Home / รักโบราณ / บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น / ตอนที่ 5 ข้าดีใจที่ได้กลับบ้าน

Share

ตอนที่ 5 ข้าดีใจที่ได้กลับบ้าน

last update Last Updated: 2024-12-21 20:18:24

 

หลินเฟยเย่รีบวิ่งสุดกำลังเพื่อไปให้ถึงห้องของหลินเฟยลี่ เมื่อนางเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อคนที่อยู่ในห้องนั้น…

“เย่เอ๋อร์ เหตุใดจึงวิ่งมาจนหอบเช่นนั้น เจ้าเป็นอะไร”

“พี่…พี่ใหญ่ นี่ท่าน….เฮ้อ…เฮ้ออ….อาจิง รินน้ำ ให้ข้าที”

“คุณหนู ท่านรีบวิ่งออกมาเช่นนี้ข้าตกใจหมด แฮก แฮก รอสักครู่นะเจ้าคะ”

ทั้งนายและบ่าวพากันนั่งหอบเพราะความเหนื่อย เฟยเย่นั้นรีบหันไปมองพี่สาวฝาแฝด มองทีไรก็ดูเหมือนได้ส่องกระจกทุกครั้ง ยิ่งในตอนนี้ที่นางกลับมาอยู่ที่จวน นางทั้งสองคนก็ยิ่งเหมือนกันจนแม้แต่สาวใช้ของพวกนางก็แทบจะมองไม่ออก

“เจ้าใจเย็น ๆ ค่อย ๆ ดื่มเดี๋ยวสำลัก”

“พี่ใหญ่ เหตุใดท่านไล่สาวใช้ออกไปจนหมด ท่านให้อาจิงไปซื้อของแล้วทำไม…”

“ข้าก็แค่อยากนอนพักเท่านั้น เจ้าเป็นอะไรไป”

“ข้า…”

นางคิดถึงฝันเมื่อครู่ เหตุใดนางจึงฝันเช่นนั้นกันนะ หรือว่านางกังวลมากเกินไปทั้ง ๆ ที่พวกนางก็มิใช่พี่น้องแท้ ๆ เสียหน่อยแต่ก็ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ คำพูดในฝันนั้นเหมือนจริงราวกับไม่ใช่ฝัน แต่คนที่ยิ้มให้นางตรงหน้านี่ก็ไม่ใช่ผีเสียหน่อย

“เฮ้อ…ข้าคงวิตกเกินไปเจ้าค่ะ ข้า…”

“เจ้าคงคิดมากเกินไป ข้าแค่อยากพักผ่อน เจ้าจะให้สาวใช้มายืนเฝ้าข้านอนหลับงั้นหรือ”

“ก็จริง คงบ้าไปหน่อย”

“นั่นสิ”

“อ้อ ใช่แล้ว ก่อนข้าออกไปเดินสวนกับคนตำหนักยายแก่นั่น นางส่งอะไรมาให้ท่าน”

“เอาอีกแล้ว เจ้านี่สอนไม่จำเลยมีเพียงหน้าตาสินะที่เราเหมือนกันไม่มีผิด”

“ตกลงนางส่งอะไรมาเจ้าคะ”

“ไม่มีอะไร ก็แค่สอบถามอาการป่วยเพราะตอนนี้ตำหนักอ๋องไม่มีคนดูแล และพวกนางก็ย้ายออกไปอยู่อีกจวนหนึ่ง ก็เลยสอบถามว่าข้าหายดีหรือยังเท่านั้น”

“พวกคนเห็นแก่ตัว คงกลัวตายละสิ แค่ยาพิษหนอนบุ้ง(พิษที่ทำให้มีผื่นตุ่มคล้ายกับไข้ฝีดาษแต่รุนแรงน้อยกว่า)ยังกลัวขนาดนี้ พวกขี้ขลาดใจเสาะ”

“เย่เอ๋อร์ พอเถอะน่าไม่มีอะไรหรอก ดูสิหิมะในฤดูสารทงั้นหรือเหตุใดจึงตกลงมากันนะ ราวกับ….”

“อะไรหรือพี่ใหญ่ ราวกับ..อะไร”

“เปล่าหรอก ไหน ๆ ก็มีหิมะตกแล้ว เราไม่ลองอธิษฐานหน่อยหรือ หิมะในฤดูนี้ไม่ง่ายเลยนะที่จะตกลงมา”

“อธิษฐานงั้นหรือ ท่านนี่เด็กเชียวนะพี่ใหญ่”

“มาเถอะเย่เอ๋อร์ มาอธิษฐานกัน”

เฟยเย่ทำตามที่นางบอก ท่าทางของเฟยลี่ดูตั้งใจอธิษฐานมากจนทำให้นางผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ก็ทำตามไปด้วย

“พี่ใหญ่ ท่านอธิษฐานอะไรหรือ”

“ข้าขอให้เจ้าและท่านพ่อมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนและมีความสุขตลอดไป”

“แล้วท่านไม่ได้ขอให้ตัวเองมีความสุขงั้นหรือ”

“ข้า…”

เฟยเย่สังเกตใบหน้าที่ผิดปกติของเฟยลี่แต่คิดว่าตาฝาดไปเพราะนางยิ้มออกมาอย่างรวดเร็วและหันมามองหน้าเฟยเย่

“ความสุขของข้าก็คือทั้งหมดที่พูดนั่นแหละ ไม่ต่างกันอย่างไรเล่า”

“อ้อ เช่นนี้เอง หิมะตกเช่นนี้นึกถึงหม้อไฟเลยนะเจ้าคะ”

“เจ้าหาเรื่องกินอีกแล้วสินะ เอาสิ อาจิงเย็นนี้เราก็ทำหม้อไฟกันเถอะ นาน ๆ จะได้กินข้าวกันพร้อมหน้า ชวนท่านพ่อด้วย”

“เยี่ยมไปเลย”

หลินเฟยเย่นั้นโตมาแบบเด็กกำพร้าในชาติก่อนเพราะพ่อแม่นางจากไปเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ตกเขา ปู่เป็นผู้เลี้ยงดูนางมาจนคุณปูมาจากไปตอนอายุนางเพียงยี่สิบสี่ปี

จากนั้นเมื่อสอบเป็นแพทย์ได้จึงขอไปร่วมฝึกกับหน่วยทหารชั้นนำของประเทศจนติดหนึ่งใส่สี่ของแพทย์อัจฉริยะของกองทัพ

“ท่านพ่อ ชนแก้วกันหน่อย”

“มา ๆ ดื่ม ๆ เอ้าลี่เอ๋อร์ เจ้าพึ่งหายป่วยกินเยอะ ๆ”

“เจ้าค่ะท่านพ่อ”

“มา ๆ กินเยอะ ๆ นะพี่ใหญ่”

“เลอะหมดแล้วมานี่ข้าเช็ดให้”

“พี่ใหญ่ละก็ ข้าโตจนป่านนี้แล้ว”

“ท่านพ่อ จอกนี้ลูกดื่มให้ท่าน ขอบคุณที่ดูแลลูกและเย่เอ๋อร์อย่างดีเจ้าค่ะ”

“มา ๆๆ ดื่ม ๆ เจ้าทั้งสองเป็นดุจแก้วตาดวงใจของพ่อ พ่อต้องรักและดูแลเจ้าอยู่แล้ว เจ้าดูสิ เจ้าเป็นถึงพระชายาแล้วนะ ยังขี้แยเหมือนเดิม”

“นั่นสิพี่ใหญ่ แค่ยกสุราขอบคุณทำไมต้องร้องไห้ด้วย"

“ฮ่า ๆ ข้าดีใจที่ได้กลับบ้านน่ะ”

“มีข้าอยู่ ต่อไปท่านอย่าได้กังวล”

“อืม มาลี่เถอะเย่เอ๋อร์ ข้าขอดื่มให้เจ้า จากนี้ฝากเจ้าดูแลท่านพ่อด้วย”

“พ่อข้าคนเดียวเสียที่ไหน พ่อท่านด้วย มา ๆ ดื่ม ๆ”

สามพ่อลูกทั้งกินและดื่มท่ามกลางหิมะกลางฤดูสารท เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยินมานานดังขึ้นจนถึงเรือนด้านหน้าดูครึกครื้นยิ่งนัก

 อาหารบนโต๊ะเริ่มพร่องลงไปบิดาของพวกนางก็ขอตัวไปนอนแล้ว เฟยเย่เองก็เริ่มเมานิดหน่อยเพราะดื่มสุราหมักเข้าไปมากพอสมควร ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกลับห้องของตนเอง

“อะไรกัน ไม่เมาเสียหน่อย”

“คุณหนู ท่านเดินเลื้อยดั่งแม่งูเลยเจ้าค่ะ ค่อย ๆ เดินสิเจ้าคะ”

“นี่อาจิง ข้าอยากแช่น้ำอุ่นหน่อย”

“คุณหนูเจ้าคะ อากาศหนาวถึงเพียงนี้ท่านยังอยากแช่น้ำอีกหรือเจ้าคะ”

“ข้าร้อนนี่นา เจ้าไปเตรียมน้ำให้ข้าทีสิ ข้าจะอาบน้ำหน่อย ไป ๆๆ”

“เจ้าค่ะ ๆ”

“เดี๋ยวก่อน พี่ใหญ่ละเจ้าได้ไปดูนางหรือยัง ไปดูนางก่อนไป ๆ ข้ารอได้ไม่ต้องรีบ”

“คุณหนู ข้าให้สาวใช้ไปส่งคุณหนูใหญ่แล้วเจ้าค่ะ มาเถอะเจ้าค่ะตอนนี้ในจวนนี้ที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือท่านนี่แหละเจ้าค่ะ ค่อย ๆ เดินสิเจ้าคะนั่นไม่ใช่ทางไปที่ห้อง เดินมาทางนี้เจ้าค่ะ”

กว่าอาจิงจะพาเฟยเย่เดินกลับมาถึงห้องได้ก็เหนื่อยจนหอบ นางรีบรินน้ำชาส่งให้คุณหนูก่อนจะไปเตรียมน้ำอุ่นให้หลินเฟยเย่อาบตามคำสั่ง ไม่นานนางก็มาเรียก

“คุณหนูเจ้าคะ น้ำอุ่นเตรียมเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

“อ้อ ขอบใจมาก เจ้ากลับไปนอนเถอะข้าสร่างแล้วละ ได้งีบไปหน่อยไม่ต้องห่วง ข้าไม่จมน้ำหรอก”

“เช่นนั้นข้าไปนะเจ้าคะ”

“ไปเถอะๆ”

หลินเฟยเย่แช่น้ำอุ่นจนเริ่มสร่างเมา เมื่อนางขึ้นจากน้ำและสวมชุดนอนและนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก ก็พลันนึกไปถึงเรื่องฝันเมื่อช่วงบ่าย หากไม่ใช่ลางบอกเหตุ หรือเป็นเพราะนางกังวลเกินไปแต่ว่า

“จากนี้ก็ฝากเจ้าดูแลท่านพ่อด้วยนะ”

หวีไม้กฤษณาในมือนางตกลงในทันที เฟยเย่รู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมา นางไม่เข้าใจว่าความกลัวนี้คือสิ่งใด รู้เพียงว่านางต้องรีบไป ก่อนที่จะสายเกินไป

“ไม่นะ ข้าไม่ได้คิดกังวลเกินไปใช่หรือไม่ อาจิงคงเข้านอนแล้ว บ้าจริง หิมะบ้านี่ทำไมตกทั้งวันทั้งคืนแบบนี้กันนะ สวมเสื้อคลุมหน่อยดีกว่า”

หลินเฟยเย่เดินเข้าไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมและคว้าโคมเดินออกไปด้านนอกและตรงไปยังห้องของหลินเฟยลี่ แม้ว่าจะอยู่ในจวนเดียวกันแต่วันนี้เหตุใดนางรู้สึกว่าเรือนพักของหลินเฟยลี่ถึงได้อยู่ไกลนัก

“หรือเพราะข้าเมากันนะ เหตุใดเดินไม่ถึงเสียที”

หิมะยังคงตกมาไม่หยุดพัก พื้นดินภายในจวนนั้นเป็นสีขาวโพลนไปทั่ว แม้ว่าจะไม่มากราวกับฤดูหนาวแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้อากาศเย็นลง เฟยเย่เดินถึงหน้าห้องของเฟยลี่ในที่สุด แต่ในห้องดับไฟจนหมดแล้ว

“หรือว่านางจะหลับไปแล้วกันนะ ข้าจะไปเคาะตอนนี้ดีหรือไม่นะ”

นางเดินวนไปอยู่หลายรอบในที่สุดก็ตัดสินใจเดินออกมาจากห้องเพราะเกรงว่าพี่ใหญ่จะนอนหลับไปแล้ว

“ไม่สิ ไหน ๆ ก็มาแล้ว แยกกันไม่นานเท่าไหร่นางคงยังไม่หลับหรอกน่า”

นางเดินกลับไปพร้อมกับเคาะประตู

“พี่ใหญ่เจ้าคะ ท่านหลับหรือยังเจ้าคะพี่ใหญ่”

ไม่มีเสียงตอบกลับมา มีเพียงความเงียบเท่านั้น นางเริ่มเคาะประตูถี่ขึ้น

“พี่ใหญ่ เปิดประตูให้ข้าที พี่ใหญ่!!”

เฟยเย่ตัดสินใจผลักประตูเข้าไป ประตูเปิดออกจนนางสะดุดธรณีประตูจนล้มลงไป โคมในมือก็หลุดไปพร้อมกับส่องแสงในห้องให้เห็นเมื่อนางหันไปมองที่เตียงที่ว่างเปล่า และค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมา

“พี่ใหญ่ นั่นท่านหรือเจ้าคะ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนพิเศษ 3   ครอบครัวพร้อมหน้า

    เฟยเย่หลับไปหลังจากให้นมท่านหญิงน้อยไม่นานเพราะความอ่อนเพลีย หลังจากนั้นท่านอ๋องน้อยก็เดินกลับมาพร้อมกับอาชิงและแม่นมลี่ที่บอกท่านอ๋องน้อง จื่อหรงเรื่องการคลอดบุตร“จริงหรือแม่นม ครั้งที่คลอดข้าเสด็จแม่ก็ร้องเช่นนี้หรือ”“ใช่เพคะ แต่ครั้งนี้พระชายาทรงเจ็บสองครั้งเพราะว่าท่านอ๋องน้อยได้น้องสาวเพิ่มมาสองคนเลยนะเพคะ”“สองคนหรือ สองคนเลยงั้นหรือ ที่เสด็จพ่อบอกว่าจะมีแฝดคือคลอดสองคนงั้นหรือ”“ใช่เพคะ ท่านอ๋องอยากจะไปเยี่ยมท่านหญิงทั้งสองหรือไม่เพคะ”“ข้าไปได้งั้นหรือ แล้วเสด็จแม่เล่า”“พระชายานอนพักอยู่ในห้องพักเพคะท่านอ๋องทรงเฝ้าอยู่เพคะ”“ไป ข้าอยากไปหาน้องสาวของข้า”“ได้เพคะหม่อมฉันจะพาไปนะเพคะ”แม่นมลี่และอาจิงพาจื่อหรงเดินไปที่ห้องของท่านหญิงน้อยสองคนที่นอนอยู่ที่แปลเดียวกัน ซึ่งเป็นเปลที่ท่านอ๋องน้อยเคยใช้มาก่อนหน้านี้แต่ในตอนนี้คงต้องสั่งทำเพิ่มเพราะน้องสาวเขามีสองคน จื่อหรงมองไปยังเด็กที่มีผ้าแพรสีแดงห่อหุ้มอยู่อีกคนห่อด้วยผ้าแพรสีน้ำเงินทั้งคู่หลับสนิทอยู่ในเปลเดียวกัน“นั่น…เด็กงั้นหรือเหตุใดพวกนางจึงตัวเล็กและนอนนิ่งนัก”“ท่านหญิงพึ่งจะกินนมและหลับไปเพคะ”“เป็นก้อนกลม ๆ อ้วน

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนพิเศษ 2 บุตรแฝดของท่านอ๋อง

    หลังจากที่ท่านอ๋องน้อยได้รับการสอนวิชาดาบ มากว่าสามเดือน วันนี้เว่ยจื่อหรงได้มีโอกาสจับดาบเป็นครั้งแรก อาจารย์ผู้สอนให้เขาทดลองจับดาบกิเลนไฟที่เขาได้รับจากท่านอ๋องในวันครบรอบหนึ่งขวบ ท่านอ๋องแม้ว่าในครั้งแรกจะแทบยกไม่ขึ้นแต่ก็ไม่ทิ้งความพยายามในการร่ำเรียน ไม่นานก็เริ่มคล่องและเริ่มฝึกอย่างจริงจัง“เหตุใดเจ้ายังมานั่งดูจื่อหรงอยู่ตรงนี้อีกเล่าเฟยเฟย แล้วยาพวกนี้ข้าบอกแล้วมิใช่หรือว่าไม่ให้ทำแล้ว เหตุใดพวกเจ้าไม่ปรามนาง”“ก็แค่นั่งคัดแยกเอาไว้แก้เบื่อเพคะ เหตุใดพระองค์ช่างบ่นมากความ บ่นมากกว่าแม่นมลี่เสียอีก”“ท้องเจ้าโตขนาดนี้ยังจะมานั่งตากลมอีก แม้ว่าจะเป็นช่วงปลายฤดูหนาวแล้วแต่อากาศก็ยังคงเย็นอยู่นะ”ท่านอ๋องบ่นพลางกับสวมชุดคลุมให้เฟยเย่อีกชั้นหนึ่งเพื่อให้ร่างกายนางอบอุ่นแต่เขาดึงถาดยาที่นางถือไว้ยื่นไปให้อาจิงแล้วพร้อมกับจับมือนางมาซุกเตาอุ่นมือ“มือเย็นขนาดนี้ยังจะเถียงข้าอีก เหตุใดเจ้าต้องดื้อแข่งกับจื่อหรงด้วยนะ”“พระองค์ทรงกังวลเกินไปต่างหาก หม่อมฉันก็แค่…”ท่านอ๋องหันไปมองใบหน้าที่บิดเบี้ยวแปลก ๆ ของพระชายา พร้อมกับที่นางเริ่มจับที่ท้องที่โตเกินกว่าตัวนาง“เฟยเฟยเจ้าเป็นอะไร

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนพิเศษ 1 ท่านอ๋องน้อยเว่ยจื่อหรง

    ฤดูหนาวห้าปีถัดมา“จื่อหรง เจ้าอย่าวิ่งเล่นไปทั่วเช่นนั้นหากเสด็จพ่อมาเห็นเจ้าเล่นดาบไม้แล้วไม่นำไปเก็บให้ดีละก็….”“เสด็จแม่ ท่านก็อย่าบอกเสด็จพ่อสิพ่ะย่ะค่ะ ลูกแค่อยากเล่นเพิ่มอีกหน่อยมิใช่ว่าจะไม่เก็บแต่เมื่อเช้าอาจารย์หวางเอ่ยชมข้าด้วยว่าข้าตอบกลยุทธ์การศึกได้ยอดเยี่ยม”“ก็ได้ ๆ แต่เจ้าอย่าวิ่งวนไปใกล้สระเช่นนั้น หากพลัดตกลงไปแม่จะลุกไปช่วยเจ้าไม่ทัน”“ท่านอ๋องเสด็จ!!”“หรงเอ๋อร์เสด็จพ่อมาแล้ว รีบมานั่งนี่เร็วเข้าทำตัวเงียบ ๆเก็บดาบไม้เจ้าไปก่อน”แม้ว่าจะปรามบุตรชายก่อนหน้านี้แต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริง ๆ พระชายาก็ไม่อยากให้ท่านอ๋องน้อย “เว่ยจื่อหรง”ต้องถูกท่านอ๋องตำหนิเอาได้ แม้ว่าพักหลัง ๆ เว่ยจื่อหานจะลดความดุดันลงแล้วบ้างเพราะเห็นว่าพระชายาตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม“เฟยเฟย เหตุใดยังนั่งตากลมอยู่ตรงนี้อีก ทำไมไม่รีบเข้าไปพักในตำหนักหิมะเริ่มจะตกแล้ว”“หม่อมฉันแค่มานั่งเล่นและตรวจดูยาสมุนไพรที่นำมาตากเอาไว้ พอหิมะตกเลยสั่งให้คนเก็บเพคะ”“ข้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำอีกเจ้าก็ไม่ฟัง จื่อหรงวันนี้อาจารย์หวางบอกพ่อว่าเจ้าตอบคำถามในชั้นเรียนได้อย่างยอดเยี่ยม เจ้าอยากได้รางวัลอะไร”“เสด็จพ่อ ได้

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 57 จุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์ (ตอนจบ)

    ท่านอ๋องยืนกอดพระชายาไว้พร้อมกับมองหิมะที่ตกลงมาก่อนจะพยุงนางเดินกลับรถม้าที่จอดรออยู่ เขานั่งกอดนางมาตลอดทางเพราะคิดว่านางเห็นภาพการประหารเช่นนั้นคงจะไม่สบายใจ“เฟยเฟย เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือยัง”“หม่อมฉันรู้สึกดีและอบอุ่นมากเพคะเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของพระองค์เช่นนี้”“แล้วเจ้าหายกลัวหรือยัง”“หม่อมฉันมิได้กลัวนะเพคะ เพียงแค่รู้สึกเศร้าไปหน่อยเท่านั้น”“เศร้างั้นหรือ”“คนคนหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่อยากครอบครอง จนทำเรื่องที่ผิดไปมากมาย อันถงไม่น่าจบชีวิตเช่นนี้หากว่านางมีทางเลือกที่ดีกว่านี้ ก็คงจะดีเพคะ”“ไม่มีผู้ใดเลือกได้นอกจากตัวนางเอง นางเลือกเดินเส้นทางที่ผิดตั้งแต่แรก”“จริงด้วย ว่าแต่แม่นางซ่ง…”“อ้อ ข้าเองก็ลืมบอกเจ้าไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นางเลยตัดสินใจไปที่อารามหย่งชิงพร้อมกับไท่เฟยเพื่อจะไปดูแลนางน่ะ พวกนางจะออกเดินทางในอีกสองวัน”“เช่นนี้นี่เอง ท่านอ๋องไม่เสียพระทัยหรือเพคะ”“หืม ข้าหรือเหตุใดต้องเสียใจอีกเล่า”“ก็เห็นวันก่อนพระองค์ยังคลอเคลียกับนางในตำหนักอย่างสนิทสนม คิดว่าจะห้ามมิให้นางไปแสวงบุญเสียอีก”“นี่เจ้า!! นั่นมิใช่เพราะทำตามคำสั่งเจ้าหรืออย่างไร สั่งให้ข้าทำเช

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น   ตอนที่ 56 แต่งงานกัน(อีกครั้ง)เถอะ

    โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากอีก เฟยเย่รู้ดีว่าเขาจะทำสิ่งใดเมื่อเขาจับนางหันหน้ามาและจับนางนั่งคร่อมเขาอีกครั้ง เมื่อครู่พึ่งจะล้างตัวกันไปเอง เสียงน้ำกระเพื่อมทำให้เฟยเย่เริ่มจุดไฟรักเร่าร้อนนั้นอีกครั้งด้วยตัวเอง“ท่านอ๋อง เสียว….อ๊าาา ในน้ำนี่..”“ดีใช่หรือไม่”“อื้มมม ดี อ๊าา เสียวดีจัง อ๊าา จื่อหาน หม่อมฉันช้ำไปหมดแล้ว”“อีกรอบเดียวนะ ข้าสัญญาว่าจะล้างตัวแล้วพาเจ้าไปนอนพักแล้ว แต่ตอนนี้ อาา เหตุใดยังคับแน่นอยู่เช่นนี้กันนะ เฟยเฟยของข้าช่าง งดงามจริง ๆ”“อ๊าาา ท่านอ๋องเพคะ”“เปลี่ยนท่าหน่อย ไม่ไหวหรอกท่านี้มันเสียวเกินไป”“เดี๋ยวก่อน มันแคบเช่นนี้ อ๊าา…”เขาจับนางไปเกาะที่ขอบสระพร้อมกับดันกระแทกจากด้านหลัง ท่านอ๋องไม่เคยลดละความดุดันลงได้เลยในเรื่องนี้ น้ำกระเพื่อมออกเกือบครึ่งสระแต่เขากลับไม่ใส่ใจเสียงน้ำและกล้ามเนื้อกระแทกกันทำเอาทั้งคู่อารมณ์กระเจิงจนทั้งสองเริ่มเกร็ง เฟยเย่จับขอบสระเอาไว้แน่นพร้อมกรีดเสียงร้องออกมา ท่านอ๋องเองก็จับบั้นท้ายนางเอาไว้แน่นเช่นกัน“อาาา…เฟยเฟย…”ท่านอ๋องต้องอุ้มนางขึ้นมาหลังจากที่ทั้งคู่ล้างตัวเสร็จ เขาวางนางลงที่เตียงพร้อมกับกอดนางเอาไว้“พรุ่งนี้พระองค์

  • บุปผาร้าย ใต้เงาแค้น    ตอนที่ 55 ท่านอ๋องขี้หึง (NC)

    ทหารดึงตัวนางขึ้นและพาเดินออกจากห้องโถงไป อันถงไม่มีท่าทีของคนที่รู้สึกผิดเลยสักนิด เมื่อเดินผ่านหลินเฟยเย่นางหันกลับมาพูดกับนางอีกครั้ง“เจ้าคิดหรือว่าท่านอ๋องจะรักเจ้าเพียงคนเดียว เขากำจัดข้าได้ ก็ทำกับเจ้าได้เช่นกัน”เฟยเย่หันไปสบตากับอันถง แม้ในตอนนี้จะถูกจับและรอลงทัณฑ์ แต่อันถงก็ยังไม่รู้สึกกลัว“ข้าไม่เหมือนเจ้า อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยวางแผนร้ายเพื่อแย่งผู้ใดมา”“อย่ามั่นใจมากไปหน่อยเลย เขาไม่มีหัวใจตั้งแต่แรกอย่าคิดว่าเขาจะรักเจ้า”“อันถง เพียงแค่ท่านอ๋องไม่รักเจ้า มิได้หมายถึงว่าท่านอ๋องไม่มีหัวใจที่สำคัญ ข้ามั่นใจและเชื่อใจในตัวท่านอ๋องมากพอ”“เจ้า….”“นำตัวนางออกไปได้แล้ว”“พ่ะย่ะค่ะพระชายา”ท่านอ๋องเดินมาหลังจากฝานป๋ายให้คนพยุงหยงไท่เฟยกลับเข้าไปพักผ่อนแล้ว“เจ้าพูดสิ่งใดกับนางงั้นหรือ”“ก็แค่ สั่งลาครั้งสุดท้าย”“เจ้าไม่ขอให้ข้าลดโทษให้นางงั้นหรือ”“ไม่เพคะ โทษที่นางได้รับสมควรแล้ว หม่อมฉันจะไปดูการประหารนางด้วยตนเองพรุ่งนี้ มองด้วยตาของตัวเองจนถึงช่วงเวลาสุดท้าย”“ได้สิข้าอนุญาต พวกเรากลับตำหนักก่อนดีหรือไม่”“ไท่เฟยเข้าไปพักแล้วหรือเพคะ”“ไปแล้วละ นางขอข้าว่าหากหายดีแล้ว อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status