เพชรนิลมาถึงก่อน เขาเริ่มปิ้งย่างไปบางส่วนรอเธอแล้ว
"กุ้ง!!!" หนูจ๋ามองกุ้งตัวโตที่วางอยู่ในจานบนโต๊ะอย่างตื่นเต้น
"หนูกินได้เลยไหมคะ" เพราะกลัวเขาจะหาว่าพอลงมาก็กินทันทีโดยไม่ทำอะไรเลย หนูจ๋าเลยต้องถามคนย่างกุ้งก่อน
"กินได้เลยครับพี่ ย่างไว้รอหนูจ๋านั่นแหละ"
หนูจ๋ายิ้มดีใจ รีบนั่งลงแล้วเลื่อนจานกุ้งเข้ามาใกล้ หญิงสาวแกะกุ้งวางไว้ในจาน แต่ยังไม่ยอมกิน คนที่กำลังย่างอาหารทะเลอย่างอื่นอยู่บนเตาหันไปมองแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย
"แกะแล้วทำไมไม่กินล่ะครับ"
"หนูรอพี่กระต่ายมากินพร้อมกันค่ะ" หนูจ๋าตอบแล้วยิ้มหวานให้เขา
"กินก่อนพี่เลยครับไม่ต้องรอ พี่ย่างปูสุกแล้ว เดี๋ยวพี่ไปนั่งกินด้วย"
"ไม่เอาค่ะ รอกินพร้อมกันดีกว่า เมื่อกี้หนูแอบกินรองท้องไปแล้ว สองตัว พี่กระต่ายไม่ต้องห่วงกลัวว่าหนูจะหิวจนเป็นลมนะคะ"
กระต่ายน้อยยิ้มเอ็นดูคนที่นั่งแกะกุ้งจนใกล้จะหมดจานแล้ว ปกติถ้าไปกับสาวๆ พวกนั้นมักจะรอให้เขาแกะกุ้งบริการพวกหล่อน อ้อนให้เขาทำนู่นทำนี่ให้สารพัด แต่หนูจ๋ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอทำเองทุกอย่าง และทำเผื่อเขาด้วย แฟนใครนะน่ารักจริง<
“พร้อมหรือยังครับ” เมื่อเห็นว่าน้องหน้าตาไม่ดีเท่าไร กระต่ายน้อยจึงเปลี่ยนเรื่องคุย มาเที่ยวด้วยกันทั้งที เขาอยากให้เธอสนุก มากกว่ามานั่งกังวลใจแบบนี้“พร้อมอะไรคะ”“ก็พร้อมเป็นคนรับใช้พี่ไง เราจะไปแข่งจับปูลมกัน ยังไงงานนี้หนูจ๋าก็แพ้พี่อยู่แล้ว”“หนูว่าพี่กระต่ายควรถามตัวเองมากกว่านะคะว่า พร้อมที่จะมาเบ๊ให้หนูหรือยัง สองวันนะคะ ห้ามเบี้ยว”“ใครจะแพ้ ใครจะชนะเดี๋ยวรู้กัน พี่ไปก่อนนะ” กระต่ายน้อยลุกขึ้นวิ่งลงไปที่ชายหาดก่อน“พี่กระต่าย! ขี้โกง!” หนูจ๋าตะโกนว่าไล่หลังเขาไป แล้วรีบลุกขึ้นวิ่งตามไปทันทีคืนเดือนหงายพระจันทร์เต็มดวง หาดทรายสีขาวสะท้อนแสงจันทร์ระยิบระยับ เสียงคลื่นซัดสาดดังต่อเนื่อง ลมทะเลพัดแรงตลอดเวลาชายหาดกว้างมีเพียงสองหนุ่มสาวกำลังแย่งกันจับปูลมอย่างสนุกสนาน หนูจ๋าหัวเราะเสียงกังวานใส เธอยังจับไม่ได้สักตัว แต่พี่กระต่ายน้อยกลับจับได้ก่อน หญิงสาวจึงปรี่เข้าไปคุกเข่าลงต่อหน้าเขา แล้วแย่งเอาหน้าตาเฉย“เด็กขี้โกง” กระต่ายน้อยว่าน้องที่แย่งปูลมไปจากมือเขาต่อหน้าต่อตา ที่จริง ที่น้องแย่งไปได้ง่ายๆ เพราะเขายอมเอง
เพชรนิลมาถึงก่อน เขาเริ่มปิ้งย่างไปบางส่วนรอเธอแล้ว"กุ้ง!!!" หนูจ๋ามองกุ้งตัวโตที่วางอยู่ในจานบนโต๊ะอย่างตื่นเต้น"หนูกินได้เลยไหมคะ" เพราะกลัวเขาจะหาว่าพอลงมาก็กินทันทีโดยไม่ทำอะไรเลย หนูจ๋าเลยต้องถามคนย่างกุ้งก่อน"กินได้เลยครับพี่ ย่างไว้รอหนูจ๋านั่นแหละ"หนูจ๋ายิ้มดีใจ รีบนั่งลงแล้วเลื่อนจานกุ้งเข้ามาใกล้ หญิงสาวแกะกุ้งวางไว้ในจาน แต่ยังไม่ยอมกิน คนที่กำลังย่างอาหารทะเลอย่างอื่นอยู่บนเตาหันไปมองแล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย"แกะแล้วทำไมไม่กินล่ะครับ""หนูรอพี่กระต่ายมากินพร้อมกันค่ะ" หนูจ๋าตอบแล้วยิ้มหวานให้เขา"กินก่อนพี่เลยครับไม่ต้องรอ พี่ย่างปูสุกแล้ว เดี๋ยวพี่ไปนั่งกินด้วย""ไม่เอาค่ะ รอกินพร้อมกันดีกว่า เมื่อกี้หนูแอบกินรองท้องไปแล้ว สองตัว พี่กระต่ายไม่ต้องห่วงกลัวว่าหนูจะหิวจนเป็นลมนะคะ"กระต่ายน้อยยิ้มเอ็นดูคนที่นั่งแกะกุ้งจนใกล้จะหมดจานแล้ว ปกติถ้าไปกับสาวๆ พวกนั้นมักจะรอให้เขาแกะกุ้งบริการพวกหล่อน อ้อนให้เขาทำนู่นทำนี่ให้สารพัด แต่หนูจ๋ากลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอทำเองทุกอย่าง และทำเผื่อเขาด้วย แฟนใครนะน่ารักจริง
“พี่กระต่ายว่าอะไรนะคะ” ที่จริงหนูจ๋าได้ยินเต็มสองหู เพียงแต่เธออยากได้ยินอีกครั้งให้แน่ใจว่า ที่เขาพูดมานั้นไม่ได้พูดมาเพราะต้องการให้หายงอน“พี่บอกว่า พี่รักหนู” เพชรนิลพูดยิ้มๆ เขาปรายตามองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปตั้งใจขับรถเหมือนเดิมคำบอกรักเต็มสองหูทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็ว ใบหน้าเนียนใสแดงก่ำ แดงไปถึงใบหูคนเพิ่งบอกรักสาวไปเหลือบมองแล้วยิ้มเอ็นดู ก็น่ารัก น่าฟัดขนาดนี้ใครจะอดใจไหว เขาคิดว่า เขาตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจังแล้วล่ะ“ขี้แกล้งตลอดเลย” หนูจ๋าอุบอิบว่าแล้วขยับตัวนั่งตรง หญิงสาวเม้มปาก ปรายตามองเขาเป็นระยะ“ชอบว่าพี่แกล้งดีนัก เดี๋ยวก็แกล้งจริงๆซะหรอก” กระต่ายน้อยขู่สาว“นี่ยังไม่เรียกว่าแกล้งอีกหรือคะ” หนูจ๋าว่างอนๆ“ยังครับ เพราะถ้าพี่แกล้ง พี่ไม่แกล้งแบบเด็กๆหรอก พี่จะแกล้งแบบผู้ใหญ่แกล้งกัน”ตาคมปลาบเหลียวมองเธอแวบหนึ่ง เป็นช่วงเวลาที่หนูจ๋าหันไปมองเขาพอดี หญิงสาวร้อนวาบไปทั้งใบหน้า เธอพอเข้าใจความหมายของการแกล้งแบบผู้ใหญ่ที่เขาว่า“ก็ลองแกล้งดูสิคะ หนูจ๋าจะฟ้องพ่อจ๋า”คนที่ต่อว่าต่อข
ณ คอนโดหรูแห่งหนึ่งกลางเมืองกรุง คนที่เพิ่งขอคบสาวเป็นแฟนครั้งแรกในชีวิตนอนยิ้มกับเพดาน โคมไฟ ประตู หน้าต่าง ผ้าม่านนัยน์ตาเลื่อนลอยมองเห็นอะไรก็ยิ้มไปหมดใบหน้าสวยหวานวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึงกลิ่นอายหอมละมุนยังผลให้เผลอสูดลมหายใจยาว แล้วพริ้มตาหลับลงอย่างสุขใจ“มีแฟนแล้วนะโว้ย! ไอ้กระต่ายน้อย” เพชรนิลบอกตัวเองยิ้มๆแต่...มีแฟนแล้ว งั้น...ต่อไปนี้ก็ห้ามไปกุ๊กกิ๊กกับใครต้องเคลียร์ตัวเองเพื่อน้องสิ แล้วเตียงนี้ผ่านสมรภูมิมาโชกโชนเกินไปไม่คู่ควรกับหนูจ๋าเลย ซื้อคอนโดใหม่เลยดีไหมวะ หรือจะรื้อที่นี่ทำใหม่ทั้งหมด ควรบอกพ่อกับแม่ให้ไปขอหมั้นน้องไว้ก่อนดีไหม หรือควรปิดเป็นความลับไปก่อน ไม่ได้สิต้องให้เกียรติน้อง แล้วเราต้องไปแนะนำตัวเองกับพ่อแม่น้องไหม ฉิบหายล่ะ...แก่กว่าน้องตั้งหลายปี แบบนี้พ่อกับแม่เขาจะไม่แจ้งความจับข้อหาพรากผู้เยาว์เหรอวะ เฮ้อ!...มีแฟนเป็นตัวเป็นตนทั้งทีทำไมมันดูยากเย็นอย่างนี้วะหลังจากนอนคิดโน่นคิดนี่กังวลใจเรื่องโน้นเรื่องนี้หลายอย่าง ทุกเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับหนูจ๋าทั้งนั้น กระทั่งคิดไปถึงเรื่องที่เธอจะต้องกลับไปอยู่บ้านช่วงปิดเทอม เพชรนิล
หนูจ๋ายืนนิ่งตัวแข็งทื่อ หญิงสาวเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัวแรง กระต่ายน้อยยิ้มกรุ้มกริ่มใส่นัยน์ตาที่เบิกกว้าง เขาใช้นิ้วหัวแม่มือไล้กลีบปากอิ่มสีเรื่อไปมา “ที่จริงอยากจูบ แต่ยังดีกว่า พี่ให้เวลาหนูจ๋าทำใจอีกหน่อย แล้วค่อยสอนวิธีจูบ” หนูจ๋าเม้มปากแน่น มองค้อนคนอยากตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนจูบ แต่เมื่อเขายังมองปากเธอด้วยสายตาปรือปรอย หญิงสาวก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ ก่อนพูดเสียงอู้อี้ว่า “ใครเขาอยากเรียนวิธีจูบกันเล่า” หนูจ๋ายิ้มเขินเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อช่วงหัวค่ำ หญิงสาวเผลอยกนิ้วขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองเบาๆ ตอนที่พี่กระต่ายจุ๊บปากเธอนั้น เธอรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้น ปากของเขานุ่มและร้อนผ่าว ตอนถูกหอมแก้มไม่เห็นจะวูบวาบเท่าโดนจุ๊บปากเลย นี่ถ้าเขาจูบเธอขึ้นมาจริงๆ มันจะรู้สึกดีเท่าจุ๊บปากกันเฉยๆไหมนะ เมื่อคิดถึงตอนนี้หนูจ๋าก็เอาหมอนมาปิดหน้าตัวเองอีกครั้ง ก่อนกรีดร้องด้วยความขัดเขิน แม้เธอจะจำได้เลือน
เพชรนิลไม่รั้งคนเขินไว้ เขามองเธอลุกเดินเข้าไปในครัว ก่อนลุกเดินตามไป“หนูจ๋า”“คะ” หนูจ๋าสะดุ้งตกใจ วางเหยือกน้ำและแก้วในมือลง แล้วรีบหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่ตามเธอเข้ามาถึงในห้องครัว“พะ…พี่กระต่ายอยากได้อะไรหรือเปล่าคะ”กระต่ายน้อยยิ้มกรุ้มกริ่ม ร่างสูงเดินเข้าไปใกล้ หนูจ๋าถอยหลังหนี จนสะโพกชนกับเคาน์เตอร์ ไม่มีที่ให้เธอขยับหนีได้อีก หญิงสาวจึงยืนนิ่งสองแขนแนบลำตัว จ้องหน้าเขาด้วยดวงตาตื่น หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามกระต่ายน้อยค้ำสองมือกับขอบเคาน์เตอร์กักกันคนตัวเล็กไว้ หนูจ๋าหันซ้ายขวาหาทางหนีที่ไล่ แต่เมื่อเขายังคงยืนนิ่งและเธอก็ไม่สามารถพาตัวเองออกจากการกักกันของเขาได้ หญิงสาวจึงหันมาจ้องมองตาเขาในระยะประชิด เพราะใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนจากจมูกโด่งเป่ารดหน้าผาก“พี่จะอยากได้หนูจ๋า”สิ่งที่เขาบอกว่าอยากได้ทำให้หนูจ๋าเข่าอ่อนแทบทรุด เธอเขินจะตายอยู่แล้ว เขายังมาพูดล้อเล่นให้เธอเขินอีกอยู่ได้ หญิงสาวจึงโอดครวญเสียงเบา“พี่กระต่ายขี้แกล้ง แกล้งแบบนี้หนูไม่อยู่ด้วยแล้ว ถอยไปนะคะ หนูจะกลับแล้ว” หนูจ๋ายกมือ