ยามเช้าบรรยากาศช่วงหลังปีใหม่ค่อนข้างที่จะเย็นนัก ไม่รู้ว่าต้องสวดมนต์ให้ยายแก่อวี้ฮองเฮากี่วัน เมื่อวานสั่งเสี่ยวอ้ายไปบอกข้ารับใช้ในโรงหมอเยียน มิต้องมาทำงาน
ในระหว่างที่หนิงเยียนกำลังจะขึ้นรถม้า สองยายหลานอย่างแม่นมหยงและเสี่ยวเฮ้ยพลันเดินมา
"พระชายาเจ้าคะ" หนิงเยียนปรายตามองแม่นมหยงกับหลานสาวตัวน้อย
"ท่านอ๋องให้บ่าวไปรับใช้พระชายาเจ้าค่ะ" แม้แต่ก่อนเเม่นมหยงรังเกียจพระชายาที่ยั่วยวนท่านอ๋องจนได้แต่งเข้าจวน อีกทั้งตบตีข้ารับใช้เป็นรายวัน แต่ทว่ายามนี้พระชายานิสัยเปลี่ยนไปแล้ว อีกทั้งแม้จะเคยให้บ่าวทำร้ายเสี่ยวเฮ้ย เพราะทำสวนเหมยกุ้ยเสียหาย แต่ทว่าพระชายาก็เป็นคนรักษาเสี่ยวเฮ้ยให้หาย เรื่องนี้ทำให้เเม่นมหยงไม่เกลียดพระชายาเเล้ว
นางเป็นบ่าว พระชายาเป็นนาย
เสี่ยวเฮ้ยยิ้มให้หนิงเยียน เด็กน้อยยิ้มจนตาหยี เห็นฟันผุอย่างน่าเอ็นดู
"อือ" เจ้าคนถ่อยคิดจะทำอันใดอีก ถึงกล้าให้แม่นมหยงมาสอดแนมนาง
วัดนางชีเป็นวัดที่อยู่ห่างจากเมืองหลวงต้าโจวพอสมควรข้ามภูเขาอีกสองลูกถึงจะถึงวัดนางชี หนิงเยียนนั่งรถม้าอย่างเบื่อหน่าย นั่งมาตั้งแต่เช้า จะยามบ่ายไม่ถึงเสียที
รถม้าหยุดที่หน้าวัดนางชี หนิงเยียนลงรถม้ามอง รถม้าหลายคันจอดอยู่ หรือว่าจะมีคนอื่นมาสวดมนต์ให้ยายแก่อวี้ฮองเฮา
เมื่อเดินเข้ามาด้านในวัด พบว่าพระชายาหนานอ๋องอย่างหยวนเหมยก็พลันสวมชุดสีขาว ยืนคุยกับแม่ชีผู้คุมวัดอยู่
"พระชายาเวยอ๋องได้รับราชโองการเช่นกันรึ" หยวนเหมยเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ
หนิงเยียนนึกรังเกียจนักแต่นางก็ต้องรักษามารยาท หวังว่าการสวดมนต์ครั้งนี้ ยายแก่อวี้คงจะไม่มีแผนอันใดหรอกกระมัง
"ใช่ ข้าคิดว่า มีเพียงแต่สะใภ้สายตรงอย่างพระชายาหนานอ๋องเท่านั้นที่มา มิคาดคิดว่าสะใภ้สายรองอย่างข้าต้องมาด้วย"
หนิงเยียนเอ่ยเยี่ยงนี้ มิเห็นอวี้ฮองเฮาอยู่ในสายตาจริง ๆ หยวนเหมยอยากตบหนิงเยียนนัก
"ชายาเวยอ๋อง พวกเราต่างเป็นสะใภ้ราชวงศ์ถึงอย่างไรอวี้ฮองเฮาก็เป็นเเม่สามีของพวกเรา การสวดมนต์เป็นการกตัญญูต่อเเม่สามี เป็นสิ่งที่สะใภ้ควรกระทำ"
แม่สามีของเจ้ามิใช่ของข้า
แม่ชีเห็นทั้งสองสนทนากันไปมา มันเป็นการด่าทอกันทางอ้อม จึงรีบเชิญทั้งสองไปที่เรือนพำนักปีกตะวันออกของสตรี
หนิงเยียนเดินเข้ามาในเรือนพำนัก แม่นมหยงกับเสี่ยวอ้ายจัดสัมภาระไว้อย่างเป็นระเบียบก่อนจะออกไป แม่ชียังบอกอีกว่า ช่วงยามโหย่วให้นางไปสวดมนต์ทำวัดเย็น
นางไล่เสี่ยวอ้ายกับเเม่นมหยงออกไป
ชั่วพริบตาเดียวสตรีร่างบางก็พลันยืนตรงหน้าหนิงเยียนทันที
"คารวะพระชายา นายท่านส่งข่าวมาว่าให้พระชายาระวังตัวไว้ เกรงว่าอวี้ฮองเฮาจะมีเเผนร้ายเจ้าค่ะ"
หนิงเยียนคิดไม่ต่างจากไท่ชางหวง ตามจริงถ้าจะตกใจเป็นลม วันเดี๋ยวก็หายเเล้ว แต่ทว่าแกล้งป่วยหลายวัน เเล้วให้ชายาอ๋องมาสวดมนต์ขอพรให้ตัวเอง ช่างทุเรศสิ้นดี
"เอาละ เจ้าคอยจับตาดู ชายาหนานอ๋องไว้"
"เจ้าค่ะ"
ชั่วพริบตาเดียวร่างบางได้หายออกไปทางหน้าต่าง
ไม่ว่ายายแก่นั่นจะใช้วิธีชั่วช้าอะไรกับนาง นางมีทางรับมือแน่นอน
หนิงเยียนเดินเข้ามาในอารามหลวง สายตาของนางมองสตรีทั้งสองคน อย่างชายาหนานอ๋องกับอวี้หลินหลานสาวอวี้ฮองเฮา มิคาดคิดว่า อวี้หลินมาสวดมนต์ขอพรให้ท่านป้าของนางด้วย
"ในเมื่อประสกมากันครบแล้วสวดมนต์เย็นได้" เเม่ชีเอ่ยขึ้น
หนิงเยียนนั่งลงแล้วพนมมือต่อหน้าพระพุทธรูป สองสตรีอย่างหยวนเหมยกับอวี้หลิน แม้ในบางครั้งไม่ถูกชะตากัน แต่พอยามทำงานใหญ่ พวกนางต้องร่วมมือกัน
แม่ชีเป็นคนนำพวกนางสวดมนต์ เพียงไม่นานเเม่ชีก็ลุกออกไปด้านนอก
หนิงเยียนมองสองสตรี กลิ่นควันสีขาวค่อย ๆ ลอยเข้ามาในอาราม
หนิงเยียนสลบลงไปแล้ว ทั้งสองสตรีพลันหัวเราะคิกคัก
"หยวนเหมย เจ้าดูสินางสลบไปแล้ว" อวี้หลินเอ่ยอย่างมีความสุข ถ้านังสารเลวนี้โดนทำร้าย หย่ากับเวยอ๋องคงดีไม่น้อย
"เร็วเข้าพวกเรารีบไปเถอะ คนที่อวี้ฮองเฮาเตรียมไว้ เกรงว่าคงจะมาเเล้วกระมัง" สองสตรีรีบเดินออกไปข้างนอก
หนิงเยียนพลันลืมตาขึ้นมา คิดจะทำชั่วกับนางรึ ได้นางจะคืนดาบสนองให้แก่พวกนางเอง คำพูดทุกคำหนิงเยียนได้ยินไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว
นังแก่สมควรตายคิดจะเล่นงานนางรึ เจ้าฝันไปเถอะ เกรงว่าคนในวัดนี้ คงจะร่วมมือกับอวี้ฮองเฮาแน่นอน
รอยยิ้มเย็นพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้างามอย่างน่าหวาดกลัว
ค่ำคืนนั้นในเรือนนอนของอวี้หลิน เงาร่างสีดำจี้จุดร่างบางไว้ แล้วแบกอวี้หลินออกมา
หนิงเยียนมองอวี้หลินนอนที่หน้าพระพุทธรูป สายตาคนงามมองที่หน้าพระพุทธรูป
"ข้ามิใช่คนใจร้ายแต่พวกมันทำข้าก่อน หวังว่าท่านจะเข้าใจ" นางพูดกับรูปปันนั้น แล้วหันมองไป๋หรูจากนั้นทั้งสองจึงหลบหลังพระพุทธรูป
เสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามาในอารามหลวง พร้อมปิดประตูอย่างช้า ๆ
หนิงเยียนมองสองบุรุษ ร่างอ้วนทั้งสองคน หน้าตาน่ารังเกียจยิ่งนัก คนพวกนั้นคล้ายกับขอทาน
นี่อวี้ฮองเฮาคิดจะเล่นงานนางให้ตายทั้งเป็นเชียวรึ แต่เสียใจคนที่รับเคราะห์กรรม เกรงว่าจะเป็นหลานสาวของนางเสียมากกว่า
พวกนางคิดว่าฉลาดเป็นคนเดียวรึไง วันพรุ่งเกรงว่าคนที่ทำวัตรเช้าทุกคน จะเห็นภาพอุบาทว์ คราวนี้ละ อวี้ฮองเฮาได้กระอักเลือดแน่
สองบุรุษมองคนงามที่นอนรอพวกเขา มิคิดว่าในโลกใบนี้จะมีงานง่าย ๆ เยี่ยงนี้ ทั้งโลมเลียคนงาม คนหนึ่งประกบด้านบน คนหนึ่งประกบด้านล่าง อวี้หลินรู้สึกตัวตกใจไม่น้อย
เสียงนางกรีดร้องในอารามหลวงอย่างแรง แต่เสียงฝนห่าใหญ่ได้ตกลงมากลบเสียงของนางไว้
หนิงเยียนยิ้มเย็นให้กับภาพตรงหน้า ความมืดมิดปกคลุมอารามหลวงอย่างน่ากลัว รวมทั้งเสียงอัสนีสายฟ้าฟาดลงมาอย่างแรง จนต้นไม้ภายในวัดล้มหักไปหลายต้น...
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ