ค่ำคืนอันอันครื่นเครงก่อนไปสนามรบ มีสาวงามมากหน้าหลายตามาปรนเปรอกัสหรือองค์ชายเมธีกับเสือเข้ม กัสนั้นปฏิเสธไปทำทีท่าว่าจะพักผ่อน ทีแรกเสือเข้มยังสนใจสาวงามอยู่ เมื่อจัณฑ์เข้าปากความรู้สึกนั้นจางหายไป เขาดันมองกัสว่าสวยงามยังอิสตรี จึงเป็นเหตุไล่สาวงามออกไปหมดไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว จนกัสรู้สึกใคร่สงสัยเกิดอะไรขึ้น เพราะในนิยายไม่เป็นเช่นนี้
“นายเป็นอะไรเสือเข้ม” กัสถาม
“ข้าจำได้ว่าเมืองของเอ็งผู้ชายกับผู้ชายมีอะไรกันได้” เสือเข้มเดินเข้ามาใกล้ๆ กัส
“นายจะบ้าเหรอ เราไม่เคยพูดเลยนายคิดไปเองมากกว่ามั้ง”
“อย่ามาปดข้าเลยไอ้โสภณ” เสือเข้มเข้ามานั่งใกล้ๆ กัสที่เริ่มขยับออกห่างไปทีละนิด
กัสพยายามรื้อฟื้นความจำเมื่อครั้งเขียนนิยาย นึกไปได้ไม่นานเขาจำได้ทันทีได้เขียนไว้เช่นนั้นจริง แต่กับเสือเข้มไม่ได้คิดจะมีอะไรแบบนี้ เขายังจำโครงเรื่องอยู่
“ข้ารู้แล้วแหละ ตอนข้าพาเอ็งมาจากแม่ทัพวิศรุฒ ข้าเห็นพวกเอ็งนอนกอดกัน ข้าอยากเป็นเช่นนั้นบ้าง เพราะหน้าตาเอ็งเหมือนอิสตรี บางทีสวยกว่าอีกเพราะผิวพรรณเอ็งงามเหลือเกิ น จึงไม่แปลกใจแม่ทัพวิศรุฒนั้นถึงรักใคร่เสนห่าเอง”
“นายพูดอะไรเรื่อยเปื่อย”
“ไม่เรื่อยเปื่อยหลอกข้าไปสืบมาหมดแล้ว เอ็งปลอมเป็นหญิงไปอยู่บ้านแม่ทัพวิศรุฒฐานะเมีย”
“เอ่อ”
ถ้าข้าได้เมียแม่ทัพวิศรุฒมาอยู่ในกำมือ ศึกนี้ไม่มีพลาดแน่นอน แต่ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเอ็งเจอกับแม่ทัพวิศรุฒ เอ็งจะทำเช่นไรเพราะนั้นก็ผัวและคืนนี้เอ็งก็จะต้องเป็นเมียข้า” เสือเข้มหัวเราะลั่น
“นายจะมาทำอย่างนั้นไม่ได้นะ เราเป็นองค์ชายเมธี นายเป็นแค่องค์รักษ์ของเราแค่นั้น” สีหน้าท่าทางของกัสมีความวิตกกังวล
“เอ็งลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าเอ็งเป็นไอ้โสภณหนุ่มพเนจร มาจากไหนไม่ใครรู้”
“แต่ตอนนี้เราเป็นองค์ชายเมธีนะ เราสามารถที่จะสั่งทหารมาตัดหัวนายได้”
“เพ้อเจ้อ ข้าจะไม่ให้เอ็งพูดเยอะ ให้เลือกเป็นเมียข้าหรือจะเป็นศพในห้องนี้”
กัสคิดไม่ตกเพราะเรื่องราวต่างๆ ไม่เป็นดั่งคิดเสียแล้ว ซึงกัสเริ่มพอเข้าใจได้เพราะเขาไม่ได้เขียนนิยายเรื่องนี้ต่อ มีแต่โครงเรื่องคร่าวๆ แต่เหตุการณ์ในนี้จะเดินตามวิถีชีวิตของตัวมันเอง
“ถ้าข้าเป็นศพแล้วจะทำอย่าไง นายก็ไม่รอดเหมือนกัน”
“ข้ามีธำมรงค์สองวงค์อีกวงค์หนึ่งเป็นของราชินี สาลินีแม่ของข้า ถ้าข้าเอามาโชว์ทุกคนก็ต้องเชื่อ และอีกอย่างขุนนางทั้งหลายยังจงรักภักดีต่อราชาเมษานั้นมีมากกว่าราชาเมฆาซะอีกข้าไม่ได้โง่อย่างเอ็งนี่หว่า ตอนนี้เอ็งแค่ลูกชายราชาเมฆาที่มีแต่คนเกลียดชัง” เสือเข้มหัวเราะด้วยความสะใจ
ความรู้สึกนึกคิดของกัสตอนนี้ร้อนรน เขาไม่รู้จะหาวิธีแก้อย่างไงเพราะพล็อตที่ได้วางไว้ ไม่เป็นไปอย่างทีคิดแล้วซึ่งต่อจากนี้ไปไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีก
“ก็ได้เรายอมเป็นของนาย”
“พอซะที เรา นาย ข้าไม่ชอบ พูดให้เมืองคนปกติได้ไหม”
“ได้”
“ดีมาก ถ้างั้นเองมอบความสุขให้ข้าเลย”
เสือเข้มโอบกอดกัสอย่างใคร่กระหายสองมือจับใบหน้าของกัสไว้ ริมฝีปากพรหมจูบทั่วใบหน้า ช่วงระยะเวลาแรกกัสรังเกลียดหนวดเคราอย่างมาก เพียงหนวดเครานั้นได้มาซุกไซร้ซอกคอเขาแค่นั้น อารมณ์ของกัสแตกกระเจิง ถึงแม้จะไม่ได้ชอบเสือเข้มแม้แต่อย่างน้อย แต่รสรักได้รับจากเสือเข้มทำให้เขาเผลอใจไปอย่างไม่รู้ตัว
“ข้าทำเป็นแค่นี้แหละ ต่อไปเอ็งทำให้ข้าหน่อย” เสือเข้มพูดขึ้นหลังจากหยุดไซซอกคออันขาวใสเป็นยองใย
“นอนลง” กัสพูดขึ้นด้วยสายตาอันเริ่มเย้ายวน เพราะเขาเห็นรูปร่างของเสือเข้มใหญ่โต พลางคิดไปว่าส่วนกลางลำตัวนั้นจะสมกับขนาดร่างกายไหม
เสือเข้มล้มตัวลงนอนตามคำของกัส สองมือของปลดอาภรณ์พันกายท่อนล่างออก จนเผยเห็นท่อนเอ็นอันใหญ่ยาวอย่างมาก กัสจึงค่อยๆ เอื่อมมือไปจับไว้ พร้อมรูดส่วนปลายลงจนสุด
“เอ็งจะทำอะไรถ้าจับเล่นแค่นี้ข้าก็ทำได้” เสือเข้มพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พึงพอใจอย่างมาก
“อย่าพึ่งพูดไป”
ใบหน้าของกัสเริ่มก้มลงต่ำจนริมฝีปากสัมผัสส่วนปลายท่อนเอ็น กัสค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากลงจนถึงรอยหยัก ใช้ปลายลิ้นตวัดไล้เลียรอบส่วนหัว เพียงสัมผัสแค่นี้เสือเข้มสะท้านไปถึงทราง เสือเข้มไม่เคยล่วงรู้มาก่อนเลยว่าผู้ชายกับผู้ชายจะทำกันแบบนี้ได้ ความอุ่นๆ ที่ได้รับตรงส่วนปลายปนความเสียวสยิวทำให้เสือเข้มถ่างขากว้างขึ้น หลับตาพริ้มหายใจถี่ด้วยความเสียวออกมา
ริมฝีปากที่ห่อรูดท่อนเอ็นส่วนปลายรูดลงยังโคน แล้วรูดขึ้นมายิ่งสร้างความกระสันอยากใคร่กระหายอย่างมาก เสือเข้มเสียวสุดหัวใจแท่บขาดใจ เขาถึงกับแอ่นสะโพกจับศีรษะของกัสกดลง เพราะรสชาติได้รับมานั้นเกินจะทนได้อีก
กัสรู้สึกจุกคอเล็กน้อย เขาจึงถอนริมฝีปากออกจากท่อนเอ็น ถึงแม้เสือเข้มจะกดไว้แต่กัสก็สู้แรงจนหลุดพ้น
“ทำไมเอ็งไม่ทำต่อ ข้ากำลังได้รับความสุขอย่างไม่เคยได้รับมาก่อนเลย”
“ยังมีอีกอย่างหนึ่ง นอนอยู่เฉยๆ เดี๋ยวข้าทำให้เอง”
อาภรณ์ของกัสได้หลุดออกจากร่างกายจนไม่มีเหลือ หลังจากนั้นเขาขึ้นคร่อมร่างของเสือเข้มไว้ พร้อมจับท่อนเอ็นจ่อที่ช่องทางรัก
“เอ็งจะทำอะไร”
“ก็นายอยากให้เราทำไม่ใช่เหรอ เอาน่าใจเย็นๆ นายจะได้รับรู้เอง”
เสือเข้มนอนนิ่งเขาชะเง้อคอดูท่อนเอ็น เข้าไปในช่องทางรักของกัสทีละน้อย ถึงแม้จะแปลกใจและไม่เข้าใจแต่ความใคร่มีมากกว่า จึงปล่อยกายปล่อยใจไปเรื่อยๆ และในที่สุดช่องทางรักของกัสก็สุดโค่นท่อนเอ็น สักพักกัสขย่มท่อนเอ็นอย่างช้าๆ และเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“อือ อ่า อ่า”
ความรู้สึกตอนนี้ของเสือเข้มเร้าใจยิ่งนัก เพราะไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้ชายกับผู้ชายเขาทำกันอย่างนี้นี่เอง ถ้ารู้ก่อนหน้านี้เขาจะทำนานแล้ว ไม่ต้องรอหาหญิงสาวมาปรนเปรอสวาท เพราะสามารถมีอะไรกันเองได้
ยิ่งกัสขย่มท่อนเอ็นของเขา ความรู้สึกไม่ได้ต่างจากมีความสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงเท่าไรนัก เพียงแต่ผู้ชายจะเป็นฝ่ายกระทำอย่างเดียว ไม่เคยมีผู้หญิงคนนั้นได้ขึ้นบนแล้วขย่มแบบนี้แก่เขา
“อือ อือ อือ” เสือเข้มครางตลอดเวลา ยิ่งขย่มหนักเท่าไรความเสียวเพิ่มทวีคูณเท่านั้น จนเขาทนไม่ไหวกระดกก้นเสยขึ้นบน
“จึก จึก จึก”
“เบา ๆ หน่อยเจ็บ”
เสือเข้มไม่ได้สนใจคำพูดอะไรทั้งนั้นเขากระดกก้นอยู่ต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีความเสียวซ่านถึงกัสบ้างแต่ขืนปล่อยไว้อย่างนี้น่าจะไม่ดีในความคิดกัส
“หยุดก่อน”
กัสไม่สนใจว่าเสือเข้มจะกระดกก้นขึ้นลงแต่อย่างใด เขาถอนช่องทางรักออกจากท่อนเอ็นทันที แล้วมาโก้งโคงอยู่ข้างๆ เสือเข้ม
“เอาเข้าท่านี้ก็ได้ นายก็ต้องเป็นฝ่ายทำบ้าง”
ความหื่นกระหายมีมากเสือเข้มจึงลุกขึ้นทันที พร้อมกับจับท่อนเอ็นจ่อช่องทางรักและดันพรวดเดียวเข้าไปจนสุดด้าม หลังจากนั้นกระแทกซอยถี่ๆ ไม่ยั้ง โหมกระหน่ำใส่เต็มไม่มีหยุดหย่อน เพราะตอนนี้เขารู้สึกดีมากที่ได้เป็นผู้กระทำ และได้สนองตัวเองอย่างบ้าคลั่ง กระแทกแทงเสียบท่อนเอ็นใส่ช่องทางรักแบบกระหน่ำ
“โอ๊ย อ่า อ่า อ่า” กัสครางออกมาด้วยความเสียวซ่านเพราะท่อนเอ็นนั้นได้เขาถึงต่อมสวาทอย่างจัง
อารมณ์ใคร่กระหายของเสือเข้มเขาสู่จุดเต็มพิกัด เขารู้สึกได้ว่าจะทนไม่ไหวอีกต่อไป บั้นท้ายจึงโยกอย่างไม่ยั้งซอยถี่ๆ รัวๆ อย่างเต็มที่ ยิ่งรัวมากเท่าไรความเสียวมากขึ้นเท่านั้น จนทำให้รู้สึกอยากจะปล่อยน้ำในท่อนเอ็นออกมา เขาจึงกระแทกติดๆ กันจนกระทั้งน้ำในกายพุ่งกระฉุดเข้าไปในช่องทางรัก
“อ่า อูว์ ซี๊ด” เสือเข้มส่งเสียงออกมาด้วยความเสียวซ่าน
เมื่อคลายอารมณ์เสียวลงได้บ้าง เสือเข้มจึงล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนแรง เป็นครั้งแรกที่เขาได้มีความสัมพันธ์กับผู้ชายด้วยกัน และได้รับรู้สึกถึงรสสัมผัสอันแปลกใหม่
“มานอนบนแขนข้านี่” เสือเข้มกางแขนออก
กัสนุ่งอาภรณ์ตามเดิมแล้วล้มตัวลงนอนบนแขนเสือเข้ม หลังจากนั้นเสือเข้มพลิกร่างตะแคงแล้วโอบกอดกัสไว้ ส่วนมือนั้นไม่ว่างเว้นบีบบี้หัวนมของกัสอย่างแผ่ว กัสนั้นรู้สึกดีเช่นกันเพราะเขาไมได้รับสัมผัสนี้มาเนิ่นนาน เมื่อมาเจอแบบดุดันอย่างเสือเข้มจนทำให้ติดใจ ในรสรักแบบดิบๆ เถื่อนๆ แต่ถึงใจอย่างที่สุด
ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี
ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่
กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา
เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ
กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง
ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว