่ว่าเรือนพักจ้าวหุบเขาคือเรือนหลังใหญ่ใจกลางคฤหาสน์หลังนี้รึ”

“หรือว่าข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง” ผู้ติดตามอีกคนหนึ่งเอ่ยขึ้นบ้าง

“ข่าวลือเรื่องใด”

“เรื่องที่ชาวบ้านแถบนี้พูดกันว่าจ้าวหุบเขาเดียวดายมีคนรักที่งดงามและมีน้ำใจรักมั่น ทรหดอดทนยิ่งนัก” ผู้ติดตามที่รู้ข่าวตอบเสียงเบา “เขาทอดทิ้งนาง แต่คุณหนูผู้นั้นยังคงรักมั่นจริงใจ นางยอมทิ้งเกียรติยศศักดิ์ศรี ละวางทรัพย์สมบัติและความสบาย หนีออกจากบ้านมาเผชิญความลำบาก สุดท้าย จ้าวหุบเขาจึงยอมรับนางไว้”

“เช่นนั้นก็ไม่ใช่เพียงลูกศิษย์อย่างปากว่า แต่ยังเป็น...”

แต่ละคนพยักหน้าเออออ “มิน่า...จ้าวหุบเขาถึงได้หวงแหนนางนัก หกวันก่อนเมื่อครั้งนายน้อยยังพักรักษาตัวอยู่ที่นี่ จู่ๆ บุรุษผู้นั้นก็สั่งกักบริเวณพวกเราเช่นตอนนี้ไม่มีผิด เดาว่าสตรีผู้นั้นคงมาถึงหุบเขาตอนนั้นกระมัง?”

“หุบปาก!”

พ่อบ้านสกุลซุนตวาดลั่น หลังจากที่ตะแคงหูฟังมานาน

“พวกเจ้ายังคิดจะทำให้จ้าวหุบเขาไม่พอใจอีกรึ เรื่องของผู้อื่นก็เป็นเรื่องของผู้อื่น หากยังอยากมีชีวิตรอดออกจากหุบเขาก็จงปิดปากให้สนิท เข้าใจหรือไม่!” พ่อบ้านสูงวัยกวาดตามองเหล่าผู้ติดตามเรียงคน “แล้วนับจากนี้ก็ไม่ต้องเอาข่าวลือไร้สาระอะไรมาเป่าหูนายน้อยอีก!”

ที่คุณชายใหญ่นึกอุตริลอบเข้าไปแช่น้ำร้อนหลังหุบเขาก็เพราะเจ้าพวกปากเปราะพวกนี้นั่นล่ะ!

อะไรคือบ่อน้ำร้อนที่ช่วยรักษาสารพัดโรคอันกว้างขวาง งดงาม และน่าอิจฉา

อะไรคือสวรรค์บนดินที่ผู้คนต่างเล่าขานว่าอยากสัมผัสสักครั้ง

คุณชายใหญ่เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งที่บ่อน้ำร้อนนั่นแล้ว!

หลังเอ็ดตะโรระบายความขุ่นเคือง พ่อบ้านชราก็ทอดถอนใจ บ่นให้เจ้านายฟัง “ว่ากันว่าชายที่ไม่เคยมีรักยามมีรักขึ้นมาก็น่ากลัวนัก...คุณชาย จ้าวหุบเขาผู้นี้จะล่วงเกินมิได้ เห็นแก่ผู้ชราผู้นี้ ต่อไปนี้ท่านต้องระวังให้มาก”

ซุนเย่ก้มลงมองมือตนเองแล้ว ก็พลันถอนหายใจตาม

“เป็นตัวข้าเองที่ก่อเรื่องเหลวไหล...จ้าวหุบเขาเป็นผู้รักษากฎระเบียบและมีวรยุทธสูงส่งยิ่งนัก”

สองนายบ่าวต่างจ้องมองร่างสีขาวที่มุ่งหน้าลงไปยังทิศใต้ มองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจอีกคนละเฮือก

แม้ในใจจะขุ่นเคืองบุรุษบ้าอำนาจ ไร้คุณธรรม ช่างกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวอย่างหน้าตายผู้นั้นสักปานใด กลับไม่มีผู้ใดกล้าออกปากตำหนิติติงอะไรแม้เพียงครึ่งคำ

[1] หนู

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 9

    ข้างฝ่ายคู่ศิษย์อาจารย์ในห้องหับมิดชิด...ยามนี้จวี๋ฮวาคล้ายจะเสียขวัญจนลืมตัว นางแทบจะฝังร่างตนเองในอ้อมอกท่านจ้าวหุบเขา หน้าอกหน้าใจหนั่นแน่นบดคลึงแผงอกแกร่งไปถึงไหนต่อไหน สองมือเล็กๆ กอดรัดเขาแน่นด้วยความรักและไว้วางใจสูงสุด ทำราวกับในสายตานาง บุรุษผู้นี้คือที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวบนโลกนี้เธอไม่ค่อยแน่ใจนักว่าท่านจ้าวหุบเขาคิดเห็นเช่นไร เพราะเขาเอาแต่ยืนนิ่งเหมือนตุ๊กตาหน้าหล่อไร้ความรู้สึก...และเพราะเขาไม่มีปฏิกิริยาใดใด ไม่แม้แต่จะแข็งขืนหรือผลักไส ต่อให้อยากซุกไซ้แผงอกกรุ่นกลิ่นหอมดิบเถื่อนแปลกประหลาดที่ตัวเองเคยสักแต่เขียนบรรยายลงในนิยายทั้งๆ ที่ไม่เคยสัมผัสและไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่จริงสักแค่ไหน นักเขียนสายมโนอย่างเธอก็ยังอดตะขิดตะขวงใจขึ้นมาไม่ได้อะ...ไอ้ความรู้สึกเหมือนว่าเป็นสีกาชั่วกำลังยั่วยวนพระตบะสูงแบบนี้มันคืออะไร?มีใครสักคนเคยบอกไว้ คนเราต้องไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงในสถานการณ์ที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ควบคุม เพราะฉะนั้น...ก่อนที่ตัวเองจะทำอะไรไม่ถูกเพราะปฏิกิริยาเหนือความคาดหมายนี้ อาจูรีบดันตัวเองออกจากแผงอกอุ่นด้วยสีหน้าตกใจระคนสับสน เมื่อดวงตาคู่งามที่เต็มไปด้วยอารมณ์วาบ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 8

    เมื่อเทียบกับท่านจ้าวหุบเขาผู้ดูจะมีความสุขกับการเดินทอดน่องชมทิวทัศน์ยามค่ำแล้ว คนที่ใส่เกียร์โกยแน่บหนีความหนาวเหน็บกลับเรือนพักอย่างอาจูย่อมกลับมาถึงเร็วกว่าเขาเป็นเท่าตัว ทันทีที่กลับมาถึง อาจูก็ต้องตื่นตาตื่นใจเพราะหีบบรรจุเสื้อผ้าแพรพรรณชั้นดีและข้าวของเครื่องใช้สตรีแบบโบราณของแท้และดั้งเดิมที่วางเรียงกันอยู่บนลานเล็กๆ ด้านหน้าเรือนพัก เมื่อใช้สมองของศีรษะอันน่ารักจิ้มลิ้มชั่งตวงวัดแล้วเห็นว่าที่นี่ไม่มีสตรีอื่นใดนอกจากจวี๋ฮวา มิหนำซ้ำที่แห่งนี้ยังเป็นเรือนพักของนาง เจ้าของเรือนก็รีบกุลีกุจอขนถ่ายหีบ “สมบัติ” ทั้งสามใบเข้าไปเก็บในเรือนนอน อาการเหน็ดเหนื่อยปวดเมื่อยแขน ขา และเอวทั้งหลาย คล้ายจะหายไปชั่วขณะหลังจัดเก็บทุกอย่างไว้ที่มุมห้อง คนเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองกำลังหนาวก็รีบออกไปจุดไฟใส่กระถางไฟใบเล็กอันสะดวกแก่การขนย้าย แล้วค่อยๆ ยกมันเข้ามา จากนั้นก็เปลี่ยนมาสวมชุดผ้าไหมเนื้อดีสีเหลืองนวลซึ่งสุ่มหยิบมาจากบรรดาเสื้อผ้าสตรีหลากสีสันในหีบ โดยไม่ลืมเอาเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มของท่านจ้าวหุบเขาและเสื้อผ้าชุดเก่าของตัวเองไปตากไว้ที่ราวไม้เพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้นที่ยากจะกำจัด

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 7

    “ทั้งข้าและศิษย์ต่างเป็นผู้ฝักใฝ่ความเงียบสงบ ไม่สันทัดการรับรองผู้คน อาจจะดูเสียมารยาท ทว่ารังมุสิก[1]เล็กจ้อยไม่อาจรองรับคนร่างใหญ่ พวกท่านรีบออกจากหุบเขาเสียจะดีกว่า ยิ่งดึกลมแรง ข้ามหุบเหวตอนลมแรงนับเป็นเรื่องอันตราย อาจมีผู้ใดพลัดตกลงไปได้ทุกเมื่อ” จ้าวหุบเขาเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง น้ำเสียงก็ยังราบเรียบดุจเดิม ทั้งอย่างนั้น คนฟังต่างเย็นวาบไปทั้งศีรษะ ยิ่งนึกถึงภาพใบไม้ในก้อนหิน ในอกก็ยิ่งสั่นสะท้านนะ...นี่...นี่เขาเพิ่งขู่จะฆ่าทุกคนใช่หรือไม่!พ่อบ้านสกุลซุนกำหมัดแน่นขึ้นอีก“ท่านจ้าวหุบเขา แต่ว่ามือของนายน้อย...”“พ่อบ้านสกุลซุน ท่านช่างไม่รู้จักเกรงใจเสียเลย ท่านคิดว่าตอนนี้ล่วงเข้ายามใดแล้ว” จ้าวหุบเขาหยิบขวดใบจ้อยทรงรีเรียวออกมา แล้วซัดฝ่ามือเบาๆ เข้าใส่ ส่งมันเข้าสู่อุ้งมือพ่อบ้านชรา “เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับประมุขซุน ข้าจะช่วยดูมือนั่นให้”พ่อบ้านชรารีบโค้งตัวคำนับเป็นการใหญ่ จวบจนจ้าวหุบเขาโบกมือปราม เขาจึงยอมหยุดกิริยานั้น“ให้เขากินยานั่นก่อน อีกไม่เกินสองเค่อ รอข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยดีแล้วจะช่วยต่อเส้นเลือดและเส้นเอ็นให้ ส่วนค่ารักษา...”“หนึ่งหมื่นตำลึงทอ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 6

    หลังพูดประโยคนี้ อาจูแทบอยากล้มตัวลงกรี้ดอัดหมอน หรือไม่ก็หลบมุมไปตบเข่าตัวเองสักฉาดได้ใจแม่มาก ได้ใจแม่มากกก ทำดีมาก ดีมากๆ ค่ะลูกสาว!...ในใจกรี้ดกร้าดไป ภายนอกก็แสร้งทำสีหน้าสับสนปนหวั่นไหวเล็กน้อยเสี่ยวจวี๋ฮวาไม่รอให้ซือฝุตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างงดงามใต้แสงจันทร์ยกมือขึ้นปิดปาก พร้อมกับส่งเสียง “อ๊ะ...” ราวกับเพิ่งหลุดพูดสิ่งที่คิด ขณะเดียวกันดวงตาดอกท้อก็เบิกกว้างขึ้นอย่างไร้เดียงสา “ดะ..ดึกมากแล้ว คืนนี้อากาศเย็น ซือฝุโปรดรักษาตัวด้วย” หลังพูดประโยคที่ฟังดูโง่งม ร่างเล็กๆ ก็รีบกอดกระชับตัวเองแน่น แล้วพาร่างอ้อนแอ้นบอบบางวิ่งกลับเรือนพักไปทั้งอย่างนั้น...หึหึ...เธอไม่รู้หรอกว่าจ้าวหุบเขาผู้นั้นจะคิดอย่างไร รู้เพียงแต่ตอนนี้เสี่ยวจวี๋ฮวาได้ทำตัวเป็นนางเอกนิยายรักใสใสไปหนึ่งยก ทั้งยังไม่ต้องทนเดินทอดน่องตากลมหนาวไปอีกอย่างต่ำก็ราวๆ สิบห้านาทีสิบห้านาที...สิบห้านาทีเชียวนะ!อากาศหนาวตั้งขนาดนี้ ขืนเดินทอดน่องตากลมอีกแค่ห้านาทีก็ตัวแข็งเป็นเนื้อไก่ในช่องแช่กันพอดี! จ้าวหุบเขาเดียวดายมองแผ่นหลังเด็กสาวที่เมื่อครู่ยังเนื้อตัวสั่นเทาหนักราวกับหนาวเหน็บจนขาแข้งแทบแข็งแล้ว ก็เลิกคิ้วขึ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 5

    จ้าวหุบเขาเคยกำชับให้เธอลงมาแช่น้ำร้อนวันละสองเวลาเพื่อปรับสมดุลร่างกายตามเวลาที่กำหนดให้อย่างเคร่งครัด เธอก็ทำตามมาโดยตลอด แต่หลังจากทำงานหนักมาสามวันเต็ม เย็นวันนี้เธอจึงเปลี่ยนแผน เพราะอยากจะแช่น้ำอุ่นๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนเข้านอน มากกว่าเข้านอนโดยมีกลิ่นอาหารและกลิ่นควันไฟติดเส้นผมแย่แล้ว...คนอาบน้ำผิดเวลาแถมยังแช่น้ำนานนับครึ่งชั่วยามอยากจะร้องเตือน แต่เมื่อหันไปเห็นว่าผู้ชายที่แก้ผ้าแก้ผ่อนลงมาแช่น้ำร้อนชนิดไม่ดูตาม้าตาเรือไม่ใช่ท่านจ้าวหุบเขา ใบหน้าขาวผ่องก็ซีดลงอีกสามระดับไอ้ตี๋ร่างเล็ก หน้าหวาน แต่ท่าทางดูกวนประสาท แถมยังเอาแต่หัวเราะหึหึเป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวคนนี้เป็นใคร!!!อาจูซ่อนตัวนิ่งสนิทโดยสัญชาตญาณ ในใจได้แต่นึกขอบคุณตัวเองที่ยังหน้าบางเกินกว่าจะแก้ผ้าแก้ผ่อนลงแช่น้ำร้อนกลางแจ้ง ก็เลยว่ายเข้ามาหลบมุมอาบน้ำหลังซอกหินแบบนี้ขณะอาจูกำลังคิดว่าจะเอายังไงดี ไอ้ตี๋ที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนคนนั้นก็กางแขนกางขาถูเนื้อถูตัวอย่างน่าเกลียด ทำเอาคนที่คิดว่าตัวเองหน้าหนามากแล้วถึงขั้นอยากยอบกายคารวะอี๋...ร่างเด็กหนุ่มเพิ่งโตผอมแห้งพรรค์นี้น่าดูตรงไหนกันอะ...อนาจาร...นี่มัน

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 4

    หากสามวันแรกหลังจากตื่นขึ้นมาในหุบเขา เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ตลอดสามวันที่ผ่านมานี้ก็ยิ่งกว่าตกนรก ไอ้จ้าวหุบเขาโฉดจิตใจโหดเหี้ยมนั่นไม่อ่อนข้อให้เธอสักนิด! นับตั้งแต่โดนบรรดาไก่ตัวผู้ที่น่าจับมาต้มน้ำแกงให้หมดแข่งกันโก่งคอขันปลุก อาจูต้องรีบลุกขึ้นมาติดเตาไฟต้มน้ำอุ่นเตรียมไว้ให้เขาล้างหน้า ระหว่างรอน้ำเดือดก็ต้องรีบหอบสังขารไปอาบน้ำที่บ่อน้ำร้อนธรรมชาติท้ายหุบเขา จากนั้นก็ต้องรีบกลับมายกน้ำอุ่นไปให้เขาที่ห้อง โดยต้องไม่ลืมช่วยตระเตรียมเสื้อผ้าให้ด้วยอีกหนึ่งชุดเมื่อไปถึงที่นั่น หลังจากจัดวางอ่างล้างหน้า ผ้าสะอาดสำหรับเช็ดหน้าและมือ รวมทั้งเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้แล้ว เธอจะต้องรีบชงชาและติดเตาเล็กไว้รอท่า เผื่อว่าชาเย็นลงเมื่อไหร่จะได้พร้อมอุ่นกาให้เขาทุกเมื่อ แล้วหลังจากนั้นก็ต้องรีบกลับมาที่เรือนทิศใต้เพื่อหุงข้าวและปรุงอาหารสุกใหม่จำนวนสามชนิดนี่เป็นเพียงแค่รายการ “สิ่งที่ต้องทำ” ในช่วงเช้าเท่านั้น ยังไม่นับว่าหลังจากที่เขากินอาหารเสร็จดีแล้ว เธอยังต้องไปเก็บจานชามมาล้าง โดยก่อนจากมาต้องไม่ลืมตรวจสอบกาน้ำชาว่ามีชาอุ่นร้อนอยู่เต็มกาหรือไม่ กว่าจะทำงานของช่วงเช้าค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status