ログイン"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ"
เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี "หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามี เฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัวสามีก่อนเลยสักครั้ง มีแค่ตอนนี้ที่เธอยอมขอโทษที่รู้ว่าทำผิดต่อเขาจนยอมขอโทษเอง เฉินซานดึงภรรยาเข้ามากอดแนบอก "พี่ดีใจนะที่น้องขอโทษพี่ที่พูดให้พี่เสียใจเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยให้พี่ภรรยาทั้งสองรวมทั้งเราค่อยบอกแม่ตอนกินข้าวก็ได้นะครับ แต่ตอนนี้เรากลับบ้านกันเถอะให้พี่ภรรยาได้อยู่ด้วยกันเหมือนเราสองคนยังไงละครับ และหนูต้องโดนทำโทษที่พูดให้พี่เสียใจค่าปลอบใจพี่แพงมากนะปิงเอ๋อร์" เฉินซานกระซิบภรรยารักเบาๆในท้ายประโยค ก่อนที่จะพูดขึ้นเรื่องอื่น "ผมยินดีกับความรักของพี่ภรรยาทั้งสองคนด้วยนะครับ" เฉินซานบอกมู่หยางกับจื่อเซิ้นที่ยืนมองอยู่ "อือขอบใจมากเฉินซาน" สองหนุ่มบอก "อีกอย่างคือต้องมีหลานมาให้พี่ทั้งสองคนเร็วๆด้วยนะลูกของเธอทุกคนจะต้องเป็นบุตรบุญธรรมของพี่ทั้งสองคนตกลงตามนี้นะ พากันกลับไปพักผ่อนเถอะพรุ่งนี้เราต้องตื่นแต่เช้าเพื่อตัดผัก" มู่หยางบอกเฉินซานก่อนจะเดินออกมาส่งน้องเขยกับน้องสาวที่หน้าประตูบ้านและปิดประตูก่อนที่จะเดินจูงมือกันกับจื่อเซิ้นกลับไปในห้องนอน จื่อเซิ้นจับมือมู่หยางแนบแก้มด้วยความรักที่สื่อออกทางสายตาของทั้งสองคน มู่หยางกอดเอวของคนรักแนบอก "ในที่สุดสรรค์ก็เข้าใจความรักของเราสองคนและครอบครัวที่เข้าใจอย่างปิงเอ๋อร์ก็เพียงพอสำหรับเราแล้วครับ ผมขอบคุณมากที่ถึงแม้จะลำบากมากเพียงไหนคุณก็ไม่เคยทอดทิ้งผู้ชายจนคนนี้เลย ยื่นมือช่วยเหลือผมมาโดยตลอดจนผมกับน้องสาวอยู่รอดมาได้หลายปีถ้าไม่ได้คุนคอยส่งข้าวของเงินทองให้ในหน้าหนาวแต่ละปี เราสองพี่น้องก็แทบจะไม่รอด ดีที่พ่อกับแม่ทำบ้านให้แข็งแรงเราจึงรอดมาได้ทุกปีเพราะปิงเอ๋อร์ร่างกายอ่อนแอตั้งแต่เด็กรักษากันมาโดยตลอดจนท่านตาเทพสงสารให้กลับมามีร่างกายแข็งแรงและดึงผมขึ้นมาจากความลำบาก และสร้างบ้านให้กับพี่ชายอย่างผม คอยบอกว่าให้แต่งพี่สะใภ้เข้าบ้านถ้าเจอคนที่รักอย่าได้ลังเลใจปิงเอ๋อร์บอกถึงผมจะไม่แต่งงานก็จะเลี้ยงดูจนกว่จะตายจากกันจึงไม่ยอมให้ปลูกบ้านไกลกัน และในที่สุดก็เป็นเรือนหอของเราสองคนจริงๆ" สองคนกอดกันด้วยความรักที่ในวันนี้คนในครอบครัวเปิดใจยอมรับในความรักของพวกเขาทั้งสองคน "ขอบใจเธอมากนะมู่หยางที่มั่นคงกับรักต้องห้ามของเราทั้งสองคนเรามาเป็นครอบครัวเดียวกันและเป็นพ่อแม่ให้ฟ่านปิงและหลานๆที่จะเกิดอีกหลายคนและจะกลายมาเป็นลูกๆที่น่ารักของพวกเราต่อไปด้วยกันนะครับ" จื่อเซิ้นบอกชายคนรัก "ครับ" มู่หยางตอบก่อนที่จะก้มลงปิดปากจื่อเซิ้นด้วยความอ่อนโยนจื่อเซิ้นจูบตอบชายคนรักด้วยความเร่าร้อนและโหยหาเพราะทั้งสองคนหลบซ่อนคบกันมานานหลายปีในคืนนี้จึงเป็นคืนเข้าหอของสองคนด้วยความเผ็ดร้อน ที่สองคนปรนเปรอให้กันทั้งคืนจนหลับไปเกือบจะสว่าง ก่อนจะหลับยังบอกรักกันด้วยรอยยิ้มเพราะวันพรุ่งนี้คือวันที่เริ่มต้นชีวิตคู่ของสองคนในบ้านหลังนี้อย่างแท้จริง ไม่ต่างกันกับบ้านของน้องสาวที่ตอนนี้ต้องปลอบใจสามีทั้งคืนเฉินซานทบต้นทบดอกจนภรรยาหลับคาอกเกือบค่อนคืน เขานอนยิ้มด้วยความสุขที่วันนี้ภรรยาสาวเป็นคนควบขี่สามีอย่างเขาจนหมดแรงเธอช่างเร่าร้อนถึงใจของเขายิ่งนัก เฉินซานได้แต่ขอบคุณสรรค์ที่ผลักให้ฟ่านปิงมาเป็นภรรยาอย่างไม่ได้ตั้งใจกว่าที่เธอจะใจอ่อนให้เขาในการขอโทษจนได้แต่งงานสมใจ เฉินซานยอมรับว่ารักภรรยาสาวตัวน้อยมากและแทบไม่อยากจะให้เธอคลาดสายตาได้เลย ดีนะที่ทุกวันนี้พวกเขาทำงานกันในบ้านเป็นครอบครัวไม่ลำบาก ออกไปทำงานนอกบ้านก็เพราะความคิดของภรรยาที่คิดหาทางทำมาหากินสำหรับทุกคนได้มีงานมีเงินมากมายในทุกวันชีวิตนี้เขาพอใจแล้วรอก็แค่ภรรยาตั้งครรภ์เพียงเท่านั้น เขาขยันขนาดนี้จะไม่ท้องให้มันรู้ไปสิถึงลูกจะมาช้าปีสองปีเขารอได้คิดก่อนจะหลับตามภรรยาไป วันนี้สองสาวจึงตื่นสายด้วยกันทั้งคู่มีเพียงพี่ใหญ่กับสามีไปตัดผักสองคน แม่เสิ่นทำอาหารเช้าเพราะสองสาวที่โดนสามีจับกินเมื่อคืนยังไม่ทันตื่นสักคนผิดกับสองหนุ่มที่คึกยิ่งกว่าม้าศึกไม่รู้เอาแรงมาจากไหนมากมาย ฟ่านปิงเดินลงจากเตียงขายังสั่นอยู่เลยเอวจะหักหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อคืนปลอบใจสามีที่บอกว่าเธอพูดให้เสียใจหนักฟ่านปิงจึงรีดพิษออกให้สามีจนหมดแรงจากนั้นเป็นสามีจับเธอพลิกทั้งคืนจนเธอหลับไปก่อน ยิ่งคิดยิ่งหน้าแดงกับบทรักที่เร่าร้อนกว่าทุกคืนที่เธอลงมือเองทำตามหนังสิบแปดบวกให้สามีไปจนหมดได้ยินเสียงสามีคำรามเสียงต่ำอย่างสุขสม พออาบน้ำแต่งตัวออกมาเพื่อจะช่วยแม่เสิ่นทำอาหารก็เจอกับพี่จื่อเซิ้นที่เดินแปลกๆมาจากบ้านของพี่ใหญ่ก็ให้สงสาร คงโดนมาไม่ต่างกันแต่พี่จื่อเซิ้นคงจะหนักกว่าหรือเปล่านะ ฟ่านปิงทักทายพี่จื่อเซิ้นและเดินเข้าครัวไปชงกาแฟมาให้ดื่ม ก่อนทักทายและขอโทษคุณแม่เสิ่นที่ไม่ตื่นมาทำอาหารเช้าช่วย ออกมานั่งรอที่โต๊ะกินข้าวเพราะแม่สามียกออกมาให้กับลูกสะใภ้เอง สามคนนั่งคุยกันฟ่านปิงจึงบอกเรื่องพี่ชายทั้งสองกับแม่เสิ่นท่านจึงอวยพรให้ทั้งสองใช้ชีวิตด้วยความสุขและต้อนรับเป็นครอบครัวเดียวกัน จื่อเซิ้นก็ไหว้ขอบคุนแม่เสิ่นด้วยเช่นเดียวกันจนสองหนุ่มกลับมาจากโรงเรือนปลูกผัก "มากินข้าวเช้าก่อนค่อยไปตัดต่อเดี๋ยวก็เสร็จครับ" มู่หยางบอกคนรักด้วยรอยยิ้มแถมยังบอก "ไม่ต้องไปช่วยก็ได้ให้นอนพักต่อได้เลยพี่สองจะทำแทนเองครับ" เสียงหัวเราะในบ้านมู่จึงเกิดขึ้นด้วยความอบอุ่นความรักคือสิ่งสวยงามไม่ว่าชายหรือหญิงพวกเขาก็มีใจรักไม่ต่างกันเหมือนชายหญิงพอได้เปิดใจครอบครัวจึงมีแต่ความสุขเท่านั้นและคอยประคองคู่ชีวิตของตัวเองให้มีความสุขตลอดไปก็พอแล้วทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







