"พระชายา พระชายา อย่าทำให้บ่าวตกใจกลัวสิเจ้าคะ" เสี่ยวอ้ายมองเจ้านายที่นอนนิ่งไม่ได้สติหลายวันหลังจากเวยอ๋องถีบหนิงเยียนตกน้ำ นางก็ไม่ฟื้นขึ้นมาเสียที ท่านหมอบอกเพียงว่านางหมดสติอีกไม่กี่วันก็จะฟื้น
หนิงเยียนพลันลืมตาขึ้นมากวาดสายตามองไปโดยรอบ นางจำได้ว่า นางขับรถมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล แต่ทว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นรถพลิกคว่ำ เดิมทีคิดว่าจะตายไปแล้ว แต่ดันมาโผล่ที่เมืองโบราณแห่งนี้
"พระชายา ท่านฟื้นเเล้ว" เสี่ยวอ้ายดีใจจนน้ำตาไหล หนิงเยียนมองเด็กน้อยตรงหน้าคงจะอายุสิบสี่ปีกระมัง เหตุใดใบหน้าถึงได้มีแผลมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังเรียกนางว่าพระชายา
"เหตุใดใบหน้าของเจ้าถึงเป็นเยี่ยงนี้ แล้วข้าทำไมถึงกลายเป็นพระชายา"
หนิงเยียนเอ่ยถามขึ้น ความทรงจำเจ้าของร่างเดิมไหลเข้ามาในสมองอีกครั้ง ทำให้หนิงเยียนเห็นภาพความเลวของเจ้าของร่างเดิมอย่างน่าสะพรึงกลัว
"พระชายาท่านจำไม่ได้รึเจ้าคะ"
เสี่ยวอ้ายเเม้จะโดนเจ้านายทำร้ายร่างกายนับครั้งไม่ถ้วน แต่นางก็จงรักภักดีกับหนิงเยียนมาก เพราะหนิงเยียนซื้อเสี่ยวอ้ายมาจากพ่อค้า เมื่อห้าปีที่เเล้ว ไม่อย่างนั้นเสี่ยวอ้ายคงได้กลายเป็นม้าผอมแน่นอน
"ข้าจำได้เเล้ว เจ้าไปหาน้ำแกงอุ่น ๆ มาให้ข้าดื่มเถอะ" เสี่ยวอ้ายเดินออกไปด้วยความดีใจ ในจวนอ๋องมีเพียงเสี่ยวอ้ายคงจะดีใจที่พระชายาฟื้นขึ้นมาคนเดียวกระมัง
คล้อยหลังเสี่ยวอ้าย หนิงเยียนมองมือเรียวงามประดุจหยกที่แกะสลักวางไว้ ช่างงามนัก ผิวขาวละเอียดประดุจไข่มุก นางลุกขึ้นมุ่งหน้าไปที่คันฉ่องสีเหลืองทอง
ดวงตางามตกตะลึงในความงามของสตรีนางนี้ ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือ คิ้วดุจจันทร์เสี้ยว ดวงตากลมโตราวกับดวงจันทร์ที่ส่องสว่างทอประกายอย่างงดงาม
จมูกโด่งรับกับริมฝีปากบาง ใบหน้านี้อ่อนเยาว์กว่านางนัก ในโลกปัจจุบันหนิงเยียนอายุสามสิบปี แต่งามกว่านางหลายเท่า
ประตูถูกถีบเข้ามาอย่างแรง ทำให้หนิงเยียนมองผู้มาเยือน ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลา ในอาภรณ์สีน้ำตาลผ้าต่วนอย่างดี อย่างกับในซีรีส์จีนย้อนยุคที่นางเคยดู
ดวงตาเขามองมาที่นางไร้ซึ่งความอ่อนโยน มีเพียงความเย็นชาที่นางรับรู้ได้
"ทำไมเจ้าไม่ตายไปเล่า ฟื้นขึ้นมาทำไม สตรีสารเลวเยี่ยงเจ้า"
เวยอ๋องหรือจ้าวเชียนที่เป็นโอรสของสนมหยางกุ้ยเฟย สนมเอกของฝ่าบาท ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าโจว ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ สมองของหนิงเยียนประมวลภาพต่าง ๆ ที่ชายชั่วผู้นี้ไม่ปรนนิบัติต่อนางดีสักครั้งหลังแต่งงานกันได้หนึ่งเดือน ทั้งเตะนางออกจากเตียง อีกทั้งหนิงเยียนคนเก่าก็ก่อเรื่องไว้มากเช่นกัน ยิ่งเห็นนางเงียบเขาก็ยิ่งบันดาลโทสะมากขึ้นกว่าเดิม
"ข้าพูดกับเจ้าอยู่นะ" น้ำเสียงห้วนพลันเอ่ยขึ้น
หนิงเยียนรู้สาเหตุที่นางโดนถีบตกน้ำแล้ว นั่นเพราะนางไปหาเรื่องอนุคนโปรดของเขา อีกทั้งนางยังทำร้ายหลานของแม่นมหยงด้วย
"ท่านมาดู ว่าข้าตายรึยัง ตอนนี้ข้ายังไม่ตาย ท่านก็ไปหาอนุคนโปรดของท่านเสียสิ" นางเปลี่ยนไปแล้วรึ
มันผิดปกติมาก คิดว่าทำเยี่ยงนี้เเล้วเขาจะหันไปสนใจคนเลวเยี่ยงนางงั้นรึ
ฝันไปเถอะ!!!
"ข้าขยะแขยงเจ้ายิ่งนัก อย่าได้ออกไปก่อเรื่อง ไม่อย่างนั้น อย่าหวังจะออกไปจากจวนอ๋องได้"
"เจ้าค่ะ" น้ำเสียงเย็นชาตอบเขา
หนิงเยียนคนปัจจุบันเป็นคนหัวเเข็งดื้อรัน นางไม่ยอมให้คนอื่นข่มหัวนางเช่นกัน
"ดี" เวยอ๋องสะบัดอาภรณ์เดินจากไป
หนิงเยียนมองเขาเดินจากไป ร่างบางเข่าทรุดลงกับเก้าอี้ทันที
ภาพความทรงจำของนางกับเขาไม่ดีเอาเสียเลย ทั้งตบตี ถีบ อีกหลาย ๆ อย่าง นางไม่ใช่คนภพนี้เสียด้วยเเล้วจะใช้ชีวิตอย่างไรดี
เสียงร้องไห้มาแต่ไหน
หนิงเยียนกวาดสายตามอง พบว่าสตรีนางหนึ่งใบหน้าคล้ายเจ้าของร่างนี้ยิ่งนัก
"เจ้า"
"แม่นาง ข้าหมดวาระกรรมเเล้ว ขอให้แม่นางใช้ชีวิตเป็นข้ามุ่งมั่นทำความดี แล้วสักวันแม่นางจะได้กลับไปในที่ที่เเม่นางจากมา"
นางพูดเเล้วก็หายไปกับสายลม ทำให้หนิงเยียนพลันขนลุก
วิญญาณสตรีนางนั้นมาหานาง
"พระชายาเจ้าคะ น้ำแกงได้เเล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวอ้ายมองเจ้านายฟุบลงโต๊ะเตี้ย
หนิงเยียนลืมตาขึ้นมา นางหลับฝันไปรึ ตกใจหมดเลย นางหิวมากรีบซดน้ำแกงอุ่น ๆ เข้าไปทันที
"พระชายาจำเสี่ยวเฮ้ยหลานสาวเเม่นมหยงได้ไหมเจ้าคะ วันนั้นพระชายาให้บ่าวโรยผงคันใส่ตัวเด็กคนนั้น บัดนี้ตัวนางยังเต็มไปด้วยผื่นเจ้าค่ะ" เสี่ยวอ้ายพูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ปกติถ้านางพูดไม่ดี ฝ่ามืออรหันต์ของพระชายาจะตีเเสกหน้านางเข้าให้
แต่ทว่าครั้งนี้แปลกยิ่งนัก พระชายาไม่ตาขวางใส่นาง หนิงเยียนมองสาวใช้ตัวสั่นเทิ่ม หนิงเยียนกุมมือสาวใช้ไว้ หวนนึกถึงคำพูดของเจ้าของร่างเดิม
"เจ้าไม่ต้องกลัวว่าข้าจะทำร้ายเจ้าเหมือนแต่ก่อน เอาละ วันนี้เจ้าพาข้าไปหาหลานเเม่นมหยง" สีหน้าเสี่ยวอ้ายหวาดกลัวยิ่งกว่าเดิม
"ข้าไม่หาเรื่องพวกเขาหรอก" นางเป็นหมอศัลยกรรมทุกอย่าง เรื่องผิวหนังอาจหาทางรักษา สาวใช้ถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอก เจ้านายเปลี่ยนไปในทางที่ดี
หนิงเยียนคิดว่านางอยู่ในร่างนี้ ทำปณิธานให้เจ้าของร่างเดิมเป็นจริง เผื่อนางจะได้กลับโลกของนางได้ในเร็ววัน
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ