แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-06 00:28:03

บทที่ 3

เว่ยเว่ยเดินไปทั่วทั้งตลาดและมั่นใจว่าตอนนี้นางคงทะลุมิติมาเป็นแน่ แม้จะน่าเหลือเชื่อแต่ใครจะสนล่ะ ในเมื่อนี่ก็คือหนึ่งในสิ่งที่นางเคยอยากให้เกิดกับชีวิต

“งานลอยโคมอีกกี่วันหรือ” หญิงสาวถามสาวใช้คนสนิท ที่นางถามนั้นมีเหตุผลเพราะพระเอกของเรื่องนี้กลับมาก่อนเทศกาลลอยโคมเพียงสองวัน ทุกคนต่างบอกว่าเขานำความสุขกลับมาสู่แคว้น แต่ตอนนี้ยังคงไม่มีใครรู้

เว่ยเว่ยมองเส้นทางที่น่าจะเป็นทางที่ขบวนของแม่ทัพอี้จะผ่าน แล้วก็หลุดยิ้มออกมาเมื่อมองไปที่โรงน้ำชาที่ดูจะเป็นที่นิยม

“งานโคมหรือเจ้าคะ...คุณหนู คุณหนูไปไหนแล้ว” ชิงเอ๋อร์ที่กำลังคิดคำตอบให้เจ้านาย หันมาอีกทีนางก็เดินเข้าโรงน้ำชาไปแล้วจนสาวใช้อย่างนางวิ่งตามแทบไม่ทัน

เว่ยเว่ยขึ้นไปที่ชั้นสองและมองซ้ายขวา เมื่อเจอโต๊ะที่ถูกใจก็บอกให้ชิงเอ๋อร์ไปบอกกับเถ้าแก่ของร้านว่านางจะจองโต๊ะนี้สองวันก่อนจะถึงงานลอยโคม

โต๊ะที่จองเป็นจุดที่เว่ยเว่ยรู้ว่าขบวนของแม่ทัพจะเคลื่อนเข้าสู่เมืองหลวง และเป็นจุดที่เห็นทุกอย่างชัดเจนที่สุด หากเป็นตั๋วคอนเสิร์ตก็เรียกได้ว่า VVIP

มือเรียวยกชาขึ้นดื่ม การรู้เนื้อเรื่องล่วงหน้าก็ดีอย่างนี้เอง เว่ยเว่ยคิด ตอนนี้ก็รอให้ถึงวันที่แม่ทัพอี้จะกลับมาถึงก็พอ จะว่าไปใบหน้าของเจียงซีเว่ยก็ไม่ขี้ริ้ว บำรุงแต่งเติมสักนิดขี้คร้านจะงามจนหนุ่ม ๆ หันมอง แต่ขอโทษเถอะ หนึ่งเดียวในใจของนางคือแม่ทัพอี้เท่านั้น หญิงสาวคิดไปก็ยิ้มไป แต่จู่ ๆ ใบหน้าสวยก็หุบยิ้ม

“แล้วถ้าเขาไม่ชอบข้าล่ะ” เว่ยเว่ยบ่นพึมพำคนเดียวจนสาวใช้ที่เดินกลับมาถึงกับขมวดคิ้วสงสัย ช่วงนี้คุณหนูของนางแปลกประหลาดนักทั้งคำพูดทั้งท่าทาง

“มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่เจ้าคะคุณหนู” เว่ยเว่ยส่ายหน้า “เจ้าจัดการเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่” ชิงเอ๋อร์พยักหน้าและรายงานเจ้านายตน

“เช่นนั้นก็ไปซื้อเครื่องสำอาง...มิใช่สิเครื่องประทินผิวกันเถอะ ข้าอยากได้ชุดใหม่ด้วย...ข้าซื้อได้ใช่หรือไม่” ที่ต้องถามเพราะนางไม่แน่ใจถึงฐานะของตระกูล ถึงจะดูร่ำรวย และชิงเอ๋อร์ก็จ่ายทุกอย่างที่ผ่านมา แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อจำกัด

“หากเงินที่ฮูหยินให้มาไม่พอ ก็สั่งให้ไปส่งที่จวนได้เจ้าค่ะ” ได้ฟังอย่างนั้นรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของเว่ยเว่ยอีกครั้ง

นางตั้งใจแล้วว่าจะต้องขุดเอามารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนมาใช้ ก่อนอื่นก็ต้องโดดเด่นที่สุดแล้วก็ใช้...สามบทพิชิตใจชายหนุ่มให้มาเป็นสามี หญิงสาวคิดแล้วก็หยุดเดินกึกจนชิงเอ๋อร์ที่ตามมาด้านหลังเกือบจะชนนางเข้า

“สามไม่พอเอาห้าไปเลย” เว่ยเว่ยพูดออกมาก่อนจะก้าวเดินต่อ นางคิดนั่นนี่ในใจเป็นแผนการง่าย ๆ และตั้งใจว่ากลับเรือนจะเขียนเรียบเรียงมันออกมาอีกที ถ้าไม่สำเร็จก็ค่อยเพิ่มก็ได้นี่นา เวลามีจนถึงวันที่ทั้งสองจะเจอกัน ถ้าถึงวันนั้นแล้วเขายังคงไม่มองนาง นางก็จะไม่ตอแย แค่คิดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดใบหน้าสวยก็ยู่น้อย ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา

จนกว่าเขาจะเจอกับนางเอกและตกหลุมรักนางเพียงผู้เดียวทั้งชีวิต ก่อนหน้านั้นเขาคือของข้าคนนี้...

ซาแซง เฮ้ย แฟนคลับ

ไม่นานนัก ข่าวแม่ทัพอี้ชนะศึกก็มาถึง วันที่ที่เขาเดินทางมาถึงเมืองก็ดันตรงกับวันที่เว่ยเว่ยจองโต๊ะที่โรงน้ำชาเอาไว้พอดีจนชิงเอ๋อร์พูดว่าโชคดีออกมาตั้งหลายครั้ง แต่เว่ยเว่ยกลับทำเพียงแค่ยิ้ม

หญิงสาวยืนอยู่บนระเบียงชั้นสองของโรงน้ำชา เสียงคนที่ดังมาเรื่อย ๆ บอกให้รู้ว่าคนที่นางรอกำลังมาถึง ตามเนื้อเรื่องนางเอกจะเจอกับพระเอกในคืนงานเลี้ยงต้อนรับในวันถัดไป นางมีโอกาสแค่วันนี้เท่านั้น

ยิ่งขบวนของอีกฝ่ายใกล้เข้ามาหญิงสาวก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น ถึงกระนั้นก็ยังแอบบ่นในใจไม่ได้เพราะตอนนี้แม่ทัพอี้อยู่ในชุดแม่ทัพเต็มยศซึ่งหมวกของมันทำให้นางเห็นใบหน้าของเขาไม่ชัด

แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะมารยาบทแรกที่เตรียมเอาไว้จะทำให้นางได้เข้าใกล้กับเขาจนน่าจะเห็นใบหน้าใต้หมวกเหล็กนั่นได้ง่าย ๆ

เมื่อขบวนของชายหนุ่มเข้ามาใกล้ คนที่อยู่ด้านในโรงน้ำชาเริ่มขยับมาที่ระเบียงเพื่อดู เว่ยเว่ยทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดใส่ระเบียงที่สั่งให้สาวใช้มาเลื่อยเอาไว้จนจวนเจียนจะหัก แค่ผลักนิดหน่อยก็ทำระเบียงแยกออกจากกัน นางแสร้งหวีดร้องราวกับถูกดันจากด้านหลังก่อนที่หญิงสาวจะตั้งใจทิ้งตัวจากชั้นสองลงไปที่พื้นด้านล่างหน้าขบวนของแม่ทัพหนุ่มที่ขยับอย่างช้า ๆ เพื่อให้บรรดาคนที่ออกมาต้อนรับเขาได้พบเจอเขาใกล้ ๆ

“คุณหนูของข้าจะตกแล้ว ใครก็ได้ช่วยด้วย” เสียงของชิงเอ๋อร์ดังขึ้นราวกับนัดแนะกันเอาไว้ เสียงของนางดังโวยวายจนทำให้ผู้คนหันมองคุณหนูคนหนึ่งที่กำลังจะร่วงลงจากระเบียงชั้นสอง มือของนางจับราวระเบียงเอาไว้ได้แต่ก็ใกล้จะหมดแรงเต็มที

นิ้วเรียวค่อย ๆ คลายออกทีละนิด ทีละนิดจนกระทั่งมันไม่สามารถเกี่ยวกับระเบียงและรับน้ำหนักหญิงสาวเอาไว้ได้อีกต่อไป แม้ว่านี่จะน่ากลัว แต่สำหรับเว่ยเว่ยแล้วมันเป็นไปตามแผนทุกอย่าง

นางสู้อุตส่าห์ฝึกซ้อมกระบวนท่าผลัดตกให้งดงามที่สุดจนรุ่งสาง ไม่ว่าจะเป็นท่าวิหกโผถลา เป็นท่าที่ต้องโผเข้าสู่อ้อมกอดของอีกฝ่ายและให้สองสายตาประสานกัน เขาต้องตกหลุมรักนางแน่

เมื่อเห็นว่าทุกคนมองมาแล้ว หญิงสาวก็แสร้งกรีดร้องและปล่อยมือออกจากระเบียงก่อนจะร่วงลงใน... แต่ระยะเวลามันกระชั้นชิดจนเกินไป ท่าที่คิดว่าดีที่สุดไว้จึงทำไม่ได้ เว่ยเว่ยตัดสินใจในจังหวะที่ไม้ระเบียงหักหลุดออกจากกัน เปลี่ยนเป็นท่า

กระบวนท่าวิหคน้อยตกรัง

ทิ้งร่างกายลู่ไปตามแรงดึงดูดของโลก เอนตัวลงอย่างรวดเร็ว แขนและขาอาจเหยียดออกคล้ายการพยายามทรงตัวหรือคว้าจับสิ่งใด แต่ไม่สามารถต้านแรงโน้มถ่วงได้ หวีดร้องสุดเสียงด้วยความหวาดกลัวหวังให้ผู้ชาย…ให้แม่นกมาช่วย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 30

    บทที่ 30เวลาผ่านไปอีกหลายเดือนจนท้องของเว่ยเว่ยใหญ่ขึ้นจนเหมือนจะแตกออก อี้หยางเฉิงกำลังนอนหนุนแขนมองดูภรรยาของตนที่เอนกายพิงหมอนสูงอยู่ ท่าทางเช่นนี้เผยให้เห็นท้องที่โตขึ้นของหญิงสาว เขายกมือขึ้นลูบท้องของนางเบา ๆ ความอบอุ่นจากฝ่ามือของชายหนุ่มเรียกรอยยิ้มอ่อนโยนจากเว่ยเว่ย"เจ้าว่าลูกเราจะเป็นหญิงหรือชาย" อี้หยางเฉิงเอ่ยถามเสียงเบา ดวงตาคมที่เคยดูน่าเกรงขามในสนามรบยามนี้กลับเต็มไปด้วยความอ่อนโยนหญิงสาวยิ้มน้อย ๆ พลางมองสามีที่ดูจะสนใจเรื่องนี้ไม่ต่างจากบิดาของนาง "ข้าคิดว่าคงเป็นหญิง ดูจากนิสัยของข้าตอนนี้อยากกินแต่ของเปรี้ยว ๆ และขี้โมโหเอาแต่ใจเหมือนหญิงชาวบ้านตอนตั้งครรภ์น่ะ"อี้หยางเฉิงหัวเราะออกมา "หากลูกคนนี้เป็นหญิงจริง เช่นนั้นเจ้าจะต้องมีบุตรชายเพิ่มอีกคนแล้วล่ะ ไม่อย่างนั้นพ่อของเจ้าต้องไม่พอใจแน่ ๆ "เจียงซีเว่ยยิ้มเจ้าเล่ห์ ดวงตาที่มักมีแววออดอ้อนของนางส่องประกายสดใส "แล้วท่านทำไม่ได้หรือ" อี้หยางเฉิงมองคนที่พูดคำนั้นใส่เขาด้วยท่าทางท้าทาย“หากเจ้าไม่ได้กำลังท้องอยู่นะเว่ยเอ๋อร์” ชายหนุ่มกัดปากอย่างมันเขี้ยวก่อนจะโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูของหญิงสาว "อีกไม่กี่เดือนเจ้า

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 29

    บทที่ 29ผ่านไปไม่กี่เดือนอาการแพ้ท้องของเจียงซีเว่ยก็ค่อย ๆ ทุเลาลง แม้ในช่วงแรกหญิงสาวจะยังไม่กล้ามองหน้าอี้หยางเฉิงอย่างเต็มตา แต่เมื่อเวลาผ่านไปนางก็เริ่มสังเกตว่าการได้อยู่ใกล้เขาไม่ได้ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอีกแล้วขณะที่อี้หยางเฉิงกำลังฝึกฝนเพลงดาบของตนในลานกว้างของจวน เจียงซีเว่ยก็เดินออกมาจากเรือนอย่างเงียบ ๆ หญิงสาวสวมเพียงเสื้อคลุมกันลมบาง ๆ สีชมพูอ่อน ใบหน้าก็กลับมามีเลือดฝาดและดูสดใสเหมือนเดิม มีเพียงแค่ท้องที่เริ่มโตขึ้นทุกวันเมื่ออี้หยางเฉิงหันมาเห็นก็ตั้งใจจะนำผ้ามาปิดหน้า แต่หญิงสาวก็ห้ามเอาไว้ “ไม่น่าจะเป็นอะไรแล้วท่านพี่ ท่านไม่ต้องปิดหรอก” เว่ยเว่ยบอกกับสามี แต่อี้หยางเฉิงก็ยังไม่มั่นใจ“ข้ากลัวเจ้าจะได้ไข้ไปอีก” เขาเดินเข้ามาพร้อมกับมีผ้าบาง ๆ ปิดบนใบหน้า “ข้าบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร” เว่ยเว่ยดึงผ้านั่นออกและประทับริมฝีปากไปที่ใบหน้าคมที่ยังคงมีเหงื่อน้อย ๆ “อย่า เดี๋ยวเจ้าจะเปื้อน”“ไม่เห็นเป็นอะไร แล้วข้าก็ไม่แพ้ท้องยามเมื่อเห็นหน้าท่านพี่แล้วด้วย” อี้หยางเฉิงยิ้มอย่างยินดี “แสดงว่าลูกของเราเลิกแกล้งข้าแล้วใช่หรือไม่” เว่ยเว่ยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น “ข้าก็ไม่รู้ ห

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 28

    บทที่ 28หลังจากได้รับตำแหน่งโหว อี้หยางเฉิงก็กลายเป็นที่กล่าวถึง ทุกคนต่างยกย่องเขาเป็นแม่ทัพที่ทรงเกียรติและมีความรักที่ยิ่งใหญ่ให้กับเจียงซีเว่ยบุตรสาวของเจ้ากรมคลังที่ซื่อสัตย์แม้ชีวิตของทั้งคู่จะเป็นเหมือนเรื่องธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่สำหรับหญิงสาวในเมือง เรื่องราวการเจอกันจนกลายเป็นความรักของทั้งสองกลายเป็นตำนานและแม้ว่าจะมีหญิงสาวมากมายที่อยากได้ชายหนุ่มเช่นนี้มาเป็นสามี แต่กลับมีเพียงแค่เจียงซีเว่ยเท่านั้นที่ได้เป็นที่รักของอี้หยางเฉิง แต่ชีวิตในความเป็นจริงกลับไม่ง่ายดายขนาดนั้น แม้เจียงซีเว่ยจะเคยยิ้มแย้มและมีความสุขกับการใช้ชีวิตร่วมกันกับอี้หยางเฉิงในช่วงปีแรก ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หญิงสาวก็นึกรู้สึกไม่พอใจชายหนุ่มเสียอย่างนั้น“หากข้าทำอะไรผิดเจ้าก็บอกข้ามาสิข้าจะปรับตัว” อี้หยางเฉิงพยายามห้ามภรรยาของตนไม่ให้กลับไปยังจวนเจียง“ข้าก็บอกท่านพี่แล้วว่าข้าเบื่อหน้าท่าน” คำพูดของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรู้สึกจุก แม่ทัพที่ยิ่งใหญ่แทบจะลงไปดึงขาของภรรยาตน เขารั้งตัวเจียงซีเว่ยเอาไว้แน่น“เจ้าไม่รักข้าแล้วหรืออย่างไรเว่ยเอ๋อร์” เว่ยเว่ยหันไปมองสามีอย่างหงุดหงิดก่อนจะผลักอีกฝ่ายไปให้พ้นต

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 27

    บทที่ 27พวกเขาทั้งคู่มีความสุขอยู่ได้ไม่นาน เรื่องร้ายแรงก็เกิดขึ้นในเมืองหลวง เมื่อกลุ่มขุนนางที่ไม่พอใจต่อราชสำนักรวมตัวกันก่อกบฏในยามค่ำคืนหนึ่ง เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนไม่มีใครคาดคิดและเตรียมรับมือ แม้แต่เว่ยเว่ยที่เคยรับรู้เรื่องราวมาจากนิยายแล้วก็ลืมเพราะนางมัวแต่เลี้ยงบุตรชายอี้หยางเฉิงถูกตามตัวออกไปอย่างกะทันหันในคืนนั้น ทั้ง ๆ ที่เขาแทบไม่ได้พัก เพราะหลงเฟยบุตรชายคนแรกของพวกเขาค่อนข้างเลี้ยงยากในเวลากลางคืน สองสามีภรรยาอี้จึงต้องผลัดกันดูแลบุตรชายทั้งคืนแทบไม่ได้หลับได้นอน“ท่านพี่ต้องระวังคนใกล้ตัวนะเจ้าคะ อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ “ เว่ยเว่ยเอ่ยบอกกับสามีระหว่างช่วยอีกฝ่ายใส่เสื้อเกราะ นางอยากจะระบุชื่อหนึ่งในรองแม่ทัพของอี้หยางเฉิงที่แปรพักตร์ด้วยซ้ำ แต่หากทำอย่างนั้นตัวนางเองก็จะถูกสงสัยแม้จะเพิ่งฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าหลังการดูแลบุตรชายและภรรยาแต่อี้หยางเฉิงก็ยังรีบรุดไปยังวังหลวงได้ในทันทีเมื่อได้รับข่าวจากคนของตน แม้เขาจะไม่ได้เตรียมการล่วงหน้า แต่ด้วยไหวพริบและความเด็ดขาด เขารวบรวมเหล่าทหารที่ภักดีต่อเขาเข้าปราบกบฏได้ภายในคืนเดียวโดยแทบจะไม่เสียเลือดเนื้อ

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 26

    บทที่ 26หลังพิธีสมรสที่ยิ่งใหญ่ผ่านพ้นไปได้สองสามเดือน เจียงซีเว่ยที่ตอนนี้กลายเป็นฮูหยินของอี้หยางเฉิงอย่างสมบูรณ์ ใช้ชีวิตคู่ที่เต็มไปด้วยความสุขและความรัก ทว่าความสุขนั้นกลับเพิ่มขึ้นทวีคูณ เมื่อในเดือนที่สองของชีวิตสมรส นางกลับพบว่าตนเองตั้งครรภ์เมื่อข่าวนี้ไปถึงหูของใต้เท้าเจียงและฮูหยินเจียงทั้งคู่ก็แทบจะติดปีกรีบนั่งรถม้ามาที่จวนอี้ในทันที“ตั้งครรภ์หรือ” ใต้เท้าเจียงอุทานเสียงดังในวันที่เขาได้ข่าว “ไม่ได้การแล้ว ข้าจะต้องไปดูนางเสียหน่อย” หลังจากเดินวนไปมาด้วยความกังวลอยู่สักพักคำนั้นก็หลุดออกมาจากปาก“ท่านพี่จะไปทำไมล่ะเจ้าคะ” ฮูหยินเอ่ยถามผู้เป็นสามี“บุตรสาวข้าเพิ่งแต่งออกไปไม่ถึงปี ไยถึงตั้งครรภ์ไวถึงเพียงนี้ ร่างกายนางจะทนไหวหรือไม่ก็ไม่รู้”“ท่านพี่กังวลเกินไปแล้วกระมัง” ฮูหยินเจียงพูดเสียงกลั้วหัวเราะ “ข่าวนี้ควรเป็นเรื่องน่ายินดีมิใช่หรือเจ้าคะ”“แต่ว่า...” ใต้เท้าเจียงหันไปมองภรรยาด้วยแววตาลังเลเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจ “ข้าคิดว่าพวกเราควรจะพาเว่ยเอ๋อร์กลับมาพักที่จวนของพวกเราสักระยะ พวกเราจะได้ดูแลนางได้อย่างใกล้ชิด เจ้าว่าดีหรือไม่”“ไม่คิดว่านี่จะเป็นการก้าวกายลูกแ

  • นางร้ายต้องได้รัก   บทที่ 25

    บทที่ 25หลังจากพิธีมากมาย เว่ยเว่ยยอมรับเลยว่าตนคิดว่าพิธีแต่งงานของคนโบราณมีเพียงแค่ขึ้นเกี้ยวแล้วเดินเข้าจวนอีกฝ่ายไปเพื่อไหว้ฟ้าดิน เสร็จแล้วก็เข้าไปรอในห้องหอ แต่แท้จริงแล้วรายละเอียดเยอะแยะมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นิยายหลายเรื่องไม่ได้เขียน พวกข้าวของที่ต้องเตรียมก็มีความหมายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหม แก้วแหวนเงินทอง หรือแม้กระทั่งของกินที่ต้องมีรวมในขบวนหรือพิธี มาถึงเรือนก็ต้องก้าวข้ามกระถางไฟอีก แต่โชคยังดีที่แม้เว่ยเว่ยจะไม่รู้เรื่องอะไรดีนัก นางก็ไม่ต้องกังวลเพราะทุกขั้นตอนจะมีแม่สื่อคอยอยู่ด้วย หน้าที่ของแม่สื่อจะบอกทุกอย่าง ทำให้นางที่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ตลอดไม่ต้องกลัวว่าจะทำอะไรผิดสุดท้ายเมื่อพิธีจบหญิงสาวก็ถูกพาเข้ามารอเจ้าบ่าวอยู่ในเรือนหอ เว่ยเว่ยนั่งอยู่บนเตียงแม้จะอยากเปิดผ้าออกดูแต่ก็ไม่กล้าเพราะกลัวว่าจะทำให้พิธีเสียหาย อย่างไรนางก็อยากให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาใด ๆ หญิงสาวกุมมือของตนเองแน่น อย่างน้อยการทำแบบนี้ก็บรรเทาความตื่นเต้นที่พลุ่งพล่านในใจได้บ้างยิ่งเวลาผ่านไปความคิดก็เริ่มทำให้เว่ยเว่ยจะสติแตกเสียให้ได้ และถึง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status