Share

บทที่ 7 สุขภาพเขาไม่แข็งแรงที่ไหนกัน

กู้อวิ๋นซีอึ้งมาก

หัวใจเธอเต้นระรัวเร็วไปหมด

จวินเย่เสวียนเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเดินลงจากรถม้าไปก่อน

จากนั้นก็หันกลับมา ก่อนจะยื่นมือออกมาให้กู้อวิ๋นซีจับ

ในที่สุดกู้อวิ๋นซีก็เหมือนกับว่าจะตั้งสติได้แล้ว

เขาไม่ใช่ฉู่หลี จะเป็นไปได้อย่างไร

ไฝเสน่ห์เม็ดนี้ เธอเป็นคนวาดเพิ่มเข้าไปเอง มันลบออกได้!

แต่ไฝเสน่ห์เม็ดเมื่อคืนของฉู่หลี เธอลบมันไม่ออก!

นี่เธอคิดอะไรไร้สาระอยู่กันเนี่ย

กู้อวิ๋นซีสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะค่อยๆ เอามือไปเปิดม่านออก

เมื่อเห็นฝ่ามือของจวินเย่เสวียนที่ยื่นมาทางเธอแล้ว เธอก็หลบเองโดยสัญชาตญาณ แล้วหันไปคว้าจับเอาขอบของรถม้าแทน ก่อนจะค่อยๆ ก้าวลงมาอย่างระมัดระวัง

จวินเย่เสวียนทำเสียงเย็นๆ ในลำคออย่างขัดใจ ก่อนจะชักมือกลับไป

ไม่ไกลนัก องค์หญิงแปดส่งยิ้มจนตาหยีก่อนจะวิ่งเข้ามาทัก "ท่านพี่ห้า ไม่ได้พบกันนานเลยนะเพคะ!"

องค์ชายรองจวินหนานถิงเองก็เดินอย่างรวดเร็วเข้ามาหาเช่นกัน "น้องห้า วันนี้พาภรรยาเข้าวังมาคารวะผู้ใหญ่หรือ ยินดีด้วยๆ!"

แผ่นหลังที่ทั้งเย็นชาและเคร่งเครียดของจวินเย่เสวียนทำให้กู้อวิ๋นซีที่มองอยู่ รู้สึกกระวนกระวายในใจ

เขายังคงเย็นชาเช่นเดิม ช่างดูแตกต่างกับฉู่หลีที่อ่อนโยนมากเหลือเกิน

องค์หญิงแปดกับองค์ชายรองมองไม่ออกจริงๆ เหรอเนี่ย

เธอเห็นทั้งสองคนเดินมาอยู่ตรงหน้าของจวินเย่เสวียน ไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันกัน แต่ครู่เดียวจวินเย่เสวียนก็เดินไปทางตำหนักพร้อมกับพวกเขาแล้ว

เยียนเป่ยพูดกับกู้อวิ๋นซีอย่างนอบน้อมว่า "พระชายา นี่ก็สายมากแล้ว รีบเข้าตำหนักไปทำความเคารพฮ่องเต้กับฮองเฮาดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ"

"ข้า...รู้แล้ว"

กู้อวิ๋นซีรีบเดินตามจวินเย่เสวียนเข้าไปด้วยจิตใจที่เป็นกังวล

ลำดับพิธีการคารวะ ทั้งวุ่นวายและซับซ้อน

เสวียนอ๋องที่ปลอมตัวเป็นจวินฉู่หลี ไม่ถูกจับได้ตลอดพิธีจริงๆ

จวินเย่เสวียนคอยมองดูอยู่ด้วยสายตาเย็นชาตลอดงาน จนกระทั่งกู้อวิ๋นซีทำเสร็จพิธีทุกขั้นตอน เขาถึงได้กล่าวว่า

"ช่วงนี้เสด็จย่าสุขภาพร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ลูกอยากจะไปเยี่ยมพระองค์ไวๆ พ่ะย่ะค่ะ"

ฮ่องเต้พยักหน้าเป็นเชิงตกลง "ได้สิ"

ฮองเฮามองไปที่กู้อวิ๋นซี ก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า "หลีเออร์สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง ต่อไปเจ้าก็ช่วยดูแลเขาหน่อยนะ"

ในใจกู้อวิ๋นซีได้แต่รู้สึกสงสัย

ฉู่หลีสุขภาพไม่ดีที่ไหนกัน ตลอดเวลาหนึ่งปีที่พวกเขารู้จักกัน เธอยังไม่เคยเห็นฉู่หลีไม่สบายเลยสักครั้ง

อีกอย่าง เมื่อคืนเขา...รุนแรงขนาดนั้น ดูไม่เห็นเหมือนคนสุขภาพไม่แข็งแรงตรงไหน

แต่ว่าจิตใจคนในวังยากแท้หยั่งถึง พูดมากไปอาจเกิดผลไม่ดีตามมาก็ได้

ในเมื่อฮองเฮามีรับสั่งเช่นนี้ เช่นนั้นเธอก็แค่พยักหน้ารับไปก็พอ "ทราบแล้วเพคะ ขอบพระทัยเสด็จแม่ที่ให้คำแนะนำ"

ฮองเฮายิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะหันไปพูดกับจวินเย่เสวียนว่า "หลีเออร์เองก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ต้องพยายามเพิ่มทายาทสร้างความมั่นคงให้กับราชวงศ์รู้ไหม"

"ขอบพระทัยเสด็จแม่" จวินเย่เสวียนมองไปที่กู้อวิ๋นซี ก่อนจะพูดออกมาอย่างสงบว่า "ลูกจะพยายามในเรื่องนี้อย่างสุดกำลังพ่ะย่ะค่ะ!"

กู้อวิ๋นซีรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาในฉับพลัน

ต่อให้ก้มหน้าอยู่ ก็ยังรู้สึกถึงสายตาร้อนแรงของจวินเย่เสวียนที่กำลังมองมายังตัวเธออยู่ได้

สายตานั้น คล้ายกับเขาอยากจะทำอะไรกับเธอขึ้นมาจริงๆ อย่างนั้นแหละ!

แสดงเก่งดีเหลือเกินนะ

ฮองเฮาที่เห็นดังนี้ก็หัวเราะชอบใจ "เช่นนั้นก็ดี"

พูดจบ ฮองเฮาก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างกระทันหัน "หลีเออร์ ไม่รู้ว่าเสวียนเออร์กลับมาครานี้ วางแผนจะพักอยู่นานเท่าไรหรือ"

"ช่วงนี้หลันเออร์หลานสาวของเราก็อยู่ในเมืองหลวง เราอยากให้นางได้ไปพบกับเสวียนเออร์สักครั้ง..."

จวินเย่เสวียนพูดตัดบทอย่างเย็นชา "ท่านพี่สี่มีธุระที่ต้องจัดการค่อนข้างมาก ไม่น่าจะมีเวลาออกมาต้อนรับแขกได้พ่ะย่ะค่ะ"

ต่อให้อยู่ต่อหน้าฮองเฮา จวินเย่เสวียนก็ยังคงแผ่รัศมีความเย็นชาได้โดยไม่ยอมรักษาอาการเลย

และก่อนที่ฮองเฮาจะได้พูดอะไรต่อ เขาก็ชิงตัดบทก่อนว่า "เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ลูกขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ!"

เมื่อพูดจบ จวินเย่เสวียนก็หมุนตัวเดินออกไปเลย

เมื่อเห็นว่ากู้อวิ๋นซียังคงยืนนิ่งอยู่ในตำหนัก เขาก็พูดต่อด้วยแววตาเคร่งขรึมว่า "ได้เวลาไปคารวะเสด็จย่าแล้ว!"

กู้อวิ๋นซีรีบคารวะไปยังฮ่องเต้และฮองเฮาทันที "ลูกขอตัวก่อนนะเพคะ"

เธอไม่ได้อยากออกไปกับเสวียนอ๋องเลยจริงๆ แต่ตอนนี้ ถ้าไม่ไปก็คงจะไม่ได้

กู้อวิ๋นซีจึงต้องเดินตามหลังจวินเย่เสวียนไปอย่างเสียไม่ได้

เมื่อทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าตำหนักหนิงอัน ยังไม่ทันจะเข้าไป จวินเย่เสวียนก็หยุดเดินแล้วหันกลับมามองกู้อวิ๋นซี

กู้อวิ๋นซีไม่เข้าใจ "ท่าน..."

เขาทำหน้าขรึม ก่อนจะใช้แขนยาวๆ คว้าตัวเธอเข้าไปโอบไว้!

Kaugnay na kabanata

Pinakabagong kabanata

DMCA.com Protection Status