Share

บทที่ 9

ในเวลานี้ ป้าสะใภ้ใหญ่เข้ามาดึงจ้าวซีซี “ไม่ต้องรีบร้อน พี่ชายที่เหลือคนอื่นๆ ของเธอจะมาถึงในไม่ช้า ไว้เจอหน้าพวกเขาก่อนค่อยกลับก็ยังไม่สาย ที่ที่มีคนในครอบครัวถึงจะเรียกว่าบ้าน”

หลินตงเย่มองป้าสะใภ้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ หากไม่ได้ผู้หญิงคนนี้ที่ดูแลประคบประหงมน้องสาวมาตลอด น้องสาวก็คงมีชีวิตที่ย่ำแย่กว่านี้ เขาเอ่ยปากอย่างนอบน้อม “ผมจัดการจองห้องไว้แล้ว ไปทานข้าวที่ห้องอาหารกันก่อนดีกว่านะครับ”

จ้าวซีซีเดินไปพร้อมกับป้าสะใภ้ใหญ่ โดยมีพี่ชายที่ตนพึ่งได้เจอเดินนำอยู่ข้างหน้า พบว่าอีกฝ่ายเหมือนจะพูดน้อยมาก และค่อนข้างทำตัวห่างเหินไม่ค่อยน่าสุงสิงด้วยเท่าไรนัก

แต่ดูเหมือนว่าพี่ชายเธอจะรวยมาก!

เธอลงมาจากดาดฟ้าโรงแรมเจ็ดดาว สภาพแวดล้อมของที่นี่ดูไฮโซมาก เธอไม่เคยมาที่แบบนี้มาก่อน

หลินตงเย่คิดถึงเรื่องที่น้องสาวต้องกลับไปอยู่ที่บ้านหลังเก่า ก็ปวดใจขึ้นมาจนแทบหายใจหายคอไม่สะดวก

จ้าวซีซีมองไปยังหลินตงเย่ “พี่เป็นอะไรไปคะ?”

“เปล่า มีทรายเข้าตาน่ะ น้องพี่ ลองคิดใหม่อีกทีไหมว่าอยากเปลี่ยนที่อยู่หรือเปล่า?”

เขาเตรียมบ้านช่องไว้มากมาย กลับไปจะต้องเลือกคฤหาสน์ที่หรูหราที่สุดให้น้องสาวแน่นอน!

จ้าวซีซีส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันว่าบ้านหลังเดิมก็ดีอยู่แล้ว ที่นั่นต่างหากเป็นที่ที่ฉันเติบโตมา จะเป็นคฤหาสน์ที่ใหญ่โตแค่ไหนก็ช่าง ฉันไม่เปลี่ยนหรอกค่ะ และก็ไม่สนใจด้วยค่ะ!”

คำพูดติดอยู่ที่คอหลินตงเย่ สุดท้ายก็ได้แต่กล้ำกลืนมันลงไป

ก็จริง ตอนนั้นเป็นเขาที่ทำน้องสาวหาย หลายปีนี้แทบไม่ได้รับผิดชอบอะไรเลย ดังนั้นน้องสาวถึงปฏิเสธที่จะอยู่ในคฤหาสน์ที่เขาเสนอให้

หลินตงเย่น้ำเสียงอ่อนโยน “ได้ ตามใจเธอ”

สถานที่ที่น้องสาวอยู่ได้ เขาก็ต้องอยู่ได้ เขาตัดสินใจว่าจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับน้องสาว

ไม่ก็ซื้อตึกนั้นเลยแล้วกัน

จากนั้นก็ค่อยทำให้ชั้นอื่นๆ เป็นห้องว่าง จะได้เป็นที่พักให้คนรับใช้ และสามารถบริการน้องสาวได้ทุกที่ทุกเวลา

เป็นความคิดที่บรรเจิดมาก

กลุ่มคนมาถึงยังห้องโถงใหญ่ หลินตงเย่เหลือบมองมือถือแวบหนึ่ง “น้องพี่ พี่สะใภ้ของเธอโทรมา พวกเธอเข้าไปนั่งรอก่อนนะ”

หลินตงเย่เดินมาที่ด้านข้าง อีกฝั่งเป็นเสียงอันสดใสของผู้หญิงดังขึ้น “ขา ฉันหอบเอาโฉนดบ้านกองโตมาด้วย แล้วยังมีเครื่องประดับเพชรพลอยที่เก็บสะสมมานานหลายปี กระเป๋ารุ่นลิมิเต็ด รวมถึงรถคันโปรดของพี่ๆ น้องๆ พวกคุณ ฉันได้ขนทั้งหมดมาเรียบร้อยแล้ว เมื่อถึงเวลาค่อยให้น้องสาวคุณเลือกดูว่าชอบอะไร”

ชายหนุ่มถอนหายใจหนึ่งที “ของขวัญพบหน้าพวกนี้ เอาไว้ก่อนแล้วกัน”

“ทำไมล่ะคะ?”

“น้องสาวไม่ได้เอาใจง่ายขนาดนั้น อย่างน้อยการใช้เงินก็ไม่ได้ผล!”

“หลินตงเย่ ฉันบอกคุณแต่แรกแล้วว่าให้รอฉันกลับมา แต่คุณกลับไปรับเธอล่วงหน้าจนได้ ปากของคุณจะไปพูดอะไรดีๆ ได้ยังไง พวกคุณทำเด็กคนนั้นหายไปตั้งหลายปี จนต้องตกระกำลำบาก ลึกๆ ในใจก็คงโกรธแค้นอยู่แน่นอน แล้วคุณเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่อธิบายเก่ง คุณไปก็เหมือนไม่ได้ไปนั่นแหละ!”

หลินตงเย่นวดคลึงหว่างคิ้ว “ตอนนี้เอาไงดี?”

เขาเพียงแค่ร้อนใจเกินไป ประจวบกับเขามาทำงานนอกสถานที่แถวนี้พอดี ถึงได้รีบมาในทันที

“ยังจะทำไงได้อีก คุณทำมันพังแล้ว ตอนนี้คงเหลือทางเดียวคือทำตัวให้น่าสงสาร”

“ทำตัวให้น่าสงสารยังไง?”

“ฉันก็ไม่รู้ คุณคิดเอาเองเถอะ เอาเป็นว่าอย่าให้น้องสาวของคุณรู้ว่าหลายปีมานี้ที่เธอลำบากข้นแค้น แต่คนเป็นพี่ชายอย่างพวกคุณกลับกำลังเสพสุขกันอยู่”

หลินตงเย่คล้ายเข้าใจแต่ก็ไม่เชิง ตอนนี้เขาปวดหัวมาก

เผชิญหน้ากับน้องสาวที่ทั้งแปลกหน้าและเหินห่าง เขาถือไว้ในมือกลัวตกแตก อมไว้ในปากก็กลัวละลาย

——

ทางด้านนี้ จ้าวซีซีพาป้าสะใภ้ใหญ่ที่ดูเก้ๆ กังๆ ไปห้องอาหารด้านข้าง

ป้าสะใภ้ใหญ่กดเสียงต่ำและพูดว่า “เหมือนว่าครอบครัวพี่ชายเธอจะรวยมาก ต่อไปเธอไม่ต้องลำบากแล้วนะ”

“ป้าสะใภ้ใหญ่ ครอบครัวคนรวยมันไม่ธรรมดาแบบนี้หรอก ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมตอนนั้นถึงโดนทอดทิ้ง อาจเป็นการกระโดดออกจากหลุมไฟหนึ่งเข้าสู่หลุมไฟถัดไปก็ได้”

“ถุย ๆ ๆ อย่าซี้ซั้วพูด เมื่อก่อนมีหมอดูทักว่าเธอมีวาสนาเป็นผู้ร่ำรวยที่สูงส่ง”

จ้าวซีซีประคองมือของป้าสะใภ้ใหญ่ “เขาให้เฮลิคอปเตอร์มารับฉัน ถ้างั้นเขารู้เรื่องของฉันกับฮั่วหานฮุ่ยแล้วเหรอคะ?”

“ไม่รู้ ป้าบอกแค่ว่าเธอทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่คฤหาสน์นั้น ป้ารู้ว่าเธอไม่อยากเปิดเผยว่าได้แต่งให้กับฮั่วหานฮุ่ยแล้ว ป้าเลยไม่ได้บอกใคร”

จ้าวซีซีโล่งอกไปที แบบนั้นก็ดี

ทันใดนั้นพ่อแม่แม่บุญธรรมวิ่งปรี่เข้ามาด้านข้าง และเริ่มก่นด่าจ้าวซีซี “จ้าวซีซี ยัยเด็กที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ ตอนนั้นเธอเป็นแค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีใครอยากได้ ครอบครัวเรามีใจเมตตาถึงรับเลี้ยงเธอไว้ แต่สุดท้ายตอนนี้เธอได้เจอกับครอบครัวที่มีตังค์แล้ว ก็คิดจะผลักไสพวกเรางั้นเหรอ? ตระกูลจ้าวของเรามีบุญคุณกับเธอนะ”

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status