Home / วาย / นิยายรักสองภาพ / อุปสรรคยังไม่หมดสิ้น

Share

อุปสรรคยังไม่หมดสิ้น

last update Last Updated: 2024-11-17 17:06:59

           เมื่อชายหนุ่มทั้งสองได้เดินจากไป ยิวรีบไปหาจันทันที พอเขาเห็นจันแค่นั้นแหละยิวแท่บน้ำตาไหล เพราะร่างกายของจันฟกซ้ำดำเขียว แล้วยังมีรอยผิวหนังไหม้เกรียมอยู่หลายแห่งไม่ว่าจะเป็นท่อนแขนและขา

            “จันเจ็บมากไหม”ยิวกอดร่างของจันไว้อย่างเอ็นดู

            “พี่ก็เจ็บด้วยใช่ไหม”จันร้องไห้ออกมาอย่างไม่รู้ตัว

            “ใช่พี่ก็เจ็บ  แต่พี่โตแล้วและไม่ได้โดนหนักอย่างจัน แต่จันไม่ต้องกลัวนะอดทนเข้าไว้ พอไปถึงเมืองศิลานคร พี่จะให้ท่านแม่ทัพวิศรุฒหาหมอเก่งๆมารักษาจันเอง”

            “ขอบคุณพี่โสพลมากเลยครับ”

            ยิวไม่รู้จะจัดการกับแผลของจันอย่างไร เขาได้เพียงแต่หาผ้ามาพันแผลไว้ และในช่วงเวลาเดียวกันยิวต้องพาจันเดินทางไปยังเมืองศิลานครกับกลุ่มคนพวกนี้ด้วย ถึงแม้จะหิวปานใดทั้งสองก็ต้องอดทนเพื่อความอยู่รอดให้ได้ และเมื่อยิวได้ยินว่าอีกสองวันก็ถึงเมืองศิลานคร เขาดีใจอย่างมาก แต่ยิวก็ไม่รู้จะทนความหิวได้นานแค่ไหน เพราะตอนนี้เขาไม่มีอะไรเหลือที่พอจะขายได้เลย

            “ออกเดินทางได้แล้ว”หัวหน้าขบวนตะโกนเสียงดัง

            “เดินไหวไหมจัน”

            “ข้าเดินไหวอยู่แผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก”

            “อือ ถ้างั้นเราไปกัน”

            ในระหว่างเดินยิวดูแลจันเป็นอย่างดี พร้อมกับรู้สึกหวาดหวั่นกลัวทุกสิ่งทุกอย่าง ยิ่งช่วงเช้าไม่มีอะไรตกถึงท้องแม้แต่อย่างเดียว มีเพียงน้ำที่พอประทังชีวิตไว้ได้

            “ตอนเย็นเราจะกินอะไรกันล่ะ”ยิวตาลอยเหงื่อท่วมตัวหันมามองจันที่ดูอิดโรยอยู่ไม่ใช่น้อย

            “เดี๋ยวเราไปหาเผือกหามันกินกัน”

            “ไปหาตรงไหนล่ะ”

            “ในป่านี่แหละมีอยู่ พี่ไม่ต้องกลัวหรอก เดี๋ยวข้าหาให้เอง”

            “เดินยังจะไม่ไหวอยู่แล้ว ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวพี่หาให้แค่บอกพี่ว่าตรงทำอย่างไงแค่นั้นแหละ”

            “ความจริงเราไม่ต้องมาลำบากขนาดนี้ ถ้าไอ้นั่นมันไม่ขโมยย่ามของพี่ไป”

            “เรื่องมันผ่านมาแล้วอย่าพูดถึงมันเลย จันแค่คิดว่าไปถึงเมืองศิลานคร จันก็จะได้กินอิ่มนอนสบาย”

            “หวังว่าผมจะไปถึงนะ”

            “ทำไมพูดอย่างนั้น”

            “ไม่มีอะไรหรอก”

            ยิวใจคอไม่ดีเมื่อได้ยินน้ำเสียงสีหน้าและท่าทางของจันที่อิดโรยเหลือเกิน ซึ่งเป็นผลมาจากที่เขาไม่ได้กินข้าว และปวดแสบปวดร้อนจากบาดแผลที่โดนกิ่งไม้ติดไฟ ส่วนยิวก็ไม่ได้แตกต่างกันเพียงแต่ยิวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก เขาจึงยังพอทนต่อสถานการณ์ต่างๆได้พอสมควร

            ยิวและจันเดินทางแท่บจะไม่ไหว แต่โชคยังช่วยเพราะใกล้ค่ำพอดี หัวหน้าขบวนจึงหยุดพักค้างแรมทิ่ลำธาร ทั้งสองจึงรีบหาที่พักใกล้ๆริมน้ำ

            “เราพักตรงนี้แหละใกล้แม่น้ำดี”ยิวเอ่ยขึ้นและนั่งลงพร้อมๆกับจัน

            “ใกล้แม่น้ำ น่าจะมีปลาแต่ผมคงหาไม่ได้ ”

            “ใช่ เราจะมาไปหาเผือกมันที่ไหนกันดีล่ะ”

            ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังคิดวิธีหาเผือกมันอยู่นั้น ก็ได้มีชายหญิงวัยกลางคนเข้ามาหาทั้งสอง

            “ไอ้จันมึงอยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่ตัว มึงก็รู้ว่าไอ้หนุ่มกับหัวหน้าขบวนเขาพวกเดียวกัน”

            “ก็มันมาขโมยย่ามของพี่ผมไปนี่ ของมีค่าตั้งเยอะอยู่ในย่าม”

            “มึงสองคนก็ไม่เก็บไว้ดีๆเอาอย่างนี้กูเห็นมีงมีผ้าห่มสองผืน ขอซักผืนได้ไหมแลกกับอาหารมื้อนี้”

            “ได้เอาของผมไป”จันหยิบผ้าห่มในย่ามของเขาให้ชายหญิงคู่นั้นทันที

            “จันให้เขาไปแล้วจะห่มอะไรล่ะ”ยิวมองด้วยสายตาละห้อย

            “ไม่ต้องห่มเมื่อก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ห่มเหมือนกัน”

            “ถ้างั้นเอาของผมไปด้วย แลกอาหารด้วยเหมือนกัน ทำไมพี่ทั้งสองไม่ไปเอาที่หัวหน้าขบวนล่ะ”ยิวมีท่าทีสงสัย

            “แพงขนาดนั้นใครจะไปซื้อไหว อาหารของเขาก็มีตั้งมากมาย เขาคงไม่มาสนใจอาหารของพวกกูหรอก”

            ยิวพยักหน้าเพราะเข้าใจเป็นอย่างที่ชายหญิงคู่นั้นบอกมา หลังจากนั้นเขาจึงรับข้าวสองห่อใบตองที่แลกมากับผ้าห่มสองผืน

            “เอาแบบนี้ไหมเรากินห่อเดียวกัน พี่ได้ยินว่าพรุ่งนี้เย็นๆจะถึงเมืองศิลานครแล้ว นั่นแสดงว่าเราจะได้นอนตากน้ำค้างคืนเดียวเอง อีกห่อหนึ่งเราไว้กินพรุ่งนี้เช้ากันดีไหม”

            “จริงเหรอพี่”

            “จริงสิ พี่จะโกหกทำไม”

            “ถ้างั้นข้าจะได้เข้าเมืองไปอยู่กับพี่และท่านแม่ทัพ ข้าจะได้เรียนหนังสือและเป็นทหารใช่ไหม”

            “ใช่ จัน พี่จะบอกให้ท่านแม่ทัพวิศรุฒทำในสิ่งที่จันต้องการ”

            “ขอบคุณพี่มากเลย เอ๊ะ ทำไมพี่ถึงรู้จักท่านแม่ทัพได้ พี่เป็นอะไรกับท่านแม่ทัพเหรอ”

            “เพื่อนสนิท”

            “ผมแท่บอดใจไม่ไหวแล้ว อุ๊ย”จันร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บแผล

            “เจ็บแผลเหรอ”

            “ไม่เป็นไรหรอก”

            ยิวเห็นจันมองไปรอบๆตัวและหยิบหญ้าชนิดหนึ่ง ซึ่งยิวก็ไม่รู้จักว่าคือหญ้าอะไร เขาเห็นแค่จันหยิบมาเคี้ยวๆและแปะไว้ที่แผล หลังจากนั้นก็เอาผ้าพันไว้อย่างเดิม ถึงแม้ว่ายิวจะรู้ถึงความสกปรกแต่เขาก็ไม่พูดอะไรออกมา เพราะยิวเข้าใจดีว่าในยุคนี้เป็นวิธีการรักษาแบบดั้งเดิม

            “เรากินข้าวกันเถอะ”ยิวแบ่งข้าวกึ่งหนึ่งให้จันได้กิน

            เมื่อทั้งสองได้กินข้าวที่ไม่อิ่มแม้แต้น้อย ยิวและจันจึงเน้นดื่มน้ำในลำธารให้ได้มากที่สุด เพื่อประทังความหิวโหย

            “ข้าไม่รู้ว่าพี่มาจากไหน แต่ข้ารู้สึกว่าพี่แปลกไม่เหมือนอย่างพวกข้า”

            ยิวรู้สึกแปลกใจที่ได้ยินจันพูดขึ้นมาเช่นนี้ เพราะตั้งแต่เดินทางมาจันไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลย

            “เมืองที่พี่มานั้นไกลมาก พี่ก็ไม่รู้มาได้อย่างไง แต่เมื่อมาแล้วพี่ก็เป็นคนที่นี่แหละ”

            “เมืองที่พี่จากมาน่าจะสบายกว่านี้มากใช่ไหม”

            “สบายมากเลย อิสรเสรีไม่ลำบากแบบนี้หรอก มีที่นอนนุ่มๆมีไฟ ทีวี มือถือ โอ๊ย เยอะแยะมากมาย”

            “ผมอยากไปเมืองที่พี่อยู่จังเลย  แล้วพี่จะกลับเมื่อไร”

            “ยังไม่รู้เลย”ยิวมีสีหน้าเศร้าลง

            “ถ้าพี่กลับผมไปด้วยได้ไหม”

            “ทำไมจะไม่ได้ แต่เอ๊ะไม่อยากเป็นทหารแล้วเหรอ”

            “ยังอยากเป็นอยู่ แต่เราก็สามารถไปมากันได้ไม่ใช่เหรอ”

            “ใช่”

            ยิวได้แต่พยักหน้าเพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปได้อย่างไร ถึงไปได้ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้หรือไม่ และข้อสำคัญถ้ากลับไปได้ ยิวก็คงไม่หวนมาที่นี่อีกแน่นอน

            “นอนเถอะไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พรุ่งนี้ต้องเดินทางต่อไปนะ”

            “อือ ข้าก็ง่วงนอนเต็มแก่แล้ว”

            ยิวประคองร่างของจันให้ล้มตัวลงนอน เพราะเขาสังเกตเห็นอาการของจันแย่มาก และในขณะเดียวกันเมื่อได้สัมผัสตัวของจัน ยิวรู้สึกถึงความร้อนบนตัวของจัน ยิวจึงหาผ้าบางๆชุบน้ำมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวของจัน

            กัสหยุดเขียนแล้วก้มหน้าลงเพื่อพักสมอง ต่อจากนั้นเขาจึงลุกขึ้นและไปยืนมองตรงหน้าต่าง เพื่อคลายความตึงเครียด แต่เมื่อสายตาของเขามองไปยังรถที่กำลังจอดอยู่นั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นรถของพีค ยิ่งกัสเห็นเขื่อนลงมาจากรถของพีค เขาถึงกับอึ้งมองตาค้างด้วยความรู้สึกที่สับสน กัสจึงรีบปิดผ้าม่านและมานั่งยังเก้าอี้

            ความรู้สึกของกัสตอนนี้ล้านอารมณ์ เพราะวันนี้เขื่อนออกไปข้างนอกแต่เช้า กลับมาอีกทีมืดค่ำพร้อมกับพีคเป็นคนมาส่ง กัสจึงนั่งคิดวนมาวนไปอยู่หลายรอบ จนกระทั่งได้ยินเสียงเปิดประตู

            “อ้าว นี่ก็ดึกมากแล้วยังไม่นอนอีกเหรอ”เขื่อนเดินเข้ามาใกล้ๆกัสที่ยังนิ่งนิ่งๆ

            “เป็นอะไรหรือเปล่าไม่พูดไม่จา”

            “เปล่า วันนี้นายไปไหนมาเหรอ”

            “ไปดูหนังแล้วก็กินข้าว”

            “ไปคนเดียวเหรอ”ยิวตื่นเต้นระทึกใจยิ่งนัก เพราะเขาก็อยากรู้ว่าเขื่อนจะตอบว่าอะไร

            “ไปกับพี่พีค”

            “อือ พี่พีคใจดีเนาะ นายคงสนิทกับพี่พีคมากเลยใช่ไหม”

            “ก็ไม่ได้สนิทอะไรหรอก แค่รุ่นพี่รุ่นน้องอยู่ชมรมเดียวกันเหมือนกับนายนั่นแหละ”

            “ทำไมพี่พีคไม่เห็นชวนเราเลย”

            “เอ่อ อ่อ เดี๋ยวก็คงมาชวน”เขื่อนหน้าเจื่อนไปทันทีเมื่อได้ยินคำนี้จากกัส

            “อ่อ”

            “ถ้างั้นเราไปอาบน้ำก่อนนะ”เขื่อนเดินไปยังห้องน้ำทันทีเมื่อพูดจบ

            “อือ”

            กัสนิ่งนิ่งด้วยความอิจฉา และอดคิดไม่ได้พีคนั้นพึ่งพอใจเขื่อนอย่างแน่นอน แต่เขาก็ไม่เข้าใจก่อนหน้านี้พีคก็ยังมีท่าทีกับเขาอยู่เหมือนกัน

           

           

           

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • นิยายรักสองภาพ   นิยายรักสองภพ จบ

    ศีรษะที่กระแทกลงบนโน๊ตบุ๊ค ทำให้ได้แรงกระเทือนสลบวูบไปชั่วครู่ เมื่อได้สติดวงตาคู่นี้จึงลืมขึ้นทันที พร้อมหันไปมองเสียงประตูที่เปิดออก ซึ่งเห็นชายหนุ่มที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนคนรู้จัก แต่แล้วเขาก็ไม่ได้คิดอะไรนาน เพราะผู้ชายตรงหน้าหันมามอง และรู้ได้ทันทีว่าเป็นเป็ก“ถึงเราจะโกรธนาย แต่สิ่งที่นายให้เราทำ เราก็จะทำให้นายเป็นครั้งสุดท้าย” เมื่อเป็กพูดจบเขาก็เดินออกจากประตูไปในทันใด พร้อมปิดประตูจนเสียงดังลั่นสนั่นมือน้อยๆ กำที่ศีรษะสายตามองไปรอบๆ ดวงตาคู่นั้นถึงกับเบิกโพลงทันใด เพราะสิ่งที่เห็นเป็นห้องนอนอันคุ้นเคย มือนั้นรีบมาจับศีรษะและบริเวณลำคอทันใด“เรายังไม่ตาย” ยิวพูดขึ้นลอยๆ แล้วความแปลกใจและตื่นตระหนกยิวคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ตอนอยู่ลานประหาร สิ่งสุดท้ายที่จำได้คือแค่รับสัมผัสจากคมดาบเพียงชั่ววินาที หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้แม้แต่นิด ยิวคิดวนมาวนไปหลายรอบพร้อมหันหน้าไปมา จนเห็นโน๊คบุ๊คเปิดอยู่เขาจึงจับเม้าท์คลิกเปิดดูทันใด และสิ่งที่เขาเห็นเป็นคลิปวีดีโอตัวเขาเองกับพีคกำลังนอนกอดกัน“อะไรกันนี่ มันไม่ใชเรานี่หน่า” ยิวปิดวีดีโอนั้นทันทีเมื่อปิดวีดีโอเสร็จเขาได้เห็นเว็บเขี

  • นิยายรักสองภาพ   วันประหาร

    ข่าวทำสงครามของแม่ทัพวิศรุฒรบชนะดังไปทั่วแคว้นแดนดิน ทั้งสองเมืองต่างเฉลิมฉลองอึกทึกครึกโครม เพราะในช่วงเวลานี้ได้เป็นพันธมิตรกัน หลังจากงานอันเป็นมงคลได้ผ่านไป แม่ทัพวิศรุฒซึ่งในเวลานี้เป็นราชาวิศรุฒ ได้ทราบข่าวร้ายในทันใด เมื่อจอมได้รีบมาบอกข่าวนี้ทันทีเมื่อได้ยินเรื่องราวไม่ดี“พระองค์ ราชาศิลาจะประหารชีวิตองค์ชายเมธีพระเจ้าค่ะ” จอมหน้านิ่วคิ้วขมวด“ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะเหตุผลใดเล่า” แม่ทัพวิศรุฒมีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งนัก“ได้ข่าวมาองค์ชายเมธีได้ฆ่าองค์ชายศิธาตายพระเจ้าค่ะ”“ไม่น่าใช่ อ่อนแอขนาดนั้น”“กระหม่อมก็ไม่รู้ แต่สายรายงานข่าวมาเช่นนี้พระเจ้าค่ะ พระองค์จะทำเช่นไรข้าอดเป็นห่วงองค์ชายเมธีไม่ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวจริงอย่างน้อยพระองค์ท่านก็มีบุญแก่กระหม่อม”“ไม่ต้องห่วงข้าจะกลับเมืองศิลานคร แต่ข้าจะขี่ม้าไปคนเดียว เพราะจะได้ไวขึ้นกว่าไปเป็นกองทัพ”“กระหม่อมขอเสด็จตามไปด้วยนะพระเจ้าค่ะ”“ได้ ออกเดินทางวันนี้เลยเดี๋ยวไม่ทันการณ์” ราชาวิศรุฒถอนหายใจเฮือกใหญ่“พระเจ้าค่ะ กระหม่อมไปเตรียมม้าและข้าวของจำเป็นก่อนนะพระเจ้าค่ะ”“อืม”“กระหม่อมทูลลา”ราชาวิศรุฒยืนนิ่งครุ่นคิดและหวาดหวั่

  • นิยายรักสองภาพ   แผนการครั้งสำคัญ

    กัสหยุดเขียนนิยายไปหลายวัน และเริ่มตีตัวออกห่างเป็กแล้วเข้าหาพีคในช่วงเวลาเดียวกัน ค่ำคืนนี้จึงเป็นแผนเผด็จศึกและเสร็จศึกให้จบสิ้น เขาจึงรีบโทรหาพีคในทันใด“ฮัลโหลมีอะไรหรือเปล่าน้องกัส”“พี่พีค” กัสร้องสะอื้นไห้ออกมา“เป็นอะไรบอกพี่มา”“เป็กเขาทิ้งกัสไปแล้ว เขาบอกเบื่อกัสไม่อยากคบเป็นแฟนอีกต่อไป”มีแต่เสียงสะอื้นไห้ของกัสแต่ไร้เสียงใดๆ ของพีค จนกัสรู้สึกใจหายและผิดหวังในสิ่งที่ทำลงไปไม่เกิดผล“ใจเย็นๆ ในเมื่อเขาไม่รักเราแล้ว ก็ปล่อยเขาไปเหมือนอย่างพี่กับเขื่อนไง อย่าเสียใจไปเลย”“แต่ อืม กัสยังคิดอดไม่ได้ครับ” กัสกลับมาดีใจอีกครั้ง“ไม่ต้องคิดอะไรมาก เอาอย่างนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนก็แล้วกัน ในเมื่อเป็กเลิกกับกัสกันไปแล้ว พี่ไปอยู่ด้วยคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก ถ้างั้นรอพี่อยู่ที่ห้องนะอย่าคิดอะไรมาก พี่จะรีบไปเดี่ยวนี้ ทำใจดีๆ ไว้นะน้องกัส”“ครับ ขอบใจพี่พีคมากที่คอยดูแลกัสตลอดมา”“อืม ไม่เป็นไร”เมื่อพีคได้วางหูโทรศัพท์มือถือ กัสถึงกับอมยิ้มและเตรียมแผนการต่อไว้อย่างดี หลังจากนั้นกัสนิ่งรอพีคมายังห้องอย่างใจจดใจจ่ออย่างมีความหวัง และคาดฝันในสิ่งที่วางแผนไว้ ซึ่งเวลาที่เฝ้ารอไม่ได้นานมา

  • นิยายรักสองภาพ   สงครามสองผู้

    เวลาที่แม่ทัพวิศรุฒรอคอยได้มาถึง เมื่อถึงเวลาเขาบุกเข้าไปในเมืองเมฆาบุรีทันที แต่ยังไปไม่ถึงป้อมปราการ ทัพเสือเข้มวิ่งกรู่เข้ามาอย่างรวดเร็ว สองกองทัพต่างวิ่งถือดาบธนูเข้าหากัน เหมือนกับเคืองแค้นกันมาหลายภพหลายชาติเหล่าทหารกองทัพเมืองศิลานครนำทัพโดย แม่ทัพวิศรุฒนั้นร่างกายค่อนข้างแกร่งฝีมือดี เพราะผ่านศึกสงครามและฝึกฝนอย่างหนัก ในทางกลับกันฝีมือของกองทัพเสือเข้มร่างกายได้หาแข็งแกร่งไม่ ฝีมือใช่ว่าจะดีมากมาย แต่ที่ชนะกองทัพของราชาวิหคเพราะรบแบบกองโจร และแผนการอันแยบยล ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้จะมีทหารโดยแท้ปะปนมาด้วย แต่หาเทียบเหล่าทหารแม่ทัพวิศรุฒได้ โดยการครั้งนี้มีเสือเข้มนำกองทัพออกรบ แต่บรรดาทหารไม่ได้ออกมาทั้งหมดแม่ทัพวิศรุฒก็รู้ดีเช่นกัน เพราะทราบข่าวจากการสู้รบของเสือเข้มจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา เขาจึงเตรียมการไว้อย่างดี เมื่อเขาได้นำทัพมาถึงกลางสนามรบ แต่ไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ในทันที เพราะเสือเข้มออกมาสู้ประจันหน้า และพร้อมกับสองข้างฝั่งมีกองโจรดักอยู่ คอยยิ่งธนูไม่ขาดสายถึงเป็นเช่นนั้นแม่ทัพวิศรุฒหากลัวไม่ เพราะสองฝั่งเขาให้จอมและทันเดินทัพออกห่างออกไปไกล เมื่อถึงเวลารบจ

  • นิยายรักสองภาพ   ร่างให้ตัวร้ายใจให้พระเอก

    กัสยังไม่ได้เริ่มเขียนนิยายแม้แต่คำเดียว เป็กก็มาถึงยังห้องนอนอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างไว้แค่นั้น“เราทำให้นายทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่นายจะทำอะไรให้เราบ้างล่ะในคืนนี้” เป็กกอดร่างของยิวไว้แน่นพร้อมบรรจงจูบทั่วใบหน้า ไม่ว่างเว้นแม้แต่ส่วนเดียว“ไปอดอยากมาจากไหน” กัสยังนิ่งเฉยไม่ขัดขืนแต่อย่างใด“ใช่ อดอยาก อมให้หน่อย” เป็กหยุดสัมผัสเรือนกายของกัสและปลดอาภรณ์ทุกชิ้นออกไม่มีเหลือ พร้อมกับล้มตัวลงนอนข้างๆ กัสที่นั่งยิ้มแต่ใจนั้นแสนเบื่อหน่ายกัสไม่สามารถที่จะปฏิเสธการนี้ได้ เขาจึงจับท่อนเอ็นของเป็กที่กำลังแข็งตั้งตระหง่าชูชัน พร้อมกับก้มใบหน้า ใช้ริมฝีปากสัมผัสท่อนเอ็นส่วนปลายสีชมพูอ่อนๆ จากทีแรกรู้สึกเบื่อหน่ายแต่เมื่อเห็นท่อนเอ็น ทำให้มีอารมณ์ร่วมมากขึ้นกัสจึงใช้ปลายลิ้นสัมผัสไล้เลียวนมาวนไปอย่างใคร่กระหาย“อืม อืม อืม” เป็กครางออกมาด้วยความเสียวซ่านอย่างถึงใจ“จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ” เสียงอมรูดท่อนเอ็นดังอย่างต่อเนื่องริมฝีปากอันเล็กรูดท่อนเอ็นขึ้นลงอย่างช้าๆ และใช้ปลายลิ้นตวัดเลียไปมา พร้อมกับเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างของเป็กสั่นสะท้าน ความรู้สึกสยิวท่อนเอ็นอย่างต่อเนื่อง

  • นิยายรักสองภาพ   แค้นที่ต้องชำระ

    ยิวนั่งหมดอะไรตายอยากในห้องบรรทมอย่างเงียบเหงา ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อจากนี้ หมดสิ้นหนทางอย่างไร้ที่หมาย เขาถึงกับถอนหายใจถี่ก้มมองลงพื้นด้วยความกลัดกลุ้มในใจอย่างรวดร้าว แต่แล้วเมื่อเขาได้ยินเสียงประตูเปิดออก ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปในทันที เมื่อร่างขององค์ชายศิธาปรากฏ“นั่งเหงาเลยนะองค์ชายเมธี”“ถ้ามาพูดแค่นี้ไม่น่าต้องเสด็จมาก็ได้”“ข้ามีเรื่องจะบอกองค์ชายถึงมานี่ เรื่องนี้ข้าเท่านั้นที่ต้องบอก จะได้สมน้ำสมเนื้อกับองค์ชาย”“เรื่องอะไร” ยิวให้ไปทั้งใบหน้ามององค์ชายศิธาที่ยืนยิ้มอย่างเย้ยหยัน“แม่ทัพวิศรุฒออกเดินทางไปยังเมืองเมฆาบุรีแล้ว”ยิวไม่ได้ตอบโต้อะไร เพราะเขารู้สึกใจหายหวั่นๆ อยู่เหมือนกัน เพราะนั่นเท่ากับเขาอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย“รู้ไหม ทำไมแม่ทัพวิศรุฒถึงไปยังเมฆาบุรี”“ข้าไม่รู้”“เพราะที่เมฆาบุรีเกิดการกบฏอีกครั้ง และคนก่อกบฏก็เป็นเสือเข้ม องครักษ์ขององค์ชายนี่ใช่ไหม”ดวงตาของยิวเบิกโตตื่นเต้นไม่คาดคิดว่าเสือเข้มจะทำได้จริงๆ และนั่นเขาก็หวั่นๆ ว่าจะเกิดร้ายไม่ดีกับแม่ทัพวิศรุฒ“เพลานี้เมืองเมฆาบุรีกำลังวุ่นวาย เสด็จพ่อของข้าจึงสั่งจัดการให้สิ้นซาก”“บอกข้าทำไม” ยิว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status