Home / รักโบราณ / บางเบาดั่งสายหมอก / ๑๐ หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้น / 2

Share

๑๐ หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้น / 2

Author: LIttlelion
last update Last Updated: 2025-08-07 18:47:34

ผู้ช่วยของเขานั่งชะเง้อหน้าออกไปมองตรงหน้าต่างตามเขา เพราะวันนี้ซือจื๋อเอาแต่หันออกไปมองข้างตลอดทุกๆ ชั่วยาม ไม่รู้ว่าด้านนอกนั้นมีอะไรน่ามองกัน

ด้านนอกข้างหน้าต่างมีต้นมะลิขึ้นเป็นพุ่มข้างริมบ่อปลา นํ้าใสจนมองทะลุเห็นด้านล่างที่มีสีเขียวเข้มจากขี้ตะไคร่ เป็นทิวทัศน์ที่มองเห็นอยู่ทุกวัน และก็เป็นเช่นนี้มานานหลายปี อาจจะมีผลัดเปลี่ยนสีใบไม้ ดอกไม้ผลัดดอกตามฤดูกาล แต่เหตุไฉนอยู่ๆ มันถึงน่าสนใจขึ้นมาได้ ผู้ช่วยของจิ้นฝานคิดอย่างสงสัย

จิ้นฝานเหม่อมองสักพักก็หันหน้ากลับมาเขียนรายงานต่อ วันนี้เขาต้องตรวจสอบอยู่หลายเรื่องเช่นกัน อีกทั้งยังต้องแวะไปสืบข่าวที่หอประมูลยา เพราะได้ข่าวลือมาว่ามีขุนนางกลุ่มหนึ่งติดต่อกับพ่อค้าสมุนไพร

ถ้าหวังจะพึ่งหอหลิวลี้เอาข่าวมาบอกอย่างเดียวก็คงไม่ดี เขาเองก็ต้องตามสืบด้วยเช่นกัน อีกอย่างตั้งใจว่าจะประมูลยาบำรุงร่างกายชั้นดีมาให้มารดาของเขาอีกด้วย

ส่วนผู้ช่วยของเขาก้มหน้านั่งทำงานไปได้สักพัก ก็เอ่ยปากชวนสนทนาทำลายบรรยากาศที่เงียบเชียบนี้

“วันนี้ท่านเสนาบดีจางคล้ายจะหลบหน้าซือจื๋อเลยขอรับ”

“หลบหน้าข้า...ฮึ” จิ้นฝานกล่าว เค้นเสียงขึ้นจมูก เปิดกระดาษจรดปลายพู่กันต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๐ หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้น / 5

    “หืม...งานราชการ” จิ้นฝานตอบ แล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบข้าวในถ้วยมากิน“เจ้าค่ะ” ข้ายิ้มแห้งส่งไปให้เขาอีกรอบ และก้มหน้าลงกินข้าว ก่นด่าตัวเองไปด้วยว่ากลายเป็นคนสอดรู้ไปเสียได้ น่าอายยิ่งนักเวลาล่วงเลยผ่านไปเพียงสองเค่อ คนทั้งสองก็กินข้าวเสร็จ จิ้นฝานขอตัวออกไปทำงานของเขาต่อ ชายหนุ่มเลือกนั่งรถม้าคันน้อยสีดำ ออกทางประตูหลังของจวน สลับหน้ากากหยิบหน้ากากยักษ์ขึ้นมาสวม และสอดหน้ากากลิงเก็บเอาไว้ในอกเสื้อพลันกลีบดอกเหมยที่เปลี่ยนเป็นสีนํ้าตาลอ่อนก็ร่วงลงจากบ่าของเขามาที่ตัก จิ้นฝานหยิบมันขึ้นมาดู และขยับปากกล่าวออกมา“จะต้องมีติดตัวออกมาทุกครา” พลันสิ้นนํ้าเสียงเขา ม้าก็ออกตัววิ่งเคลื่อนไปบนท้องถนนยามดึกของเมืองหลวงหอยา ในคืนวันประมูลกลางดึกที่ไม่เงียบสงบเสียเลยทีเดียว ผู้คนยังสัญจรท่องเที่ยวเมืองหลวงในยามราตรี หอสุรา หอนารี ค่อนข้างมีผู้คนเยอะเป็นพิเศษ แต่ทว่าวันนี้ไม่เยอะเท่าหอยาในคํ่าคืนนี้จิ้นฝานเดินลงจากรถม้า เข้าไปสมทบกับซิ่นสือที่ปลอมตัวเหมือนกับเขาด้วยเช่นกัน สหายของเขายืนกอดอกอยู่ใต้ต้นพลัมที่ผลัดดอกสีชมพูร่วงหล่นอยู่ใต้ต้น ด้านข้างเป็นแม่นํ้ากลางเมือง สะท้อนกับแสงโคมไฟที่ห้อย

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๐ หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้น / 4

    สายตาดุดันเหมือนคนเคร่งขรึมตลอดเวลาของเขานี้ แตกต่างจากความรู้สึกของเขาอย่างสิ้นเชิง ยามนี้ชายหนุ่มกำลังรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากเรือนซือซือนี้ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในฤดูวสันต์ตลอดเวลา ทั้งหอมด้วยมวนบุปผา ทั้งอบอุ่นในด้านความรู้สึก“คารวะคุณชายจิ้น” ข้าที่นั่งอยู่บนตั่ง เห็นเงาใหญ่ทอดเข้ามาจึงรู้เลยว่าเป็นเขา โดยไม่จำเป็นต้องเห็นตัวเสียด้วยซํ้า“อืม” จิ้นฝานตอบรับ เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะ หลุบมองอาหารที่วางเอาไว้มีสามสี่อย่างเหมือนกับวันก่อนๆ“รอประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ข้าขอเย็บตรงชายผ้านี้ให้เสร็จก่อน” ข้าเอ่ยบอกเขาจิ้นฝานมองเข้าไปในมือของคุณหนูรอง ในมือของนางถือบางสิ่งที่คล้ายเสื้อ แต่มีความยาวเท่าเจ้าโซว่ แขนกุดสองข้าง คล้ายกับเสื้อเด็กที่เป็นทั้งเสื้อและกระโปรงไปในตัว“ท่านเย็บชุดลูก....” จิ้นฝานถามนาง“เจ้าค่ะ ใกล้จะเสร็จแล้ว” ข้าตอบเขา สนเข็มขึ้นลงอย่างรีบร้อน กลัวว่าจะทำให้คุณชายจิ้นรอนาน“อะ!” ไม่รู้ว่าแทงเข็มลงท่าไหน มันปักลงที่ข้างเล็บตนเองจนถึงกับหลุดเสียงอุทานออกมาด้วยความเจ็บจิ้นฝานที่นั่งมองคุณหนูรองโดยไม่ละสายตาก็ลุกขึ้นพรวด สาวเท้ายาวเพียงสี่ก้าวก็ไปหยุดลงเบื้องหน้านางชาย

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๐ หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้น / 3

    “คุณชายจิ้นนับว่าเป็นบุรุษที่เพียบพร้อม ข้าเพียงสตรีธรรมดาจะเอาสิ่งใดไปเมตตาเขาได้กันเจ้าคะ” ข้ากล่าวออกมาไม่ถูกเลยทีเดียว เมื่อเจอสายตาของท่านแม่“อย่าได้ถ่อมตนไป...ว่าแต่ผลพลับนี้หวานหอมนัก” ฮูหยินหม่านกล่าว“หวานหรือเจ้าคะ…” ข้ากล่าวพลางหยิบมันขึ้นมากัด และเคี้ยวดูฮื้ม ! หวานหอมชุ่มคออย่างที่ท่านแม่กล่าวไม่มีผิดด้านวังหลวงยามเซินใกล้ยามอิ่ว ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเป็นสีแดงอมส้ม จิ้นฝานควบม้าออกจากวังหลวงมุ่งหน้าตรงมายังจวนตระกูลจิ้น เพราะยามดึกยังมีภารกิจไปสืบข่าวที่หอยา จึงรีบกลับมาอาบนํ้าและไปกินข้าวเย็นที่เรือนซือซือก่อนจะออกไปข้างนอก เพราะเมื่อวานนี้เขาก็ผิดสัญญาไปทีหนึ่งแล้ว ว่าจะต้องกินข้าวพร้อมกับนางพลันเมื่อเขาเข้ามาถึง สวี่เจียวก็วิ่งเข้ามาหา รับเสื้อคลุมและหมวกขุนนางมาถือเอาไว้ พลางรายงานการเคลื่อนไหวในจวนไปด้วย“ฮูหยินน้อยเข้าครัวทำอาหารให้ฮูหยินใหญ่ จากนั้นก็อยู่สนทนากับฮูหยินที่เรือนใหญ่ตลอดบ่ายถึงจะกลับเรือนซือซือขอรับ”“นางยุ่งทั้งวันเลย...” จิ้นฝานที่สาวเท้าไปทางห้องโถงถามด้วยความสงสัย“ขอรับ วันนี้นางยังให้เสี่ยวเมิ่งเอาขนมเปี๊ยะมาให้คุณชายอีกด้วย” สวี่เจียวกล่าว“ขนมเ

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๐ หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้น / 2

    ผู้ช่วยของเขานั่งชะเง้อหน้าออกไปมองตรงหน้าต่างตามเขา เพราะวันนี้ซือจื๋อเอาแต่หันออกไปมองข้างตลอดทุกๆ ชั่วยาม ไม่รู้ว่าด้านนอกนั้นมีอะไรน่ามองกันด้านนอกข้างหน้าต่างมีต้นมะลิขึ้นเป็นพุ่มข้างริมบ่อปลา นํ้าใสจนมองทะลุเห็นด้านล่างที่มีสีเขียวเข้มจากขี้ตะไคร่ เป็นทิวทัศน์ที่มองเห็นอยู่ทุกวัน และก็เป็นเช่นนี้มานานหลายปี อาจจะมีผลัดเปลี่ยนสีใบไม้ ดอกไม้ผลัดดอกตามฤดูกาล แต่เหตุไฉนอยู่ๆ มันถึงน่าสนใจขึ้นมาได้ ผู้ช่วยของจิ้นฝานคิดอย่างสงสัยจิ้นฝานเหม่อมองสักพักก็หันหน้ากลับมาเขียนรายงานต่อ วันนี้เขาต้องตรวจสอบอยู่หลายเรื่องเช่นกัน อีกทั้งยังต้องแวะไปสืบข่าวที่หอประมูลยา เพราะได้ข่าวลือมาว่ามีขุนนางกลุ่มหนึ่งติดต่อกับพ่อค้าสมุนไพรถ้าหวังจะพึ่งหอหลิวลี้เอาข่าวมาบอกอย่างเดียวก็คงไม่ดี เขาเองก็ต้องตามสืบด้วยเช่นกัน อีกอย่างตั้งใจว่าจะประมูลยาบำรุงร่างกายชั้นดีมาให้มารดาของเขาอีกด้วยส่วนผู้ช่วยของเขาก้มหน้านั่งทำงานไปได้สักพัก ก็เอ่ยปากชวนสนทนาทำลายบรรยากาศที่เงียบเชียบนี้“วันนี้ท่านเสนาบดีจางคล้ายจะหลบหน้าซือจื๋อเลยขอรับ”“หลบหน้าข้า...ฮึ” จิ้นฝานกล่าว เค้นเสียงขึ้นจมูก เปิดกระดาษจรดปลายพู่กันต

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๑๐ หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้น / 1

    ๑๐หมอกลงกับบุคคลซ่อนเร้นข้านั่งเย็บผ้าออกมาได้สองตัว แบบเดียวกับที่เจ้าโซว่ใส่ เป็นสีนํ้าเงินเข้ม ผ้าไหมบางเนื้อนิ่ม เหมาะสมกับเด็กอ่อน ไม่ระคายเคืองผิว จากนั้นก็ไปที่เรือนครัวพร้อมกับเสี่ยวเมิ่ง ระหว่างทางที่เดินไปก็เจอกับแม่นางเฉินเดินถือถาดที่มีถ้วยปิดฝาวางเอาไว้ด้านบน“ฮูหยินน้อย” เฉินหย่าลี่กล่าวทักทาย“แม่นางเฉินยกอาหารไปให้ท่านย่ารองรึ” ข้าเอ่ยถามนาง“เปล่าเจ้าค่ะ ข้าตุ๋นขาหมูให้ฮูหยินใหญ่ท่าน” เฉินหย่าลี่กล่าว“ขาหมู...” ข้าเอ่ยขึ้น ท่านแม่ปวดท้อง อาหารที่นางกินควรจะย่อยง่ายเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจะตุ๋นจนเนื้อเปื่อย แต่มันก็ไม่เหมาะที่จะกินเข้าไปเท่าไรนัก“เจ้าค่ะ เมื่อวานได้ยินบ่าวกล่าวกันว่าฮูหยินใหญ่ปวดท้องอีกแล้ว” เฉินหย่าลี่กล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ“ข้าว่ามันไม่เหมาะสำหรับคนปวดท้องเท่าไรนัก” ข้าเอ่ยบอกนาง จะให้บอกตรงๆ ก็เกรงว่าจะทำร้ายนํ้าใจนางอีกช่างน่าหนักใจ...แต่ท่านแม่กินเข้าไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี“แม่นางเฉิน ข้าว่ามันไม่ควรที่จะเอาอาหารนี้ไปให้นาง ข้าว่าเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ดีกว่าหรือ” ข้าตัดสินใจกล่าวบอก“ฮูหยินน้อย...ท่าน” เฉินหย่าลี่กำถาด มองไป๋ซิงหนี่ว์ด้วยสายตาตกใจ

  • บางเบาดั่งสายหมอก   ๙ สมหวังดังปรารถนา / 12

    วันถัดมาก่อนที่จิ้นฝานจะควบม้าเข้าวังหลวง ชายหนุ่มนอนครุ่นคิดมาตลอดทั้งคืน หาคำตอบไม่ได้กับความรู้สึกติดค้างอยู่ในใจ ที่เกิดจากสายตาอันเศร้าสร้อยของคุณหนูรองความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เขาเป็นคนไม่ค่อยละเอียดอ่อน จึงคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ว่าสาเหตุของความไม่สบายใจนี้เกิดมาจากจุดไหน รู้สึกเพียงแค่ว่ามันไม่สบายใจเท่านั้นหรือเป็นเพราะเขาผิดสัญญาว่าจะพานางไปขุดต้นสือซว่าน เมื่อวานตอนดึกก็ได้ยินนางบ่นอยู่ด้วย สงสัยต้องเป็นเรื่องนั้นเป็นแน่ “สวี่เจียว เจ้าไปหาซื้อต้นสือซว่าน เอาเป็นดอกสีขาว” เขาเอ่ยสั่งบ่าวคนสนิทดอกสือซว่านสีขาวนี้น่าจะดีกว่าดอกสีแดงที่ดูเหมือนอาบย้อมด้วยเลือดในวันนั้น เขาคิดว่าน่าจะให้สีขาวกับนางดีกว่า ดูเบาบางเหมาะกับสตรีเช่นนาง“สือซว่าน...คุณชายดอกไม้นั่น” สวี่เจียวกล่าวออกมาอย่างไม่มั่นใจ สือซว่านเป็นดอกไม้อัปมงคล ไม่ควรปลูกไว้ในเรือน“ไปหามา ข้ากลับมาจากวังหลวงมันจะต้องอยู่ที่เรือนซือซือแล้ว” จิ้นฝานกล่าวเสียงเข้ม“ขอรับ ขอรับ!!” สวี่เจียวรีบตอบรับ ก้มหัวเร็วๆ สามที ยืนส่งคุณชายใหญ่อยู่หน้าจวน ก่อนจะเดินเข้ามา บ่าวน้อยก็ยกมือขึ้นเกาหัวไปด้วยความงุนงงวันนี้เขามีภารกิจห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status