“อาการป่วยซึมเศร้าดีขึ้นไหม” หมอคัมภีร์ถามขึ้นเขาเป็นห่วงเรื่องนี้มากที่สุด กลัวว่าหญิงสาวจะคิดสั้นอีกรอบและทำอะไรบ้าๆ ลงไป
“พี่หมอพูดอะไรคะ!” ใครป่วยโรคซึมเศร้าอย่าบอกนะว่ามิณไอริณ สามีไม่เคยรักแถมนอกใจคนอย่างมิณไอริณนี่หรือจะป่วย
“เราป่วยมานานแล้วนะ”
“เอ่อ...” เธอพูดไม่ออกเมื่อได้รู้ความจริงอีกอย่างหนึ่ง สังคม toxic ผู้คนรอบข้างต่างหวังผลประโยชน์จากมิณไอริณทั้งนั้น
หญิงสาวรับรู้ถึงจิตใจของมิณไอริณในตอนนั้น และได้เห็นความชั่วช้าสามานย์ของคนที่ได้ชื่อว่าสามี
“ตอนนี้ไม่ได้กินยาแล้วแต่ต้องรักษาต่อเนื่องนะ”
“ฉัน เอ๊ย ไอริณจะออกจากโรงพยาบาลได้วันไหนคะ”
“ทำไมรีบนักละ”
“อยากหย่าค่ะอยากได้เงิน” ในหัวตอนนี้คิดวนเวียนแต่เรื่องเงินทอง กลัวว่าฝั่งนั้นจะเปลี่ยนใจไม่ยอมทำตามที่พูดไว้
“อีก 2-3 วันนะ” คุณหมอหนุ่มส่งยิ้มหวานให้หญิงสาว ใครๆ ต่างมองว่ามิณไอริณนั้นร้ายกาจแต่ความจริงหญิงสาวนั้นน่าสงสารมาก
บทสนทนาทำให้คนที่แอบฟังอยู่หน้าห้องถึงกับกัดฟันกรอด มิณไอริณพูดเรื่องหย่าได้อย่างหน้าตาเฉยๆ หญิงสาวจะอยากได้เงินไปทำไมในเมื่อตัวเองก็มีเงินทองมากมาย
เรื่องป่วยของมิณไอริณเขาไม่เคยรับรู้เลย เขาพูดจาทำร้ายจิตใจหญิงสาวสารพัด ทั้งคำพูดและการกระทำตัวเอง ทำดีกับทุกคนยกเว้นกับภรรยา แต่เรื่องในอดีตเขาไม่เคยลืมว่ามิณไอริณทำอะไรไว้บ้าง
‘จะมารับบทเหยื่อไม่ได้ เขาต่างหากที่เป็นผู้ถูกกระทำ’
“คุณมาทำอะไร!”
“ผมจะมาเยี่ยมภรรยาตัวเองมันผิดตรงไหน หรือคุณคิดอะไรคุณหมอ!” เขาเคยเจอหน้าไอ้หมอคนนี้หลายครั้ง แต่ทำไมครั้งนี้เขาถึงไม่ชอบขี้หน้ามันเลย มันดีใจจนออกนอกหน้าเรื่องที่มิณไอริณจะหย่า
“เปล่า ผมแค่กังวล”
“อย่าคิดแทนภรรยาคนอื่นสิครับ”
“ก็แค่คนจะหย่ากัน อีกหน่อยก็กลายเป็นคนอื่น”
แพนธารินพูดไม่ออกเมื่อถูกตอกหน้ากลับแบบนั้น ตอนนี้ยังไม่หย่าแปลว่ามิณไอริณยังเป็นภรรยาเขาถูกต้องตามกฎหมาย
“มึงอยากประกาศเป็นศัตรูกับกูใช่ไหม!”
“ผมอยากให้ไอริณฟ้องหย่าจริงๆ คุณคงต้องแทรกแผ่นดินหนี”
“มิณไอริณรักกูจะตายเขาจะไม่มีวันทำแบบนั้น” หย่ากันไปหญิงสาวไม่กล้าทำอะไรอยู่ดี เขาเห็นมิณไอริณเป็นของตายจะต่อว่าทำอะไรหญิงสาวไม่กล้าบินหนีไปจากเขา
“ผมเคยรักเธอมาก่อนคุณ แต่เธอไม่เลือกผม ผมคิดว่า คุณได้ครอบครองเธอแล้ว คุณต้องรักษาเธอเอาไว้ให้ดีนะ ไม่อย่างนั้น ถ้าวันไหนที่เธอหมดใจ เธอจะไม่เหลือเยื่อใยให้กับคุณ แต่เหมือนว่าจะหมอรักจริงๆ ถึงอยากหย่ากับคุณ”
คัมภีร์อยากสั่งสอนแพนธารินที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่ตัวเองทำ
หัวใจของแพนธารินสั่นไหวเขามองแผ่นหลังที่เดินห่างออกไป มันกำลังประกาศสงครามกับเขาคิดจะแย่งมิณไอริณไป
“ไอ้ภีม!”
“มีอะไรให้ผมทำครับสั่งเก็บไอ้หมอปากหมาเลยไหมครับ” ภีมชอบมากเรื่องแบบนี้เขาพร้อมรับคำสั่งตลอดเวลา
“ไปสืบประวัติมันมาให้ละเอียด”
“แค่นั้นเหรอครับ”
“หรือมึงอยากนอนคุก”
“ครับๆ ผมจะรีบทำตามคำบัญชา” ภีมขอตัวกลับทันทีเมื่อได้รับมอบหมายงาน ที่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องงาน
“พี่หมอลืมอะไรหรือเปล่าคะ”
“ฉันเองไม่ใช่มัน!”
มิณไอริณเงยหน้าขึ้นมามองเขา แปลกใจเพราะคิดว่าเขาคงไม่มาเยี่ยมอีกแล้ว รอแค่ถึงวันหย่าตอนนี้เธอไม่ใช่เจ้าของร่าง จึงไม่รู้สึกหวั่นไหวยามที่ต้องเผชิญหน้ากัน
“มีอะไรยังไม่ถึงวันหย่าเลย”
“หายใจเข้าออกคงจะคิดแต่เรื่องหย่าใช่ไหม อยากหย่ากับฉันจนตัวสั่นหรือว่ามีเป้าหมายอื่น!” มิณไอริณไม่เคยเป็นแบบนี้และไม่คิดจะหย่ากับเขาด้วยซ้ำ
“คุณความจำปลาทองหรือไง เป็นคนขอหย่ากับฉันเองแล้วไปกินรังแตนที่ไหนมาถึงอารมณ์บ่จอยขนาดนี้” สงสัยจะเข้าสู่วัยทองอารมณ์เลยขึ้นๆ ลงๆ จะเซ็นใบหย่าตอนนี้เลยก็ได้แต่กลัวไม่ได้เงินเลยต้องยื้อออกไปก่อน
“หลังจากหย่าเธอจะทำอะไรต่อ”
“มีเงินมีทองมีเวลาเป็นของตัวเอง”
มิณไอริณหยุดพูดแล้วมองใบหน้าของเขาที่จ้องเธอไม่ลดละ มันดูน่ากลัวมากจนเธอไม่กล้าสบตา
“ฉันสวยรวยขนาดนี้หาผัวใหม่สิคะ! ผัวเก่ามันเหี้-ย หาคนที่รักฉันจริง” เธอพูดต่อจากประโยคก่อนหน้านี้ และหัวเราะคิกคักทำเหมือนไม่เคยมีความรักให้แพนธารินมาก่อน
“มิณไอริณ! เธอคิดจะทิ้งฉันไปหาสามีใหม่จริงๆ สันดานเธอนี่นะคุณแม่รู้คงเสียใจมาก” เขาโกรธและเสียหน้าจากที่เป็นฝ่ายขอหย่า ตอนนี้กลับรับไม่ได้เรื่องที่หญิงสาวพูด
“คุณแม่ของคุณท่านทราบแล้ว และคุณพ่อคุณแม่ฉันท่านจะรีบเดินทางกลับจากต่างประเทศเพื่อมาเป็นพยานในการหย่าของเรา”
“เธอ! ผู้หญิงเลวตอนอยากได้ทำทุกวิถีทางพอยากเลิกก็ทำเหมือนไม่เคยรักฉันมาก่อน”
“คุณแพทคนโก้คนหล่อฟังฉันให้ดี ผู้หญิงต่อให้รักมากแค่ไหนพอถึงจุดที่หมดความอดทนเมื่อไหร่ จิตใจพวกเธอจะน่ากลัวมากคือไปแบบไม่กลับและไม่หันกลับมามองผู้ชายห่วยๆ มิณไอริณโง่รักคุณแต่ฉันไม่ได้รักคุณ!”
เธอตะโกนใส่หน้าเขารังเกียจผู้ชายแบบแพนธาริน เจ็บใจแทนมิณไอริณที่ถูกคนไว้ใจสวมเขา เธอจะหาทางเขาคืนพวกเขาให้สาสม
“...” แพนธารินเดินออกมาทันทีหลังที่เธอด่าเขาเสร็จ เกิดมาไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อนทำไมไม่เหมือนมิณไอริณคนที่เขารู้จัก
ภีมกับภามลูกน้องคนสนิทของแพนธารินรีบมารายงานเรื่องของหมอคัมภีร์ พวกเขาเล่าละเอียดว่าทั้งสองเป็นอะไรกันมาก่อน เหมือนตอนนี้หมอยังโสดน่าจะกลับมาตามจีบมิณไอริณหลังจากที่หย่ากับแพนธาริน
“คงอยากจะหย่าจนตัวสั่น”
“เจ้านายจะได้หย่าแล้วครับทนเอาหน่อย”
“กูไม่ได้พูดกับมึง!” เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรหงุดหงิด ยามที่คิดถึงแววตาของมิณไอริณดูไม่ลังเลกับการที่จะต้องหย่ากับเขาเลยสักนิด มีแต่เขาที่จะเป็นจะตายเพราะความไม่เดือดร้อนของหญิงสาว
“หรือเธอจะไปคบกับมันเลยยอมหย่าให้ฉันง่ายๆ คำพูดคำจาเปลี่ยนไป”
“เปลี่ยนไปยังไงเหรอครับคุณไอริณก็เป็นแบบนี้ตลอด ตอนที่จับได้เองผู้หญิงก็โวยวายตลอดมีแต่คนบอกว่าคุณไอริณไม่มีเหตุผล ผัวมีเมียน้อยตามไปโวยวายก็ดูมีเหตุผลดีนะครับ ผัวเธองซวย” ภามพูดขึ้นและถูกภีมตบศีรษะอย่างแรง
“มึงพูดอะไรออกมา”
“พวกมึงออกไปเลย! ก่อนที่กูจะยิงเรียงตัว” เขาโกรธที่ลูกน้องพูดแต่มันคือความจริงทั้งหมด
เขาคิดมากจนเครียดหรือเขาจะยื้อเวลาการหย่าครั้งนี้ออกไปดี แต่เขาเสียเวลามาสามปีแล้วหย่ากันไปเขาจะได้มีผู้หญิงคนอย่างเต็มที่
“ฆาตกรในคราบผู้ดี ทำไมเธอไม่ตายชดใช้กรรมไปเลย”
พอคิดถึงเรื่องนี้เขาเกลียดมิณไอริณขึ้นมาทันที หญิงสาวต้องได้ชดใช้กรรมกับสิ่งที่ตัวเองทำไว้ เขาแค่กำลังสับสนกับชีวิตตัวเอง เคยอยู่ด้วยกันมาสามปี พอจะหย่าก็เป็นปกติที่จะมีความรู้สึกผูกพันบ้าง
หลังจากที่น้องไบรท์กับน้องแบล็คได้เข้าเรียนอนุบาลแล้ว แพนธารินก็คิดแต่ว่าชีวิตช่วงกลางวันเขาจะดีขึ้น แต่กลับไม่เป็นแบบนั้นเพราะลูกชายของเขาดันไปก่อเรื่องที่โรงเรียนเอาไว้จนเขาถูกเรียกให้ไปรับทราบพฤติกรรมของลูกชายทั้งสอง“เสร็จหรือยังคะ” เสียงของมิณไอริณดังขึ้นหลังจากเธอนั่งรอแพนธารินกับลูกสาวมาได้สักพักแล้ว“เสร็จแล้วครับ อันนี้เอาให้คุณแม่ด้วยครับ” แพนธารินส่งหน้ากากอนามัยให้กับลูกสาวเพื่อให้เจ้าหนูเอาไปให้แม่“อะไรคะเนี่ย” คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเป็นคำถาม เมื่อเห็นสิ่งที่สามีฝากลูกสาวเอามาให้เธอ“หน้ากากไงครับ”“เอามาทำอะไรคะ ไอริณไม่ได้เป็นไข้นะคะ” หญิงสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจสามีของเธอ“พี่ไม่ได้บอกว่าไอริณเป็นไข้ แต่พี่ไม่ชอบเวลาคนอื่นมอง”“หึงเหรอคะ” มิณไอริณลุกจากเก้าอี้ตรงไปหาแพนธารินเธอจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ“ครับ หึง ไม่ชอบเลยเวลามีคนมอง”“ก็ไอริณสวยนิคะ”“ก็เพราะแบบนี้ไง พี่เลยไม่อยากให้เราไปไหน” แพนธารินหน้าตึงขึ้นมาทันที เวลาเขาเห็นใครมองมิณไอริณเขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่อยากให้หญิงสาวออกไปไหน“ไม่แกล้งแล้ว เขาอยากมองก็มองไป แต่ไอริณไม่สนใจสักหน่อย น้องทิ
เช้าอันสดใสที่ใครหลายๆ คนต่างนับว่าเป็นการเริ่มต้นวันที่ดี แต่เหมือนจะไม่ใช่กับแพนธารินเขายังคงวนเวียนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าให้กับภรรยากับลูกชายฝาแฝดชายหนุ่มใช้เวลานานนับชั่วโมงในการเตรียมอาหารก่อนขึ้นไปดูภรรยาที่ยังคงนอนหลับอยู่ซึ่งตอนนั้นเองลูกชายของเขาทั้งสองคนกลับตื่น แพนธารินตรงเข้าไปอุ้มเด็กน้อยทั้งสองขึ้นแนบอกหวังเพียงว่าทั้งคู่จะไม่ร้อง“ชู่ว์ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวพ่อพาลงไปเล่นข้างล่าง” แพนธารินเอ่ยเปล่า เขาอุ้มลูกชายฝาแฝดลงมาจากห้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับการหยอกล้ออย่างสนุกสนานชายหนุ่มทำหน้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองแทนผู้เป็นแม่ของพวกเขาอย่างมิณไอริณ เพราะเธอเพิ่งคลอดลูกมาได้เพียงแค่เดือนเศษ ร่างกายของหญิงสาวยังคงต้องพักผ่อนเพื่อฟื้นฟู“มาแล้ว ระวังให้ดี” เสียวหยอกล้อของพ่อลูกยังดังขึ้นเรื่อยๆ“ทำอะไรกันอยู่คะ” มิณไอริณที่แอบมองดูสามีเล่นกับลูกชายทั้งสองอย่างสนุกสนาน มาได้สักพักก็เอ่ยถาม “อ้าวไอริณมาตั้งแต่ตอนไหน” แพนธารินเดินไปประคองมิณไอริณมานั่งที่โซฟา ก่อนอุ้มลูกน้อยที่หญิงสาวอุ้มมาด้วยขึ้นแนบอก“มาทันเห็นคนโดนลูกแกล้ง” ใบหน้าสวยเอ่ยด้วยยิ้ม“งั้นเหรอครับ แล้วอยากโดน
แสงแดดส่องเข้ามาในห้องนอนแพนธารินพลิกตัวไปมาอย่างเกียจคร้าน แต่พอจะลุกแค่นั้นแหละ มีอะไรหนักๆ มาทับที่หน้าอกคิดว่าผีอำ “น้องแบล็คทำไมมาอยู่ตรงนี้ได้” เขาจับลูกชายวางลงข้างกาย “เย่นๆ” เด็ดน้อยพยายามปืนป่ายขึ้นมานั่งบนหน้าอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง “อืมมม พักก่อนนะลูก” เล่นปลุกเขาตั้งแต่เช้าแล้วภรรยาเขาหายไปไหนตั้งแต่เช้า แพนธารินลุกขึ้นและอุ้มลูกลงไปตามหาภรรยา ในห้องโถงได้ยินเสียงแฝดพี่ร้องไห้เสียงดัง โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปลอบอยู่ “นายเป็นใคร! เข้ามาทำอะไรในบ้านฉัน” “เอ่อ!” ลุกกำลังจะตอบแต่คนถามไม่ยอมปล่อยโอกาสแถมยังต่อว่าเขา มิณไอริณกับเทวัญที่ได้ยินเสียงของแพนธารินจึงรีบเข้ามา “พี่แพทเสียงดังทำไมคะ? ลูกก็อยู่ด้วย” “มัน...เขาคนนี้คือใคร” ในสมองของเขาไม่เคยรู้จักหรือเคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอโดนดุจึงเงียบทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เกิดขึ้น “พี่ลุกแฟนพี่เทวัญค่ะ” แพนธารินจึงเงียบเพราะเหมือนว่ากำลังทำให้เมียโกรธมากขึ้น และเขาต้องเป็นฝ่ายพาตัวเองออกไปจากห้องโถงเพราะถูกเชิญออกไป “พี่แพทมีประชุมเช้านี่คะต
มิณไอริณนั่งมองลูกชายคนโตที่อยู่ในอ้อมแขนของหมอคัมภีร์ ส่วนอีกคนหลับอยู่ในรถเข็นเด็ก “คนนี้หน้าเหมือนไอริณมาก” เขาจ้องมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนสุดท้ายแล้วเขากับมิณไอริณก็เป็นได้แค่พี่น้อง “พี่หมอไม่คิดจะมีบ้างเหรอคะ” “พี่จะหาแม่ของลูกมาจากไหนบ้างานขนาดนี้” “มัวแต่ทำงานระวังจะแก่ก่อนนะคะ” เขาหล่อเขารวยหน้าที่การงานก็ดี สักวันต้องมีคนที่ดีเข้ามา พี่ไม่เคยคิดเรื่องนั้นถ้ามันใช่มันใช่ไปตั้งนานแล้ว” เหมือนที่เขาตามจีบหญิงสาว สุดท้ายแล้วความดีไม่ใช่ผลตอบแทนของความรัก “ไอริณต้องกลับแล้วค่ะพ่อเด็กๆ รออยู่” เธอกล่าวลาเขา พอเดินออกมาไม่ไกลก็เห็นแพนธารินนั่งรออยู่ พร้อมกับใบหน้าบูดบึ้ง “เบื่อทำไมต้องไม่ให้พี่ตามไปด้วย” ทำเหมือนแอบคบชู้ จะโกรธก็ไม่ได้เพราะตอนนี้เมียอยู่เหนือทุกอย่าง “ไม่ทำหน้างอแบบนั้นสิคะฝากลูกหน่อยนะคะ ไอริณจะไปเดินเล่น” เธอส่งลูกให้แพนธารินรีบเดินขึ้นรถอีกคันไม่อยากให้เขาหอบลูกตามเธอไปชอปปิ้งด้วย จากมาเฟียสู่พ่อลูกอ่อนอีกมืออุ้มลูก อีกมือเข็นรถการเลี้ยงลูกมันเหนื่อยกว่าทำงานหลายเท่า
แพนธารินขอเข้าไปดูหน้าลูกด้วย ในห้องคลอดหญิงสาวก็คิดว่า เจ้าของร่างเดิมคงต้องการแบบนี้ชายหนุ่มร้องไห้เมื่อเห็นหน้าลูกเขานั่งเฝ้าลูกทั้งสองกำลังหลับปุ๋ยอยู่บนรถเข็นเปลเด็ก ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ จะอุ้มท้องลูกเขาถึงสองคน“แพนธวัฒน์ – แพนเมธา ชื่อเล่นน้องอะไรดีนะ” เขานั่งครุ่นคิด“ไบรท์กับแบล็ค” เธอแอบตั้งชื่อลูกไว้แล้วมีแสงสว่างก็ต้องมีความมืดมน และเธอชอบชื่อนี้มาก“ชื่อเพราะดี” เขาเอามือจิ้มแก้มของลูกทำให้เด็กน้อยร้องไห้เสียงดัง จนมิณไอริณต้องต่อว่าเขาที่ไปแกล้งลูกเป็นครั้งแรกที่เธอให้นมลูกซึ่งเด็กน้อยดูดจนเธอรู้สึกเจ็บ พออีกคนดื่มนมจนอิ่มอีกคนร้องตาม แค่คนเดียวก็ว่าหนักแล้วตอนนี้มีถึงสองคนคืนนั้นมิณไอริณฝัน เจ้าของร่างเดิมมาขอร้อง ว่าให้เธอคืนดีกับแพนธาริน เธอจะไปเกิดแล้วและอวยพรให้หญิงสาวมีความสุขแพนธารินนอนกระสับกระส่ายไปมาในความฝันของเขา เห็นผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนมิณไอริณมายืนร้องไห้ ซึ่งเขาจำได้ว่าคนนี้คือมิณไอริณตัวจริง“ไอริณมาลาพี่แพทค่ะ ชาตินี้เราจากกันแล้วรักผู้หญิงคนนั้นให้มากๆ นะคะ”“ไอริณ” น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาหาเสียงตัวเองไม่เจอ นี่เป็นครั้งแรกที่ในใจของเขาไม่ได้
ภีมกับภามนั่งเฝ้าเจ้านายอยู่เกือบสามชั่วโมง ตั้งแต่ทั้งสองทะเลาะกันเจ้านายของพวกเขากลายเป็นคนเงียบขรึม ตามง้อภรรยาแต่เหมือนนายหญิงจะไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ แพนธารินนั่งฟังคุณครูสอนอย่างตั้งอกตั้งใจ วันนี้เขาเข้าคอร์สเรียนการเลี้ยงลูก ทั้งสองเรียนมีเขาที่เป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ชวนมิณไอริณมาแล้วแต่รายนั้นยังโกรธเขาอยู่ เขารู้สึกผิดที่ทำให้หญิงสาวเกือบเสียลูกไป จะโกรธเขาก็ไม่แปลก “คุณแพทฟังอีกรอบนะคะเวลาลูกอาเจียนเราต้องลูบหลังเบาๆ แบบนี้ค่ะ” คุณครูสาธิตให้เขาดูก่อน และลองให้เขาทำ “แบบนี้เหรอครับ” เขาทำตามที่คุณครูสอนทุกอย่าง“ใช่ค่ะเบาๆ นะคะ” ขนาดตุ๊กตายังทำแรงขนาดนี้ ถ้าเป็นคนจริงๆ น่าจะเหลือแค่ชื่อแพนธารินค่อยๆ ลูบหลังตุ๊กตาเด็กแต่เขาน่าจะลงแรงไปเยอะ ลูบไปลูบมาหัวตุ๊กตาหลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเสียงดัง“เบาๆ สิคะ”“ผมขอเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ”คุณครูจึงพามาสอนเรื่องการอาบน้ำให้เด็กแรกเกิด แพนธารินทำตามทุกอย่างเช่นเดิม แต่เหมือนจะหนักมืออีกเพราะตุ๊กตาเด็กคว่ำหน้าจมน้ำไปต่อหน้าต่อหน้า“กูไม่เรียนแล้ว” เขาเดินออกมาทันทีพร้อมใบหน้าที่