Mag-log inอีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้ว
ฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนู ฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นาน เธอเลือกเอาหัวไชเท้า แครอท ผักกาดขาว บักบุ้งกวางตุง ต้นหอม ผักชี ขึ้นฉ่าย จนพอสำหรับสี่คนจึงกลับมาล้างเตรียมทุกอย่างจนครบเรียบร้อยจึงออกมานเล่นกับแม่เสิ่นรอสามหนุ่มที่ไปตกปลา ที่จริงฟ่านปิงจะเดินไปก็ได้แต่มันหนาวเธอจึงนั่งดูทีวีดีกว่าหลังจากแวบเข้ามิติอาบน้ำอุ่นและหยิบของบางอย่างออกมาใส่หม้อน้ำซุบให้เข้มข้นขึ้นไปอีก เกือบหกโมงเย็นสามหนุ่มต่างก็ถือถังใส่ปลาของตัวเองและคันเบ็ดกลับมาด้วยรอยยิ้มที่เต็มหน้าก่อนจะพากันแยกย้ายไปอาบน้ำและมารวมตัวกันกินมื้อเย็นที่ฟ่านปิงทำเอาไว้รอ ฟ่านปิงทำไว้สองหม้อและนำอาหารออกมาวางรอเอาไว้แล้วมู่หยางไม่แปลกใจกับอาหารของน้องสาวเพราะในทีวีที่ดูในมิติมีให้เห็นและรีวิววิธีกินจนเขากลืนน้ำลายตาม เขาก็เคยกินกับฟ่านปิงในมิติอยู่สองครั้งก่อนที่ฟ่านปิงจะแต่งงาน หลังแต่งงานเขาจึงยังไม่ได้เข้าไปในมิติของน้องสาวอีกนอกจากที่ฟ่านปิงจะไปหาเขาที่บ้านแต่เฉินซานก็ตามติดเหลือเกินจะหาเวลาแวบเข้ามิติกับน้องสาวของตัวก็ต้องเขาห้องส่วนตัวของเขาเท่านั้น จื่อเซิ้นมองอาหารตรงหน้าด้วยความสงสัยนี้คืออาหหารค่ำอย่างนั้นหรือทำไมมีแต่ของสดละรวมทั้งแม่เสิ่นกับเฉินซานที่ได้แต่ส่ายหัวเพราะทั้งสองคนก็ยังไม่เคยกินเช่นเดียวกัน ฟ่านปิงจึงหัวเราะเบาๆพอทุกคนนั่งลงทีของตัวเองเรียบร้อยแล้ว " นี้คือชาบูค่ะทุกคนหนาวๆแบบนี้เรามาเปลี่ยนกินอาหารที่ร้อนและให้ความอบอุ่นกับร่างกายอีกทางค่ะวิธีกินทำตามเลยค่ะพี่ใหญ่สอนพี่ชายจื่อเซิ้นด้วยค่ะ" ฟ่านปิงจึงลงมือเอาเนื้อหมูแผ่นบางย่างก่อนใคร "ชอบย่างก็ย่างนะคะในนี้คือน้ำซุปมีแบบเผ็ดและไม่เผ็ดชอบแบบไหนเชิญตามสบายนะคะ" ฟ่านปิงเอาเนื้อชิ้นบางลงจุ่มน้ำแปบเดียวเนื้อสุกแล้วจึงเอาใส่ถ้วยให้แม่สามีก่อนบอกแม่เสิ่น "เลือกน้ำจิ้มเองเลยค่ะว่าชอบแบบไหน" ทั้งยังใส่พวกลูกชิ้นลงไปทั้งเห็ดทั้งผักสดลงไปทำให้ทุกคนดูซึ่งสามีรีบทำตามภรรยาสาวทันที จื่อเซิ้นก็ทำตามมู่หยางด้วยเช่นเดียวกันพอลองจุ่มเนื้อตามฟ่านปิงทำ พอเข้าปากสามหนุ่มไม่รอช้าที่คีบชิ้นต่อไปอย่างรวดเร็วทั้งเผ็ดทั้งอร่อยเหงื่อไหลก็ไม่สนใจต่างตั้งหน้าตั้งตาใส่อาหารบนเตาย่างและในหม้อกันจนเกลี้ยงหม้อและนั่งลูบท้องกันคนละทาง พอมองหน้ากันต่างก็หัวเราะอย่างถูกใจตบท้ายด้วยแตงโมเย็นๆ ตอนที่สามหนุ่มกินกุ้งแช่น้ำปลากันสามหนุ่มหมดไปคนละเป็นโลเลยมั้งแม่เสิ่นกับฟ่านปิงนั่งมองพวกเขาแย่งเนื้อกันจนไม่เหลือสักชิ้มรวมทั้งผักกับน้ำซุปอีกด้วย "ปิงเอ๋อร์อาหารมื้อนี้อร่อยจริงๆน้องอย่าลืมไปสอนพ่อครัวด้วยละ" จื่อเซิ้นหันมาบอกน้องสาวบุญธรรมของตัวเอง "พี่ว่ามันต้องขายดีมากๆเลยทำไมน้องไม่บอกพี่ตั้งแต่ก่อนหน้าหนาวนะ""จื่อเซิ้นถาม "มันต้องสั่งหม้อและมีโต๊ะเพื่อวางหม้อค่ะพี่ชายและถ้าพี่จะเปิดต้องมีสถานที่เพียงพอต่อลูกค้าด้วยน้องจึงยังไม่บอกเอาไว้พี่ไปเตรียมร้านใหม่เลยแล้วกัน ทำเป็นปุฟเฟต์เก็บรายหัวเอา พี่เริ่มสั่งหม้อก่อนรวมทั้งโต๊ะเก้าอี้ให้พอ ปีหน้าเปิดก็ยังไม่สายค่ะหรือจะเปิดหลังหน้าหนาวก็ยังได้เลยเพราะคนกินได้ทุกฤดูอยู่แล้วถ้าพี่สนใจก็ทำได้เลยค่ะน้องจะบอกสูตรให้เอง" "ขอบใจมากน้องรักของพี่มาให้กอดให้ชื่นใจหน่อยกับความเก่งของน้องสาวของพี่ กลับไปพี่จะสั่งทำหม้อกับโต๊ะเลยส่วนที่ดินพี่มีหลายที่หรือตึกแล้วพี่จะเลือกดู" พูดจบจึงยื่นมือไปจะกอดน้องสาวให้ชื่นใจสักหน่อย แต่เฉินซานเอาตัวมาบังภรรยาเอาไว้ก่อนมู่หยางกับแม่เสิ่นได้แต่หัวเราะกับคนหวงเมีย "ชมก็พอแล้วครับพี่ภรรยาผมหวง" เฉินซานบอกน่านิ่งฟ่านปิงได้แต่กรอกตามองบนกับอาการของสามี "ไม่กอดก็ได้เหอะเบื่อพวกคลั่งรักจริงๆ" จื่อเซิ้นหันหน้าว่าให้น้องเขยหน้าเหม็น "เอาไว้พี่มีภรรยาแล้วจะรู้เองครับ" ฉินซานตอบน่าตาเฉย "ไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่เคยชอบผู้หญิง" จื่อเซิ้นตอบน่าตาเฉยเช่นเดียวกันแต่หันไปมองมู่หยางอีกที มู่หยางได้แต่ยิ้มให้เพื่อนก่อนจะบอก "เดี๋ยวนายก็เจอ" ฟ่านปิงมองดูพี่ชายทั้งสองคนก็ไม่ตกใจเพราะว่าบางที่ทั้งสองหนุ่มอาจจะไม่ชอบผู้หญิงจริงๆก็ได้ เธอจึงบอกพี่ชายจื่อเซิ้นแบบเป็นนัยๆไปว่า "จะรักจะชอบใครก็บอกไปเลยค่ะพี่ชายจื่อเซิ้นเพราะชีวิตเป็นของเราที่จะลิขิตเองไม่ต้องกลัวน้องสาวคนนี้รับได้ทุกอย่างและพร้อมจะอยู่เคียงข้างพี่ทั้งสองคนเสมอค่ะ" ไม่ใช่ว่าเธอมองไม่ออกเพราะเวลาที่พี่ชายจื่อเซิ้นมองพี่ใหญ่ของเธอมันเกินคำว่าเพื่อนและพี่ชายจื่อเซิ้นก็คอยช่วยเหลือพี่ชายของเธอมาโดยตลอด ที่แกล้งว่าแอบซ่อนน้องสาวเพราะอยากแกล้งเฉินซานมากกว่าฟ่านปิงมองออกว่าพี่ชายจื่อเซิ้นชอบพี่ใหญ่ของเธอจริงๆ สองหนุ่มมองหน้าน้องสาวด้วยความตกใจที่ฟ่านปิงรู้ว่าจื่อเซิ้นคิดอะไรต่อพี่ชายของตัวเองและแววตาของจื่อเซิ้นก็วาววับอย่างถูกใจที่ฟ่านปิงแนะนำ "ไปค่ะหนูจะไปส่งพี่ทั้งสองคนเองพี่ซานรอที่บ้านนะคะหนูมีเรื่องจะคุยส่วนตัวกับพี่ชายทั้งสองคนค่ะ" เฉินซานทำน่าไม่ยินยอมจะตามภรรยาไปส่งด้วยแม่เสิ่นจึงดึงไว้ "ซานเอ๋อร์เก็บของรอน้องลูกเดี๋ยวจะดึกนะให้น้องคุยกันก่อนนะลูก" แม่เสิ่นบอกลูกชายทุกอย่างในชีวิตของฟ่านปิงในแต่ละวันนี้ผ่านมาได้เกือบหนึ่งเดือนในการย้ายเข้ามาในเมืองและตอนดึกหลังจากที่เข้าห้องนอนกับสามีฟ่านปิงปวดท้องตอนหกทุ่มเฉินซานรีบนำรถจากบ้านหลังจากที่อุ้มเมียขึ้นรถเรียบร้อยแม่เสิ่นเตรียมของจนครบทุกอย่าง ทุกคนรู้ว่าฟ่านปิงได้ลูกแฝดเพราะท้องใหญ่มากทุกคนในครอบครัวดูแลเธอเป็นอย่างดีคุณนายเจียงซินเย่วแวะเข้าไปหาลูกสาวบุญธรรมแทบจะทุกวัน หาของบำรุงมากมายไปให้ฟ่านปิงบำรุงหลานในท้องเพราะตอนนี้กิจการของร้านขยายไปอีกหลายเมืองเพราะแบบที่บุตรสาวบุญธรรมคนนี้ให้มาและงานประกวดที่มีขึ้นสองปีได้ที่หนึ่งสองปีซ้อนสร้างความโด่งดังไปทั่วปักกิ่งจนต้องเปิดสาขาในเมืองหลวงอีกที่หนึ่งเป็นร้านที่ใหญ่โตมากเพราะลูกค้ามากมายชอบในแบบสินค้าที่ทางร้านมีแทบจะทุกแบบ แถมมีห้องลองที่ทันสมัยมีนางแบบนายแบบโฆษณาแทบจะทุกสิ้นเดือนเลือกได้ว่าช่างนี้ตัดกันมือเป็นระวิงฟ่านปิงปวดท้องอยู่สองชั่วโมงคุณหมอจึงผ่าทำคลอด เฉินซานเดินจนมารดาเวียนหัวที่ห่วงเมียจนนั่งไม่ติดมู่หยางก็เดินทางมาพร้อมกันกับจื่อเซิ้นตั้งแต่ได้รับโทรศัพท์แล้วรวมทั้งพี่สาวเจียงหยู่กับคุณแม่และพี่ชายที่พากันตามหลังมาติดๆในที่สุดคุณหมอก
วันเวลาหมุนเวียนผ่านไปสองปีตอนนี้ฟ่านปิงมีลูกให้กับเฉินซานสมใจ ทีแรกจนเขาแทบจะท้อใจคิดว่าตัวเองเป็นหมั่นแท้ที่จริงฟ่านปิงกินยาคุมเอาไว้ จนตอนนี้เธอท้องได้เข้าเดือนที่เก้า ฟ่านปิงในวันที่เธอท้องได้สองเดือนที่ตื่นขึ้นมาเวียนหัวจนลุกไม่ได้สามีวิ่งไปบอกให้พี่ชายเอารถออกไปโรงพยาบาลพอรู้ว่ามู่ฟ่านปิงท้องเฉินซานทั้งยิ้มและหัวเราะมาตลอดทางเหมือนคนบ้าจนจื่อเซิ้นกับมู่หยางได้แต่ส่ายหัวให้กับน้องเขยตั้งแต่นั้นมาเขาดูแลฟ่านปิงเหมือนไข่ในหินฟ่านปิงพอคุมได้สองปีเธอจึงปล่อยให้ท้องอะไรเชื้อจะแรงมากขนาดนั้นเพราะปล่อยสามเดือนท้องเลยต้องให้รางวัลของคนขยันที่สามีของเธอขยันปั้นลูกทุกคืนจนสมใจ ก่อนที่เธอจะท้องได้พาสามีเข้ามิติและบอกเรื่องกินยาคุมกับสามีเขางอนเธอไปหลายวันคิดว่าตัวเองจะเป็นหมั่นจนจะไปตรวจที่โรงพยาบาลฟ่านปิงจึงบอกความจริงให้ฟังและนั้นคือการทำโทษของสามีที่ตั้งใจตั้งปั้นใหม่และก็สมใจเขาถึงตอนนี้ซึ่งตอนที่เธอบอกเรื่องที่มีมิติและบอกว่าได้พรมาจากท่านตาเทพตั้งแต่ที่โดนเพื่อนรักอย่างเสี่ยวชิงชิงวางยาในคืนนั้น คิดว่าตัวเองตายไปแล้วท่านตาจึงพาไปที่โลกของอนาคตข้างหน้าและให้เรียนรู้สิ่งต่างๆในโลกใบนั
ทั้งห้าคนในบ้านมู่กินมื้อเช้าด้วยความสุขพอได้บอกเรื่องที่หนักลงจากบ่า สองหนุ่มคู่รักต่างก็มีสีหน้าของความสุขที่ไม่ต้องหลบซ่อนสายจากใครในครอบครัวหลังจากนั่งพักฟ่านปิงไปล้างถ้วยในครัวและบอกให้ทุกคนพักก่อนไม่ต้องตามมาช่วยเดี๋ยวเสร็จแล้วเธอจะออกไปช่วยที่โรงเรือนที่ทุกคนตักผักเองหลังนั่งย่อยอาหารไม่นานสามหนุ่มจึงชวนกันไปตัดผักต่อ แม่เสิ่นจะไปด้วยแต่ทุกคนบอกเหลือไม่เยอะ"แม่ปักผ้าไปเลยครับไม่ต้องห่วงงานผักผมกับพี่ภรรยาทำทันอย่างแน่นอนเพิ่มคุณจื่อเซิ้นไปอีกคนไม่นานก็เสร็จแล้วครับ" ก่อนจะไปเฉินซานที่ช่วยภรรยายกถ้วยให้ภรรยาล้าง เขาสวมกอดฟ่านปิงจากทางด้านหลังด้วยความรักก่อนจะกระซิบใส่เมียรักเบาๆ"ปิงเอ๋อร์เมื่อคืนน้อนร้อนแรงมากพี่เกือบตายคาอกเมียพี่ขอแบบนี้ทุกคืนนะครับ" พูดจบเฉินซานก็ก้มลงหอมทั้งสองงแก้มซ้ายขวาบอกรักฟ่านปิงแล้วรีบไปตัดผักต่อฟ่านปิงที่ยืนนิ่งเพราะมือไม่ว่างติดล้างถ้วยอยู่ได้แต่ส่งค้อนให้สามีที่ส่งเสียงหัวเราะออกไปจากครัวด้วยความสุขออกไปจากในครัวหลังจากได้รางวัลจากสองแก้มเธอนับวันเขายิ่งทำตัวหื่นไม่เลือกสถานที่ ตั้งแต่ที่เมื่อคืนที่ตัวเธอยอมขอโทษที่พูดให้สามีได้เอาเปรียบเธอแทบจ
"ก็ไม่เป็นอะไรนี้ครับปิงเอ๋อร์พี่รับได้คนเราเลือกเกิดไม่ได้ พี่อยู่ในเมืองใหญ่ในค่ายทหารมาหลายปีหนูคิดว่าพี่จะไม่พบเจอบ้างเลยหรือครับและมันกลับเป็นเรืองที่ดีที่พี่ชายของหนูจะได้อยู่ใก้ลหนูทั้งสองคนยังไงละครับ แม่ของพี่ท่านเป็นคนในเมืองมาก่อนและมีเหตุผลท่านใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนพวกเรา ท่านต้องเข้าใจมากมากกว่าและเห็นใจพี่ภรรยาทั้งสองคนอยู่แล้วครับ แล้วหนูจะมาขอหย่าพี่เรื่องแค่นี้หรือครับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะครับ พี่เสียใจมากนะครับปิงเอ๋อร์ที่น้องไม่เคยมองพี่ในแง่ดีขึ้นมาบ้างเลยหรือครับ พี่รู้ว่าที่ผ่านมาพี่ผิดจนหนูโกรธพี่มากพี่จะบอกน้องตรงนี้ต่อหน้าพี่ชายของน้องว่าพี่รักหนูมากเท่าชีวิตของพี่ครับ" เฉินซานบอกภรรยารักและมองหน้าเธอด้วยความเสียใจที่ภรรยาไม่เคยใจอ่อนให้เขาเข้าร่วมและขอความคิดเห็นเลยมีแต่อยากทิ้งเขาทั้งที่ไม่เคยถามสามีสักคำก่อนเลย ฟ่านปิงมองหน้าสามีและเดินเข้าไปจับมือของสามี"หนูขอโทษที่ยังไม่ได้ถามพี่แต่หนูก็คิดไปก่อนขอบคุณพี่ที่เข้าใจพี่ชายของหนูค่ะ" ฟ่านปิงบอกสามีเฉินซานเห็นภรรยาจับมือและขอโทษที่เธอทำผิดเพราะตลอดเวลาที่แต่งงานกันมาฟ่านปิงจะไม่เคยแตะต้องตัว
ฟ่านปิงมาส่งพี่ชายทั้งสองถึงบ้านและดึงพี่ชายทั้งสองคนเข้าห้องนอนของพี่ใหญ่ก่อนจะพูดให้ทั้งสองคนฟังชัดๆเพราะตอนนี้จื่อเซิ้นกับมู่หยางยังตกใจที่ฟ่านปิงรู้เรื่องของตัวเองได้ยังไง"ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะพี่จื่อเซิ้นหนูรู้ว่าพี่ชอบพี่ใหญ่เกินคำว่าเพื่อนรัก เพียงแต่คนที่นี้ไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชายเท่านั้นเอง แต่สำหรับหนูไม่ว่าพี่ทั้งสองคนจะเป็นแบบไหนหนูก็รับได้ค่ะพี่ไม่ต้องตกใจหนูยินดีที่พี่ทั้งสองคนจะมีความสุขด้วยกันถึงแม้คนอื่นจะไม่ยอมรับแต่จะสนใจทำไมละคะ ในเมื่อพวกเขาเหล่านั้นไม่ได้หาข้าวให้เรากินหรือมารับเลี้ยงเรานี้คะทำตัวตามที่ใจพี่ทั้งสองคนต้องการเถอะค่ะ" ฟ่านปิงบอกพี่ชายที่เธอรักทั้งสองคน "ปิงเอ๋อร์" มู่หยางพูดเสียงเบาเขาพยายามที่จะหักใจมาตลอดว่าที่ผ่านมามีเพียงจื่อเซิ้นที่คอยช่วยเหลือเขามาโดยตลอดตั้งแต่ขาดพ่อกับแม่เค้าต้องเป็นเสาหลักให้น้องสาว จากที่เรียนมาด้วยกันและรับเข้าไปทำงานในร้านอาหารของพ่อตัวเองตอนเรียนจบ จื่อเซิ้นต้องปกปิดตัวตนทุกอย่างเพราะกลัวว่าบิดาจะเสียใจที่เขามีใจเป็นหญิงท่านพาไปดูตัวผู้หญิงที่ไหนเขาก็ปฎิเสธและขอแลกกับการทำงานแทนการแต่งภรรยาและบอกความจริงกับบิดาไปว่
อีกสองวันต่อมาพี่ชายจื่อเซิ้นก็มาค้างที่บ้านกับพี่ใหญ่เพื่อจะตกปลากัน หลังจากที่พากันตัดผักส่งให้คนรถนำกลับไปที่ร้านสามหนุ่มจึงพากันไปนั่งตกปลาที่ริมลำธารกันตั้งแต่ตอนกินมื้อเที่ยงอิ่มแล้วฟ่านปิงมีหน้าที่ทำอาหารให้กับสามหนุ่มวันนี้เธอจึงคิดจะกินหม้อไฟชาบูดีกว่าหลายคนดี จากนั้นรอบบ่ายฟ่านปิงจึงคลุกอยู่ในครัวปรุงน้ำซุปและหั่นหมูหั่นปลา แล่กุ้งทำกุ้งแช่น้ำปลาทำน้ำจิ้มรสเด็ดหอมหอมแห้งนำมาแช่น้ำรวมทั้งเห็ดหูหนูฟ่านปิงเดินไปที่โรงเรือนหลังจากที่ทำของสดครบทุกอย่าง ลูกชิ้นเธอก็ทำเองทั้งหมูทั้งปลาและกุ้งทำให้มีจานเนื้อหลากหลายจะเอาออกมาจากในมิติก็ไม่ได้ เพราะมันยังเป็นความลับสำหรับสามีรวมทั้งแม่เสิ่นที่ตอนนี้ฟ่านปิงยังไม่อยากเปิดเผยและรู้ว่าสามมีสงสัยของใช้ของเธอบางอย่างที่เขาไม่เคยเห็น แต่เขาจะไม่ถามถ้าภรรยาไม่อยากให้รู้ ฟ่านปิงก็ไม่ได้รังเกียจสามีแต่ที่ผ่านมาเขาก็ยอมรับผิดทุกอย่างและแสดงให้เห็นว่ารักเธอและทำตามที่ลั่นวาจาเอาไว้ทุกอย่าง ฟ่านปิงถามว่ารักสามีไหมสำหรับเธอก็มีใจสั่นเวลาสามีออดอ้อนเหมือนลูกน้อยในห้องนอนทุกคืนและเธอคิดว่าคงไม่ยากที่จะเปิดใจยอมรับความรักของสามีอีกไม่นานเธอเลือกเอ







