Share

ตอนที่ ๕

last update Last Updated: 2025-07-04 13:44:54
สวีเจียงหลัวกับสวีเจียงหลีรับคำมารดาแล้วจึงเดินออกจากร้านขายผ้าชื่อก้องของต้าหรง พอทั้งสองพี่น้องออกมาด้านนอกก็พอดีกับหัวขบวนรถม้าของชินอ๋องโผลพ้นโค้งถนน

ทุกสายตาบัดนี้ต่างหันไปมองยังถนนใหญ่ ต้นขบวนของชินอ๋องไป๋อี้หานปรากฏขึ้นอย่างสง่างามและองอาจยิ่งนัก รถม้าคันใหญ่โอ่อ่าสะท้อนแดดยามสายงามตาจนทุกผู้คนแทบลืมหายใจ

หลังสั่งคนบังคับรถม้าแล้ว สวีเจียงหลัวกับสองสาวใช้ เสี่ยวจิ่ว เสี่ยวผิง กับอีกหนึ่งคนคุ้มกันคือ หลันถิง สาวใช้ที่มีวรยุทธ์ ก็กลับมายืนอยู่ด้านหน้าร้านขายผ้ารอคอยน้องสาวกับน้องชายและสวีฮูหยินผู้เป็นมารดา

ขบวนรถม้าของชินอ๋องไป๋อี้หานเคลื่อนผ่านถนนสายใหญ่ตลาดตะวันตกอย่างสง่างามและทรงอำนาจ ทหารองครักษ์ในชุดเกราะสีดำควบม้านำหน้า ดวงตาทุกคู่ในตลาดต่างจับจ้องมองตามด้วยความตื่นตาตื่นใจและเกรงกลัวไปในเวลาเดียวกัน

ในจังหวะนั้นเองที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น แมวน้อยสีขาวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้าขบวนรถม้าไปอย่างรวดเร็ว ตามติดด้วยเสียงหัวเราะใสแจ๋วของเด็กชายหญิงสองพี่น้องที่วิ่งตามแมวอย่างสนุกสนาน โดยไม่ทันรู้ตัวว่าพวกเขาได้พาตัวเองเข้าสู่สถานการณ์อันตรายเสียแล้ว

“หยุดนะ! อันตราย!” ชาวบ้านที่เห็
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wilaiporn Dangbuddee
มาอัพอีกน้าาา
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่ ๑๐

    ทว่า…สำหรับนาง กลับรู้ดี ว่าเป็นเพราะเขารู้จักชินอ๋องดีเกินไป มิใช่แค่รู้จักนิสัยของชินอ๋องดี แม้แต่นิสัยของพระนาง ขุนนางสองแผ่นดินตรงหน้าก็คงถ่องแท้เช่นกันถ่องแท้จนเข้าใจว่าหากเขารีบเอ่ยปาก ‘ขอร้อง’ ต่อหน้ามารดาเช่นนาง อาจกลายเป็นการยั่วไฟโทสะให้ลุกท่วมง่ายกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นตัวของพระนางหรือไป๋อี้หานเองจ้านไทเฮาหลุบตาลงเล็กน้อย ในแววตาฉายความซับซ้อนทั้งเป็นห่วงสวีเจียงหลัว ทั้งโกรธบุตรชาย และทั้งอ่อนใจในคราเดียวกันเพียงชั่วอึดใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง สีพระพักตร์ก็เปลี่ยนไป“เจ้ากล่าวว่า…ต้าหลัวบาดเจ็บหนัก…เป็นหรือตายมิอาจทราบ แต่กลับถูกชินอ๋องพาตัวไป…เช่นนั้นหรือ…อาฟ่าน”สุ้มเสียงนุ่มลึกล้ำซึ่งเคยสงบ บัดนี้ไม่หลงเหลือรอยตกพระทัยอีก มีเพียงความเด็ดขาดที่น่าหวาดเกรง“เป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ…”“เช่นนั้น…พวกเจ้าจึงยังไม่รู้เลยสินะ…ว่านางเป็นเช่นไรแล้วบ้างหลังจากอาหานพานางจากไป…”พระเนตรทอดลงต่ำ แววในดวงตาประหนึ่งพายุซึ่งค่อยๆ ก่อตัว“กราบทูลไทเฮา…”เสียงสวีฉีฟ่านสั่นพร่า มือใหญ่ที่คุกเข่ากำจนสั่น“ต้าหลัว…นางบาดเจ็บหนัก…กระหม่อมกับฮูหยินมิอาจตามไปตำหนักชินอ๋องได้…จนปัญญาจริงๆ พ่ะย่

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่ ๑๐

    “…”“…”สองสามีภรรยาสวีมิกล้าตอบคำถามนั้นของจ้านไทเฮาในทันใด แม้พระนางจะวางพระองค์เป็นกันเองเพียงใด แต่จะอย่างไร…ราชวงศ์ก็คือราชวงศ์ มิอาจวางใจได้ทั้งหมดจ้านไทเฮาประทับนิ่ง ดวงเนตรทอดมองร่างทั้งสองที่หมอบอยู่บนพื้นไม่กล้าขยับทั้งกังขาทั้งไม่อยากเชื่อว่าที่ตนเองได้ยินนั้นเป็นความจริงสีพระพักตร์ของพระนางเผยอารมณ์ตื่นตระหนกชัดเจนมิอาจเก็บซ่อนอารมณ์ อาการดังกล่าวนี้แทบไม่เคยปรากฏให้ผู้ใกล้ชิดได้เห็นบ่อยนักทว่าวันนี้ ทุกคนล้วนได้เห็นเต็มสองตา และนั่นย่อมแสดงว่า คุณหนูใหญ่สวีผู้นี้ย่อมมีน้ำหนักในพระทัยจ้านไทเฮามากกว่าที่ใครเข้าใจอึดใจหนึ่ง พระวรกายที่เคยนั่งอิงหมอนค่อยๆ ขยับเหยียดตัวตรง เรียวพระหัตถ์วางบนตั่งหยก แล้วเผลอกำแน่น ดวงเนตรคู่งามเบิกขึ้นเล็กน้อย ริมพระโอษฐ์ขยับเปล่งวาจาถามย้ำ“พวกเจ้าสองผัวเมีย…” สุ้มเสียงนั้นจริงจังไม่หยอกล้ออีกแล้ว จนทุกคนที่ได้ฟังล้วนขนลุก“ใครก็ได้…พูดกับไอเจี่ยอีกครั้งเถอะ…ว่าที่ไอเจี่ยได้ยินเมื่อครู่…มิใช่เรื่องเพ้อฝัน…มิใช่เพราะไอเจี่ยหูฝาดไปเอง…”สองสามีภรรยาเหลือบตามองกันไปมา แล้วสวีฮูหยินก็พยักหน้าให้สามี…เป็นเชิงบอกให้ตอบแทนตน“ไทเฮามิได้ฟังผิดไปพ่

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่ ๙

    เวลาบ่ายคล้อย แสงแดดสีทองทอดเงายาวเหนือลานหินกว้างจนสุดสายตาสองสามีภรรยาสกุลสวีเดินตามขันทีเข้าสู่เขตพระราชฐานด้านในสองข้างทางเรียงรายด้วยต้นบ๊วยที่กำลังชูช่อดอกขาวสะพรั่งเต็มกิ่งหากในยามนี้กลับไม่มีผู้ใดคิดใส่ใจความงามนั้นแม้เพียงคนเดียวสวีฮูหยินยังคงก้าวเดินช้ารักษามารยาทสตรีชั้นสูงไว้อย่างดี แต่ลมหายใจของนางใน บ้างจังหวะก็มีสะดุดขาดเป็นห้วง ฝ่ามือเย็นเฉียบราวน้ำแข็ง หัวใจของนางเต็มไปด้วยความกังวลที่กัดกินทุกครั้งยามก้าวเดินไปข้างหน้า นางเคยชื่นชมความสงบของตำหนักหนิงเฟิ่งเสมอกว่าจะมาถึง พวกเขาใช้เวลาราวครึ่งชั่วยามในที่สุด ประตูสูงประดับลายหงส์สยายปีก ปากคาบรวงข้าวสาลี จึงปรากฏในครรลองสายตาที่แห่งนี้คือเขตตำหนัก ‘หนิงเฟิ่ง’ ของจ้านไทเฮาสตรีผู้ทรงอำนาจสูงสุดแห่งวังหลังแม้แต่ฮ่องเต้ยังต้องยำเกรงพระนางแสงแดดต้นยามเว่ยแผดจ้าเงาสะท้อนระยิบอยู่บนตัวอักษรสองคำ หนิงเฟิ่ง ที่หมายถึงหงส์ผู้สงบ...ชื่อที่ประกาศถึงพระปณิธานรักความสงบของเจ้าของตำหนักว่ามีมากเพียงใดทว่าในยามนี้ ความสงบนั้นกลับกดทับจิตใจของทั้งสองสามีภรรยาจนแทบสิ้นเรี่ยวแรงหลังสวีฉีฟ่านแจ้งกับขันทีเฝ้าตำหนักไม่นานนัก เสียงฝี

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่๘

    ลานหินอ่อนหน้าประตูวังหลวงของต้าหรงด้านใต้ในวันนี้ สะท้อนแสงอาทิตย์ต้นยามอู่จนเกิดไอร้อนลอยระยับในอากาศ มองไปราวกับเปลวเพลิงกำลังเริงระบำเสียงลมพัดเสียดสีกับธงสีดำที่ปักมังกรทองเหยียบเมฆา อยู่บนแผ่นผ้าที่ยอดเสาสูงโบกสะบัดจนเกิดเสียงหวีดหวิวน่าหวาดหวั่น คล้ายมังกรตัวนั้นกำลังคำรามข่มขู่ผู้คนทหารรักษาพระองค์เดินลาดตระเวนเข้มงวด นางกำนัลกับขันทีเดินเข้าออกประปรายใต้ร่มผ้าแพรสีอ่อน มีสตรีผู้หนึ่งยืนเงยหน้าจ้องประตูวัง ไม่ละสายตาด้วยกิริยาร้อนใจยิ่งนางคือสวีฮูหยิน ในอาภรณ์สีฟ้าครามแกมม่วง ใบหน้าของนางซีดขาว ดวงตาคลอหยาดน้ำตาจนขอบตาแดงช้ำบุตรสาวคนรองกับบุตรชายคนเล็กนางส่งกลับจวนไปแล้ว เหลือเพียงนางยืนรออยู่กับข่งหมัวมัวและสาวใช้อีกสองคน ด้วยเกรงจะเอิกเกริกจนผู้คนเพ่งมองแดดยิ่งแรง เหงื่อยิ่งซึมตามขมับ แต่หัวใจกลับร้อนราวไฟแผดเผามากกว่าแสงแดดยามอู่ข่งหมัวมัวมองแล้วเอ่ยขึ้นเสียงอ่อน “ฮูหยิน…ขึ้นรถม้าสักครู่เถิดเจ้าค่ะ…”สวีฮูหยินส่ายหน้า แลเห็นน้ำตาเป็นเงาอยู่ในดวงตาไม่จาง “ไม่…ข้าจะรอท่านพี่ที่ตรงนี้”ไม่นานนัก ฝีเท้าหนักของคนกลุ่มหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านในอึดใจต่อมาบานประตูวังชั้นนอกถูกผ

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่๗

    ตอนที่ ๗เสียงล้อรถม้าบดผ่านถนนช่วงปลายยามเฉินด้วยความเร่งรีบ เงารถทอดยาวบนพื้น แล้วค่อย ๆ หดสั้นลงตามแสงอาทิตย์ที่เคลื่อนขึ้นสูงในยามอู่ (12 นาฬิกา) องครักษ์ชุดดำร่วมสองร้อยคนขนาบข้างแน่นหนา ชาวบ้านต่างรีบหลีกทางเมื่อเห็นขบวนเกรียงไกร คาดว่าต้องเป็นขุนนางผู้มีอำนาจสูงส่งหรืออาจเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้ยิ่งใหญ่ จึงกล้าเฆี่ยนม้าบนถนนหลวงอย่างอุกอาจได้เช่นนี้ผ้าม่านหน้าต่างรถม้าถูกตลบขึ้น เผยสายตาคมเข้มที่จับจ้องทุกความเคลื่อนไหวขององครักษ์และฝีเท้าอาชาแม้ลมหายใจไป๋อี้หานจะราบเรียบ แต่ภายในอกกลับอึดอัดราวมีหินกดทับ อาจเพราะร่างบอบบางที่นอนนิ่งหนุนตักเขานั้นเริ่มเย็นเฉียบราวไร้ร่างวิญญาณขึ้นทุกขณะลมหายใจของนางก็แผ่วเบาแทบไม่เหลือเค้าลางของคนมีชีวิตจนเขาอดจะกดปลายนิ้วแตะลงบนชีพจรข้างลำคอเสียมิได้ หวังตรวจดูว่านางยังหายใจหรือไม่ เมื่อสัมผัสได้ว่ายังคงเต้นอยู่ แม้อ่อนระโหย ใบหน้าคมจึงคลายความตึงเครียดลงเล็กน้อย ก่อนหลุบตาจ้องใบหน้าซีดเผือดนิ่งอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน“หวางเยี่ย ถึงตำหนักกวางผิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” เสียงฉีเหล่ยเอ่ยขึ้นเมื่อขบวนชะลอลงและหยุดสนิทในท้ายที่สุดไป๋อี้หาน จึงได้สติแล้วละสายตาจ

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่๖

    ตอนที่ ๖ เสียงเกือกม้าศึกนับร้อยกระทบพื้นถนนดังก้องสะท้อนทั่วตลาดตะวันตก ทุกสรรพสิ่งพลันเงียบงันราวต้องมนตร์ ผู้คนที่เพิ่งแตกตื่นต่างเบียดตัวถอยจนชิดแนวกั้น ทหารที่จัดเตรียมไว้ยืนเรียงแถวแน่นขนัด สายตาทุกคู่เต็มไปด้วยความหวาดเกรง จนแม้แต่เสียงหายใจก็อึดอัดหนักอึ้งรถม้าคันใหญ่หรูหราที่มีอักษร หาน สีทองอร่ามประดับเด่น ชัดเจนในสายตาค่อย ๆ ชะลอหยุดลง ทหารองครักษ์ในเกราะดำสองแถวรั้งบังเหียนอาชาเรียงแถวราวกำแพงเหล็ก หน้าขบวนปักธงผ้าสีแดงเข้มลายกิเลนเพลิงเหยียบเมฆซึ่งเป็นธงประจำกองทัพอวี้หลินที่ชินอ๋องควบคุมอยู่ ทหารทุกนายจับด้ามกระบี่ประจำเอวแน่น ไม่มีใครกล้าไหวติงบัดนั้นเอง เสียงตวาดกังวานดุจอสนีพลันปะทุจากองครักษ์ร่างใหญ่บนหลังม้าสีน้ำตาลแดง เจ้าของนาม ฉีเหล่ย ผู้เป็นหัวหน้าขบวนและหัวหน้าองครักษ์เงาคุ้มกันชินอ๋องแห่งต้าหรง“เป็นผู้ใดบังอาจมาขวางรถม้าของชินอ๋องจนเสียขบวน?!”เสียงเย็นจัดเสียจนผู้คนพากันก้มหน้า ใจคิดตรงกันว่านี่แค่เสียงองครักษ์นำขบวนยังน่าหวาดหวั่นถึงเพียงนี้ หากเป็นชินอ๋องตัวจริง…จะน่ากลัวเพียงใดไม่ทันสิ้นความคิด ม่านแพรสีดำปักลายกิเลนหน้ารถม้าแผ่วไหว มือเรียวยาวเลิกม่า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status