เช้าวันถัดมาบรรยากาศในจวนอ๋องพลันเย็นจัดเพราะเมื่อคืนได้มีหิมะตกหนัก ยามเช้านี้หนิงเยียนในชุดคลุมจิ้งจอกสีดำ
เดินตามเสี่ยวอ้ายมาที่ด้านหลังจวนเป็นที่พำนักของเสี่ยวเฮ้ยกับเเม่นมหยง เรือนไม่เล็กไม่ใหญ่มาก
"แม่นมหยง" เสี่ยวอ้ายเรียก สักพักมีคนมาเปิดประตูเรือน
สตรีวัยกลางคนถึงกับตาโตเมื่อผู้มาเยือนเรือนในยามเช้า นางอยากปิดประตูกระเเทกหน้าพระชายาด้วยซ้ำ
"อย่าได้กลัวข้าเลย" แม่นมหยงยิ่งงงเข้าไปใหญ่ พระชายาที่แม่นมหยงรู้จักหยิ่งผยอง หาใช่สตรีปั้นหน้าเยี่ยงนี้
"เชิญพระชายากลับไปเถอะเจ้าค่ะ" แม่นมหยงตัดสินใจไล่นาง เพราะพระชายาโหดร้ายกับหลานสาวตัวน้อยของนางนัก
"ท่านย่า ท่านย่า ข้าคันเจ้าค่ะ" เสียงร้องจากด้านในเรือน ทำให้เเม่นมหยงรีบวิ่งเข้าไปดูหลานสาวตัวน้อย
"เสี่ยวเฮ้ย" แม่นมหยงกุมมือหลานสาวไว้ ทั้งน้ำตา หนิงเยียนถือโอกาสเดินเข้ามา พบว่าหนูน้อยใบหน้าเต็มไปด้วยผดผื่น
"ให้ข้าดูนางเถอะ" แม่นมหยงหันหลังไปมอง คิดว่าพระชายาออกกลับไปแล้ว
เหตุใดนางยังหน้าด้านตามเข้ามาในเรือน ทั้งที่เจ้าของเรือนไม่ได้ต้อนรับ
"ออกไปนะ ออกไป" แม่นมหยงรักหลานสาวมาก เพราะหลายวันก่อนพระชายาให้สาวใช้สาดผงคันใส่หลานสาว เพราะนางไปเหยียบแปลงดอกไม้ของพระชายา นางโหดเหี้ยมนัก กับเด็กตัวเล็กนิดเดียวยังทำได้ลงคอ
หนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้ายจับตัวแม่นมหยงไว้ เสียงแม่นมหยงร้องลั่นเรือน
หนิงเยียนจำได้ว่ามีตัวยาชนิดหนึ่ง ที่สามารถทำให้หายคันได้ เมื่อคืนตอนนางนอนอยู่ได้มีกล่องยาทะลุมิติมากับนางด้วย
นางรีบฉีดยาให้หนูน้อยนางนั้น ตอนเเรกหนูน้อยหวาดกลัว แต่พอหนิงเยียนพูดจาอ่อนโยนกับเด็ก ทำให้หนูน้อยยิ้มประกอบกับหายคันเเล้ว
ร่างบางโดนกระชากออกจากเตียงอย่างแรง เวยอ๋องผลักนางลงกับพื้น แม่นมหยงได้โอกาสผลักเสี่ยวอ้ายล้มลง แล้วรายงานท่านอ๋อง
"ช่วยข้าด้วย นางจะทำร้ายเสี่ยวเฮ้ย"
แม่นมหยงรีบกอดหลานสาว
หนิงเยียนเจ็บก้นยิ่งนัก ทำไมต้องทำรุนเเรงกับนางด้วย
"นำตัวสองนายบ่าวไปลงหวายให้หลาบจำ"
"นี่ท่าน"
"ยี่สิบที"
หนิงเยียนกับเสี่ยวอ้ายโดนลากออกไปข้างนอก ลงหวายที่หน้าเรือนเหมยฮวาของนางเอง
เสียงหวดก้นดังขึ้นอย่างแรง หนิงเยียนจ้องจ้าวเชียนอย่างเเค้นเคือง
เมื่อครบยี่สิบทีเวยอ๋องรีบสาวเท้าออกไปทันที เสี่ยวอ้ายที่อดทนมาก ประคองเจ้านายเข้าเรือน หนิงเยียนไม่เจ็บเท่าไร แต่นางเจ็บใจมากกว่า
"เบา ๆ สิ" เสี่ยวอ้ายทายาให้เจ้านาย หนิงเยียนเจ็บก้นมาก เเค้นนี้นางจะต้องชำระคืน
"เสร็จแล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวอ้ายกำลังจะเดินออกไป
"ช้าก่อน ข้าจะทายาให้เจ้า" เสี่ยวอ้ายมองเจ้านายใหม่อีกครั้ง พระชายาของนางจะทายาให้นางอย่างนั้นรึ
"ไม่เจ้าค่ะ แค่พระชายาห่วงบ่าว บ่าวก็ดีใจมากเจ้าค่ะ" หนิงเยียนมองเด็กน้อยตรงหน้า
"มาเถอะ" นางอ่อนโยนกับเสี่ยวอ้ายมาก หนิงเยียนมองบาดแผลรอยช้ำบนใบหน้าที่เจ้าของร่างเดิมทำร้ายสาวใช้ช่างโหดจริง ๆ
เสี่ยวอ้ายซึ้งน้ำใจมากที่เจ้านายทายาให้ อีกทั้งเจ้านายของนางหลังจากฟื้นขึ้นมานิสัยเปลี่ยนไปจริง ๆ
"ข้าจะพักผ่อน เจ้าไปนอนเถอะ ข้าจะเรียกเจ้าเองถ้ามีอะไรจะใช้เจ้า"
"พระชายา"
หนิงเยียนไล่เสี่ยวอ้ายออกไป คาดไม่ถึงว่าบุรุษที่เป็นสามีแท้ ๆ ของเจ้าของร่างเดิมจะโหดร้ายกับคนที่เป็นภรรยาได้ขนาดนี้
ภาพในความทรงจำผุดขึ้นมา เจ้าของร่างเดิมวางยาเวยอ๋องในงานวันคล้ายวันเกิดของบิดานาง บิดาของหนิงเยียนคือใต้เท้ากรมโยธา
ทำให้เขาจำต้องแต่งงานกับนางเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ทั้งที่เขาหลงรักคุณหนูตระกูลหยวน หยวนเหมย
นี่เจ้าของร่างเดิมขโมยวาสนาของผู้อื่นมาครอบครอง มิน่าเล่า เจ้าคนชั่วถึงได้ถีบเจ้าของร่างเดิมอย่างไร้ความปราณี
หนิงเยียนคิดว่าในเมื่อกลับไปที่ที่จากมามิได้ ต้องทำความดี ในคราบหนิงเยียน เพราะเจ้าของร่างเดิมร้ายกาจมาก จนหมาเเมวยังกลัว
อีกด้านหนึ่งเวยอ๋องเดินเข้ามาในเรือนแม่นมหยง สายตามองเสี่ยวเฮ้ยหายจากผื่นเเล้ว
"แม่นม เสี่ยวเฮ้ยใครรักษานาง"
"พระชายาเจ้าค่ะ" ปากน้อย ๆ ของเสี่ยวเฮ้ยบอกเวยอ๋อง ทำให้แม่นมหยงรู้สึกผิดต่อพระชายามาก เวยอ๋องไม่อยากจะเชื่อหญิงปากร้ายนางนี้ ทั้งทำตัวน่ารังเกียจจะช่วยรักษาเสี่ยวเฮ้ย ทั้งที่นางเป็นต้นเหตุให้บ่าวมาทำร้ายเด็กน้อย
หนิงเยียนอยู่ในจวนอ๋องอย่างสงบมาหลายวัน ตอนนี้ นางคิดว่าต้องทางหย่ากับเจ้าอ๋องจอมโหดร้าย แล้วมุ่งมั่นทำความดี เมื่อคืนหนิงเยียนได้มาเข้าฝันนาง บอกว่าสมบัติอยู่ใต้ต้นอวี้หลันในสวนหีบใหญ่มาก
นางต้องหาทางพูดเรื่องหย่ากับเจ้าอ๋องจอมโหดให้ได้
"เรียนพระชายา ท่านอ๋องนำชุดมาให้ท่านสวมใส่ไปวังหลวง ตอนนี้ท่านอ๋องรอท่านในรถม้าเจ้าค่ะ" เเม่นมหยงเดินถือถาดพลับผ้ามาหาหนิงเยียน ในตอนเเรกแอบหวั่นใจ แต่พอเห็นสีหน้าหนิงเยียนไร้พิษภัยจึงคลายกังวล
"ทำไมต้องไปวังหลวง"
"เรื่องนี้ พระชายาถามท่านอ๋องเถอะเจ้าค่ะ" แม่นมหยงยอบกายคำนับเเล้วเดินจากไป
หนิงเยียนมองอาภรณ์สีเหลืองอ่อนปักด้วยดิ้นทองอย่างดี
ในรถม้ายามนี้ เวยอ๋องพาอนุคนงามอย่างหยวนเซียงน้องสาวของหยวนเหมย ที่แต่งเข้ามาพร้อมหนิงเยียนเมื่อเดือนก่อน เขาแต่งทั้งชายาเอกและอนุพร้อมกัน เป็นการตบหน้าหนิงเยียนอย่างแรง
หนิงเยียนเปิดม่านเข้ามาพอดี เห็นทั้งสองคนในอาภรณ์ที่ไม่เรียบร้อย
เวยอ๋องมองหนิงเยียนนางร้ายในจวนอ๋อง ปกตินางเห็นเขากับหยวนเซียงอยู่ด้วยกัน นางจะอาละวาดยกใหญ่ แต่ทว่ายามนี้ นางมารร้ายนิ่งเงียบผิดปกติยิ่งนัก
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ