LOGINข้ามเทือกเขาไปยังหุบเหวใต้รอยแยกแห่งหนึ่ง เสียงใบไม้ไหวและไอหมอกจางในโถงหินสีดำทำให้ยามค่ำยิ่งหนาวเหน็บและภายในห้องบัลลังก์ที่เย็นจัดจนโคมไฟยังหลีกทาง
เขากำลังนั่งอยู่"ฮั่นหยางเทียน" บุรุษในหน้ากากดำ ผู้นำลัทธิมาร ผู้วางรากเหง้าเงาในหอเงาจันทร์ เพียงเพื่อ "เล่นฆ่าเวลา" ยามที่หอถูกทำลาย มันก็แค่หนึ่งหมากในเกม
เสียง เปรี้ยง!
ร่างของชายในหน้ากากเงินพุ่งชนเสาศิลา เลือดทะลัก จากปาก “เจ้าทำให้ของเล่นข้า…โดนเหยียบ” เสียงเขาเย็นเฉียบ ไม่ดัง แต่ดังก้องในอกเหมือนแรงสะกิดจากขุมนรก
“แค่หอสุรา… ข้าเก็บไว้ให้หญิงฝึกดาบพักผ่อน… แต่พวกเจ้ากลับปล่อยให้พวกมันถูกเผา…”
เขาเหยียดกายขึ้นจากบัลลังก์ ผ้าคลุมดำลากเสียงเสียดพื้นอย่างเยือกเย็น หน้ากากยังอยู่ แต่ดวงตาคู่นั้นแดงวาบ… คล้ายเพลิงจากใต้บาดาล
เขาคือผู้ปลุกปั้นราคะให้กลายเป็นอาวุธท ไม่เคยเห็นหญิงใดเป็นมากกว่าของเล่นบนฝ่ามือ ดวงตาคู่นั้น… วาววับ เย็นชา ไร้แววเมตตาแต่คืนนี้ หลังจากเขาเฝ้ามองผ่านม่านส
ข้ามเทือกเขาไปยังหุบเหวใต้รอยแยกแห่งหนึ่ง เสียงใบไม้ไหวและไอหมอกจางในโถงหินสีดำทำให้ยามค่ำยิ่งหนาวเหน็บและภายในห้องบัลลังก์ที่เย็นจัดจนโคมไฟยังหลีกทางเขากำลังนั่งอยู่"ฮั่นหยางเทียน" บุรุษในหน้ากากดำ ผู้นำลัทธิมาร ผู้วางรากเหง้าเงาในหอเงาจันทร์ เพียงเพื่อ "เล่นฆ่าเวลา" ยามที่หอถูกทำลาย มันก็แค่หนึ่งหมากในเกมเสียง เปรี้ยง!ร่างของชายในหน้ากากเงินพุ่งชนเสาศิลา เลือดทะลัก จากปาก “เจ้าทำให้ของเล่นข้า…โดนเหยียบ” เสียงเขาเย็นเฉียบ ไม่ดัง แต่ดังก้องในอกเหมือนแรงสะกิดจากขุมนรก“แค่หอสุรา… ข้าเก็บไว้ให้หญิงฝึกดาบพักผ่อน… แต่พวกเจ้ากลับปล่อยให้พวกมันถูกเผา…”เขาเหยียดกายขึ้นจากบัลลังก์ ผ้าคลุมดำลากเสียงเสียดพื้นอย่างเยือกเย็น หน้ากากยังอยู่ แต่ดวงตาคู่นั้นแดงวาบ… คล้ายเพลิงจากใต้บาดาลเขาคือผู้ปลุกปั้นราคะให้กลายเป็นอาวุธท ไม่เคยเห็นหญิงใดเป็นมากกว่าของเล่นบนฝ่ามือ ดวงตาคู่นั้น… วาววับ เย็นชา ไร้แววเมตตาแต่คืนนี้ หลังจากเขาเฝ้ามองผ่านม่านส
อวี้หลันสะดุ้งเธอได้ยินเพียงบางคำ ร่างกายยังเต้นตุบ จากฤทธิ์ยาแต่หัวใจเริ่มตื่น เซี่ยหลินหันกลับไปมือของเขาแตะปลายนิ้วของนาง ไม่พูดอะไรแต่แววตาคู่นั้น… สั่นสะเทือนยิ่งกว่าเสียงฆ้องสนามรบ“ข้าจะกวาดล้างหอนี้ทั้งหมด…และหากมันผู้ใดเกี่ยวข้อง ……ข้าก็จะลากพวกมันออกมาเองกับมือ”นางเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงรื้นกลีบปากเธอขยับจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่เสียงม้าเหยียบดินดังขึ้นอีกครั้งรายงานจากสายข่าวอีกสายกำลังมา…ไอน้ำในห้องบ่อหยกหนาทึบราวม่านหมอกจากหุบเหว น้ำร้อนล้อมร่าง “ฮั่นหยางเทียน”เหมือนอ้อมแขนของสัตว์ร้ายที่เขาเลี้ยงไว้เอง ผิวแกร่งเปียกชุ่มเป็นเงา สายน้ำไล้ผ่านแผงอกและหน้าท้องแข็งเป็นลอน แต่ความร้อนจากบ่อยังสู้ความเดือดในอกไม่ได้เขาคือเจ้าลัทธิมารผู้ครองเงามืด ภายใต้หน้ากากสีดำ เขาปลดสายรัดอย่างเนิบช้า เสียงโลหะกระทบกัน ก่อนหน้ากากเลื่อน เผยใบหน้าคม คิ้วเข้มได้รูป ดวงตาลึกละเมียดแฝงแววลึกลับ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากหยักบางที่โค้งขึ้นเพียงน้อย ก็เหมือนเชื้อเชิญให้จิตใจสตรีละลายในรอยยิ้มแผ่วมีเงาเย็นของ
เมื่อใครต้องตา…พวกนางจะเดินเข้าไปมอบตราให้หญิง ผู้นั้นและพาเข้าด้านใน ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนั้นโต๊ะที่เซี่ยหลิง จ้าวอี้หาญ และอวี้หลันนั่งอยู่แม้จะหลบมุมแต่ก็ “งามเกินไปที่จะมองข้าม”อวี้หลัน… ในชุดโบตั๋นโปร่งใบหน้าที่กำลังซับเหงื่อดวงตาแดงเรื่อจากยาปลุกอารมณ์ที่แทรกมากับสุราและกลิ่นกำยานริมฝีปากที่ขบไว้แน่นจากความร้อนในกายทั้งหมดนั้น…มันสั่นไหวในตาทุกบุรุษรวมถึง “เขา” บุรุษในหน้ากากดำเสียงฝีเท้าเขาหยุดลงตรงหน้าโต๊ะพัดในมือเคาะเบา ๆ บนผิวไม้ขณะที่แผ่นหยกสลักลายเสือถูกวางลงตรงหน้าอวี้หลัน… ด้วยมือของข้ารับใช้ในผ้าไหมดำ เซี่ยหลิงเงยหน้าขึ้น ช้า นิ่ง เย็นเฉียบ“ของใคร”บุรุษในหน้ากากพูดเพียงคำเดียว “ของข้า”จ้าวอี้หาญขำเบา ๆ แต่ขำแบบคนที่พร้อมฟาดพัดใส่หน้าคู่ต่อสู้ “ดูเหมือนเจ้าคงยังไม่ได้อ่านกฎของงานนี้สินะ“นาง… มากับข้า”“มากับท่าน… ไม่ใช่ของท่าน”เสียงอีกฝ่
เขากระแทกเข้าไปลึกสุด แช่ไว้ ขณะที่อวี้หลันร้องลั่น สะโพกกระตุกแตกซ้ำอีกครั้งในอ้อมแขนทั้งสองน้ำรักทะลักล้น จนหยดลงเสื่อเป็นทางเขาถอนตัวช้า ๆ เสียงเนื้อหลุดจากกัน เฉาะ! ดังลั่น แล้วเซี่ยหลินก้าวเข้าต่อทันทีไม่แม้แต่รอให้เธอได้พัก...เสียงใหม่ ฉึก! ก้องกังวานอีกครั้ง ความร้อนระลอกใหม่แทรกเข้ากาย กลีบที่เพิ่งปล่อยแตกกลับต้องรับลำใหม่ที่แข็งขึงไม่แพ้กัน“ข้า… จะขยี้เจ้าอีกครั้ง อวี้หลัน…” เสียงเขากัดฟัน ขณะที่สะโพกเริ่มกระแทกอย่างแรงร่างนางโยนขึ้นลงตามจังหวะตั่บ! ตั่บ! ตั่บ! หน้าอกกระเพื่อม เสียงครางดังต่อเนื่องจากลำคอจนหลุดเสียงพูด“ข้า… ไม่ไหว… ได้โปรด…!”แต่ไม่มีใครหยุด ไม่มีใครใจดี ไม่มีแม้แต่วินาทีให้เธอหายใจความใคร่จากฤทธิ์ยา ผสานแรงกระแทกจากทั้งสองชาย หลอมรวมจนไฟใต้ผิวเธอลุกพรึ่บ ลนจิตไม่เหลือสติเซี่ยหลินเร่งจังหวะสุดแรง กลีบนางตอดรัดแน่น มือของเขาตีสะโพกเธอจนแดงก่อนจะกระแทกครั้งสุดท้าย—แล้วปล่อยน้ำร้อนข้นเข้าโ
“ข้าขออนุญาตนะ… อวี้หลันคนงามเพื่อความสมจริง”อวี้หลันเบิกตานิดหนึ่ง แต่ไม่ขัดขืนใบหน้าแดงซ่านจากสุรา และบางสิ่งที่ไหลอุ่นขึ้นจากในอกมือของเขาลูบผ่านเนินอกแล้ว ปลดสายผ้าแพรฟึบ…ผืนผ้าบางร่วงลงพื้นหน้าอกเปลือยขาวละมุนสั่นระริกอยู่ตรงหน้ายอดอกชูชันจากอากาศเย็นผสมฤทธิ์บางอย่างที่ปะทุจากภายในร่าง อี้หานโน้มตัวลงช้า ๆ ปลายนิ้วลูบผ่านเนินเนื้อ แล้วใช้สันจมูกถูไล้เบา ๆอวี้หลันกลั้นหายใจมือเกาะบ่าชายหนุ่มแน่น… เขาไม่ให้โอกาสนางถอยริมฝีปากเขาบดจูบลงตรงยอดอกดูด… ขบ…ลิ้นเขาตวัด…ลากช้าๆ….นางสะอื้นในลำคอ“อื้อ…!”เสียงผ้าด้านหลังขยับเซี่ยหลินลุกเข้ามาเงียบ ๆ นั่งคุกเข่าด้านหลังนาง มือหนาแตะแผ่นหลังแล้วค่อย ๆ ประคองไหล่เปลือยของนางไว้เสียงเขาแหบแผ่ว“หากเจ้าเล่นละคร… จงเล่นให้เหมือนตายไปแล้วเพื่อมัน”ขณะอี้หานยังคลอเคลียยอดอกเซี่ยหลินก้มลงจูบที่ท้ายทอยนางลมหายใจเขาร้อนผ่าวปลายนิ้วลูบผ่านซี่โครงนางจากด
ข้างเสาไม้ด้านหนึ่ง เด็กสาวชุดเขียวถูกอุ้มขึ้นตักโดยพ่อค้าหนุ่มที่ในยามปกติพูดจาเคร่งเครียด แต่ยามนี้ เขาเลียซอกคอเธอแล้วบีบหน้าอกด้วยสองมือ ราวกับกำลังนวดผลไม้อุ่นจัดตรงซอกม่านด้านใน ขุนนางชราผู้มากบารกาศกำลังกดหญิงสาวต่ำกว่าเขาหลายวัยลงกับเบาะเสียงดูดเนื้อดัง จ๊วบ! จ๊วบ! จนนางครางข้างเตียงเตี้ย พ่อค้าหนุ่มพลิกตัวทับบัณฑิตหนุ่ม ก้นเปลือยกระแทกสะโพกเขารัวไม่หยุดเสียงครางซ้อนกันเป็นบทประสานวาบหวิวจนแม้เหล่าขันทีที่แอบมองอยู่มุมห้องยังต้องกลืนน้ำลายกลิ่นเหงื่อ กลิ่นน้ำสวาท คละคลุ้งในห้อง ไม่ต่างกับควันจากเตาโอสถกลิ่นดอกไม้ยิ่งดึก ทุกคนก็ยิ่งถลำ บางคู่รักกันต่อหน้าทุกคนบางคู่ลากกันไปซอกม่านบางคนแม้ไม่รู้ชื่ออีกฝ่าย ก็พร้อมจะกลืนกินกันให้หมดทั้งร่าง“อื้ออ… นายท่านเจ้าค่ะ…! ตรงนั้น—อ๊าาาา!”เสียงนั้นดังข้ามห้องตามด้วยเสียงเนื้อกระแทกเนื้อตั่บ! ตั่บ! ตั่บ!บนชั้นสาม ราชวงศ์หนุ่มนั่งกอดหญิงในอ้อมแขนมองทุกอย่างเบื้องล่างอย่างสงบแต่ใต้ผ้าคลุม แขน







