เสียงไก่ขันเมื่อยามเช้าในวัดนางชี ชายาหนานอ๋องในชุดสีขาว ใบหน้าเปล่งปลั่ง ระบายรอยยิ้มออกมา เมื่อหวนคิดเรื่องบางอย่างจะต้องสำเร็จแน่นอน หยวนเหมยเดินนำหน้าข้ารับใช้ นางเดินผ่านหน้าห้องอวี้หลิน
"อวี้หลิน" หยวนเหมยเรียกตั้งนาน แต่อวี้หลินมิยอมเปิดประตูเสียที
"พระชายามิใช่คุณหนูอวี้ มุ่งหน้าไปที่อารามหลวงแล้วรึเจ้าคะ"
อาจจะเป็นอย่างที่สาวใช้เอ่ยขึ้น
ที่อารามหลวงยามนี้ ดูวุ่นวายนัก ฝูงชนที่มาทำวัตรเช้าต่างมองดูภาพอุบาทว์อย่างไม่อยากจะเชื่อ หนึ่งหญิงสองชายทำเรื่อง ชั่ว ๆ ในวัดได้อย่างไรยิ่งต่อหน้าองค์พระพุทธรูปและพระโพธิ์สัตว์กวนอิม
"เกิดอันใดขึ้น" ชายาหนานอ๋องเก็บความดีใจไว้มิอยู่ ยิ่งคนมุงดูเยอะ นังสารเลวหนิงเยียนยิ่งต้องอับอาย เกรงว่าอยู่รึไม่สู้ตายเสียดีกว่า
"แย่เเล้ว พระชายาเวยอ๋องเหตุใดท่านจึงทำเยี่ยงนี้" จู่ ๆ มีคนตะโกนขึ้นมาคนที่นอนอยู่ในอารามกับบุรุษคือชายาเวยอ๋อง
ทุกคนต่างส่งเสียงดังเซ็งแซ่ มิคาดคิดว่าสะใภ้ราชวงศ์จะตัวอุบาทว์ชาติชั่วเพียงนี้
หยวนเหมยแสร้งเป็นลม
"เกิดอันใดขึ้น" น้ำเสียงอันไพเราะเอ่ยขึ้น ทุกคนต่างหันมองสตรีในอาภรณ์สีขาว นางงดงามประดุจเทพเซียน ชุดขาวสะท้อนความงามของนางได้ดี ใบหน้าที่อ่อนเยาว์ไร้เครื่องประทินโฉมทำให้คนมองแทบตกตะลึง เรือนผมสยายลงมาปลิวไปตามแรงลมโบกสะบัด
"นี่มันชายาเวยอ๋องนี่ แล้วผู้ใดนอนตรงนั้น" ฝูงชนต่างเอ่ยขึ้น แม้แต่หยวนเหมยยังตกใจ เสียงกรีดร้องพลันดังขึ้น สตรีนางนั้นผมเผ้ารุงรัง กอดตัวเองไว้
"หลานสาวของอวี้ฮองเฮา" หยวนเหมยแทบจะเป็นลมจริง ๆ
หนิงเยียนเผยอยิ้มน้อย ๆ
หยวนเหมยได้สติ "เร็วเข้าพาตัวอวี้หลินออกไป" เหตุใดเหตุการณ์ถึงได้เป็นเยี่ยงนี้ ทุกอย่างกลับผิดคาดหมด ทุกคนในวัดต่างมองละครเรื่องนี้เป็นฉากสนุกเสียเเล้ว
"หากผู้ใดเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่ ข้าจะสั่งตัดลิ้นให้หมดเลย" หยวนเหมยชี้หน้าทุกคน ไม่เว้นแม้แต่แม่ชีที่ดูแลวัด
หนิงเยียนยิ้มเย็นให้หยวนเหมย สองสตรีต่างจ้องตากัน จู่ ๆ หยวนเหมยเกิดคันทั่วตัวขึ้นมา นางสติหลุดลอย ถึงกับถอดผ้าต่อหน้าฝูงชน เหลือเพียงเอี๊ยมตัวบางกับกางเกงขายาวไว้ ฝูงชนร้องอย่างตกใจ มิคิดว่าจะได้เห็นของดีของสะใภ้ราชวงศ์
"ทุกคนออกไปให้หมด ตอนนี้นางคงเป็นบ้าแล้วกระมัง" หนิงเยียนทำตัวเป็นคนดี คนออกไปหมด ให้สาวใช้หาผ้ามาห่อตัวหยวนเหมย
ในตอนที่หนิงเยียนเดินมา นางได้แอบสาดผงคันให้หยวนเหมย คิดรึว่าคนที่มันทำร้ายนาง จะรอดไปได้
วันนั้นทางวังหลวงรู้ข่าวได้นำรถม้ามารับหยวนเหมยกับอวี้หลินที่เสียสติกลับวังหลวง การสวดมนต์ขอพรให้อวี้ฮองเฮาต้องยุติลง หนิงเยียนคิดว่าป่านอวี้ฮองเฮาคงจะเป็นลมตายไปแล้วจริง ๆ กระมัง
รถม้าของหนิงเยียนมุ่งหน้ากลับเมืองหลวงต้าโจว แต่ระหว่างทางเจอรถม้าคันหนึ่งจอดขวางทางอยู่ เสียงคนในรถม้าร้องด้วยความเจ็บปวด
"เกิดอะไรขึ้นหยุดรถม้า" หนิงเยียนคิดว่ารถม้าข้างหน้าต้องมีคนป่วยแน่นอน
รถม้าคันข้างหน้า ด้านในมีฮูหยินท่านหนึ่งปวดท้องกำลังจะคลอดลูก
"แม่นางช่วยฮูหยินของข้าด้วย นางปวดท้อง ในระหว่างทางกำลังจะกลับไปเยี่ยมบ้านเดิมของนาง" สาวใช้นางนั้นเอ่ยขึ้น
หนิงเยียนต้องช่วยอยู่เเล้วด้วยสัญชาติญาณของความเป็นหมอ
นางสั่งให้สาวใช้ของฮูหยินท่านนั้นออกไปจากรถม้า เรียกเสี่ยวอ้ายเข้ามา
"ช่วยข้าด้วย" ฮูหยินท่านนั้นมีสภาพอิดโรยยิ่งนัก หนิงเยียนจับที่ท้องของฮูหยินท่านนั้น
"ท่านอดทนหน่อยนะ เบ่งออกมา" หนิงเยียนสั่งเสี่ยวอ้ายหาผ้าให้ฮูหยินกัด
นางเบ่งจนแทบจะขาดใจอยู่เเล้วเด็กไม่ยอมออกมาเสียที หนิงเยียนมองท้องนูนเด็กกลับหัวเเล้ว แต่ไม่ยอมออกมา สีหน้าฮูหยินท่านนั้นไม่ไหวเเล้ว ขืนปล่อยไว้เยี่ยงนี้ คนเป็นมารดาต้องตายเเน่ๆ
"เสี่ยวอ้ายไปเอากล่องยามา" นางไล่เสี่ยวอ้ายไปเอากล่องยาแผนโบราณมาเพื่อที่จะได้ผ่าท้องได้สะดวก
เพียงคล้อยหลังเสี่ยวอ้าย กล่องยาปัจจุบันก็พลันปรากฏขึ้นมา
หนิงเยียนรีบลงมือฉีดยาชาเเล้วใช้มีดหมอกรีดไปที่หน้าท้องน้อย เพื่อเอาเด็กทารกน้อยออกมา จากนั้นนางรีบเย็บแผล แล้วเช็ดตัวเด็กให้สะอาด พอเสี่ยวอ้ายกลับเข้ามาได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้
นางห่อตัวแล้วมอบให้คนเป็นมารดา เด็กทารกชายขาวอวบน่าเกลียดน่าชังยิ่งนัก
"แม่นาง มีแซ่ว่าอันใด"
"หนิงเยียนเจ้าค่ะ" ชื่อนี้คุ้นยิ่งนัก มิใช่บุตรสาวของใต้เท้าหนิงกรมโยธาหรอกรึ
"ท่านคือพระชายาเวยอ๋อง"
"เจ้าค่ะ" นางเห็นฮูหยินท่านนั้นแก่กว่านางมาก
"ขอบคุณพระชายาที่ช่วยข้า ข้าคือฮูหยินของท่านเเม่ทัพเสิ่นอู่ พระชายารู้วิชาหมอรึ ถ้ามิได้ท่านข้ากับลูกคงตายไปแล้ว"
เสิ่นฮูหยินกล่าวอย่างซึ้งใจ
"ข้าเปิดโรงหมอเยียน โดยมิได้บอกใครเป็นทางการ หากเสิ่นฮูหยินเจ็บป่วยหลังการผ่าตัด มาหาข้าได้ทุกเมื่อ"
"ขอบพระคุณพระชายา ข้าเสิ่นฮูหยินจะไม่มีทางลืมบุญคุณท่าน" สามีของเสิ่นฮูหยินคือแม่ทัพใหญ่ของแคว้นต้าโจว บัดนี้กำลังกังวลว่าจะอยู่ฝ่ายใด ระหว่างหนานอ๋องกับเวยอ๋อง เห็นทีต้องเป็นเวยอ๋องที่มีอำนาจทหารในมือเเล้ว เสิ่นฮูหยินจะได้บอกสามีว่าเลือกอยู่ฝ่ายเวยอ๋อง
เกิดเป็นคนต้องทดแทนบุญคุณ เสิ่นฮูหยินถือคตินี้
"ไม่เป็นไร ข้าเป็นหมอย่อมต้องช่วยคน" นางขอแค่ได้สร้างความดีไว้ก็เพียงพอ หวังว่าจะได้กลับภพของนาง
หนิงเยียนลงจากรถม้าของเสิ่นฮูหยิน ตามด้วยเสี่ยวอ้าย เสิ่นฮูหยินเปิดม่านมายิ้มให้นาง แม่นมหยงที่อุ้มเสี่ยวเฮ้ยตกใจเเทบเเย่ มิคาดคิดว่าพระชายาทำคลอดเป็น เรื่องนี้ต้องรายงานท่านอ๋องเสียเเล้ว
หนิงเยียนนอนที่เตียงพลันหายเหนื่อย นางคลอดลูกชาย นางดีใจทั้งน้ำตาจ้าวเชียนดีใจไม่ต่างจากนางที่ได้โอรสทั้งสองพระองค์จ้าวเทียน จ้าวตี้ จ้าวเชียนตั้งชื่อโอรสของเขาเรียบร้อยเเล้วโอรสทั้งสองช่างมีใบหน้าคล้ายเขาเจ็ดส่วน ชายหนุ่มดีใจมาก "ให้ข้าดูหน้าเขาหน่อย" หนิงเยียนมองแฝดชายทั้งสอง ช่างคล้ายพระบิดานัก"เจ้าพักผ่อนเถอะ""ข้าคลอดโอรสให้ท่าน ท่านรับปากข้าเเล้วว่าจะไม่รับสนมทั้งสิ้น""แน่นอนเรารับปากเจ้าเเล้ว" จ้าวเชียนจุมพิตที่หน้าผากคนงาม ขุนนางน้อยใหญ่เสนอบุตรีมาเป็นสนม เขาจะพักงานขุนนางในราชสำนักทันทีในใจฮ่องเต้มีเพียงหนิงฮองเฮาคนเดียว ชั่วนิรันดร์กาลเสิ่นฮัวในยามนี้ได้เป็นชายารัชทายาทแคว้นหนานเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ในยามนี้เซียวหยางดีกับนางมาก "พี่หญิงเยียนส่งข่าวมาเเล้ว นางคลอดแฝดชายทั้งสองคนอย่างปลอดภัย ท่านพาข้ากลับไปเยี่ยมนางได้รึไม่"เซียวหยางมองหน้าชายารัก เหตุใดจะมิได้"ได้สิ หากชายารักต้องการ""ท่านลืมนางได้เเล้วใช่รึไม่"เสิ่นฮัวสบตากับรัชทายาทเซียวหยาง ในอดีตเซียวหยางรักหนิงเยียนมาก แม้นางจะเป็นชายาอ๋องก็ตาม"ข้ามีแต่มิตรภาพดี ๆ ให้นาง ยามนี้นางเป็นหนิงฮองเฮาเเล้ว""ข้ารั
เวยอ๋องสั่งคนให้ไปที่คุกหลวงนำตัวไท่ชางหวงออกมา พบว่าไท่ชางหวงโดนทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายเวยอ๋องนั่งมองไท่ชางหวง เขาให้หมอหลวงมารักษา สองชั่วยามเเล้วยังไม่ฟื้น ยามนี้เขาสั่งให้คนนำตัวอวี้ฮองเฮาออกไปที่สำนักนางชีชั่วชีวิต อีกทั้งช่วยพระมารดาออกมาจากคุกหลวงด้วยเช่นกัน ชูอ๋องแม้จะไม่มีส่วนก่อกบฏ เวยอ๋องตัดสินให้ชูอ๋อง ออกไปใช้ชีวิตที่นอกเมือง พร้อมทั้งอนุและบุตรชายบุตรสาว นับว่าเวยอ๋องเมตตาเเล้วหนิงเยียนอาเจียนไม่หยุด สองอาทิตย์มานี้ไม่ได้ข่าวของเวยอ๋องบ้างเลย ดูเหมือนนางจะมีข่าวดีเเล้ว หญิงสาวเพิ่งตรวจดูอาการของนางยามเช้า นางตั้งครรภ์แล้ว เสี่ยวอ้ายดูแลนางอย่างดี อีกทั้งเสิ่นฮัวยามนี้ ดูเหมือนว่า เซียวหยางจะตัดสินใจหมั้นหมายกับเสิ่นฮัว รอข่าวจากแคว้นต้าโจว เวยอ๋องชิงเมืองมาได้รึไม่"พระชายา" เสิ่นกวงนั่นเอง หนิงเยียนคิดว่าเวยอ๋องต้องมารับนาง"เขาเล่า""เวยอ๋องสิ้นพระชนม์แล้ว" หนิงเยียนเข่าอ่อนเป็นลมทันที"พระชายา" เสี่ยวอ้ายรีบประคองเจ้านายเข้าไปในตำหนักรับรอง หนิงเยียนลืมตาขึ้นมาอีกที เสิ่นกวงยังพูดความเดิม เวยอ๋องตายเเล้ว ค่ำคืนนั้น นางขออนุญาตเซียวหยางเผากระดาษเงิน กระดาษทอง
ยามนี้ต้าโจวระส่ำระส่ายยิ่งนัก ราษฎรต้องจ่ายส่วยหนักมากขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เซียวจิ้งสิ้นพระชนม์ไป เพราะอวี้ฮองเฮาเป็นคนวางพิษ เซียวจิ้งเองกับมือ ส่วนไท่ชางหวงถูกจองจำในคุกใต้ดิน อย่างไม่มีทางหนีรอด"เสด็จปู่" หนานอ๋องนั่งมองไท่ชางหวงถูกล่ามโซ่ อีกทั้งมีเหล็กร้อน ๆ กำลังจะทาบไปที่หลังมือของไท่ชางหวง"หลานเนรคุณ""ตราพยัคฆ์ทหารอยู่ที่ใด ส่งมันมาให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้""คนที่มันสังหารบิดาตัวเอง จะต้องเลวสักเพียงใด ถึงทำเยี่ยงนี้ ต่อให้เราตายไป เราไม่บอกเจ้าหรอก" ไท่ชางหวงไม่คิดว่าเวลาเพียงเดือนกว่า เวยอ๋องไม่อยู่ หนานอ๋องกับอวี้ฮองเฮาจะลุกขึ้นมาก่อกบฏ"ได้ ทรมานเขาจนกว่าเขาจะบอก" หนานอ๋องเดินจากไปพร้อมเสียงหัวเราะ ส่วนไท่ชางหวงเจ็บปวด จนจะตายอยู่เเล้ว เหล็กร้อน ๆ แทงเข้าเนื้อที่มืออย่างเจ็บปวดหนานอ๋องตอนนี้ กำจัดขุนนางไปได้หลายคน อีกทั้งอยู่ในฉลองพระองค์สีเหลืองทอง มองฮองเฮารักอย่างหยวนเหมยที่บีบนวดให้เขา "ฮองเฮาของข้า เจ้าช่างงามนัก""จริงรึเพคะ""จริงสิ เรารักเจ้า ถึงแม้จะร้ายกับเจ้าไปบ้าง วันนี้ เรารู้สึกง่วงเสียจริง""ท่านก็"หยวนเหมยจุมพิตอย่างหวานล้ำ นางนั่งตำแหน่งฮองเ
เซียวหยางส่งคนไปจับเสนาบดีเหรินข้อหาค้าเงินเถื่อนอีกทั้งหลักฐานการโกงเงินภาษีของราชสำนัก เมื่อคืนงานเลี้ยงอำลาหนิงเยียน ขุนนางน้อยใหญ่ทุกคนต้องมาร่วมงานครั้งนี้ เซียวหยางหารือกับพระบิดานี่คือโอกาสดี ให้องครักษ์ลับไปค้นจวนขุนนางทุกคน พบว่ามีขุนนางฝั่งอัครเสนาบดีเหรินจำนวนมาก กระนั้นเขาจึงตัดสินโทษให้ยึดสมบัติจวนเหริน อีกทั้งสตรีเป็นนางคณิกา บุรุษคือผู้ใช้เเรงงานหนิงเยียนเก็บข้าวของเพื่อที่จะกลับแคว้นต้าโจว นางสังเกตเสิ่นฮัว ปกติจะมาพูดคุยกับนาง แต่ทว่าวันนี้เสิ่นฮัวขึ้นรถม้า แล้วนั่งเงียบ หนิงเยียนสงสัย แต่ไม่ได้ถามเสี่ยวฟาง เวยอ๋องกับหนิงเยียนร่ำลาผู้ครองแคว้นหนานแล้ว ทั้งสองกำลังขึ้นรถม้า เห็นเซียวหยางนำทหารม้ามาทางพวกนางเวยอ๋องตกใจ"เจ้าจะทำอันใด" "เจ้าสองคนไปได้ แต่เสิ่นฮัวไปมิได้" หนิงเยียนกับเวยอ๋องต่างสบตากัน เสิ่นฮัวได้ยินกระนั้นลงจากรถม้าด้วยความหวาดกลัว หนิงเยียนสังเกตรอยแดงที่ต้นคอเสิ่นฮัว "ไม่ข้าจะกลับแคว้นข้า" เสิ่นฮัวไม่ยอม นางจะไม่อยู่กับคนที่ไม่รักนางเป็นอันขาดเซียวหยางลงจากหลังมา สาวเท้าเข้ามาอย่างช้า ๆ แล้วอุ้มเสิ่นฮัวพาดบ่า"ปล่อยข้านะ""เซียวหยางเจ้าปล่อยนางเ
หนิงเยียนกับเวยอ๋องนั่งที่ประทับนางกำนัลจัดไว้ให้เรียบร้อย เสียงเพลงพิณบรรเลงขึ้นมาพร้อมกับสาวงามออกมาร่ายรำ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในแคว้นหนาน ต้องมาร่วมงานเลี้ยงอำลาหมอเทวดาเยียน พอนางจะกลับแคว้นพวกเขาต่างมิอยากให้คนมีฝีมือไปแคว้นต้าโจว แต่นางเป็นชายาเวยอ๋อง ยังไงก็ต้องจากไปอยู่ดี ฮ่องเต้เซียวจิ้งกับเหนียงฮองเฮาพลันเสด็จมาเเล้ว ทุกคนต่างถวายพระพร จากนั้นนั่งแท่นประทับ ทุกคนต่างมองที่เหนียงฮองเฮา ยามนี้นางงดงามนัก หลังจากที่ปกปิดใบหน้ามาตลอดยี่สิบห้าปี คนชั่วได้รับการลงโทษเป็นที่เรียบร้อยเซียวหยางเดินเคียงคู่มาพร้อมกับคู่หมายของเขาคือเหรินเหมี่ยว ขุนนางน้อยใหญ่ ต่างคำนับรัชทายาท เสิ่นฮัวนั่งฝั่งหนึ่งปรายตามองเซียวหยางเเล้วเบ้ปากงานเลี้ยงได้ดำเนินต่อไป สาวงามได้ออกมาร่ายรำ หนิงเยียนนั่งซบอกเวยอ๋องอย่างไม่สนใจสายตาของผู้ใด เวยอ๋องทั้งแกะเมล็ดแตงโมให้นางกิน ช่างเป็นภาพที่ทำให้ใครหลายคนพลันอิจฉานักเหรินเหมี่ยวมองคู่หมั้นของนาง ที่นางเเย่งชิงมาจากพี่สาวสมองสุนัขของนางได้ ในงานเลี้ยงครั้งนั้น นางแอบติดสินบนนางกำนัล จึงให้นางกำนัลใส่ยาพิษลงไปในสุรา พบว่าพี่สาวสมองสุนัขหลงกลเข้า จึงต้องรับโ
ค่ำคืนนั้นหนิงเยียนเหนื่อยมากจากการที่รักษาคนป่วย เวยอ๋องเดินเข้ามาถอดรองเท้าเเล้วห่มผ้าให้นาง ใบหน้าหล่อเหลาพลันปรากฏด้วยรอยยิ้มก่อนจะจุมพิตเเล้วไปนอนที่ตั่งยาว ยามเช้าของวันนั้นอากาศพลันเย็นมาก ผู้ป่วยไข้ทรพิษเริ่มลดลงจำนวนมากหนิงเยียนสั่งให้เสี่ยวอ้าย และเสิ่นฮัวแจกจ่ายยาให้ชาวบ้านไปต้มกิน ชาวบ้านต่างสรรเสริญนางว่านางคือพระโพธิสัตว์กวนอิมมาโปรดพวกเขาให้หายจากโรคร้ายเซียวหยางพลันเข้ามาในคุกมืดสอบความถามท่านเจ้าเมืองเฟิง มีชื่อว่า เฟิงหนานด้วยตัวเองเขานั่งมองเฟิงหนานในชุดนักโทษสีขาวที่สกปรก "เหตุใดในเมืองเฟิงจึงเกิดไข้ทรพิษได้" เซียวหยางมองเจ้าคนปากเเข็ง เขาไม่เชื่อโรคนี้จะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากจะมีคนปล่อยพิษโรคไข้ระบาดนี้"ข้า..." "เหล็กทาบมือเขา" เหล็กร้อน ๆ สีแดงชาดที่เต็มไปด้วยประกายไฟ กำลังจะทาบลงมาที่มือเจ้าเมือง"ช้าก่อน ช้าก่อน"เซียวหยางส่งสัญญาณให้องครักษ์ทันที"องค์ชายรองสั่งให้ข้านำพิษมาปล่อย รัชทายาทช่วยข้าด้วย"องค์ชายรองอย่างนั้นรึ เซียวเซาโอรสของเนี่ยกุ้ยเฟยสามวันต่อมาคนทั้งเมืองเฟิงได้รับการรักษาจนหายหมดเเล้ว รถม้าทั้งสามคันมุ่งหน้ากลับไปที่เมือ