Share

ตอนที่ ๕

last update Last Updated: 2025-07-04 13:44:54

สวีเจียงหลัวกับสวีเจียงหลีรับคำมารดาแล้วจึงเดินออกจากร้านขายผ้าชื่อก้องของต้าหรง พอทั้งสองพี่น้องออกมาด้านนอกก็พอดีกับหัวขบวนรถม้าของชินอ๋องโผลพ้นโค้งถนน

ทุกสายตาบัดนี้ต่างหันไปมองยังถนนใหญ่ ต้นขบวนของชินอ๋องไป๋อี้หานปรากฏขึ้นอย่างสง่างามและองอาจยิ่งนัก รถม้าคันใหญ่โอ่อ่าสะท้อนแดดยามสายงามตาจนทุกผู้คนแทบลืมหายใจ

หลังสั่งคนบังคับรถม้าแล้ว สวีเจียงหลัวกับสองสาวใช้ เสี่ยวจิ่ว เสี่ยวผิง กับอีกหนึ่งคนคุ้มกันคือ หลันถิง สาวใช้ที่มีวรยุทธ์ ก็กลับมายืนอยู่ด้านหน้าร้านขายผ้ารอคอยน้องสาวกับน้องชายและสวีฮูหยินผู้เป็นมารดา

ขบวนรถม้าของชินอ๋องไป๋อี้หานเคลื่อนผ่านถนนสายใหญ่ตลาดตะวันตกอย่างสง่างามและทรงอำนาจ ทหารองครักษ์ในชุดเกราะสีดำควบม้านำหน้า ดวงตาทุกคู่ในตลาดต่างจับจ้องมองตามด้วยความตื่นตาตื่นใจและเกรงกลัวไปในเวลาเดียวกัน

ในจังหวะนั้นเองที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น แมวน้อยสีขาวตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้าขบวนรถม้าไปอย่างรวดเร็ว ตามติดด้วยเสียงหัวเราะใสแจ๋วของเด็กชายหญิงสองพี่น้องที่วิ่งตามแมวอย่างสนุกสนาน โดยไม่ทันรู้ตัวว่าพวกเขาได้พาตัวเองเข้าสู่สถานการณ์อันตรายเสียแล้ว

“หยุดนะ! อันตราย!” ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ต่างส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ แต่มารดาของเด็กทั้งสองกำลังยุ่งอยู่กับการขายของจึงมิได้ยินเสียงร้องนั้น

สวีเจียงหลัวที่ยืนอยู่ด้านหน้าร้านขายผ้าถึงกับตกใจจนใจหายวาบ แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ตัดสินใจใดๆ สวีเจียงหลีที่ยืนอยู่ข้างหลังก็พลันเกิดความคิดร้ายขึ้นมาชั่ววูบ

‘ที่ข้าเคยได้ยินมาเขาว่าชินอ๋องเกลียดนักสตรีที่พุ่งเข้าหาเขาก่อน หากต้าหลัวเจี่ยถูกเข้าใจผิดว่านางคิดจะเข้าหาเขาด้วยวิธีขวางขบวนเสด็จเล่า?’

แน่นอนว่าคนเช่นชินอ๋อง ย่อมโทษมากเช่นนี้พี่สาวของนางจะต้องถูกลงโทษเป็นแน่ คุณหนูใหญ่สวีผู้สง่างามยังจะเหลือชื่อเสียงที่ดีได้อย่างไร เท่านี้นางก็จะสามารถกำจัดคู่แข่งที่มีโอกาสช่วงชิงตำแหน่งพระชายาเอกขององค์ชายไป๋อี้เฉินเช่นพี่สาวคนโตออกไปได้แล้วมิใช่หรือ?!

คิดได้ดังนั้นสวีเจียงหลีก็แกล้งสะดุดล้ม มือของนางแอบผลักกลางหลังพี่สาวเต็มแรง ร่างของสวีเจียงหลัวเสียหลักพุ่งออกไปกลางถนนหน้าขบวนรถม้าทันที

“ต้าหลัว!” สวีฮูหยินที่ตามมาถึงยังหน้าร้านขายผ้ามาเห็นภาพดังกล่าวเข้าพอดีพลันร้องอุทานด้วยความตกใจ

ส่วนสวีเจียงหลัวที่กลัวว่าตนเองจะถูกจับได้ที่ผลักพี่สาว รีบลุกขึ้นแล้วขยับตัวกลับเข้ามายืนในแถวที่ทหารกั้นเอาไว้ทันที แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวที่กำลังจะกลับมาเป็นปกติม้าศึกตัวโตขององครักษ์คนสนิทของชินอ๋องนามเว่ยจงกลับตกใจแมวน้อยที่วิ่งย้อนกลับมาทางเก่าจนม้าตัวโตร้องก้องแล้วพุ่งเตลิดวิ่งตรงมายังเด็กน้อยสองคนนั้นแม้แต่เว่ยจงที่บังคับม้าเก่งยังมิอาจควบคุมได้

‘หากข้าหลบกลับเข้าข้างทางตอนนี้ย่อมปลอดภัย...แต่เด็กสองคนนั้นเล่า?’

เพียงเสี้ยวลมหายใจเท่านั้นที่ความคิดลังเลใจของเจียงหลัววาบขึ้นมา แต่จิตใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาของนางก็ชนะทุกสิ่ง นางกัดฟันแน่น พุ่งตัวเข้าไปผลักเด็กน้อยทั้งสองให้ล้มไปอีกทางจนปลอดภัย

แต่แล้ว…

โครม!

แรงมหาศาลของม้าศึกตัวโตพุ่งชนร่างบอบบางของสวีเจียงหลัวอย่างจัง ร่างอรชรงดงามลอยกระเด็นไปตามแรงปะทะ สายตาผู้คนทั้งหมดต่างจับจ้องมองภาพนั้นอย่างตกตะลึง

“ต้าหลัว!”

“ต้าหลัวเจี่ย”

เสียงร้องของสวีฮูหยินดังขึ้นอย่างโหยหวน ตามติดมาด้วยเสียงของสวีเฉียวเฟิ่งที่รีบวิ่งตามมารดามายืนตะลึงที่ข้างถนนทุกชีวิตในบริเวณนี้ล้วนเต็มไปด้วยความตระหนก

ภาพร่างของสวีเจียงหลัวลอยไปกระแทกเข้ากับสิงโตหินหน้าโรงรับจำนำอย่างรุนแรง เสียงกระดูกดังกร๊อบชวนขนลุก เลือดสีแดงสดไหลรินออกจากริมปาปากและแผลตรงศีรษะของนางขวนเสียขวัญยิ่ง

และทันทีที่ร่างอรชรนางกระแทกพื้น สวีเจียงหลัว คุณหนูใหญ่สวี…สิ้นใจตาย ณ ที่แห่งนั้นอย่างมิทันได้ตั้งตัวเตรียมใจแม้แต่น้อย

ผู้คนต่างนิ่งงันกับภาพดังกล่าวไม่เว้นแม้แต่ตัวต้นเหตุเช่นสวีเจียงหลีก็ตกใจจนตัวสั่น ไม่คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายถึงขั้นนี้

ฝูงชนแตกตื่น ชาวบ้านต่างร่ำลือกันถึงความกล้าหาญและคุณธรรมของคุณหนูใหญ่สวีที่ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยเด็กเล็กทว่าไม่มีใครล่วงรู้ ว่านางหาได้ตั้งใจจะเป็นวีรสตรี…และยิ่งไม่มีผู้ใดรู้เลยว่า ข้อมือขาวผุดผ่องที่ผลักกลางหลังนางคือมือน้องสาวแท้ ๆ

ขณะที่ร่างของเจียงหลัวแน่นิ่ง หยาดเลือดซึมจากริมฝีปาก ทุกสรรพเสียงในโลกเหมือนถูกกลืนหายดวงวิญญาณอันแข็งกร้าวและเต็มไปด้วยความแค้นของ ‘อรรัมภา’ วูบวาบแทรกเข้าสู่ร่างนี้แทนที่ดวงจิตเดิมในชั่วอึดในแสนสั้นราวกับสายลมวูบใหญ่พัดแล้วจางหายไปผู้คนโดยรอบมิอาจรับรู้ได้สักคนเดียว

ขบวนเสด็จหยุดลง ทหารองครักษ์กรูกันเข้ามากั้นขวางไม่ให้ชาวบ้านลงมาที่ถนนเพิ่มขึ้น เสียงชาวบ้านพูดกันเสียงเซ็งแซ่ สวีฮูหยินทรุดตัวลงประคองบุตรสาว มือสั่นระริก

“ต้าหลัว…เจ้าอย่าเป็นอะไร! ข้าขอร้อง…” เสียงร้องไห้สะท้อนไปทั่วตลาด เจียงหลีหน้าซีดเผือดในหัวใจกลับปะปนไปด้วยความโล่งใจและความหวาดกลัวสุดขีด

แต่แล้ว…

ในห้วงเวลาที่เสียงโกลาหลจากรอบทิศดังขึ้นราวอยู่ห่างไกล ความมืดมนซึ่งโอบล้อมจิตวิญญาณของอรรัมภากลับคล้ายถูกผลักออกจากห้วงมรณะแห่งอดีตและปัจจุบันผสานกัน ดวงจิตที่หนักอึ้งด้วยความแค้นของอรรัมภาและสวีเจียงหลัวปนเปยุ่งเหยิงพุ่งทะลุผ่านม่านแห่งกาลเวลา พลัน แสงสว่างจ้าแล่นวาบเข้าสู่สำนึกนางรู้สึกถึงความหนักแน่นจนอึดอัดค่อยๆ แผ่ซ่านทั่วดวงจิต และแล้ว เปลือกตาคู่หนึ่งก็กะพริบเบา ๆ สติอันพร่าเลือนกลับมาอย่างเชื่องช้า

เสียงโวยวาย เสียงร้องไห้ และเสียงตะโกนแตกตื่นของผู้คนรอบข้างดังขึ้นอย่างคลุมเครือภาพแรกที่อรรัมภาเห็นคือใบหน้าของสตรีวัยกลางคนที่งดงามและเต็มไปด้วยความตกใจ ริมฝีปากนั้นสั่นระริก สองตาแดงก่ำด้วยน้ำตา

“ต้าหลัว! เจ้าฟื้นแล้วหรือ?!”เสียงสตรีนั้นแหบพร่า ปะปนทั้งดีใจ สะอื้น และตกใจยิ่ง

ข้างกายอีกด้าน เด็กหนุ่มในชุดผ้าไหมใบหน้าซีดเผือด กำลังน้ำตาไหลพรากผู้คนรอบข้างพากันตะโกน “ฟื้นแล้ว! คุณหนูใหญ่สวีฟื้นแล้ว!”

อรรัมภารู้สึกเหมือนกำลังแหวกม่านหมอกในหัวตัวเองความทรงจำราวกับสายน้ำหลากพุ่งถาโถมเข้ามา ไม่ใช่เพียงชีวิตอรรัมภาในชาติที่แล้ว แต่ยังรวมถึงความทรงจำ ความรัก ความแค้น ความทุกข์ทรมาน และความโดดเดี่ยวของหญิงสาวอีกคนที่ถูกสามีหลอกลวงน้องสาวหักหลัง

สวีเจียงหลัวยังงุนงง นางกวาดตามองไปรอบตัวด้วยความสับสนอึดใจหนึ่งจึงถ่องแท้บัดนี้นางได้เกิดใหม่แล้ว แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือตนเองจะได้โผล่มาอยู่ในร่างของตนเองก่อนจะพบกับไป๋อี้หานและยังไม่ได้รักใคร่ลึกซึ้งกับไป๋อี้เฉิน

‘เดี๋ยวนะ…ต้าหลัว? เจียงหลัว? อย่าบอกนะว่านี่ ท่านพญายมเมตตาส่งข้ามาเกิดใหม่ในร่างตนเองแต่เป็นตนเองก่อนที่จะเกิดเรื่องร้าย?’

หัวใจของนางเต้นแรง ความทรงจำของสองโลกที่ทับซ้อนกันหลั่งไหลเข้ามารวดเร็ว เจียงหลัวหลับตาแน่น ถอนหายใจยาว

‘พญายมถึงกับให้โอกาสข้ากลับมาแก้ไขอดีตด้วยหรือนี่ ดียิ่ง! นอกจากข้าจะแก้ไขอดีตแล้วข้ายังจะไม่ปล่อยให้ไป๋อี้เฉินกับสวีเจียงหลีลอยนวลเด็ดขาด!’

ลมหายใจของสวีเจียงหลัวที่ฟื้นคืนชีวิตใหม่เต็มไปด้วยเปลวไฟอาฆาต แต่ด้วยสภาพร่างกายที่บาดเจ็บหนักนางจึงสลบไปอีกครั้ง ท่ามกลางสายตาผู้คนที่จับจ้องมามากมาย!

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wilaiporn Dangbuddee
มาอัพอีกน้าาา
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   บทส่งท้าย

    บทส่งท้ายส่วนเจียงหลัวและไป๋อี้หาน…ชีวิตคู่ของทั้งสองหาใช่ว่ามีเพียงความสุขราบเรียบ หากกลับเต็มไปด้วยทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไปตามสัจธรรมของโลกมนุษย์ บางคราย่อมมีเสียงหัวเราะกังวานสะท้อนทั้งตำหนัก แต่ก็ใช่ว่าจะปราศจากเสียงทะเลาะถกเถียงตามประสาสามีภรรยาที่ครองคู่ร่วมชีวิตกันยาวนานทว่า กาลเวลาอันยืนยาวนับสิบ ๆ ปี พิสูจน์ชัดว่า ไม่มีพายุใดใหญ่หลวงพอจะพรากทั้งสองจากกันได้ ไม่ว่าลมฝนจะถาโถมแรงเพียงใด ไม่ว่าภัยร้ายจากภายนอกหรือความขัดแย้งเล็กน้อยจากภายใน ต่างก็ไม่อาจทำให้มือที่จับกันมั่นคงต้องปล่อยแยกยามราตรีสงัด แสงจันทร์ขาวนวลสาดต้องเรือนผมหงอกขาวโพลนของทั้งคู่ ร่างกายแม้ชรา แต่เมื่อดวงตาของทั้งสองสบประสาน แววประกายอ่อนโยนก็ยังส่องสว่าง ราวกับวันแรกที่ได้ร่วมชีวิต ไม่พร่อง ไม่เสื่อมคลายไปตามกาลเวลาเรื่องราวแห่งรักและแค้นบนแผ่นดินต้าหรง จึงปิดฉากลงด้วยความสงบสุขที่แท้จริง สวีเจียงหลัวหลุดพ้นจากวิบากกรรมที่ติดพันมาหลายภพหลายชาติ คำสาบานต่อท่านพญายมก็ได้ถูกปลดเปลื้องแม้เขานางจะเสียดายอยู่บ้างต่อความทรงจำที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง แต่คำไหนก็คือคำไหน ชะตาต้องหมุนเวียนต่อไปนางได้รับโอกาสเวียนว่า

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่ 82 (ตอนจบ)

    ข้างนอก หลัวปัง ถังเหยียน และจิ่งกงกงรีบพังประตูเข้ามา ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนตัวสั่นเครือ เลือดนองทั่วพื้นหิน ร่างหนึ่งบ้าคลั่ง อีกหนึ่งใกล้สิ้นสติ“เร็วเข้า! หลัวปัง อุ้มองค์ชายไปวางบนเตียง! ถังเหยียนรีบไปตามหมอหลวง!” จิ่งกงกงตะโกนสั่งเสียงสั่นในที่สุดข่าวก็ส่งไปถึงหย่งหมิงฮ่องเต้ พระองค์รีบโปรดให้หมอหลวงมารักษาชีวิตทั้งสองไว้ เพราะถึงอย่างไร อี้เฉินก็ยังเป็นพระโอรส ส่วนเจียงหลีก็เป็นบุตรสาวของขุนนางเอกทว่าตำหนักเหมันต์คืนนี้...เลือดแดงนองพื้นหินเป็นธาร ความสัมพันธ์ขององค์ชายสามกับเจียงหลี พังทลายจนสิ้นซาก แม้หมอหลวงจะยื้อชีวิตทั้งคู่ไว้ได้ แต่…อี้เฉินสูญสิ้นความเป็นชายไปชั่วชีวิต ส่วนเจียงหลีที่ถูกทุบตีจนแท้งและบอบช้ำทั้งกายใจ ก็กลายเป็นคนเสียสติ ไม่อาจกลับมาเป็นดังเดิมได้อีกต่อไปตำหนักเหมันต์ที่เคยหรูหราสง่างาม บัดนี้กลับกลายเป็นคุกขังมืดหม่น หลังจากถูกปิดตายมาหลายเดือน เพียงสิบกว่าวันหลังเหตุการณ์คืนโลหิต บรรยากาศยิ่งหดหู่และอึมครึมราวถูกคำสาป กลิ่นคาวเลือดแม้จางไปแล้ว แต่ยังแทรกอยู่ในทุกอณูอากาศ ราวจะตอกย้ำให้ผู้ที่อยู่ภายในไม่อาจลืมเหตุการณ์อำมหิตคืนนั้นคืนที่องค์ชายสามทุบตีพ

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่ 82 (1)

    ในขณะที่ด้านนอกนครเสวียนหยางเต็มไปด้วยเสียงระฆังมงคลและรอยยิ้มยินดีภายในตำหนักเหมันต์กลับต่างออกไปประหนึ่งอยู่กันคนละโลกอากาศในเรือนหม่นหมอง อึมครึมราวกับมีเมฆดำบดบังตะวัน ทั้งที่แสงภายนอกสาดส่องเจิดจ้า ทว่าด้านในกลับเหมือนสวรรค์เองก็ไม่ปรารถนาจะทอดมองชะตาของผู้คนที่นี่ ความเงียบขรึมครอบคลุมไปทั่วทุกซอกมุม รั้วสูงและประตูหนาหนักปิดตายไม่ให้ผู้ใดเข้าออก กุญแจเหล็กดอกใหญ่แขวนอยู่ข้างประตูราวสัญลักษณ์ของการถูกกักขัง เสียงโซ่ตรวนเสียดสีกันในยามลมพัดพลันดังก้องสะท้อน ทำให้ทุกค่ำคืนคล้ายเสียงวิญญาณร่ำไห้สวีเจียงหลีถูกจองจำอยู่ในเรือนเล็กแห่งนี้มานานหลายเดือน นางนั่งก้มหน้ากุมหน้าท้องที่เริ่มปรากฏความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน รอยยิ้มที่ควรจะเปี่ยมสุขของสตรีตั้งครรภ์กลับไม่ปรากฏ มีเพียงแววตาหวาดหวั่นและความกังวลใจแผ่กระจายอยู่เต็มใบหน้า ยิ่งนับวันครรภ์นางยิ่งโตขึ้น นางก็ยิ่งแน่ใจว่าตนกำลังตั้งครรภ์จริง ๆหากเป็นสตรีอื่น คงเต็มไปด้วยความยินดี แต่สำหรับเจียงหลี มันคือฝันร้าย เพราะนางรู้อย่างแจ่มชัดว่าหากอี้เฉินรู้ นางจะไม่มีวันรอดพ้นแรกเริ่ม อี้เฉินมิได้เข้มงวดเรื่องยาห้ามครรภ์นัก แต่หลังเขากลั

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่ 81 (ตอนจบ)

    กาลล่วงเลยไปอีกสองเดือน...หลังเหตุการณ์ปราบกบฏและการประหารใหญ่จบสิ้น บ้านเมืองเสวียนหยางกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้ง ถนนหนทางคลาคล่ำด้วยผู้คน เสียงหาบเร่ของพ่อค้าแม่ค้าดังก้องเป็นสัญญาณแห่งความมั่นคง ผู้คนต่างเอ่ยขอบคุณสวรรค์ที่บัลลังก์มังกรยังตั้งมั่น ปราศจากภัยร้ายคุกคามภายในตำหนักกวางผิง แสงแดดอุ่นส่องลอดผ่านม่านโปร่ง กลีบเหมยสีแดงสดร่วงโปรยแต่งแต้มพื้นหินให้ดูราวภาพวาด ชินอ๋องกับชินหวางเฟยกำลังจัดเตรียมสัมภาระด้วยตนเอง เตรียมเสด็จกลับสู่แคว้นเจียงหนานตามที่ตั้งใจไว้สวีเจียงหลัวนั่งคัดเลือกผ้าผืนงามด้วยดวงตาสงบนิ่ง บ่าวไพร่ขะมักเขม้นยกหีบสมบัติลงเกวียนอย่างขยันขันแข็ง แต่เพียงไม่นาน สีหน้าของนางพลันซีดเผือด ร่างอรชรทรงลงพิงโต๊ะ ข้าวของในมือร่วงกระจาย“ต้าหลัว!” ไป๋อี้หานตวัดกายเข้าประคองทันที แววตาคมดุจเพลิงสะท้อนความตระหนกขันทีรีบส่งเสียงตะโกน “ตามหมอหลวงมาเร็ว!”บรรยากาศทั้งเรือนตึงเครียดในพริบตา สิ่งอวิ๋นกับสืออวี่คุกเข่าหน้าซีดเผือดราวจะขาดใจ รอคอยด้วยลมหายใจอันสั่นไหว เสี่ยวผิงกับเสี่ยวจิ่ววิ่งวุ่นไปมาราวไร้ทิศทาง กระทั่งหมอหลวงผู้เฒ่าเร่งรุดเข้ามา จับชีพจรตรวจอย่างละเอียด

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที่ 81 (1)

    รุ่งอรุณวันใหม่ เสียงกลองยามเช้าและระฆังวังหลวงดังขึ้นพร้อมกัน เจิดจ้าไปด้วยแสงตะวันอุ่นที่สาดส่องเหนือกำแพงวัง ประตูท้องพระโรงเปิดออกทีละชั้น เหล่าขุนนางก้าวเข้าสู่โถงใหญ่ด้วยท่วงท่าสงบเคร่งขรึมเบื้องสูง บัลลังก์มังกรประดับมุขทองตั้งตระหง่าน หย่งหมิงฮ่องเต้ประทับเหนืออาสน์มังกรในอาภรณ์สีทอง พระพักตร์สงบเยือกเย็น หากในพระเนตรลึกเร้นยังมีเงาความเหน็ดเหนื่อยจากหลายปีแห่งการครองราชย์ ทว่าครานี้กลับฉายความปลื้มปีติแผ่วบางอยู่บนพระพักตร์เสียงขันทีขานพระนามก้อง “ชินอ๋องไป๋อี้หาน น้อมถวายรายงานใต้เบื้องพระยุคลบาท!”ร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์เต็มยศสีดำปักดิ้นทองก้าวเข้ามาอย่างองอาจ ทุกย่างเท้าหนักแน่นก้องสะท้อนทั่วพื้นหินหยก ไป๋อี้หานก้าวมาหยุด ณ เบื้องหน้าโถงมังกร คุกเข่าลงโขกศีรษะถวายบังคม“กระหม่อมถวายพระพรฝ่าบาท อายุยืนหมื่นปี หมื่นๆ ปี พ่ะย่ะค่ะ”หย่งหมิงฮ่องเต้ทอดพระเนตรลงมา พระสุรเสียงเข้มทุ้มต่ำดังไปทั่วโถง “ลุกขึ้นเถอะ อี้หาน”“ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“เป็นเช่นไรบ้าง สถานการณ์ที่หุบเขาอวิ๋นเซิง กบฏเหล่านั้นบัดนี้สิ้นซากแล้วหรือไม่?”ไป๋อี้หานประสานมือขึ้น น้อมกายรายงานเสียงชัดเจน “กราบท

  • นางร้ายเช่นข้าจะเปลี่ยนสามี!   ตอนที 80 (ตอนจบ)

    ยามเขาขยับเร่งเร้า สายน้ำพลันแตกกระจายสูงขึ้นราวฝนซัด นางไม่อาจทรงกายได้อีกต่อไป ต้องโอบรอบแผ่นหลังแข็งแรงไว้แน่น ความอบอุ่นและแรงปรารถนาที่โถมทับเข้ามาทำให้ทุกสิ่งรอบกายเลือนหาย มีเพียงเสียงหัวใจสองดวงที่เต้นถี่รัวเป็นหนึ่งเดียวเวลาล่วงไปไม่รู้เนิ่นนานเพียงใด กว่าคลื่นน้ำจะสงบ ร่างบางก็อ่อนแรงแทบหมดสิ้น ได้แต่เอนพิงอกกว้าง หอบหายใจถี่แผ่ว ดวงตาคมกริบ ที่มักเย็นเยียบพลันพราวระยับด้วยหยาดน้ำใสไป๋อี้หานประคองเรือนร่างในอ้อมแขน กดจุมพิตเบา ๆ บนหน้าผากชื้นเหงื่อ เสียงทุ้มพร่ากระซิบใกล้หู“ต้าหลัว…มีเพียงเจ้าที่ทำให้ข้าสูญสิ้นการควบคุมเช่นนี้”เจียงหลัวปรือตามองเขาอย่างเหนื่อยอ่อน ใบหน้าขาวนวลแดงซ่าน ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มเล็กน้อย ทั้งอับอายทั้งอบอุ่นท่ามกลางไอหมอกขาวและน้ำอุ่นที่คลอเคลีย สองร่างยังโอบกอดกันแนบแน่น กระทั่งเสียงหยดน้ำจากเพดานก็คล้ายกลายเป็นทำนองกล่อมที่ปิดฉากค่ำคืนในอ่างหิน…ปิดฉากอันใดกัน!ยามที่เจียงหลัวถูกอุ้มขึ้นจากอ่าง ร่างของนางช่างเบาราวขนนกในอ้อมแขนกำยำ เสื้อคลุมน้ำตาลอ่อนเพียงพาดหลวม ๆ มิอาจปกปิดผิวขาวผ่องที่เปล่งประกายยามต้องแสงตะเกียง แต่เพียงสบตากับสามี นางก็รู้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status