Share

ตอนที่22 เปิดเผยความในใจ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-27 20:16:30

 “เจ้าเป็นอย่างไรบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?” เขารีบเอ่ยถามออกไปอย่างร้อนรน พร้อมสำรวจร่างกายของนางอย่างเป็นห่วง แต่ว่านชิงอีกลับตวัดสายตามองเขาอย่างน้อยใจ

 “หม่อมฉันสิต้องถามว่าท่านอ๋องเป็นอะไร ไม่พอใจหม่อมฉันที่แสดงกิริยาไม่ดีต่อไทเฮาหรือเพคะ หากเป็นเช่นนั้นหม่อมฉันจะทูลฝ่าบาท ขอคืนตำแหน่งท่านหญิงและตำแหน่งผู้บัญชาการสืบสวน เพราะหากยังมีตำแหน่งนี้อยู่ หม่อมฉันก็ไม่อาจรับปากว่า จะยอมให้ใครมารังแกโดยที่ไม่ตอบโต้”

 “เจ้าพูดเรื่องบ้าอะไรกัน” เหว่ยอ๋องพูดออกไปแล้วมองหน้านางอย่างไม่เข้าใจ แต่ว่านชิงอีก็ขยับร่างหนีเขา แล้วเตรียมจะเดินจากไป แต่เขากลับกระชากแขนนางกลับมา จนร่างนางเซมาปะทะอกเขาดังปึก! คราวนี้ว่านชิงอีหมดความอดทน ก้มมองมือที่เขาจับแขนนางไว้ ก่อนนางจะก้มลงกัดแขนเขาสุดแรง

 “อ๊ากก! เจ้าเป็นบ้าอะไรอีกเนี้ยะ!” พอเขาพูดประโยคนี้ เหมือนกับไปสุ่มไฟในใจนางให้ลุกมากขึ้น ว่านชิงอีแหงนหน้ามองเขาอย่างโกรธเคือง ก่อนจะรัวหมัดทุบไปที่เขาอย่างไม่นับ พร้อมร้องไห้ออกมาอย่างอัดอั้น

 “หม่อมฉันไม่อยากเป็นแล้วท่านหญิง ไม่อยากได้ตำแหน่งอะไรทั้งนั้น ทำอะไรก็ผิดไปหมด หม่อมฉันอึดอัดจะตายแล้ว ต่อไปหม่อมฉันจะไม่ยุ่งกับคนของราชวงศ์และจะหลีกหนีให้ห่าง” ว่านชิงอีระบายออกมาทั้งน้ำตา เหว่ยอ๋องปล่อยให้นางทุบเขาจนเหนื่อยและหยุดไปเอง ก่อนจะยกมือมาปาดน้ำตาให้นางอย่างอ่อนโยน โดยลืมไปว่าองค์ชายซีห่าวและรัชทายาทมองอยู่

 นี่หมายความว่าเช่นไร พวกเขาสองคนสนิทสนมกันมากถึงเพียงนี้ องค์ชายซีห่าวเริ่มคิดทบทวนเรื่องราวก่อนหน้านี้ ที่เขาได้ถามออกไปว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับนาง แต่เป็นเขาที่บอกความรู้สึกของตนเองออกมาก่อน เสด็จพี่ของเขาคงไม่อยากทำให้เขาเสียใจสินะ เลยตอบออกมาเช่นนั้น องค์ชายซีห่าวหันไปมองรัชทายาท ที่ยามนี้มีใบหน้าที่เศร้าสร้อย หลังจากเห็นภาพของทั้งคู่ นี่หมายความว่ารัชทายาทก็คิดกับนาง? แต่ว่าเรื่องแบบนี้มันบังคับจิตใจกันไม่ได้ และดูท่าแล้วนางคงมีใจให้กับเหว่ยอ๋องอยู่ไม่น้อย เขาผู้เป็นน้องชายก็ควรจะสนับสนุนพี่ชายถึงจะถูก

 “เสด็จพี่ข้าออกไปรอข้างนอกนะพ่ะย่ะค่ะ”

 “ข้าก็จะออกไปรอข้างนอกเช่นกัน” องค์รัชทายาทเอ่ยพร้อมกับขยิบตาให้เขาอย่างรู้กัน พอพวกเขาออกไปแล้ว เขาก็ดึงนางเขามาสวมกอด นางก็กอดตอบเขาอย่างไม่เกี่ยงงอน

 “เจ้าเป็นอะไรไหนลองบอกข้าสิ” เหว่ยอ๋องเชยคางนางขึ้นมา พร้อมมองสำรวจไปทั่วใบหน้าของนาง

 “ก็วันนี้ท่านอ๋องดูมึนตึงใส่หม่อมฉัน หม่อมฉันก็เลยคิดว่าอาจเป็นเพราะวันนี้ หม่อมฉันแสดงกิริยาไม่เหมาะสมกับเสด็จย่าของท่าน ท่านอาจจะไม่พอใจ หม่อมฉันชวนไปหมู่บ้านตงซานท่านอ๋องก็ปฎิเสธ หม่อมฉันก็เลยน้อยใจ” ประโยคหลังว่านชิงอีเอ่ยเสียงอ่อยพร้อมจิ้มไปบนอกเขาเบาๆ เขามองกิริยาของนางอย่างเอ็นดู ก่อนยกมือมาเกลี่ยแก้มนางเบาๆ ผิวนางละเอียดลื่นมือดีจริงๅ

 “ข้าไม่ได้ไม่พอใจเจ้า แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย คราวหลังมีอะไรเจ้าก็มาถามข้า ห้ามคิดไปเองเข้าใจหรือไม่?” ว่านชิงอีพอได้ยิ้นเขาเอ่ยเช่นนั้นก็ยกยิ้ม

 “แล้วถ้าหากว่าหม่อมฉันคิดไปเองว่า ท่านอ๋องมีใจให้หม่อมฉัน ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันควรจะถามพระองค์อย่างไรดีเพคะ” เหว่ยอ๋องไม่คาดคิดว่านางจะกล้าเกี้ยวเขา โดยที่ไม่มีอาการเขินอายเลยสักนิด ต่างจากเขาที่ยามนี้ใบหน้าแดงระเรื่อดั่งมะเขือเทศ

 “เจ้าควรถามว่า ยินดีรับเจ้าเป็นชายาหรือไม่?” ว่านชิงอีมองเขาตาโต ปกติทำหน้านิ่งๆ เย็นชาดั่งนำ้แข็ง บทจะหวานขึ้นมา ไฟรักก็ลนน้ำแข็งให้ละลายได้เหมือนกัน

 “แล้วท่านอ๋องยินดีรับหม่อมฉัน เป็นชายาหรือไม่เพคะ?” คราวนี้ว่านชิงอีก้มหน้าด้วยความเขินขึ้นมาบ้าง

 “ที่จริงข้าพร้อมตั้งแต่วันนี้ แต่เพราะว่าเจ้ายังเยาว์นัก ถึงวันปักปิ่นเมื่อไหร่ เจ้าได้เป็นชายาข้าแน่”

 “พระองค์พูดแบบนี้ดูหล่อเหล่าขึ้นมาเลยเพคะ”

 “จริงใจหรือไม่?” พอนางพูดแบบนี้ เขาก็เริ่มไม่แน่ใจว่านางแกล้งเขาหรือเปล่า

 “จริงใจที่สุดเลยเพคะ เราออกไปหาพวกเขากันเถอะเพคะ” ว่านชิงอีรีบรีบคว้ามือเขา เดินออกไปหารัชทายาทและองค์ชายทันที เพราะยามนี้ตัวนางเองก็เขินมาก 

 ทางด้านกู้ผิงอัน ซูโม่หลัน จางเจียอี พอกลับถึงจวนก็ตรงเข้าไปหามารดา พร้อมร้องห่มร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว และเล่าเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวให้มารดาฟัง ยามนี้พวกนางไม่อยากกลับไป ที่สำนักงานสืบสวนคดีอีกแล้ว

 “ท่านแม่ท่านหญิงนางน่ากลัวจริงๆ พอนางโกรธลมพายุก็พัดทุกสิ่งอย่างแตกหักเต็มห้อง แถมนางยังมีบ่าวรับใช้เป็นวิญญาณ ท่านหญิงใช้ดาบฟันคอบ่าวรับใช้จนขาดกระเด็น นางโหดเหี้ยมมากเจ้าค่ะ ท่านแม่ข้ากลัว!”

 “ลูกรักไม่ต้องกลัว” ฮูหยินกู้รีบกอดปลอบกู้ผิงอัน

 “แต่ว่าท่านแม่ข้าไม่กลับไปแล้วนะเจ้าคะ” กู้ผิงอันเอ่ยน้ำเสียงสั่น เพราะยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 “ได้ๆ เรื่องนี้แม่จะคุยกับท่านพ่อของเจ้าให้เอง”

 กู้ฮูหยินพอได้ฟังเรื่องราวที่กู้ผิงอันเล่า ก็นึกกระหยิ่มยิ้มในใจกับแผนการที่นางคิดขึ้นมา คราวนี้ท่านหญิงนางไม่รอดแน่ หากมีข่าวลือออกไปว่านางเป็นปีศาจ ผู้คนจะต้องอยากจับนางมาเผาทั้งเป็นเเน่ แต่ว่าคราวนี้นางจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามอีกแล้ว นางจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสามีของนางจัดการแทน 

 ทางด้านว่านชิงอีพอได้เปิดใจคุยกับเหว่ยอ๋อง ทุกอย่างก็เหมือนจะสดใสกลายเป็นสีชมพู แม้รัชทายาทและองค์ชายซีห่าวจะรู้สึกผิดหวังและเสียใจ แต่เมื่อเห็นนางร่าเริงมีความสุขเช่นนี้ เขาทั้งสองก็ต้องยอมเก็บเอาความรู้สึกส่วนลึกเอาไว้ภายใน เขายินดีส่งเสริมเหว่ยอ๋องกับนางโดยไร้ข้อโต้แย้งใดๆ

 “ในฐานะที่หม่อมฉันอารมณ์ดี วันนี้หม่อมฉันจะทำอาหารเลี้ยงทุกคนเองเพคะ”

 “จะกินได้จริงหรือ?” รัชทายาทเอ่ยหยอกล้อนางขึ้นมา

 “กินได้ไม่ติดคอแน่นอนเพคะ”

 “.....”

 “หม่อมฉันหมายถึงกินได้อร่อยแน่นอนเพคะ” ว่านชิงอีกล่าวอย่างอารมณ์ดี เหว่ยอ๋องยกมือมายีหัวนางอย่างมันเขี้ยว ว่านชิงอีเขียนรายการของที่ต้องซื้อ แล้วยื่นให้ฮุ่ยเจียง 

 “ท่านอ๋อง องค์ชาย องค์รัชทายาท วันนี้ไปเสวยมื้อค่ำที่จวนหม่อมฉันนะเพคะ” สามบุรุษหันไปมองหน้ากัน ก่อนจะหันมาตอบตกลง 

 เมื่อมาถึงจวนสกุลว่าน ว่านชิงอีก็ก้าวลงจากรถม้าอย่างร่าเริง ก่อนจะเดินนำเหว่ยอ๋อง องค์ชายซีห่าวและองค์รัชทายาท ไปที่ห้องโถงรับรองที่เรือนใหญ่ ว่านฮูหยินที่นั่งอยู่พร้อมกับ ว่านชิงหลินและว่านชิงหลาน เหลือบมาเห็นว่ามีบุรุษสูงศักดิ์ตามมาด้วย ก็รีบลุกขึ้นมายอบกายทำความเคารพ 

 “ท่านแม่วันนี้ท่านอ๋อง องค์ชายซีห่าวและองค์รัชทายาทจะมาเสวยอาหารค่ำที่นี่เจ้าค่ะ และข้าก็จะเป็นคนลงมือทำด้วยตัวเองด้วย”

 “เจ้าจะลงมือทำอาหารเอง!” สามสตรีร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ นางคิดอย่างไรถึงจะทำอาหารด้วยตนเอง 

 “ทำไมไม่เชื่อว่าข้าทำได้ใช่หรือไม่? วันนี้ข้าจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ไม่มีใครทำอาหารเก่งเท่าข้าอีกแล้ว” ว่านชิงอีเอ่ยขึ้นอย่างหมายมาด ว่านฮูหยินเห็นเช่นนั้นจึงรีบเอ่ยขึ้น 

 “เจ้าทำงานมาทั้งวันพักให้หายเหนื่อยก่อน เรื่องอาหารแม่ว่าให้พี่สาวเจ้าเป็นคนทำดีหรือไม่?” ว่านชิงอี กลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่าย เพราะร่างนี้ไม่เคยหยิบจับอะไร ทุกคนจึงคิดว่านางไม่มีทางทำได้ เหว่ยอ๋องที่เห็นว่าว่านชิงอีมีความตั้งใจที่จำทำอาหารจริงๆ จึงรีบพูดขึ้นมา

 “ให้นางลองทำเถิด เดี๋ยวข้าจะไปช่วยนางอีกแรง” ว่านชิงอีได้ยินเช่นนั้นก็หันมายิ้มหวานให้เขาทันที ว่านฮูหยินเมื่อเห็นแขกผู้มาเยือนที่เป็นถึงท่านอ๋องจะไปช่วยทำอาหาร ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนและลำบากใจ จึงสะกิดบอกชิงหลินและชิงหลานให้ตามไปช่วยในครัวด้วย 

 

 

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่31 หมอทำคลอดที่ดีที่สุด

    ทางด้านจ้าวลัทธิซิ่วเป่าในระหว่างทำพิธีอยู่นั้น จู่ ๆ แท่นบูชาก็เกิดไฟก็ลุกไหม้ขึ้นมา เขาเองก็ตกใจไม่คาดคิดว่า ไฟจะลุกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือว่าวิญญาณที่ส่งไปจะทำไม่สำเร็จ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ สองดวงวิญญาณยังไม่กลับมา ช่วงนี้วิญญาณที่เขาส่งไปไม่เคยได้กลับมา ครั้งนี้ก็เช่นกัน ท่านหญิงจวินจู่นอกจากนางจะพูดคุยกับวิญญาณได้แล้ว นางยังมีความสามารถอื่นอีกหรือไม่? เรื่องนี้เขาต้องหาทางสืบให้กระจ่าง หากวิธีดึงวิญญาณข้างกายนางมาไม่สำเร็จ ก็คงต้องคิดหาวิธีอื่น อย่างเช่นฆ่านางทิ้งเสีย อย่างที่นายหญิงโจวเหม่ยหลิงได้บอกเอาไว้ ซึ่งวิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เขาทำงานรับใช้ตระกูลโจวมาอย่างยาวนาน มีเงินมีทองใช้และมีชีวิตที่ดีขึ้น ก็เป็นเพราะได้ตระกูลโจวให้ความช่วยเหลือ แลกกับการที่เขาใช้วิชาอาคมกับวิญญาณ ให้ไปทำร้ายคนที่คิดขัดขวางผลประโยชน์ของตระกูลโจว การค้าของตระกูลโจวนั้นมีมากมาย ดังนั้นนายใหญ่อย่างโจวเหม่ยหลิง จึงดึงขุนนางหลายคนมาเป็นพรรคพวก แลกกับผลประโยชน์อันมหาศาลที่จะได้รับ และสามตระกูลใหญ่คือตัวเลือก ซึ่งก็ร่วมงานกันอย่างราบรื่นเป็นอย่างดี จวบจนมีท่านหญิงจวินจู่โผล่ขึ้นมา ฟังดู

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่30 การมาของวิญญาณ

    ดึกสงัดในค่ำคืนเดือนมืด ว่านชิงอีและพี่สาวอีกสองคนของนางก็ยังไม่พากันเตรียมตัวเข้านอน เพราะว่านชิงอีไหว้วานให้พี่สาวทั้งสอง ช่วยพับยันต์ที่นางเขียนขึ้นมามากมาย เพราะอีกไม่นานจะเป็นเทศกาลปีใหม่ ว่านชิงอีจึงอยากจะทำไว้แจกผู้คน แต่ในความรู้สึกส่วนตัวลึกๆ นางมีลางสังหรณ์ว่าจะมีเรื่องราวไม่ดีเกิดขึ้น นางจึงคิดว่าหากมียันต์ป้องกันภูตผีพกติดตัวกันเอาไว้ ก็อาจจะพอช่วยอยู่ได้บ้างแม้จะไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ว่านชิงอีปรายตามองปิงปิงที่นอนเล่นอยู่บนเตียงของนาง ส่วนดวงวิญญาณอีกสามดวงนั่งอยู่อีกมุมหนึ่ง “เหตุใดเจ้าถึงต้องทำเยอะขนานนี้กัน? ว่านชิงหลานเริ่มรู้สึกเบื่อ เพราะนั่งทำมาหลายชั่วโมงแล้ว เสี่ยวหมานพยักหน้าเห็นด้วยที่ เพราะนางก็เริ่มเมื่อยมือเช่นเดียวกัน “งั้นพี่ใหญ่พี่รองก็ไปนอนเถิดเจ้าค่ะ วันหลังคอยมาพับใหม่” ว่านชิงอีมองเห็นความเหนื่อยล้าของพี่สาวทั้งสอง จึงรีบบอกให้ไปพักผ่อนเสียง “ถ้าเช่นนั้นข้าไปก่อนนะ” ว่านชิงหลินและว่านชิงหลานรีบเอ่ยลา เพราะร่างกายเริ่มล้าและง่วงนอนเต็มที หลังจากพี่สาวของนางจากไปไม่นาน จู่ ๆ ลมก็พัดอย่างรุนแรงคล้ายจะมีลมฝน แต่กลิ่นที่มาพร้อมกับล

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่29 ฆ่านางทิ้งเสีย

    ทางด้านสามตระกูลใหญ่ ที่ยามนี้มารวมตัวกันอยู่ที่จวนของตระกูลกู้ เพื่อรอฟังข่าวว่าวันนี้ท่านหญิงจะเป็นเช่นไร เมื่อมีข่าวออกมาว่าผู้คนได้ไปรวมตัวกัน ที่หน้าสำนักงานหน่วยสืบสวนเพื่อเรียกร้องให้จับท่านหญิง มาเผาไฟต่อหน้าทุกคน ฝ่ายกรมยุติธรรมเมื่อถูกกดดันจากราษฎร จึงต้องเข้าไปตรวจสอบ เพื่อความสบายใจให้แก่ทุกคน แม้ว่าเรื่องนี้ฟังดูแล้วข้อกล่าวหาอาจดูเกินจริง และดูเหมือนใส่ร้ายท่านหญิงจนเกินไป แต่เนี่ยนเจินกรมยุติธรรมก็ต้องทำตามหน้าให้ดีที่สุด สร้างความพอใจให้กับสามตระกูลใหญ่เป็นอย่างมาก พวกเขาจึงนัดกันมานั่งจิบชา รอฟังข่าวอยู่ที่จวนเสนากู้ สามฮูหยินและคุณหนูทั้งสามต่างพากัน พูดคุยอย่างอารมณ์ดี พวกนางคิดว่าอย่างไรวันนี้ท่านหญิงก็คงไม่รอด เพราะเหตุการณ์วันนั้นหลายคนเห็นกับตาตนเอง ว่านางสามารถสร้างภาพลวงตาทำให้ผู้คนหวาดกลัว ข้อกล่าวหาว่านางเป็นปีศาจไม่ดูเกินจริงเลยสักนิด “รายงานขอรับ” บ่าวจวนเสนาบดีกู้รีบเข้ามารายงาน หลังออกไปเกาะติดสถานการณ์ เกี่ยวกับท่านหญิงมาทั้งวัน เมื่อได้ยินเสียงตะโกนบอกของบ่าวที่มารายงาน ทุกคนก็ตั้งอกตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ “เรียนท่านเสนาตอนนี้ผู้คนที่รวมตัวกัน ไป

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่28 เรียกร้องให้เผาท่านหญิง

    ทางด้านเหว่ยอ๋องพอกลับมาถึงเมืองหลวง เขาและว่านชิงอี ก็ได้แวะที่สำนักงานสืบสวนคดีก่อนเป็นที่แรก เพราะอยากรู้เรื่องที่ให้จับคนร้ายมาขังเพื่อรอไต่สวน แต่กลับต้องผิดหวังเมื่อ องค์ชายซีห่าวบอกว่า นักฆ่าทั้งสิบคนถูกลอบสังหารฆ่าปิดปากจนหมด “เจ้าว่าอย่างไรนะ!” เหว่ยอ๋องแผดเสียงออกมาอย่างผิดหวัง “ข้าก็ไม่คิดว่าคนบงการ จะคิดจัดการกับกลุ่มคนร้ายเช่นนี้ คงไม่อยากให้เรื่องราวถูกสาวถึงตัว แล้วทางหมู่บ้านตงซานเป็นเช่นไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?” “ก็เรียบร้อยดี เหมือนมีคนจงใจสร้างสถานการณ์ขึ้น ให้ข้าและนางออกไปจากเมืองหลวง ข้าคิดว่าชาวบ้านคงไม่รู้เรื่องอันใด แต่ชิงอีได้ทิ้งคนให้คอยสอดส่องและคอยรายงานแล้ว” องค์ชายซีห่าว สะดุดคำเรียกที่เหว่ยอ๋องเรียกท่านหญิงว่าชิงอี สงสัยความสัมพันธ์ของพวกเขาคงรุดหน้าไปเป็นอย่างดีสินะ “เหตุใดท่านหญิงถึงได้กลายเป็นชิงอีเฉยๆ แล้วเล่า ความสัมพันธ์ของพวกท่านทั้งสอง คงพัฒนาไปเป็นอย่างดีสินะ?” “เจ้าพูดอะไรข้าก็แค่สนิทกับนางมากขึ้น” เหว่ยอ๋องพอถูกผู้เป็นน้องกล่าวล้อขึ้นมาก็ถึงกับวางตัวไม่ถูก “ท่านพี่…คุยเสร็จหรือยังเพคะ” ว่านชิงอียิ่งเห็นเขาทำตัวไม่ถูกก็ยิ่งอยากแกล้ง เหว่ยอ๋องพอ

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่27 ยันต์ความรัก

    ณ หมู่บ้านตงซานหลังจากจากเกิดเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ผ่านมา ก็ไม่มีใครกลับไปนอนอีกต่างพากันนั่งรอให้ถึงเช้า อู่ถงพอเปิดประตูออกมาในตอนเช้าตรู่ ก็ต้องชะงักกับสตรีราวเจ็ดแปดคน มายืนรออยู่หน้าเรือนพัก ในมือมีอ่างใส่น้ำ เพื่อให้ทุกคนได้ล้างหน้าล้างตา ฮุ่ยเจียงเดินมารับอ่างจากสตรีนางหนึ่ง แล้วยกเข้าไปด่านในให้กับท่านหญิง ส่วนอู่ถงเดินมารับอ่างน้ำอีกอันเพื่อนำไปให้เหว่ยอ๋อง หลังจากทุกคนล้างหน้าล้างตากันเสร็จ สตรีที่มาคอยช่วยดูแลก็นำน้ำชาและโจ๊กมาให้ทุกคน ว่านชิงอีมองเห็นวิญญาณห้าดวงที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ก็สะกิดปิงปิงให้ไปเรียกเข้ามา “พวกท่านมีอะไรหรือไม่?” “ทูลท่านหญิง พวกกระหม่อมไม่มีที่ไป ขอติดตามเป็นทาสรับใช้ท่านได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ว่านชิงอีได้ฟังก็พยักหน้า “ได้ต่อไปก็คอยฟังคำสั่งของปิงปิงก็แล้วกัน” ห้าดวงวิญญาณปรายตามองเด็กน้อยวัยห้าขวบ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ท่านหญิงจะให้พวกข้าฟังคำสั่งจากเด็กคนนี้หรือ?” ว่านชิงอียกยิ้ม “อย่าดูถูกความสามารถนางเชียวนะ” ปิงปิงพอได้ยินนางเอ่ยชม ก็ยกแขนขึ้นมากอดอกอย่างเย่อหยิ่ง “พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าใครที่เป็นคนทำวิชาอาคมพวกนี้ ในนิมิตข้าเห็นชายผู้หนึ่งแต่ว่าไม่

  • นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี   ตอนที่26 ห่มผ้าผืนเดียวกัน

    พอพานางมาถึงเรือนที่พัก ว่านชิงอีก็หลุดหัวเราะออกมากับกิริยาท่าทางของเขา ที่ดูถือตัวขึ้นมาเมื่อสตรีนางนั้นอยากเช็ดคราบสุราที่นางทำหกใส่แขนเสื้อของเขา “เป็นบุรุษรูปงามก็แบบนี้แหละเพคะไปที่ไหนมีแต่สตรีหมายปอง” “เจ้าไม่โกรธเคืองสตรีเหล่านั้นหรือ?” “โกรธแล้วจะทำอย่างไรได้เล่าเพคะ ห้ามสายตาสตรีเหล่านั้นได้ที่ไหนกัน แต่ว่ามันก็ทำให้หม่อมฉันภูมิใจ ที่ท่านอ๋องหล่อเหล่ามากขนานนี้ มากจนจนหม่อมฉันใจละลาย มอบหัวใจให้ท่านไปจนหมดแล้ว” เหว่ยอ๋องยกนิ้วขึ้นมาเคาะจมูกนาง สตรีนางนี้พูดจาเป็นเรื่องเป็นราว ไม่มีท่าทีกระดากอายเลยสักนิด เขาละจนใจกับความมึนของนาง ก่อนองครักษ์จะตามเข้ามา เหว่ยอ๋องจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างเตียง “พวกเจ้าก็หามุมที่จะนอนเอาเองละกัน” “แต่ว่าหากตกดึกอากาศจะหนาวหรือไม่ ฮุ่ยเจียงไปเอาผ้าห่มบนรถม้ามาเพิ่มอีกมีหลายผืน” ว่านชิงอีนึกกังวล เพราะตกดึกอากาศมักจะหนาวเย็น ฮุ่ยเจียงกลับมาพร้อมกับผ้าห่มในอ้อมแขน เหว่ยอ๋องคิ้วกระตุกเมื่อคิดว่า สิ่งที่นางเคยใช้ องครักษ์ของเขาจะได้ใช้ด้วย ไม่ได้เขาไม่มีทางยอม “เอามานี่ ส่วนผ้าห่มที่ทางนี้จัดหาให้พวกเจ้าเอาไป” “ท่านอ๋องแต่ว่าผ้าห่มจะครบคนหร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status