공유

บทที่ 8

작가: Karawek House
last update 최신 업데이트: 2025-08-19 19:19:48

เมื่อเทียบกับท่านจ้าวหุบเขาผู้ดูจะมีความสุขกับการเดินทอดน่องชมทิวทัศน์ยามค่ำแล้ว คนที่ใส่เกียร์โกยแน่บหนีความหนาวเหน็บกลับเรือนพักอย่างอาจูย่อมกลับมาถึงเร็วกว่าเขาเป็นเท่าตัว

            ทันทีที่กลับมาถึง อาจูก็ต้องตื่นตาตื่นใจเพราะหีบบรรจุเสื้อผ้าแพรพรรณชั้นดีและข้าวของเครื่องใช้สตรีแบบโบราณของแท้และดั้งเดิมที่วางเรียงกันอยู่บนลานเล็กๆ ด้านหน้าเรือนพัก เมื่อใช้สมองของศีรษะอันน่ารักจิ้มลิ้มชั่งตวงวัดแล้วเห็นว่าที่นี่ไม่มีสตรีอื่นใดนอกจากจวี๋ฮวา มิหนำซ้ำที่แห่งนี้ยังเป็นเรือนพักของนาง เจ้าของเรือนก็รีบกุลีกุจอขนถ่ายหีบ “สมบัติ” ทั้งสามใบเข้าไปเก็บในเรือนนอน อาการเหน็ดเหนื่อยปวดเมื่อยแขน ขา และเอวทั้งหลาย คล้ายจะหายไปชั่วขณะ

หลังจัดเก็บทุกอย่างไว้ที่มุมห้อง คนเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองกำลังหนาวก็รีบออกไปจุดไฟใส่กระถางไฟใบเล็กอันสะดวกแก่การขนย้าย แล้วค่อยๆ ยกมันเข้ามา จากนั้นก็เปลี่ยนมาสวมชุดผ้าไหมเนื้อดีสีเหลืองนวลซึ่งสุ่มหยิบมาจากบรรดาเสื้อผ้าสตรีหลากสีสันในหีบ โดยไม่ลืมเอาเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มของท่านจ้าวหุบเขาและเสื้อผ้าชุดเก่าของตัวเองไปตากไว้ที่ราวไม้เพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้นที่ยากจะกำจัด

พอลองได้มีเวลามายืนสังเกตดูแล้ว อาจูก็พบว่าเสื้อผ้าของท่านจ้าวหุบเขาใหญ่กว่าเสื้อผ้าที่ร่างน้อยๆ ร่างนี้สวมใส่เป็นเท่าตัวเลยทีเดียว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหากเธอและเขามายืนเทียบกันจริงๆ เขาซึ่งเป็นชายโตเต็มวัยและจวี๋ฮวาซึ่งเป็นสาวน้อยวัยแรกแย้มจะดูแตกต่างกันสักแค่ไหน

จะว่าไปแล้ว...ท่านจ้าวหุบเขาที่ใครต่อใครเล่าลือกันว่า ‘ชั่วโฉดโหดเหี้ยม’ ผู้นี้อายุเท่าไหร่กัน? ที่สำคัญกว่านั้น สุดท้ายแล้วผู้ชายที่เข้มงวดและทำตัวเงียบขรึมไว้ท่าทีเหมือนตาแก่ตลอดเวลาอย่างนั้นโกรธเธอมากหรือเปล่า?

นอกจากนี้...หลังจากที่แสดงออกออกไปแบบนั้น ด้วยอุปนิสัยของเขาและภาพลักษณ์อันซื่อใสไร้เดียงสาน่าสงสารของจวี๋ฮวา เธอควรจะแสดงออก แบบไหน?

“...เสื้อคลุมท่านตัวใหญ่มากจริงๆ” อาจูพึมพำพลางไล้ปลายนิ้วไปตามชายแขนเสื้อ ท่ามกลางแสงไฟสุกสว่างจากกระถางไฟและโคมสัมฤทธิ์ฉลุลาย ร่างอ้อนแอ้นในเสื้อผ้าเนื้อโปร่งบางชุดใหม่ยิ่งดูเปล่งประกายบริสุทธิ์อ่อนหวานขึ้นหลายส่วน

ตอนนั้นเอง อาจูได้ยินเสียงพื้นไม้ลั่นเอี้ยดขึ้นครั้งหนึ่ง

แม้จะเพียงแผ่วเบา แต่ก็เดาได้ว่าน่าจะมีใครกำลังเดินมาทางนี้

ก่อนหน้านี้เธอเผลอพูดจาน่าหมั่นไส้โดยไม่รู้ว่ามีคนเดินเข้าใกล้ จนทำตัวเองภาพพจน์ติดลบมาแล้วหนหนึ่ง หลังจากย้ายเข้าที่พักใหม่ก็เลยตั้งใจว่าจะสร้างสัญญาณเตือนภัยเล็กๆ น้อยๆ

หึหึ...

ต้องขอบคุณที่แผ่นไม้ปูพื้นหน้าเรือนนี้เก่าแก่สึกหรอมากกว่าบริเวณไหนๆ เพียงแค่ใช้ท่อนฟืนออกแรงงัดแผ่นไม้บางแผ่นนิดๆ หน่อยๆ ยามเดินเหินก็เกิดเสียงเอี้ยดอ้าดง่ายดายเสียจนแน่ใจได้ว่าแม้จะเป็นผู้ฝึกยุทธหน้าไหน หากเดินไม่ระวัง ย่อมต้องทิ้งสัญญาณเสียงบอกใบ้ให้รู้ว่ามาเยือน...

ไวเท่าความคิด เจ้าของเรือนใช้มืออีกข้างที่วางแนบลำตัวลอบสะบัดชายกระโปรงไปทางกระถางไฟ อาศัยลมหนาวช่วยพัดส่ง ขณะเดียวกันก็แสร้งทำสีหน้าซับซ้อน สับสน

“ข้า...ข้าจะทำยังไงดี...ความรู้สึกแบบนี้มัน...” จวี๋ฮวายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นราวกับคนคิดไม่ตก

ทว่าไม่นานนักกลิ่นเหม็นไหม้ก็ทำให้เจ้าตัวได้สติ

ร่างเล็กๆ เหลียวมองหาต้นตอของกลิ่นสีหน้าหวาดหวั่น เมื่อเห็นว่าชายเสื้อตัวเองกำลังติดไฟลุกไหม้ คนเพิ่งหลุดจากอาการคล้ายเหม่อลอยก็ถึงขั้นหวีดร้องเสียงหลง

นางรีบหมุนตัวกลับหลังหันโดยสัญชาตญาณ แต่นอกจากกิริยานั้นจะ

ไม่ช่วยอะไรแล้ว มันกลับทำให้เปลวไฟบนชายกระโปรงยิ่งลุกลามใหญ่โต

ประตูบานไม้ถูกผลักเข้ามาอย่างรุนแรงในชั่วอึดใจ ร่างสง่างามซึ่งสวมเพียงเสื้อสีขาวตัวในพุ่งเข้ามาฉวยข้อมือดึงเธอเข้าหา ช่วยกระชากเสื้อผ้าติดไฟออกจากร่าง

หลังฟาดลงพื้นและกระทืบด้วยลมปราณเพียงหนึ่งครั้ง ไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็วก็ดับลง ทิ้งไว้เพียงร่องรอยอันน่าหวาดหวั่น

“ซือฝุ...ซือฝุ!”

จวี๋ฮวาคล้ายโดนเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำร้ายจนสติสัมปชัญญะเลือนหาย ร่างอ้อนแอ้นดูบอบบางในสภาพล่อแหลมผวาเข้าซบแผงอกแกร่ง มือน้อยๆ สวมกอดท่านจ้าวหุบเขาแนบแน่น เนื้อตัวสั่นเทาราวกับกระต่ายน้อยเสียขวัญ

เสียงร้องของจวี๋ฮวาดังไปถึงโถงรับแขกเรือนใหญ่เช่นกัน แม้จะไม่กล้าขยับตัวมายุ่มย่าม แต่เหล่าบุรุษจากสำนักคุ้มภัยตระกูลซุนยังอดขยับออกมาสอดส่ายสายตาไม่ได้

เรือนทิศใต้แห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศใต้สมชื่ออีกทั้งคฤหาสน์หลังนี้ก็ไม่ได้มีเส้นทางสลับซับซ้อนหรือมีต้นไม้รกครึ้มสักเท่าใด หากเลือกมุมดีๆ แล้ว ยังพอที่จะมองเห็นเรือนพักของจวี๋ฮวาได้ชัดเจน ดังนั้น เหล่าแขกตาดีตามประสาผู้ฝึกยุทธจึงพลอยมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่คนตาไวที่สุดทันเห็นก็คือภาพบุรุษผู้เย็นชาอย่างร้ายกาจดึงร่างดรุณีน้อยพิลาศล้ำที่ปากก็บอกว่าเป็นลูกศิษย์เข้าหาตัว...แล้วกระชากเสื้อผ้านางออกจากร่างในครั้งเดียว!

คล้ายจ้าวหุบเขาผู้นั้นจะสัมผัสได้ถึงสายตาคนนอก หรือไม่ก็ไม่ต้องการให้ผู้ใดรบกวนเหตุการณ์หลังจากนั้น เขาสะบัดมือเพียงครั้ง ลมปราณอันทรงพลังก็ผลักประตูและหน้าต่างบานไม้ให้ปิดสนิทแน่น ยากจะสอดส่องเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายใน

นะ...นี่มัน...นี่มันใช่คู่ศิษย์อาจารย์ธรรมดาๆ ที่ไหนกัน!

ชัดเจน...ชัดเจนยิ่งนักว่าข่าวลือทั้งหมดนั่นเป็นความจริง!

อึ๋ย...ที่จริงยิ่งกว่าจริงก็คือจ้าวหุบเขาผู้นี้เป็นผู้หวงของมากเสียด้วย!

เมื่อคิดได้ดังนี้ บรรดาแขกเหรื่อของหุบเขาก็รีบเก็บสายตา ไม่กล้าแม้แต่จะลอบเหลียวดู ไม่กล้าทำตัวสอดรู้อีกต่อไป

แหม่...แต่เสียงร้องหวานๆ กับภาพเหตุการณ์ร้อนแรงเมื่อครู่ก็ช่าง...

เหล่าบุรุษผู้มีคุณธรรมต่างพยายามสลัดจินตนาการหยาบโลนออกจากห้วงคิด ทั้งอย่างนั้น ส่วนลึกในจิตใจก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ในคืนค่ำย่ำน้ำค้างเช่นนี้ ท่านจ้าวหุบเขาผู้เย็นชาป่าเถื่อน จะเอาโทสะอีกกึ่งหนึ่งไปลงที่แม่นางน้อยผู้นั้นอย่างไรกันบ้างนะ?

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 9

    ข้างฝ่ายคู่ศิษย์อาจารย์ในห้องหับมิดชิด...ยามนี้จวี๋ฮวาคล้ายจะเสียขวัญจนลืมตัว นางแทบจะฝังร่างตนเองในอ้อมอกท่านจ้าวหุบเขา หน้าอกหน้าใจหนั่นแน่นบดคลึงแผงอกแกร่งไปถึงไหนต่อไหน สองมือเล็กๆ กอดรัดเขาแน่นด้วยความรักและไว้วางใจสูงสุด ทำราวกับในสายตานาง บุรุษผู้นี้คือที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวบนโลกนี้เธอไม่ค่อยแน่ใจนักว่าท่านจ้าวหุบเขาคิดเห็นเช่นไร เพราะเขาเอาแต่ยืนนิ่งเหมือนตุ๊กตาหน้าหล่อไร้ความรู้สึก...และเพราะเขาไม่มีปฏิกิริยาใดใด ไม่แม้แต่จะแข็งขืนหรือผลักไส ต่อให้อยากซุกไซ้แผงอกกรุ่นกลิ่นหอมดิบเถื่อนแปลกประหลาดที่ตัวเองเคยสักแต่เขียนบรรยายลงในนิยายทั้งๆ ที่ไม่เคยสัมผัสและไม่คาดคิดว่าจะมีอยู่จริงสักแค่ไหน นักเขียนสายมโนอย่างเธอก็ยังอดตะขิดตะขวงใจขึ้นมาไม่ได้อะ...ไอ้ความรู้สึกเหมือนว่าเป็นสีกาชั่วกำลังยั่วยวนพระตบะสูงแบบนี้มันคืออะไร?มีใครสักคนเคยบอกไว้ คนเราต้องไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงในสถานการณ์ที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ควบคุม เพราะฉะนั้น...ก่อนที่ตัวเองจะทำอะไรไม่ถูกเพราะปฏิกิริยาเหนือความคาดหมายนี้ อาจูรีบดันตัวเองออกจากแผงอกอุ่นด้วยสีหน้าตกใจระคนสับสน เมื่อดวงตาคู่งามที่เต็มไปด้วยอารมณ์วาบ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 8

    เมื่อเทียบกับท่านจ้าวหุบเขาผู้ดูจะมีความสุขกับการเดินทอดน่องชมทิวทัศน์ยามค่ำแล้ว คนที่ใส่เกียร์โกยแน่บหนีความหนาวเหน็บกลับเรือนพักอย่างอาจูย่อมกลับมาถึงเร็วกว่าเขาเป็นเท่าตัว ทันทีที่กลับมาถึง อาจูก็ต้องตื่นตาตื่นใจเพราะหีบบรรจุเสื้อผ้าแพรพรรณชั้นดีและข้าวของเครื่องใช้สตรีแบบโบราณของแท้และดั้งเดิมที่วางเรียงกันอยู่บนลานเล็กๆ ด้านหน้าเรือนพัก เมื่อใช้สมองของศีรษะอันน่ารักจิ้มลิ้มชั่งตวงวัดแล้วเห็นว่าที่นี่ไม่มีสตรีอื่นใดนอกจากจวี๋ฮวา มิหนำซ้ำที่แห่งนี้ยังเป็นเรือนพักของนาง เจ้าของเรือนก็รีบกุลีกุจอขนถ่ายหีบ “สมบัติ” ทั้งสามใบเข้าไปเก็บในเรือนนอน อาการเหน็ดเหนื่อยปวดเมื่อยแขน ขา และเอวทั้งหลาย คล้ายจะหายไปชั่วขณะหลังจัดเก็บทุกอย่างไว้ที่มุมห้อง คนเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองกำลังหนาวก็รีบออกไปจุดไฟใส่กระถางไฟใบเล็กอันสะดวกแก่การขนย้าย แล้วค่อยๆ ยกมันเข้ามา จากนั้นก็เปลี่ยนมาสวมชุดผ้าไหมเนื้อดีสีเหลืองนวลซึ่งสุ่มหยิบมาจากบรรดาเสื้อผ้าสตรีหลากสีสันในหีบ โดยไม่ลืมเอาเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้มของท่านจ้าวหุบเขาและเสื้อผ้าชุดเก่าของตัวเองไปตากไว้ที่ราวไม้เพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้นที่ยากจะกำจัด

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 7

    “ทั้งข้าและศิษย์ต่างเป็นผู้ฝักใฝ่ความเงียบสงบ ไม่สันทัดการรับรองผู้คน อาจจะดูเสียมารยาท ทว่ารังมุสิก[1]เล็กจ้อยไม่อาจรองรับคนร่างใหญ่ พวกท่านรีบออกจากหุบเขาเสียจะดีกว่า ยิ่งดึกลมแรง ข้ามหุบเหวตอนลมแรงนับเป็นเรื่องอันตราย อาจมีผู้ใดพลัดตกลงไปได้ทุกเมื่อ” จ้าวหุบเขาเอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง น้ำเสียงก็ยังราบเรียบดุจเดิม ทั้งอย่างนั้น คนฟังต่างเย็นวาบไปทั้งศีรษะ ยิ่งนึกถึงภาพใบไม้ในก้อนหิน ในอกก็ยิ่งสั่นสะท้านนะ...นี่...นี่เขาเพิ่งขู่จะฆ่าทุกคนใช่หรือไม่!พ่อบ้านสกุลซุนกำหมัดแน่นขึ้นอีก“ท่านจ้าวหุบเขา แต่ว่ามือของนายน้อย...”“พ่อบ้านสกุลซุน ท่านช่างไม่รู้จักเกรงใจเสียเลย ท่านคิดว่าตอนนี้ล่วงเข้ายามใดแล้ว” จ้าวหุบเขาหยิบขวดใบจ้อยทรงรีเรียวออกมา แล้วซัดฝ่ามือเบาๆ เข้าใส่ ส่งมันเข้าสู่อุ้งมือพ่อบ้านชรา “เห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับประมุขซุน ข้าจะช่วยดูมือนั่นให้”พ่อบ้านชรารีบโค้งตัวคำนับเป็นการใหญ่ จวบจนจ้าวหุบเขาโบกมือปราม เขาจึงยอมหยุดกิริยานั้น“ให้เขากินยานั่นก่อน อีกไม่เกินสองเค่อ รอข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยดีแล้วจะช่วยต่อเส้นเลือดและเส้นเอ็นให้ ส่วนค่ารักษา...”“หนึ่งหมื่นตำลึงทอ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 6

    หลังพูดประโยคนี้ อาจูแทบอยากล้มตัวลงกรี้ดอัดหมอน หรือไม่ก็หลบมุมไปตบเข่าตัวเองสักฉาดได้ใจแม่มาก ได้ใจแม่มากกก ทำดีมาก ดีมากๆ ค่ะลูกสาว!...ในใจกรี้ดกร้าดไป ภายนอกก็แสร้งทำสีหน้าสับสนปนหวั่นไหวเล็กน้อยเสี่ยวจวี๋ฮวาไม่รอให้ซือฝุตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างงดงามใต้แสงจันทร์ยกมือขึ้นปิดปาก พร้อมกับส่งเสียง “อ๊ะ...” ราวกับเพิ่งหลุดพูดสิ่งที่คิด ขณะเดียวกันดวงตาดอกท้อก็เบิกกว้างขึ้นอย่างไร้เดียงสา “ดะ..ดึกมากแล้ว คืนนี้อากาศเย็น ซือฝุโปรดรักษาตัวด้วย” หลังพูดประโยคที่ฟังดูโง่งม ร่างเล็กๆ ก็รีบกอดกระชับตัวเองแน่น แล้วพาร่างอ้อนแอ้นบอบบางวิ่งกลับเรือนพักไปทั้งอย่างนั้น...หึหึ...เธอไม่รู้หรอกว่าจ้าวหุบเขาผู้นั้นจะคิดอย่างไร รู้เพียงแต่ตอนนี้เสี่ยวจวี๋ฮวาได้ทำตัวเป็นนางเอกนิยายรักใสใสไปหนึ่งยก ทั้งยังไม่ต้องทนเดินทอดน่องตากลมหนาวไปอีกอย่างต่ำก็ราวๆ สิบห้านาทีสิบห้านาที...สิบห้านาทีเชียวนะ!อากาศหนาวตั้งขนาดนี้ ขืนเดินทอดน่องตากลมอีกแค่ห้านาทีก็ตัวแข็งเป็นเนื้อไก่ในช่องแช่กันพอดี! จ้าวหุบเขาเดียวดายมองแผ่นหลังเด็กสาวที่เมื่อครู่ยังเนื้อตัวสั่นเทาหนักราวกับหนาวเหน็บจนขาแข้งแทบแข็งแล้ว ก็เลิกคิ้วขึ

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 5

    จ้าวหุบเขาเคยกำชับให้เธอลงมาแช่น้ำร้อนวันละสองเวลาเพื่อปรับสมดุลร่างกายตามเวลาที่กำหนดให้อย่างเคร่งครัด เธอก็ทำตามมาโดยตลอด แต่หลังจากทำงานหนักมาสามวันเต็ม เย็นวันนี้เธอจึงเปลี่ยนแผน เพราะอยากจะแช่น้ำอุ่นๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนเข้านอน มากกว่าเข้านอนโดยมีกลิ่นอาหารและกลิ่นควันไฟติดเส้นผมแย่แล้ว...คนอาบน้ำผิดเวลาแถมยังแช่น้ำนานนับครึ่งชั่วยามอยากจะร้องเตือน แต่เมื่อหันไปเห็นว่าผู้ชายที่แก้ผ้าแก้ผ่อนลงมาแช่น้ำร้อนชนิดไม่ดูตาม้าตาเรือไม่ใช่ท่านจ้าวหุบเขา ใบหน้าขาวผ่องก็ซีดลงอีกสามระดับไอ้ตี๋ร่างเล็ก หน้าหวาน แต่ท่าทางดูกวนประสาท แถมยังเอาแต่หัวเราะหึหึเป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวคนนี้เป็นใคร!!!อาจูซ่อนตัวนิ่งสนิทโดยสัญชาตญาณ ในใจได้แต่นึกขอบคุณตัวเองที่ยังหน้าบางเกินกว่าจะแก้ผ้าแก้ผ่อนลงแช่น้ำร้อนกลางแจ้ง ก็เลยว่ายเข้ามาหลบมุมอาบน้ำหลังซอกหินแบบนี้ขณะอาจูกำลังคิดว่าจะเอายังไงดี ไอ้ตี๋ที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหนคนนั้นก็กางแขนกางขาถูเนื้อถูตัวอย่างน่าเกลียด ทำเอาคนที่คิดว่าตัวเองหน้าหนามากแล้วถึงขั้นอยากยอบกายคารวะอี๋...ร่างเด็กหนุ่มเพิ่งโตผอมแห้งพรรค์นี้น่าดูตรงไหนกันอะ...อนาจาร...นี่มัน

  • นางมารน้อยข้ามภพ   บทที่ 4

    หากสามวันแรกหลังจากตื่นขึ้นมาในหุบเขา เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ตลอดสามวันที่ผ่านมานี้ก็ยิ่งกว่าตกนรก ไอ้จ้าวหุบเขาโฉดจิตใจโหดเหี้ยมนั่นไม่อ่อนข้อให้เธอสักนิด! นับตั้งแต่โดนบรรดาไก่ตัวผู้ที่น่าจับมาต้มน้ำแกงให้หมดแข่งกันโก่งคอขันปลุก อาจูต้องรีบลุกขึ้นมาติดเตาไฟต้มน้ำอุ่นเตรียมไว้ให้เขาล้างหน้า ระหว่างรอน้ำเดือดก็ต้องรีบหอบสังขารไปอาบน้ำที่บ่อน้ำร้อนธรรมชาติท้ายหุบเขา จากนั้นก็ต้องรีบกลับมายกน้ำอุ่นไปให้เขาที่ห้อง โดยต้องไม่ลืมช่วยตระเตรียมเสื้อผ้าให้ด้วยอีกหนึ่งชุดเมื่อไปถึงที่นั่น หลังจากจัดวางอ่างล้างหน้า ผ้าสะอาดสำหรับเช็ดหน้าและมือ รวมทั้งเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้แล้ว เธอจะต้องรีบชงชาและติดเตาเล็กไว้รอท่า เผื่อว่าชาเย็นลงเมื่อไหร่จะได้พร้อมอุ่นกาให้เขาทุกเมื่อ แล้วหลังจากนั้นก็ต้องรีบกลับมาที่เรือนทิศใต้เพื่อหุงข้าวและปรุงอาหารสุกใหม่จำนวนสามชนิดนี่เป็นเพียงแค่รายการ “สิ่งที่ต้องทำ” ในช่วงเช้าเท่านั้น ยังไม่นับว่าหลังจากที่เขากินอาหารเสร็จดีแล้ว เธอยังต้องไปเก็บจานชามมาล้าง โดยก่อนจากมาต้องไม่ลืมตรวจสอบกาน้ำชาว่ามีชาอุ่นร้อนอยู่เต็มกาหรือไม่ กว่าจะทำงานของช่วงเช้าค

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status